ภูเขากระดูกขาว

วาบ**!**

ร่างแสงสองร่างข้ามขอบฟ้ากว้างใหญ่ เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงสุด แต่ระหว่างเคลื่อนผ่านกลับไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมา เห็นชัดว่าพวกเขาตั้งใจข่มเสียงที่เกิดจากการเคลื่อนไหวเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

ร่างแสงทั้งสองพุ่งไปเป็นระยะหมื่นจั้งในพริบตา แต่ไม่นานพวกเขาก็หยุดลง ร่างกายวูบไหวพลิ้วตัวลงบนยอดเขาก่อนซ่อนตัว

ไม่นานนักหลังจากที่พวกเขาซ่อนตัว ความโกลาหลก็เคลื่อนเข้ามา ระลอกมิติบิดเบี้ยวมองเห็นร่างสัตว์อสูรแปลกประหลาดนับร้อยบินมาพร้อมกับเสียงคำรามอัดแน่นด้วยความกระหายเลือด

มู่เฉินกับไฉ่เซียวซ่อนตัวมองกลุ่มสัตว์อสูรบินผ่านก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า มีสัตว์อสูรประหลาดอยู่มากมายเหลือเกินในเขตหลงเฟิ่ง แม้พวกมันจะมีสติปัญญาต่ำ แต่ก็มีพลังน่ากลัวเนื่องจากมิตินี้ปกคลุมไปด้วยเลือดมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริง

หากพวกเขาตกอยู่ในการโจมตีของพวกมัน ต่อให้หลบหนีไปได้ ก็คงจะหมดพลังมหาศาลแน่นอน ดังนั้นทั้งคู่จึงพยายามซ่อนตัวเมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรฝูงใหญ่เช่นนี้

“ตอนนี้เราอยู่ไม่ไกลจากสระมังกรหงส์นั่นแล้ว” ไฉ่เซียวเอ่ยพลางมองไปรอบๆ

มู่เฉินพยักหน้าเพราะสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังอัศจรรย์ใจแผ่ออกมาแต่ไกล ความผันผวนที่อัดในแรงกดดันทรงพลังทำให้แม้แต่คลื่นหลิงในร่างกายของมู่เฉินยังหนืดลง

“ไม่รู้ว่าพวกร้ายกาจคนไหนจะมาหมายตาสระมังกรหงส์แห่งนี้?”

ดวงตาของมู่เฉินกะพริบวูบไหว พวกเขารู้ว่าตอนนี้ในเขตหลงเฟิ่งมีสระมังกรหงส์เพียงห้าสระ ทว่าจำนวนจอมยุทธ์ที่เข้ามาในเขตหลงเฟิ่งกลับมีมากมายมหาศาล ดังนั้นจินตนาการได้เลยว่าศึกชิงสระมังกรหงส์จะดุเดือดเพียงใด

คนที่สามารถผ่านอุปสรรคมาจนถึงสระมังกรหงส์ได้น่าจะเป็นพวกจอมยุทธ์ชั้นสูง ถึงตอนนั้นจะต้องเป็นการต่อสู้เข้มข้นแน่นอน

หลังจากฝูงสัตว์อสูรประหลาดน่าตกใจบินไปแล้ว มู่เฉินและไฉ่เซียวก็ออกตัวกันอีกครั้ง เพียงเวลาหนึ่งชั่วโมงสั้นๆ ทั้งสองก็เผชิญหน้ากับฝูงสัตว์อสูรหลายสิบฝูง แม้จะพยายามอย่างที่สุดเพื่อหลบเลี่ยง แต่พวกเขาก็ยังเจอฝูงสัตว์อสูรที่มีประสาทสัมผัสไวจนน่าตกใจ ไม่มีทางเลือกนอกจากสู้ ซึ่งส่งผลต่อความเร็วในการเดินทางไปหลายช่วง

ทว่าความผิดปกตินี้ก็ทำให้มู่เฉินรู้สึกโล่งใจ ดูเหมือนว่าพวกเขามาถูกทางแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่เจอสัตว์อสูรประหลาดจำนวนมากมายขนาดนี้หรอก

