EG บทที่ 637 รัฐมนตรีจู้ชอปปิ้งในซุปเปอร์มาร์เก็ต
“ทำไมตรงจุดนี้ถึงปล่อยให้มีพื้นที่ว่างขนาดนี้กันล่ะ?”
รัฐมนตรีจู้ผู้มีฉายาว่ากำปั้นเหล็กเพราะทำงานด้วยความเด็ดขาดจริงจังเอ่ยถามอย่างนึกสงสัยเมื่อก้าวเข้ามาในตัวซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้วเจอพื้นที่ว่างเปล่า นี่ไม่ใช่การเสียพื้นที่ไปโดยเปล่าประโยชน์ใช่หรือไม่?
“ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการค่อนข้างหนาแน่นและเราต้องการให้พื้นที่ของเรากว้างขวางมากขึ้น ตรงบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่ที่ให้ลูกค้าหยุดพักและเลือกที่จะไปขึ้นลิฟท์หรือบันไดเลื่อน เพื่อป้องกันความแออัดเราจึงเลือกที่จะไม่จัดแสดงสินค้าในบริเวณนี้ครับ”
ผู้จัดการซุปเปอร์มาร์เก็ตเป็นผู้อธิบายให้ฟัง เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่มีโอกาสได้พูดคุยกับรัฐมนตรีจู้อย่างใกล้ชิดและเป็นคนพาชมรอบๆซุปเปอร์มาร์เก็ต มันเป็นเกียรติสำหรับเขายิ่งนัก
รัฐมนตรีจู้กวาดสายตาไปรอบๆบริเวณก่อนจะสะดุดเข้ากับบางอย่าง มีภาพประดับบนผนังไม่ไกลจากจุดที่เขาอยู่ มันเป็นภาพที่เขาคุ้นเป็นอย่างดี
นี่มันโลโก้บริษัทวินด์แอนด์เรนไม่ใช่หรือ? บริษัทของเสี่ยวเฝิง?
“นี่มันรูปอะไรกัน?”
“เป็นรูปโฆษณาครับ มันเป็นโฆษณาของบริษัทวินด์แอนด์เรนซึ่งเป็นรายได้ของเราอีกช่องทางหนึ่ง ตรงมุมนั้นก็มีของซงเจียงมอเตอร์ด้วยครับ มันเป็นโฆษณาเช่นกัน”
รัฐมนตรีจู้ขมวดคิ้ว ซงเจียงมอเตอร์? บริษัทในเครือของเสี่ยวเฝิงนี่นา ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!! เจ้าเด็กคนนี้รู้วิธีโฆษณาแบรนด์ของตัวเองจริงๆ
ภายในซุปเปอร์มาร์เก็ต รัฐมนตรีจู้มองไปยังชั้นวางที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ระยะห่างระหว่างชั้นวางของในแต่ละจุดมีขนาดเท่ากันอย่างแม่นยำและสินค้าที่ถูกวางบนชั้นก็ถูกจัดเรียงอย่างเรียบร้อย
ส่วนที่น่าสนใจที่สุดสำหรับเขาคือป้ายราคาที่ติดอยู่บนชั้นวาง ลูกค้าจะทราบราคาของผลิตภัณฑ์ต่างๆได้ในครั้งเดียวและไม่จำเป็นต้องหันไปถามพนักงานขาย ลูกค้าจะตัดสินใจได้ว่าต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ตัวนั้นดีหรือไม่?
“แล้วไม่มีพนักงานขายงั้นหรือ?”
“ซุปเปอร์มาร์เก็ตของเราไม่มีพนักงานขายครับ เรามีเพียงผู้ช่วยคลังสินค้าเท่านั้น หากลูกค้าต้องการที่จะซื้ออะไร เหล่าผู้ช่วยคลังสินค้าของเราจะเป็นคนแนะนำไปยังชั้นวางสินค้านั้นๆ เรายังมีรถเข็นไว้คอยบริการให้กับลูกค้าใช้วางสินค้าจำนวนมากๆ แต่ถ้าไม่ต้องการซื้อสินค้าจำนวนมากๆเราก็มีตะกร้าขนาดพอเหมาะไว้บริการเช่นกันครับ”
รัฐมนตรีจู้พยักหน้ารับ นี่มันสะดวกจริงๆ
“สวัสดี พอดีผมอยากรู้ว่าถั่วอยู่ตรงไหน?”
