ตอนที่ 510 ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร / ตอนที่ 511 รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้

เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

ตอนที่ 510 ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร  

 

 

ถึงแม้ว่าเขาจะแสดงท่าทางออกมาว่าเขาไม่รู้เรื่อง แต่เฉียวซือมู่สาบานเลยว่าเธอเห็นประกายความเจ้าเล่ห์ของเขาอยู่ในแววตานั่น  

 

 

เธอจ้องมองเขาอย่างฉุนเฉียว “คุณตั้งใจล็อคประตูใช่ไหม? รีบเปิดเดี๋ยวนี้เลยนะ!” 

 

 

จิ้นหยวนหันกลับไปจ้องที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เหมือนเดิม “ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร คุณอยากออกไปก็ไปสิครับ ผมไม่ได้ห้ามเสียหน่อย” 

 

 

พอเห็นเขาดูนิ่งแบบนั้นแล้ว ในใจของเธอก็ชักที่จะไม่แน่ใจขึ้นมา หรือบางทีเมื่อกี้เธออาจจะเปิดไม่ถูกวิธีก็ได้ เขาอาจจะไม่ได้ทำจริงๆ? 

 

 

พอเธอคิดได้แบบนั้นก็หมุนตัวกลับ แล้วลองเปิดประตูอีกครั้ง 

 

 

และมันก็ล้มเหลวเหมือนเดิม ประตูมันไม่ยอมขยับเลยสักนิดเดียว เหมือนกับว่าถูกคนล็อคเอาไว้อย่างแน่นหนาอย่างไรอย่างนั้น 

 

 

เธอขมวดคิ้ว แล้วมองประตูอย่างสงสัย จากนั้นก็หันไปมองจิ้นหยวน 

 

 

ถึงแม้ว่าสีหน้าของเขาจะนิ่งเฉย แต่เธอก็ฟันธงได้ว่าประตูนี่จะต้องถูกเขาล็อคแน่ๆ 

 

 

เธอก้าวเท้าเข้าไปหยุดตรงหน้าเขา แล้วจ้องเขาเขม็ง “นี่คุณคิดจะทำอะไรกันแน่? คุณเองที่ทิ้งฉันไม่สนไม่ไถ่ถามอะไรสักอย่าง และคนที่ไม่ยอมให้ฉันออกไปก็คือคุณเหมือนกัน!” 

 

 

รอบนี้เขามองเธอด้วยสายตาเนือยๆ “คุณมีหลักฐานอะไรที่จะมาบอกว่าผมไม่ให้คุณออกไปครับ?” 

 

 

“ก็คุณล็อคประตู” เธอพูดอย่างหงุดหงิด 

 

 

“งั้นหรือครับ? เป็นเพราะคุณเปิดไม่เป็นเองหรือเปล่า?” เขามองเธอและพูดอย่างจริงจัง 

 

 

“เป็นไปไม่ได้!” เธอพูดออกมาอย่างมั่นใจ “ฉันไม่ใช่คนสมองนิ่มนะ แค่ประตูทำไมฉันจะเปิดไม่เป็น?” 

 

 

“งั้นประตูก็คงเสีย” เขายังคงนิ่ง “เดี๋ยวผมเรียกคนมาซ่อมก็แล้วกัน” พูดจบก็จะกดเบอร์โทรออก 

 

 

เธอมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ทั้งๆที่ได้ยินเสียงล็อคประตูเบาๆนั่นอย่างชัดเจน และมันก็เป็นฝีมือของเขานั่นแหละ นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะไม่ยอมรับแบบนี้ 

 

 

พอเห็นว่าจิ้นหยวนกำลังจะโทรออก จู่ๆเธอก็ยื่นมือไปแย่งเม้าส์มา ไม่สนใจทั้งนั้นว่าบนหน้าจอนั่นมันกำลังเปิดอะไรอยู่ จนมาถึงหน้าจอหลักของคอมพิวเตอร์แล้ว กดอีกไม่กี่คลิก สุดท้ายก็เหลือบไปเห็นโปรแกรมบางอย่างที่อยู่ตรงมุมล่างของจอ 

 

 

เธอหันไปมองเขาแวบหนึ่ง แล้วกดลงไปหนักๆ แล้วในโปรแกรมนั่นก็มีสัญลักษณ์แม่กุญแจแสดงขึ้นมา 

 

 

เธอร้องเหอะ แล้วจ้องไปที่เขา “คุณช่วยบอกหน่อยได้ไหมคะ ว่านี่คืออะไร?” 

