ตอนที่ 839 มาดูฝนดาวตกกัน
“ถึงเวลาจบเรื่องนี้แล้ว” ซูฮ่าวพูดอย่างเมินเฉย
ด้วยตราประทับของตระกูลเทียนที่ในมือ หลังจากการอนุมานและวิเคราะห์อย่างระมัดระวังด้วยคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ เหล่าศิษย์หลักของตระกูลเทียนฟังคําสั่งของซูฮ่าวเท่านั้น สําหรับห้าตระกูลใหญ่นั้นพวกเขาเชื่อฟังซูฮ่าวอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นหลังจากปะทะกันมาครึ่งวันสนามรบระหว่างตระกูลตอนนี้จึงไม่มีศัตรูอีกต่อไป!
ทุกคนรับคําสั่งจากคนคนเดียวกัน ซูฮ่าว
ชัยชนะ!
สิ่งที่ซูฮ่าวทําคือแค่ มองหาเวลา สถานที่ และสิ่งที่ควรทําอย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทําไมเขาถึงสามารถยุติสงครามนี้ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นคนจากห้าตระกูลใหญ่หรือตระกูลเทียนพวกเขาต่างมองดูซูฮ่าวอย่างมึนงงและไม่รู้ว่าจะต้องทําอะไรใน
ตอนนี้ต่อไปนี้…
พวกเขาควรทําอย่างไร
ควรต่อสู้ต่อไปหรือไม่?
แล้วพวกเขาจะฟังคําสั่งใคร
วูป!
แสงกระพริบ และทันใดนั้นเอสเปอร์โดเมนสูงสุดก็ปรากฏขึ้นข้างๆ ซูฮ่าวและกล่าวอย่างเคารพ “อาวุโสคําขอของท่านเสร็จสมบูรณ์แล้ว กําลังเสริมของตระกูลจางจะมาถึงช้ากว่าที่คาดไปสิบนาที ตอนนี้พวกเขามาถึงที่นี่แล้ว”
“ดี”
สายตาของซูฮ่าวดูเย็นชา
ทั้งตระกูลเทียน และ จาง ต่างวางแผนมาที่โดยการเดินทางผ่านทางอากาศในเวลาพร้อมกัน แม้ว่าเขาจะไม่สามารถสกัดกั้นพวกเขาได้แต่ด้วยแผนขั้นสูงของเขา เขายังสามารถยื่อเวลาเหล่าคนที่ไม่ใช่เอสเปอร์โลกได้สักสองถึงสามนาที เวลาและสถานที่ถูกแก้ไข…
ภายใต้อิทธิพลของความสามารถพิเศาประเภทเวลา ตระกูลจางอาจจะไม่รู้ตัวว่าเวลาของพวกเขาได้ล่าช้ากว่าที่คิด
แม้ว่าจะเป็นเหล่าเอสเปอร์จะมีเพียงความสามารถพิเศษเกรด A เท่านั้นหรือบางคนมีเพียงความสามารถพิเศษเกรด B และ C และมีผลการควบคุมเวลาเพียงเล็กน้อบ แต่ด้วยการร่วมมือกันของพวกเขายังเพียงพอที่จะสร้างผลกระทบตามที่ต้องการได้
และสิบนาทีนี้ เขาได้ทําสิ่งที่ต้องการได้สําเร็จ
“ศิษย์ของตระกูลเทียนฟังที่นี่ เป้าหมายต่อไปของเจ้าคือตระกูลจาง!” ซูฮ่าวสั่ง
ในเวลาเดียวกันมีข้อความปรากฏบนอุปกรณ์สื่อสารของแต่ละตระกูลของห้าตระกูลใหญ่ “เป้าหมายต่อไปของเราคือกําจัดศิษย์ของตระกูลจางที่กําลังมาที่นี่เพื่อสนับสนุนพวกเขา”
ทุกคนมองหน้ากันด้วยความกลัว
ทั้งศิษย์ของตระกูลเทียนและห้าตระกูลใหญ่นั้นต่างก็เหลือบมองกัน พวกเขาไม่เข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งของซูฮ่าวหรือตราประทับของตระกูลเทียนและพวกเขาก็ไม่สามารถต่อต้านมันได้! ดังนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พวกเขาจึงสามารถทําได้เพียงทําตามคําสั่งของซูฮ่าว ทําลายตระกูลจาง!
ดังนั้นจึงมีฉากแปลกๆ เกิดขึ้น
หากศิษย์ของตระกูลจางปรากฏตัวออกมาจากความว่างเปล่า สิ่งที่รอคอยพวกเขาอยู่ก็จะคือกลุ่มของเอสเปอร์โดเมน
เมื่อพวกเขาออกมาในตอนแรกทุกคนในตระกูลจางก็ตกตะลึงเป็นวินาที
สถานการณ์นี้…
มีบางอย่างผิดปกติ
ข้อมูลรั่วไหลหรือไม่?