ลือกันว่ายิ่งเข้าใกล้สระมังกรหงส์ ก็จะมีสัตว์อสูรผู้พิทักษ์ทรงพลังเพิ่มมากขึ้น ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่สามารถลดการตั้งรับลงได้เลย

ภายใต้การระแวดระวัง ทั้งสองเดินทางต่อไป ทะยานผ่านเทือกเขาก่อนจะหยุดลงบนยอดเขาโดดเดี่ยวแห่งหนึ่ง สายตาสองคู่มองตรงไปก็หดเกร็ง

สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาพวกเขาคือพื้นดินยุบตัวเกิดเป็นเหวลึกที่มีร่องจำนวนมากตัดผ่าน ภาพน่ากลัวนี้บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าสถานที่แห่งนี้ผ่านการต่อสู้สะเทือนฟ้าดินมา

และตอนนี้กลางพื้นดินที่ถล่มลงก็มียอดเขาสูงพุ่งทะลุชั้นเมฆ ภูเขานี้สีขาวซีดเลือนรางแต่เมื่อมองใกล้เข้าไป ก็จะพบว่ามันเป็นภูเขาที่ก่อจากกระดูก!

ทว่ากระดูกมีจำนวนมากจึงกองซ้อนกันเป็นภูเขากระดูกขนาดใหญ่!

อักขระโบราณปรากฏอยู่บนภูเขากระดูกจนเห็นได้ อักขระเหล่านี้ขยายออกไปราวกับมีชีวิต พร้อมกับแรงกดดันน่ากลัวแผ่ออกมาจากภูเขากระดูก ทำให้คนมองรู้สึกหนังหัวชาไปหมด!

“สระมังกรหงส์น่าจะอยู่บนยอดเขากระดูกนั่น” มู่เฉินมองบนยอดเขาที่สูงเทียมเมฆ เห็นชัดว่าแรงกดดันที่แผ่มาจากตรงนั้นหนาแน่นมากที่สุด

ดวงตาไฉ่เซียวมองไปยังพื้นดินที่ยุบตัวและภูเขากระดูก จากนั้นก็เอ่ยเบาๆ “มีคนไม่น้อยนะ”

มู่เฉินพยักหน้า เขาสัมผัสได้ถึงความผันผวนของคลื่นหลิงที่อยู่ที่นี่ นับว่าไม่น้อยเลย ดูเหมือนจอมยุทธ์ที่เข้ามาในเขตหลงเฟิ่งได้ล้วนมีความสามารถน่าดูชม

“รอดูก่อนเถอะ ถึงสระมังกรหงส์จะอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่ข้ากลัวว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะเอานิ้วจุ่มลงไปได้หรอก” มู่เฉินเอ่ย เขาไม่ได้เสียสติไปกับภาพสระมังกรหงส์ เนื่องจากเขารู้ว่าสิ่งที่อันตรายจริงๆ คือสิ่งที่อยู่ใกล้กับสมบัติมากที่สุด

เขตหลงเฟิ่งเต็มไปด้วยอันตรายทุกพื้นที่ แค่มาถึงที่นี่ยังไม่ง่ายเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการได้ครอบครองสระมังกรหงส์

ไฉ่เซียวไม่แปลกใจกับท่าทางสงบนิ่งของมู่เฉิน หลังจากได้พูดคุยกันในช่วงไม่กี่วันนี้นางก็รู้ว่ามู่เฉินเป็นชายหนุ่มที่มีเฉลียวฉลาดและอารมณ์เหนือกว่าคนวัยเดียวกันมากนัก

แต่เห็นชัดว่าไม่ใช่ทุกคนจะสามารถควบคุมอารมณ์ได้เมื่อเห็นขุมทรัพย์ตรงหน้า

เมื่อมู่เฉินกับไฉ่เซียวมาถึงที่นี่ไม่นาน ก็มีคนจำนวนหนึ่งปรากฏตัวบนท้องฟ้าไกลออกไป ทุกคนกำจายคลื่นหลิงทรงพลังออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย

คนที่สามารถผ่านอุปสรรคจากฝูงสัตว์อสูรประหลาดจนมาถึงสระมังกรหงส์ได้ คิดว่าคงไม่ใช่จอมยุทธ์ธรรมดาหรอก

จอมยุทธ์เหล่านี้มีจำนวนร้อยคนเห็นจะได้ พวกเขาเข้าใจถึงอันตรายชัดเจนที่อัดแน่นในภูเขากระดูกขาว ดังนั้นจึงไม่ได้ทำอะไรบุ่มบ่าม กลับสร้างพันธมิตรขึ้นเพื่อทะลวงเข้าไปด้วยกัน ด้วยวิธีนี้แม้ว่าจะเผชิญกับอันตราย ก็สามารถช่วยกันต่อสู้ได้

วาบ!