 

 

“มันคือคอมพิวเตอร์ของผมไงครับ” ทั้งๆที่จิ้นหยวนก็เห็นแล้วว่าตัวเองถูกจับได้ แต่ก็ยังพูดออกมาได้อย่างใจเย็น 

 

 

“งั้นหรือคะ?” เธอกดลงบนสัญลักษณ์แม่กุญแจนั่นอย่างไม่พอใจ จากนั้นก็ได้ยินเสียง ‘แกร๊ก’ ดังขึ้นมาจากทางประตูห้อง เหมือนกับเสียงที่ได้ยินในตอนแรกเป๊ะ 

 

 

“เหอะ ประตูเสียงั้นเหรอ? ฉันว่าตอนนี้มันคงกลับมาใช้งานได้แล้วล่ะค่ะ” เธอยืนตัวตรง แต่ในตอนที่กำลังจะหมุนตัวออกเดิน กลับถูกเขาดึงตัวเอาไว้ เธอหันกลับไป “คุณทำอะไรเนี่ย!” 

 

 

ทันใดนั้นเองเธอก็เห็นแววตาหยอกล้ออยู่ในตาของเขา ในขณะที่กำลังอึ้งก็ถูกแรงจากข้างหลังดึงกลับไป ร่างของเธอตกไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาไปโดยปริยาย เธอร้องเสียงหลง เงยหน้าขึ้นมองก็พบเข้ากับบางอย่างที่ซ่อนลึกอยู่ในแววตาของเขา 

 

 

“คุณ…คุณจะทำอะไร…” เธอเกือบจะตกภวังค์ลงไปในดวงตาที่เหมือนทะเลลึกนั่นเข้าแล้ว แต่ก็รีบดิ้นแล้วเอ่ยถาม 

 

 

“คุณว่าไงล่ะครับ?” สมองที่กำลังโลดแล่นของเธอค่อยๆช้าลง จากนั้นก็มองเขาอย่างงตกตะลึง 

 

 

มุมปากของเขาเผยรอยยิ้มขึ้นเล็กๆ จากนั้นจู่ๆก็ก้มหน้าลงมาจูบเธอทันที 

 

 

ในหัวของเธอมันเหมือนมีบางอย่างดังขึ้นมา ก่อนที่จะไม่เหลืออะไรเลยสักอย่าง มีแค่ความรู้สึกบนริมฝีปากเท่านั้นที่ทำให้เธอเข้าใจ ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังถูกเขาจูบอยู่ จูบอย่างเอาแต่ใจ  

 

 

ที่จริงในใจเธอมันอยากจะขัดขืนเขาแทบแย่ เมื่อกี้ทั้งคู่เพิ่งจะทะเลาะกันไปแท้ๆ เขาเพิ่งจะนิสัยไม่ดีไม่ให้เธอออกไปจากห้อง แล้วตอนนี้ยังมาทำแบบนี้อีกมันหมายความว่ายังไงกัน?  

 

 

 

 

 

ตอนที่ 511 รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ 

 

 

ไม่ได้ เธอจะต้องพยายาม จะต้องพยายามให้มากกว่านี้ จะมาให้เขาเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด เธอเองก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะ! 

 

 

ดังนั้นเธอจึงดิ้นขัดขืน พยายามจะดันตัวออก พยายามที่จะหนีออกจากอ้อมกอดของเขา แต่นึกไม่ถึงเลยว่ายิ่งเธอทำแบบนี้ก็ยิ่งไปเพิ่มอารมณ์ให้เขามากกว่าเดิม ทำให้เขายิ่งออกแรงมากขึ้น กอดล็อคตัวเธอเอาไว้แน่น เพื่อไม่ให้เธอหนีไปไหนได้  

 

 

สุดท้าย เธอก็ต้องยอมแพ้ให้กับเขา ค่อยๆโอนอ่อนไปตามอารมณ์ 

 

 

เขารู้สึกอิ่มเอมสุดๆ กอดเธอแน่นและจูบให้ลึกซึ้งกว่าเดิม ราวกับว่าจะจูบแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะพอใจ 

 

 

ทว่า ทั้งๆที่เขาคิดเอาไว้เสียดิบดี แต่ความเป็นจริงนั้นกลับยังคงโหดเ**้ยมเหมือนเดิม 

 

 

ในขณะที่เขาเริ่มจะทนไม่ไหวอยากจะก้าวไปอีกขั้น ทันใดนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้นมาที่หน้าประตู “ประธาน…” 

 

 

จากนั้นประตูก็ถูกเปิดออก! 

 

 

เฉียวซือมู่ตื่นตกใจ จิ้นหยวนเองก็ไวเหมือนกัน รีบหมุนตัวบังเธอเอาไว้ด้านหลังทันที ใบหน้าของเขาที่บึ้งจนไม่รู้จะบึ้งยังไงแล้วกำลังจ้องมองไปยังคนที่ยืนอยู่หน้าประตู “ไม่รู้หรือไงว่าเวลาจะเข้าห้องต้องเคาะประตู?” 