รัฐมนตรีจู้โบกมือทักทายผู้ช่วยคลังสินค้าคนหนึ่งและเอ่ยถามเบาๆ ใบหน้าของผู้ช่วยคลังสินค้าเปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีด้วยความตื่นเต้น แต่เหล่าผู้ช่วยคลังสินค้าทั้งหมดได้รับการอบรมและฝึกฝนมาเป็นอย่างดีทำให้เขาสามารถตอบคำถามของรัฐมนตรีจู้ได้อย่างฉะฉาน
“ขอบคุณ”
รัฐมนตรีจู้พยักหน้าและเข็นรถเข็นของตนไปยังชั้นวางนั้นทันที
ผู้ช่วยคลังสินค้าเกือบเป็นลมเมื่อรัฐมนตรีจู้เอ่ยขอบคุณตนเอง!
ในขณะที่รัฐมนตรีจู้กำลังจะเข็นรถเข็นผ่านโซนเครื่องดื่มไป เขาก็เห็นพวกขวดเครื่องดื่มบางส่วนถูกวางซ้อนๆกันเป็นรูปสามเหลี่ยม มันถูกจัดไว้บริเวณพื้นที่ว่างบริเวณรอยต่อของชั้นวางสินค้าแต่ละประเภท
“นี่คืออะไรหรือ?”
รัฐมนตรีจู้หันมาถาม
“นี่คือบูธแสดงสินค้าครับ จุดประสงค์ก็เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า ตัวอย่างเช่นบูธนี้จะแสดงสินค้าพวกน้ำอัดลมที่ลีฮาฮาภูมิใจเสนอ นี่คือโคล่าครับ ส่วนนี่คือน้ำส้ม นี่น้ำแอปเปิ้ล ฯลฯ ”
“โคล่า? นี่คือโคล่าที่เราผลิตขึ้นมาเองงั้นหรือ? มันใช่โคคาโคล่าที่ขายดีแบบในต่างประเทศหรือเปล่า?”
รัฐมนตรีจู้เอ่ยถามด้วยความตกใจ
“ใช่แล้วครับ! นี่คือโคล่าที่พัฒนาและผลิตขึ้นจากฝีมือของเราเอง มันได้ถูกทำเป็นโฆษณาฉายในช่องCCTVด้วยครับ สโลแกนโฆษณาก็น่าสนใจยิ่งนัก โคล่าจีน!โคล่าของเรา!”
“แล้วคุณหลี่ล่ะ? ได้แสดงสินค้าของคุณด้วยวิธีนี้หรือเปล่า?”
ผู้อำนวยการหลี่ส่ายศีรษะน้อยๆ
“ซุปเปอร์มาร์เก็ตในฮ่องกงไม่ได้จัดแสดงสินค้าแบบนี้หรอกครับ นี่เป็นไอเดียของผู้ถือหุ้นของเรา ต้องยอมรับว่าเด็กหนุ่มคนนี้มีความคิดที่สร้างสรรค์มากเลยล่ะครับ”
“โอ้!? เด็กหนุ่มคนนี้มาจากตระกูลไหนของฮ่องกงหรือ?”
รัฐมนตรีจู้ผลักรถเข็นไปด้านหน้าเล็กน้อยและเอ่ยถามอย่างสงสัย
“เขาไม่ได้มาจากฮ่องกงหรอกครับ เขามาจากเมืองปิงของประเทศจีนนี่ล่ะ”
“นามสกุลของเขาคือเฝิงใช่หรือไม่?”