ร่างแสงร้อยร่างทะยานเข้าไปอย่างรวดเร็ว กระจายแถวมุ่งหน้าขึ้นสู่ภูเขากระดูกขาว

มู่เฉินยืนมองภาพนั้นเงียบๆ จากนั้นดวงตาก็หดลงเล็กน้อย เนื่องจากเขาได้ยินเสียงร้องแหลมดังออกจากภูเขาฉับพลัน

คร่อก!

ทันทีที่เสียงร้องกระจายออกไป ภูเขากระดูกขาวก็เหมือนจะสั่นสะเทือนรุนแรง อึดใจต่อมาภูเขาก็โยกคลอนขณะที่รอยแตกกระจายตัว ร่างสีขาวมืดฟ้ามัวดินพุ่งออกมาจากรอยแตกนั่น

มีจอมยุทธ์สิบกว่าคนที่มุ่งหน้าไปเร็วที่สุด ดังนั้นพวกเขาจึงถูกล้อมด้วยร่างสีขาวนับร้อยร่างพร้อมกับกรงเล็บแหลมฉีกผ่านมิติพุ่งเข้าใส่พวกเขา

ทว่าปฏิกิริยาของเหล่าจอมยุทธ์ก็ไม่ช้าเช่นกัน คลื่นหลิงระเบิดออกก่อตัวเป็นปราการป้องกันทุกรูปแบบ

ชี่!

ทว่าปราการป้องกันเหล่านี้ไม่สามารถคุ้มครองชีวิตอย่างที่คาดคิดไว้ กรงเล็บที่ปกคลุมด้วยเกล็ดดำทะลวงผ่านชั้นปราการคลื่นหลิงก่อนจะกวาดผ่านโดยไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ ทันใดนั้นเลือดสดก็พุ่งกระฉูด ก่อนที่ส่งจะได้ร้องเสียงเจ็บปวด ร่างจอมยุทธ์สิบกว่าคนก็ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ แล้ว

“อ้าก!”

เสียงร้องน่าสังเวชดังจากทิศทางอื่น ยามนี้ร่างจอมยุทธ์นับร้อยถอยร่นอย่างรวดเร็ว แววหวาดกลัวฉายบนใบหน้า ทว่ากลุ่มเกือบครึ่งหนึ่งร่างกลับถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ในชั่วเวลาไม่กี่อึดใจ

“น่ากลัวอะไรอย่างนี้”

มู่เฉินมีสีหน้าเคร่งเครียดลงหลายส่วนกับภาพนี้ สายตากะพริบวาบ เขาสามารถมองเห็นร่างสีขาวได้อย่างชัดเจน พวกมันเป็นวานรตัวขาวซีด ร่างกายมีขนาดไม่กี่จั้ง ทว่ากรงเล็บใหญ่มีสีดำปกคลุมด้วยเกล็ดหนาแน่นซึ่งสะท้อนแสงทำให้หัวใจสั่นยะเยือกภายใต้แสงตะวัน

นอกจากนี้พวกมันยังมีปีกกระดูกคู่หนึ่งบนแผ่นหลัง นำพาความเร็วอันน่ากลัวมา

“เลือดของมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงทำให้มิติแห่งนี้วุ่นวายไปหมดจริงๆ” ไฉ่เซียวเบ้ปาก ตอนแรกมิติแห่งนี้ไม่มีอะไรพิเศษเลย แต่เพราะการตายของมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงบวกด้วยเงื่อนไขพิเศษบางอย่างเข้าไป ทำให้กำเนิดสัตว์อสูรทรงพลังซึ่งมีสติปัญญาไม่สูงนักขึ้นมา