 

 

หลินจื้อเฉิงหน้าเสีย รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก พวกเขาไม่ยอมปิดประตูเองแล้วมาโทษตนเนี่ยนะ? ตนจะรู้ได้ไงว่าวันนี้เขาจะพาเมียมาด้วย? 

 

 

ความซวยมาเยือนแบบไม่ทันตั้งตัวเลยจริงๆ ดูท่าว่าตนคงไม่มีทางหนีบทลงโทษของประธานได้แน่ๆ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ขอพูดเรื่องที่อยากพูดก่อนแล้วค่อยตายทีเดียวเลยก็แล้วกัน 

 

 

เขายืนอยู่ที่ประตูแล้วฝืนเงยหน้ามองไปสายตาที่เหมือนจะฆ่าคนได้อยู่แล้ว “ท่านประธาน อีกสิบนาทีจะเริ่มการประชุมแล้ว ท่านจะ…” 

 

 

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพวกเลขาบอกว่าเรียกท่านประธานแล้วแต่ไม่มีเสียงตอบกลับเขาก็คงไม่มีทางเข้ามาโดยพละการแบบนี้หรอก 

 

 

เดี๋ยวก่อนนะ พวกมันก็อยู่ด้านนอกนี่ ถ้าเกิดว่านายหญิงมาก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะไม่รู้ แล้วทำไมพวกมันไม่เตือนเขาเลยล่ะ? 

 

 

ไอ้พวกบ้าเอ้ย! 

 

 

เขารู้สึกแค้นสุดๆ ตัดสินใจว่าเดี๋ยวออกไปแล้วจะคิดบัญชีให้หมด 

 

 

จิ้นหยวนไม่สนใจ ได้ยินตนเขาพูดแบบนั้นแล้วก็เอ่ยขึ้นด้วยความรำคาญ “ฉันรู้แล้ว มีอะไรอีกไหม?” 

 

 

คำพูดนั่นก็คือไม่มีเรื่องอะไรก็ไสหัวไปได้แล้วนั่นเอง 

 

 

หลินจื้อเฉิงคิด ตกลงมันยังไงกันแน่ ประชุมนี่จะเข้าร่วมหรือเปล่า ได้แต่มองเขาด้วยท่าทางน่าสงสาร “ท่านประธาน…” 

 

 

จิ้นหยวนขมวดคิ้ว “เดี๋ยวฉันไป แต่ตอนนี้แกน่ะ รีบๆ ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!” 

 

 

สิ้นเสียงเขา หลินจื้อเฉิงก็หันหลังกลับออกจากห้องไป และไม่ลืมที่จะปิดประตูให้อย่างแรง 

 

 

จิ้นหยวนเห็นประตูปิดแล้วก็ก้มหน้ามองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอด “มันไปแล้วล่ะ” 

 

 

เฉียวซือมู่ค่อยๆเงยหน้าแดงๆขึ้นมา “น่าอายจริงๆเลย” 

 

 

“ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่จูบกันเอง ไม่ได้ถูกจับได้ว่าเป็นชู้ที่นอนอยู่บนเตียงด้วยกันเสียหน่อย” เขาพูดติดตลกออกมาจนเธออดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง 

 

 

“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆตอนนี้ฉันคงรีบหาที่ขุดรูหนีแล้ว” 

 

 

“ครับๆ ถึงเวลานั้นเดี๋ยวผมจะช่วยคุณหาเอง” เขาพูดปลอบเธอ ก่อนจะลูบหลังเธอไปมา เพื่อทำให้เธอใจเย็นลง 

 

 

เธอผละตัวออกมาจากอ้อมกอดเขาแล้วยืนข้างๆ ความโกรธที่มีก่อนหน้านี้มันอันตธารหายไปจนหมดซะเฉยๆ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่คำถามคำถามหนึ่ง “ไม่ใช่ว่าปิดประตูไปแล้วเหรอ? ทำไมเขายังเข้ามาได้อีกล่ะ?” 

 

 

เขาลูบๆคิ้วตัวเองอย่างเหนื่อยล้า “ก็เพราะก่อนหน้านี้คุณกดเปิดมันในโปรแกรมไงล่ะ ประตูที่ล็อคอยู่ก็เลยถูกเปิดออก อีกอย่างประตูมันก็ปิดสนิท เขาคงไม่รู้ว่าคุณมา ก็เลย…” 

 

 

สีหน้าของเฉียวซือมู่สลดลงทันที พยายามอยู่ตั้งนาน สุดท้ายก็ทำตัวเองจนได้! 

 

 

แต่สุดท้ายแล้วเธอก็หาที่ลงความโมโหได้สำเร็จ “ถ้าไม่ใช่เพราะคุณบ้าล็อคประตูแล้วไม่ยอมยอมรับแบบนี้ พวกเราก็คงไม่ถูกจับได้หรอก เพราะคุณเลย!”