รอเดี๋ยว
พวกเขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ตระกูลเทียนละเป็นไปได้ไหมว่าพวกเขามาถึงช้าหรือศัตรูเปิดฉากก่อนและทําลายตระกูลเทียนไปแล้ว? ในขณะที่พวกเขาสับสนพวกเขาก็เห็นผู้คนมากมายของตระกูลเทียนในฝูงชน หืม…ตระกูลเทียนก็อยู่ที่นั่นด้วย… แล้วมันเกิดอะไรกันแน่?
พวกเขาไม่ได้ต่อสู้กันเองงั้นเหรอ
คนของตระกูลจางลงถึงพื้น ก่อนที่พวกเขาจะได้ตอบโต้อะไร พวกเขาก็ตกตะลึงอีกครั้ง
เพราะตระกูลเทียนร่วมโจมตีพร้อมกับเหล่าตระกูลใหญ่ทั้งห้า
“พวกเจ้ากําลังทําอะไร?”
“แมร่*เอ้ย เจ้าไม่ได้เป็นศิษย์ของตระกูลเทียนงั้นเหรอ?”
“ตระกูลเทียนทรยศเรา?”
เสียงสะท้อนมากมายดังมาจากฝูงชน
น่าเสียดายที่เสียงเหล่านี้ถูกกลบโดยพลังงานต้นกําเนิดที่ปะทุขึ้น เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลงก็ไม่มีใครคนใดของตระกูลจางที่ยังเหลือรอด
พวกเขาถูกทําลายอย่างสมบูรณ์
เมื่อการต่อสู้จบลงทุกคนก็หวาดกลัว
“ครั้งนี้มันจบ” ซูฮ่าวยิ้มอย่างเฉยเมยและจ้องมองเหล่าศิษย์หลักของตระกูลเทียน “เจ้าไม่จําเป็นต้องคิดว่ามาจากฝั่งไหน ตราบใดที่พวกเจ้าฟังคําสั่งของข้า”
วูป
ซูฮ่าวชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า
แสงเปล่งประกายจากมือของเขา แสงลอยไปยังเหล่าศิษย์หลักของตระกูลเทียนพวกเขารู้สึกถึงมันและดีใจในทันที “นี่คือ…ตราประทับของตระกูลเทียน!”
“ใช่” ซูฮ่าวยิ้มเยาะ “ใช่ มิฉะนั้นแล้วทําไมตระกูลเทียนจึงปฏิบัติต่อพวกเจ้าอย่างดี ด้วยตราประทับนี้พวกเจ้าสามารถกลับมามีอิสรภาพได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามทั้งหมดที่ข้าทําคือคืนอิสรภาพแก่พวกเจ้า แต่ก่อนจบสงครามครั้งนี้ พวกเจ้ายังคงเป็นกองกําลังของข้าเข้าใจหรือไม่”
“ครับ!”
ทุกคนตะโกนอย่างพร้อมเพรียง
“ถ้าอย่างนั้น…” ซูฮ่าวจ้องที่ช่องว่าง “เพียงแค่รอให้การต่อสู้นั้นจบลง ไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะ…”
การต่อสู้ระหว่างตระกูลบนพื้นที่แห่งนี้สิ้นสุดลงแล้ว!
มันเร็วมากจนน่าตกใจ
ซูฮ่าวโบกมือและคนที่ออกมารายงานต่อเขาหายตัวไปอย่างเงียบงัน ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร หรือมาจากไหน ไม่เพียงแต่บุคคลนั้น ซูฮ่าเป็นใครตัวตนของเขาคืออะไร เขาทําอะไร และทําไมเขาถึงใช้หลินฮูเป็นชื่อของเขา? ไม่มีใครรู้อะไรจนถึงตอนนี้
ยกศีรษะขึ้น
ทุกคนรู้ดีว่าเมื่อการต่อสู้นี้จบลงทุกอย่างก็จะถูกเปิดเผย
ในสนามรบระหว่างเอสเปอร์โลก
กฏแห่งพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุดปะทุออกมาอย่างต่อเนื่อง นี่คือพื้นที่สําหรับเอสเปอร์โลกหลายสิบคนเหนือดินแดนของตระกูลซู พื้นที่ว่างนับไม่ถ้วนสั่นเทาและปะทุอย่างต่อเนื่อง เอสเปอร์โลกแต่ ละคนมีพลังมากพอที่จะเปลี่ยนพื้นที่ให้กลายเป็นความว่างเปล่า ทรงพลังอย่างมาก
ไม่มีใครสามารถเห็นท้องฟ้าได้อีกต่อไป
ภายใต้พื้นที่ว่างนั้นเกิดการระเบิดที่น่ากลัวขึ้นหลายครั้งจมผู้คนรู้สึกหวาดกลัว นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้สัมผัสกับพลังของเอสเปอร์โลกในระยะใกล้ เมื่อออร่าของสองเอสเปอร์มาปะทะกันมันก็น่ากลัวเพิ่มมากขึ้น ทุกคนต่างพูดไม่ออกเนื่องด้วยความกลัว
ออร่าเหล่านี้
เบี้ยสองเอสเปอร์โลกสูงสุดปะทะกันหรือไม่?