มู่เฉินพยักหน้า สัตว์อสูรพวกนั้นอาจมีขุมพลังจื้อจุนขั้นหนึ่งและขั้นสองเท่านั้น แต่จำนวนที่มาแบบมืดฟ้ามัวดินก็ทำให้หัวใจคนมองชาหนึบไปเลยทีเดียว

นอกจากนี้…

สายตาของมู่เฉินพุ่งตรงไปที่ภูเขากระดูกขาวและสัมผัสได้ถึงความผันผวนรุนแรงยิ่งกว่าหลายสายกระจายมาจากส่วนลึก

ภูเขากระดูกขาวแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะขึ้นไป

บนท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยรังสีกระหายเลือด หลังจากเหล่าวานรขาวสังหารผู้บุกรุกเรียบร้อย พวกมันก็ไม่ได้ไล่ตามออกมา กลับวนอยู่รอบๆ ภูเขากระดูกขาว จำนวนมหาศาลดูเหมือนจะปกคลุมไปทั่วภูเขาเลยทีเดียว

เหล่าจอมยุทธ์ที่ถอยหลบออกมาต่างมีสีหน้าซีดเผือดขณะตกอยู่ในอาการตื่นตกใจ แววหวาดผวาฉายในดวงตา ชัดว่าเหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบไม่น้อย

จอมยุทธ์คนอื่นๆ ที่มองภาพนี้จากรอบด้านก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเช่นกัน เวลานี้ไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหวอีก ดวงตาแต่ละคู่อัดแน่นด้วยแววหวาดกลัว

ทว่าความเงียบงันไม่ได้คงอยู่นาน เพราะทุกคนรู้ว่าจะต้องมีคนจำนวนมากขึ้นมารวมตัวกันอยู่ที่นี่เมื่อเวลาผ่านไป ถึงตอนนั้นโอกาสที่พวกเขาจะได้เข้าไปในสระมังกรหงส์ก็จะน้อยลงอีก

“ทุกคนนี่ไม่ใช่ทางออกหากคิดแต่จะรอต่อไป แม้ว่าวานรขาวจะทรงพลัง แต่ถ้าเราร่วมมือกันโจมตี พวกมันก็ไม่สามารถหยุดเราไว้ได้แน่” ในที่สุดก็มีคนที่คิดละเอียดรอบคอบคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยเสียงห่อหุ้มด้วยคลื่นหลิงดังก้องฟ้า

“ได้ ลุยด้วยกันเลย!”

เสียงนั้นดึงดูดเสียงสะท้อนมากมาย เพราะพวกเขาไม่สามารถปล่อยสถานการณ์ให้เป็นแบบนี้ต่อไป หากทุกคนร่วมมือกัน ก็อาจจะผ่านสิ่งกีดขวางอย่างฝูงลิงนี้เข้าไปได้

ตู้ม! ตู้ม!

คลื่นหลิงทรงพลังพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ร่างแสงจำนวนมากค่อยๆ ทะยานขึ้นไปบนเทือกที่อยู่ไกลออกไปอย่างช้าๆ จำนวนช่างน่าตกตะลึงไม่น้อย

“เราก็เตรียมตัวไปกันเถอะ”

เห็นภาพนี้ มู่เฉินก็ยิ้มออกมา เขารอมาครึ่งวันก็เพื่อสิ่งนี้ ด้วยความช่วยเหลือของทุกคนในการฝ่าฝูงวานรขาว เขาถึงจะถือโอกาสขึ้นบนภูเขากระดูกขาวได้

“เจ้าไม่ใช่คนเดียวที่คิดจะเก็บผลประโยชน์จากรอบนอกนะ” ไฉ่เซียวยิ้มหวาน

ที่นี่มีจอมยุทธ์มากมาย ชัดว่าจะต้องมีพวกทรงพลังรวมอยู่ในนั้นด้วย ทว่าก่อนหน้านั้นกลับไม่มีใครเผยตัวออกมา ชัดว่าพวกเขาต่างมีความคิดเฉกเช่นเดียวกับมู่เฉิน

“งั้นเรามาดูกันว่าใครจะซ่อนได้ลึกกว่ากัน”

มู่เฉินยิ้มขณะที่ดวงตาโชนไฟต่อสู้ ไม่ว่าอย่างไรสระมังกรหงส์แห่งนี้ต้องเป็นของเขา!