ใบหน้าของเฝิงหยู่ปรากฏเข้ามาในหัวของรัฐมนตรีจู้ เด็กหนุ่มจากเมืองปิงและเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น นอกจากเฝิงหยู่แล้ว เขานึกไม่ออกจริงๆว่าจะเป็นใครได้
“ใช่แล้วครับ เฝิงหยู่เป็นคนแนะนำให้เราทำธุรกิจซุปเปอร์มาร์เก็ตขึ้นมาและยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดด้วยครับ”
ผู้อำนวยการหลี่ไม่แปลกใจเลยที่ท่านจู้จะรู้จักเฝิงหยู่ด้วย เฝิงหยู่เป็นอัจฉริยะ ไม่ว่าเขาไปอยู่ที่ใดคนใหญ่คนโตในสถานที่นั้นๆก็มักจะสะดุดตาคนเช่นเฝิงหยู่อย่างแน่นอน
รัฐมนตรีจู้ทวีความตกใจขึ้นไปอีก เฝิงหยู่เป็นคนคิดไอเดียซุปเปอร์มาร์เก็ตนี้ขึ้นมาและเขายังสามารถทำให้ผู้อำนวยการหลี่ร่วมลงทุนกับเขาด้วยงั้นหรือ? ไม่ธรรมดาเลย! ความสามารถของเด็กคนนี้ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้น!
ไม่แปลกใจเลยที่โฆษณาของวินด์แอนด์เรนจะติดอยู่ผนังทางเข้าและไหนจะมีโฆษณาของซงเจียงมอเตอร์อีก เป็นเพราะเฝิงหยู่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของไท้ฮัวซุปเปอร์มาร์เก็ตนั่นเอง
ในโซนของสด รัฐมนตรีจู้เห็นพวกของสดมากมายวางเรียงรายอยู่บนชั้นแช่เย็นและแช่แข็งทั้งผักสด ผลไม้สด ปลา อาหารทะเลและเนื้อสัตว์ต่างๆ แต่มีส่วนของเนื้อหมูที่ดูแตกต่างจากจุดอื่น มันมีป้ายขนาดใหญ่อยู่ด้านบนระบุไว้ว่า ‘ผลิตโดยเทียนเผิงหมูสด’
รัฐมนตรีจู้อมยิ้มและส่ายหัวน้อยๆ เขารู้ว่าเฝิงหยู่เป็นคนทำแบรนด์เทียนเผิงและคิดชื่อนี้ขึ้นมา ชื่อนี้จะทำให้คนอื่นๆสามารถจดจำได้ง่ายและมันจะกลายเป็นแบรนด์หมูสดที่มีชื่อเสียงติดตลาดอย่างแน่นอน
“ผลิตภัณฑ์ของสดในซุปเปอร์มาร์เก็ตของเราทั้งหมดรับซื้อจากเกษตรกรโดยตรงและไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ตัวอย่างเช่นเราได้เซ็นสัญญากับฟาร์มไก่เพื่อรับซื้อเนื้อไก่และไข่ เรายังทำสัญญากับบ่อปลาเพื่อรับซื้อปลาน้ำจืด ส่วนอาหารทะเลเราก็ส่งคนไปซื้อจากชาวประมงโดยตรง ผักสดพวกนี้ก็รับซื้อจากไร่และผักสวนครัวของชาวบ้าน ของสดของเรารับรองว่าสดใหม่ทุกวันครับ!”
“ซุปเปอร์มาร์เก็ตในฮ่องกงก็ใช้หลักการเดียวกันใช่หรือไม่?”