บูม!
เมื่อสองออร่าปะทะกันพื้นที่อยู่อาศัยของตระกูลซูทั้งหมดก็สั่นไหว
“นั่นคือเขา!” ดวงตาของซูฮ่าวส่องประกาย
เขาสามารถรับรู้ถึงออร่าที่เป็นของบรรพบุรุษเก่าแก่ของตระกูลซู ออร่าแบบเดียวกับที่ช่วยเขามานับครั้งไม่ถ้วน พร้อมกับอีกหนึ่งเอสเปอร์โลกสูงสุด นั่นน่าจะเป็นบรรพบุรุษของตระกูลเทียน?
บูม!
บูม!
สองออร่านั้นยังคงปะทะกันอย่างรุนแรง
เพียงเศษเสี้ยวออร่าจากการปะทะที่พุ่งผ่านพื้นที่ชั้นบรรยากาศนับไม่ถ้วนทําให้ภูเขารอบๆ พื้นที่อยู่อาศัยของตระกูลซูพังทะลายลงพร้อมกับต้นไม้ที่อยู่รอบๆ การต่อสู้ดําเนินไปเป็นเวลานาน แต่สําหรับทุกคนมันดูเหมือนจะคงอยู่เพียงชั่วครู่ สําหรับสมาชิกในตระกูลซู พวกเขารู้สึกน้อยกว่ามาก
วูป
พลังงานไม่สิ้นสุดก็แยกย้ายออกไป
แสงรูปร่างวงกลมส่องประกายออกมา มันราวกับว่าเวลาถูกเร่งขึ้นอย่างมาก ออร่าของ กฏแห่งพลังยังคงแพร่กระจายไปรอบๆ และระเบิดขึ้นในที่สุด
บูม!
ในทางฝั่งของตระกูลเทียนมีชายคนหนึ่งถือค้อนขนาดใหญ่สองอันทุบลงกลางอากาศ แต่ ละครั้งเกิดเป็นพลังที่ไม่สามารถจินตนาการได้ ค้อนคู่ขนาดใหญ่นั่นเต็มไปด้วยรูปลักษณ์ที่แปลกประหลาด เงาหนึ่งจากฝั่งของตระกูลซูกําลังเผชิญหน้ากับค้อนขนาดใหญ่ทั้งสองด้วยมือเปล่าจนเกิดเสียงดังคําราม
ทั้งคู่ถอยหลังออกไป แต่พวกเขายังคงไม่เป็นอะไร
ค้อนขนาดใหญ่ที่เกือบจะสลายไปถูกรวบเข้ากันอีกครั้ง เมื่อชายที่แข็งแกร่งคนนั้นเงยหน้าขึ้นด้านตรงข้ามชายอีกคนในชุดดํามือของเขาก็เปล่งประกาย นั่นคือนวม นี่ไม่ใช่แค่การเผชิญหน้า ระหว่างสองกฏแห่งพลังแต่ยังเป็นการแข่งขันของเขตแดนจิตวิญญาณ
แสงสีแดงปกคลุมท้องฟ้า
นั่นเป็นผลมาจากกฏแห่งไฟ พร้อมกับความร้อนที่ไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งทําให้พื้นที่ว่างนั่นดูราวกับว่ามันกําลังถูกเผาไหม้
แสงสีน้ําเงินจางๆ ซ้อนทับกันในท้องฟ้าสีแดง
นี่คือพลังความสามารถที่มาจากกฎแห่งน้ํา
สนามรบเต็มไปด้วยกฏแห่งพลังทุกประเภท กฎแห่งพลังเหล่านี้อยู่เหนือพลังงานใดๆ และเต็ม ไปด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายซึ่งเกือบจะเปลี่ยนพื้นที่ว่างเปล่านี้ให้กลายเป็นโลกความจริงทุกกฏ แห่งพลังเต็มไปด้วยจิตสังหารที่ไม่มีสิ้นสุด ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงมากมาย
“สวยมาก…”
ทุกคนจ้องมองฉากบนท้องฟ้าอย่างว่างเปล่า
ท้องฟ้าเหนือพื้นที่อยู่อาศัยของตระกูลซูเปลี่ยนสีไปมาเหมือนรุ้งกินน้ํา บางครั้งก็เป็นสีแดงบางครั้งก็เป็นสีเขียว แต่ละสีมีความงดงามราวกับความฝัน แต่ซูฮ่าวรู้ว่าการเปลี่ยนสีแต่ละครั้งเป็นการแสดงถึงการระเบิดพลังของกฏแห่งพลังเพื่อหวังสังหารศัตรู
เปลี่ยนโลก พลิกสวรรค์
นี่คือพลังของเอสเปอร์โลก!
