บทที่ 715 เจ้าแห่งปราสาท

โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล

บทที่ 715 เจ้าแห่งปราสาท

 

“ดูนั่น เกิดอะไรขึ้น?”

 

“พระเจ้า ข้าเกรงว่า มันจะเป็นไปได้อย่างไร?”

 

“ข้ามีลางสังหรณ์ไม่ดีเลย เจ้าคิดว่ามันจะถล่มลงมาไหม?”

 

ในโลกภายนอก ผู้คนต่างมองไปที่ปราสาททองคํา ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว

 

พวกเขาอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวเพราะในสายตาของพวกเขา ปราสาทสีทองกําลังกลายเป็นปราสาทสีดํา

 

แสงสีทองกับกําแพงค่อยๆ ถูกกลืนหายไปกับความมืดจนดูน่าหวั่นใจมาก

 

ในเวลานี้ ไม่เพียงแต่คนธรรมดาแต่ยังรวมถึงคนที่ไม่ได้เข้าไปในปราสาทก็ให้ความสนใจกับภาพของปราสาทด้วยเช่นกัน

 

แม้แต่สัตว์ปีศาจรุ่นเก่า พวกเขาก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน ดังนั้นจึงทําอะไรไม่ถูกอยู่พักหนึ่ง

 

มู่ซินซินและซูว่านเออร์ต่างก็เอามือกุมหยกไว้แน่นบนหน้าอกและพึมพําอย่างกังวล “หลินเฟิง เจ้าต้องออกมาอย่างปลอดภัยนะ…”

 

ในปราสาท แน่นนอนว่าหลินเฟิงไม่ได้ยินคําภาวนาของสาวงามทั้งสอง เขาถือหอกทองคําและต่อสู้อย่างหนักกับสัตว์ประหลาดที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมา จนไม่กล้าแบ่งสมาธิไปคิดถึงเรื่องอื่น

 

สัตว์ปีศาจเหล่านี้ไม่ใช่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ห้าสวรรค์ปลอมๆ ไม่เพียงแค่นั้น ความสามารถในการต่อสู้ที่แท้จริงของพวกมันยังเหนือกว่าผู้ที่มีตบะในระดับเดียวกันอีกด้วย!

 

เหล่าผู้มีพลังที่อ่อนแอตายด้วยน้ํามือของพวกมัน บางร่างก็ยังเหลือไม่ครบส่วนด้วยซ้ํา

 

เกิดความโกลาหล ทุกอย่างวุ่นวาย ทั้งโลกตกอยู่ในความโกลาหล เกิดการต่อสู้ที่ดุเดือดขึ้นทุกที่ เพียงแต่มันไม่ถือเป็นการต่อสู้แต่เป็นการเข้าไปตาย!

 

ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขารู้แค่ว่าพวกเขากําลังเจอกับภัยพิบัติครั้งใหญ่

 

“ฝ่ามือหิน!” หลินเฟิงใช้เทคนิควิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทุบใส่สัตว์ปีศาจสามตน

 

เขากําลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย เพราะไม่เพียงแต่ต้องสู้กับสัตว์ประหลาดแต่เขายังต้องปกป้องหลานหลิงอีกด้วย

 

แต่โชคดีที่หลานหลิงสามารถทําหน้าที่เป็นกําลังสนับสนุนให้แก่เขา จึงไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าสังเวชเกินไปนัก

 

แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ไปเรื่อยๆ เนื่องจากพลังต่างๆจะค่อยๆหมดลง หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็จะถูกฝังที่นี่!

 

“บ้าชะมัด! จะทําอย่างไรดี!” หลินเฟิงอดไม่ได้ที่จะก่นด่า

 

ในเวลานี้ เขารู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือนในหัวใจของเขา เขาตกตะลึงและรับรู้ได้ว่าแรงสั่นสะเทือนนั้นออกมาจากพื้นที่ในแหวนเก็บวิญญาณ

 

เขาดึงรอยพลังวิญญาณเข้าไปในแหวน และพบว่าที่มาของการสั่นสะเทือน แท้จริงแล้วคือวัตถุชิ้นหนึ่ง

 

“วัตถุชิ้นนี้มีอะไรผิดปกติหรือ?” หลินเฟิงคิดแล้วนําวัตถุออกมาอย่างรวดเร็ว

 

ขณะที่วัตถุปรากฏขึ้นมา สัตว์ร้ายบนท้องฟ้าก็ส่งเสียงขู่คําราม

 

ดวงตาขนาดใหญ่สองดวงเบิกกว้าง และท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยแสงสีเขียวทันที

 

ทันใดนั้น มันก็พุ่งเป้าไปที่หลินเฟิงและพ่นแสงอันมืดมิดออกมา!