รัฐมนตรีจู้เอ่ยถามก่อนที่ผู้อำนวยการหลี่จะหัวเราะออกมาเบาๆ
“นี่ก็เป็นไอเดียของเฝิงหยู่เช่นกันครับ เขาต้องการให้ผลิตภัณฑ์ที่วางขายในซุปเปอร์มาเก็ตของเราสดและใหม่ในทุกๆวัน ผมเองก็ไม่แน่ใจในรายละเอียดที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตฮ่องกงทำมากหรอกครับแต่เอาไว้กลับไปผมจะไปตรวจสอบดูว่าพวกเขาใช้หลักการเดียวกันหรือไม่? ท่านจู้เห็นผลไม้พวกนั้นมั้ยครับ? ผลไม้ทั้งหมดก็ใช้วิธีการเดียวกัน เราได้จองสวนผลไม้และส่งคนของเราไปคัดสรรผลไม้สดออกมาเพื่อจัดส่งไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ตของเราทุกสาขา ในส่วนของซุปเปอร์มาร์เก็ตของเราจะใช้รถบรรทุกขันต่ำ 2 คัน โดยคันที่หนึ่งก็เพื่อขนส่งสินค้าประเภทเนื้อไก่ เนื้อวัว ปลาและเนื้อสัตว์ต่างๆ ส่วนอีกคันจะใช้ขนพวกผักผลไม้ ซึ่ง รถบรรทุกทุกคันก็มาจากซงเจียงมอร์เตอร์เช่นกันครับ”
“หมายความว่าผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตเป็นของบริษัทเฝิงหยู่?”
“เราต้องเลือกสินค้าที่มาจากบริษัทของเราก่อนครับ อีกอย่างบริษัทในเครือของเฝิงหยู่ก็มีคุณภาพทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นลีฮาฮา พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีทั้งวินด์แอนด์เรน ไอว่า ลิตเติ้ลไทรัล ลีโนโวและแบรนด์อื่นๆอีกมากมาย ทุกๆแบรนด์ต่างเป็นสินค้ายอดนิยมทั้งนั้น”
ผู้อำนวยการหลี่หัวเราะร่ววน
เมื่อตอนที่ผู้อำนวยการหลี่รู้ว่าเฝิงหยู่มีแบรนด์ต่างๆอยู่ในมือจำนวนมากขนาดนี้เขาก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน ทุกๆแบรนด์ที่มีเฝิงหยู่เป็นหุ้นส่วนมีการจัดการและคุณภาพที่ดีแถมยังเป็นที่นิยมในท้องตลาดอีกด้วย
“อ๊ะ? อันนี้ก็น่าสนใจเช่นกัน นอกเหนือไปจากอาหารเสริมเพื่อสุขภาพแล้วพวกคุณยังขายยาสามัญด้วยเหรอ? ซุปเปอร์มาร์เก็ตได้รับอนุญาตให้ขายยาด้วยหรอกรึ?”
“เราได้รับอนุญาตเรียบร้อยแล้วครับและยาสามัญพวกนี้ก็เป็นยาที่ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ด้วย ราคาของมันก็ตามป้ายราคาที่ระบุไว้เลยครับ”
ผู้จัดการซุปเปอร์มาร์เก็ตรีบอธิบายทันทีว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย
รัฐมนตรีจู้หยิบกล่องยาแคลเซียมกลูโคเนตขึ้นมาเพื่ออ่านรายละเอียดสลากยา ผลิตโดยองค์กรยาเมืองปิงงั้นหรือ? บริษัทนี้มีความเกี่ยวข้องกับเฝิงหยู่อีกครั้งหรือนี่?
รัฐมนตรีจู้ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้นอกจากแสดงความคิดเห็นของตนออกไป
“ถ้าให้ผมเดา เฝิงหยู่เป็นผู้ถือหุ้นในองค์กรยาเมืองปิงด้วยสินะ? เขายังช่วยส่งออกยาพวกนี้ไปยังประเทศต่างๆอีกด้วย ไหนจะหนังสือภาวะพร่องสุขภาพที่เขาตีพิมพ์อีก ผมเองก็มีหนังสือเล่มนั้นอยู่ที่บ้านเช่นกัน”
หนังสือเกี่ยวกับภาวะพร่องสุขภาพ รัฐมนตรีจู้เลิกคิ้วสูง เขาเป็นคนเลือกซื้อหนังสือเล่มนี้เองกับมือแถมยังเอาเข้าชั้นวางหนังสือที่เขาชอบมากที่สุดอีกด้วย หนังสือเล่มนี้ถูกตีพิมพ์โดยเฝิงหยู่
เฝิงหยู่! เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