“ปุ~”
มีร่องรอยของออร่ารั่วไหลออกมา
รอยร้าวในอากาศกําลังก่อตัวขึ้นออร่าที่น่ากลัวพุ่งออกมา เอสเปอร์โดเมนสูงสุดคนหนึ่งตอบสนองช้าเกินไปจึงระเหยหายไปเป็นไอในทันที เบื้องหลังเอสเปอร์โดเมนคนนั้นภูเขาขนาดใหญ่พังทลายลงจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่
พลังความแข็งแกร่งของเอสเปอร์โลกน่ากลัวถึงเพียงนี้
“ถอยออกไป!”
ทุกคนถอยกลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความกลัว
“ถอย!” ซูฮ่าวสั่งให้ทุกคนถอยออกห่างจากจุดนี้
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ชมการต่อสู้ระหว่างเอสเปอร์โลกอันทรงพลัง แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นแต่โอกาสที่หาได้ยากนี้ก็ทําให้เขาทนไม่ไหว สิ่งที่เรียกว่าเขตแดนจิตวิญญาณสมบูรณ์ของเขาอ่อนแอ เกินไปต่อการบังคับของกฎเหล่านี้! ไม่ใช่ว่าขอบเขตวิญญาณของเขาไม่แข็งแรงแต่ความแข็งแกร่งของเขาเมื่อเทียบกับกฏแห่งพลังเหล่านี้ มันไม่มีค่าอะไรเลย!
เพียงเขตแดนจิตวิญญาณเพิ่มขึ้น
เขาจะสามารถยกระดับความแข็งแกร่งของเขาได้มากแค่ไหน?
บูม!
อีกหนึ่งแสงที่ส่องประกาย
สีของท้องฟ้าเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ราวกับว่าการอวสานของโลกกําลังมา
บางครั้งก็จะมีลําแสงตกลงมาจากท้องฟ้า ดินแดนทั้งหมดใกล้กับพื้นที่อยู่อาศัยของตระกูลซูถูกทําลายล้างจากพลังนี้ เมื่อแต่ละลําแสงตกลงมาพื้นดินจะกลายเป็นหลุมบ่อขนาดใหญ่สามชั้น และนี่เป็นเพียงพลังงานที่รั่วไหลออกมา!
บูม!
บูม!
ลําแสงหลุดออกมา
ท้องฟ้าที่แปลกตาและมีหลายสีสันดูราวกับกําลังจะมีฝนดาวตก ลําแสงจํานวนมากที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องมันเต็มไปด้วยความงดงามที่มหัศจรรย์มาก
เหนือพื้นที่อยู่อาศัยของตระกูลซูโล่แสงบางๆปรากฏขึ้น
ภายใต้การโจมตีที่รุนแรงร้ายนี้ โล่ดังกล่าวทําหน้าที่เหมือนร่มในสายฝนคอยปกป้องตระกูลซู จากการถูกทําลาย
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ใช้ป้องกันนั้นไม่ใช่ร่มและสิ่งที่ตกลงมาจากท้องฟ้าก็ไม่ใช่ฝนปกติ
ด้วยเหตุนี้ฝูงชนจึงตกใจมากยิ่งขึ้น
“โล่ป้องกัน” ซูฮ่าวพูดด้วยน้ําเสียงต่ํา
เขาเคยเห็นมันครั้งหนึ่งในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่วิทยาลัยจานเจียง ตอนแรกเขาคิดว่ามีเพียงสหพันธ์เท่านั้นที่มีเทคโนโลยีนี้ อย่างไรก็ตามโดยไม่คาดคิดตระกูลซูก็มีเทคโนโลยีนี้เช่นเดียวกัน
และเป็นโล่ที่ทรงพลังมาก!
ลําแสงยังคงตกลงมา
ซูฮ่าวพาคนเหล่านั้นมองดูจากระยะไกล หากมีคนที่ไม่รู้จักอะไรมาเห็นที่นี่พวกเขาคงจะคิดว่าคนกลุ่มนี้กําลังถ่ายทําภาพยนตร์ เพื่อขอทุกคนมาดูฝนดาวตก