 

แสงนี้มีพลังทําลายล้างที่น่ากลัวอย่างยิ่งราวกับว่ามันสามารถทะลุทะลวงพื้นที่นี้ได้

 

ไม่ต้องพูดถึงหลินเฟิง แม้จะเป็นผู้ที่มีตบะนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่มายืนตรงนี้ ก็เกรงว่าพวกเขาคงจะถูกทําลายกลายเป็นเศษซาก

 

หลินเฟิงไม่สามารถหลีกหนีได้ ความกลัวพุ่งเข้ามาในหัวใจของเขาอย่างทันที เขารู้สึกได้ว่าเขากําลังจะตายจึงรีบชูวัตถุนั้นขึ้นเหนือหัวอย่างรวดเร็ว

 

สิ่งที่น่าเหลือเชื่อเกิดขึ้น วัตถุเปล่งแสงสว่างธรรมดาๆออกมา จากนั้นแสงก็กลายเป็นโล่ขนาดใหญ่ปกป้องพื้นที่

 

การโจมตีของสัตว์ขนาดใหญ่ถูกโล่ปิดกั้นเอาไว้อย่างสมบูรณ์ และในเวลาเดียวกัน บรรดาสัตว์ประหลาดที่อยู่ใต้โล่ก็หายไปเช่นกัน

 

จากนั้น โล่ก็ถูกเก็บกลับไปที่วัตถุ

 

“เกิดอะไรขึ้น?” หลินเฟิงสับสนไปหมด

 

มีพลังอัญเชิญมหาศาลออกมาจากวัตถุ หลินเฟิงรู้แค่ว่าต้องส่งออร่าของเขาเองเข้าไปในวัตถุ เขาจึงทํามัน

 

ขณะที่พลังวิญญาณของหลินเฟิงเข้าไปสู่วัตถุ เขารู้สึกว่าตัวเองถูกกลืนกินโดยคลื่นพลังสายหนึ่ง

 

ในพริบตา เขาจึงตระหนักได้ว่าตัวเขาเองได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

 

อารมณ์ของเขาสงบลงเป็นอย่างมาก แม้จะไม่ได้เพ่งมองในระยะไกล แต่ในใจของเขากลับรับรู้ถึงสถานการณ์ในระยะไกลได้

 

ไม่เพียงแค่นั้น เขายังได้รับสมบัติมากมายจากทั่วทั้งปราสาท

 

ความมั่นใจนั้นทําให้เขารู้ว่าเขาได้กลายเป็นเจ้านายของปราสาท

 

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ปราสาทอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาแล้ว!

 

เขารู้แล้ว! ทันใดนั้น เขาจึงตื่นรู้ได้มาว่าวัตถุนี้คือกุญแจสู่ปราสาท!

 

หลานหลิงมองไปที่เขาและพูดว่า “พี่ชายหลินเฟิง ท่านดูเหมือนพระเจ้าเลย!”

 

หลินเฟิงยิ้ม และวัตถุก็รวมเข้ากับร่างกายของเขาอย่างสมบูรณ์

 

ในเวลานี้ เขาได้ควบคุมปราสาททั้งหมดแล้ว

 

เขาบินขึ้นอย่างช้าๆ ด้วยประโยคเบาๆ แต่มันคือการส่งคําสั่งไปทั่วทั้งโลก

 

“ทําความสะอาดซะ”

 

ทันใดนั้น พลังงานวิเศษก็กระจายออกไปในพื้นที่ และหลังจากได้รับการติดต่อด้วยคําสั่งนี้ เหล่าสัตว์ประหลาดก็หายไปจนหมดเกลี้ยง!

 

สัตว์ร้ายตนนั้นโกรธมาก เสียงคํารามเปลี่ยนโลกให้สั่นสะเทือน

 

หลินเฟิงมองมันอย่างเย็นชา ด้วยการโบกมือของเขาหนึ่งครั้ง เขาก็หายไปพร้อมกับสัตว์ร้าย

 

“คนผู้นั้นหายไปไหน?”

 

“ข้าจะรู้ได้อย่างไรเล่า?”

 

ผู้มีพลังต่างร้องอุทาน

 

ในพื้นที่โลกที่ถูกซ่อนเอาไว้ หลินเฟิงเงยหน้ามองสัตว์ยักษ์ที่อยู่บนท้องฟ้า

 

สัตว์ร้ายยังคงรักษาท่าทางที่ดุร้ายด้วยประกายดุร้ายในดวงตาและรูปลักษณ์ที่น่ากลัวของมัน

 

มันส่งเสียงคํารามออกมา มันรู้ได้อย่างชัดว่าหลินเฟิงเป็นศัตรูที่ทรงพลัง

 

ถึงแม้จะเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้เพียงลําพัง แต่จิตใจของหลินเฟิงกลับไม่หวั่นไหว

 

เขาพูดอย่างเย็นชา “เจ้าสัตว์ร้าย นี่ไม่ใช่ที่ที่เจ้าควรจะอยู่!”

 

“เจ้าไม่ควรอยู่ในโลกนี้ จงตายซะเถอะ!”

 

ด้วยอํานาจอันยิ่งใหญ่ในมือของหลินเฟิง พลังวิญญาณจึงเข้าครอบคลุมสัตว์ร้ายทั่วทั้งร่าง

 

นี่ไม่ใช่ความแข็งแกร่งของหลินเฟิง แต่เป็นพลังวิญญาณอันสูงส่งของปราสาททองคํา

 

แม้ว่าสัตว์ร้ายจะทรงพลังมาก แม้ว่ามันจะส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่ากลัว แต่ก็ไม่สามารถทนต่อการโจมตีของพลังวิญญาณที่รุนแรงเช่นนี้ได้

 

หลินเฟิงไม่ได้รู้สึกสงสารแต่อย่างใด มือของเขาบีบแน่นจากนั้นสัตว์ร้ายก็แตกสลายทันที

 

เมื่อได้โอกาสนี้ หลินเฟิงจึงเปิดปากขึ้นแล้วสูบพลังงานทั้งหมดจากสัตว์ร้ายร่างยักษ์เข้าสู่ร่างกายของเขา

 

พลังนี้ยิ่งใหญ่เกินไป แม้ว่าจะมีลูกปัดมังกรทั้งสองคอยกดเอาไว้ แต่ก็ยังไม่สามารถดูดซับได้อย่างสมบูรณ์

 

โชคดีที่ตอนนี้เขาได้กลายเป็นเจ้าแห่งปราสาทแล้ว จึงเป็นธรรมดาที่เขาก็ย่อมมีวิธีจัดการของตัวเอง

 

เขาระดมพลังจากสวรรค์และโลกเพื่อเข้าช่วย แต่ก็เป็นการดูดซับพลังเหล่านั้นเข้าไปเพิ่มด้วย

 

ในเวลานี้ เขารู้สึกว่ากล้ามเนื้อและเส้นเลือดของเขาบวมอย่างน่ากลัว หากเขาไม่ระวัง ร่างกายของเขาอาจระเบิดได้

 

“ดูเหมือนไม่ควรลากยาวอีก” เขาบ่นพึมพํา “ต้องใช้เวลาพอสมควรในการย่อยมัน”

เขากลับออกไปนอกพื้นที่ เพียงเพื่อจะพบว่าตัวเองมาอยู่ผิดที่

 

เดิมที เขาจะส่งตัวเองไปหาหลานหลิง แต่ในเวลานี้กลับมีเสียงอันมืดหม่นดังขึ้น

 

“ข้าไม่คิดเลยว่าจะได้พบเจ้าที่นี่ แต่พระเจ้าก็ยังคงต้องการให้เจ้าตายโดยเร็ว”

หลินเฟิงมองดู ไม่คาดคิดว่าจะเป็นโจวซิง!