ตอนที่ 85: หวั่นไหวเล็กน้อย โดย Ink Stone_Romance
เฉินเยี่ยนกินก๋วยเตี๋ยวไปไม่กี่เส้น ตามหลักแล้วเธอควรจะกินอย่างเอร็ดอร่อย แต่ซินห้าวรู้สึกได้ว่าเฉินเยี่ยนไม่ได้สุภาพ แล้วก็ไม่ได้เกรงใจ แต่เธอไม่อยากกินจริงๆ ไม่ยอมกิน แล้วเธอชอบกินอะไรนะ?
“อิ่มแล้วหรือ? ถ้าคุณไม่ชอบก๋วยเตี๋ยวอบ งั้นสั่งอีกชามไม่ต้องใส่เส้น?”
ซินห้าวเห็นเฉินเยี่ยนวางตะเกียบ เลยถามเฉินเยี่ยน น้ำเสียงมีแววเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร ฉันอิ่มแล้ว”
เฉินเยี่ยนส่ายหน้า เดิมทีเธอไม่ได้ชอบก๋วยเตี๋ยวมากเป็นพิเศษอยู่แล้ว นานๆ กินทีก็อร่อยอยู่ แต่หลังจากมาที่นี่เกือบทุกวันต้องกินก๋วยเตี๋ยว เธอเลยรู้สึกเศร้า
“ก็ได้ ถ้าคุณไม่กินผมกินเอง”
ซินห้าวพูดจบก็ยกขามก๋วยเตี๋ยวตรงหน้าเฉินเยี่ยนไปวางไว้หน้าตัวเอง แล้วหยิบตะเกียบขึ้นมากิน
เฉินเยี่ยนอึ้งจนอ้าปาก “คุณ คือว่า คุณไม่พอกินหรือ? ไม่งั้นฉันสั่งอีกชามให้นะ?”
เฉินเยี่ยนคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าซินห้าวจะกินเส้นที่เธอเหลือไว้ เส้นนี้เธอกินไปแล้วนะ เธอกินไปแล้วนะ ตอนนี้ซินห้าวเอามากินอีก ต้องเป็นคนที่สนิทกันถึงแบบนี้หรือเปล่า?
ไม่ ถึงแม้จะสนิทกัน ก็ไม่แน่ว่าจะทำแบบนี้ อวี๋เหวยหมินไม่เคยกินข้าวที่เธอเหลือมาก่อนเลย เธอและอวี๋เหวยหมินเป็นสามีภรรยากันนะ อีกอย่างในยุคนี้มีสักกี่คนที่จะกินข้าวเหลือ?
ตอนนี้ซินห้าวกินเส้นที่เธอกินเหลือ หมายความว่ายังไง? ตอนนี้ธัญพืชขาดแคลน หลายคนไม่สามารถกินเส้นจากแป้งขาวได้บ่อยๆ แต่บ้านซินห้าวไม่ขาด ทำไมเขาถึงทำแบบนี้?
เห็นซินห้าวกินอย่างไม่สนใจใคร แล้วยังกินอย่างอร่อยมากด้วย ในใจเฉินเยี่ยนรู้สึกอึกอัด แต่ก็ยังมีความรู้สึกที่เธอบอกไม่ถูก
“ไม่เป็นไร ตอนที่พวกเราอยู่บนภูเขา เป็นบ่อยที่กินข้าวไม่ลง พอเห็นคุณกินเหลือผมก็รู้สึกสิ้นเปลือง นี่ก็พอแล้ว ไม่ต้องสั่งเพิ่มแล้ว”
ซินห้าวกินเสร็จก็เช็ดปากอย่างนิ่งๆ เหมือนเรื่องที่เขากินก๋วยเตี๋ยวของเฉินเยี่ยนไม่ได้เป็นเรื่องอะไร
“อ้อ”
เฉินเยี่ยนตอบอ้อไป บางทีนี่อาจจะเป็นนิสัยของซินห้าว ทนเห็นสิ้นเปลืองไม่ได้ เฉินเยี่ยนเลยไม่คิดมากอีก
แต่ซินห้าวเป็นแบบนี้จริงหรือ?
ไม่ใช่ หลังซินห้าวกลับมาเขาไม่ได้ไม่เคยกินข้าวกับคนที่บ้านหรือคนอื่นมาก่อน มีบางครั้งที่คนอื่นกินข้าวเหลือ กระทั่งมีครั้งหนึ่งเขาและแม่เขาไปกินข้าวกับคู่ครองที่แนะนำ ก๋วยเตี๋ยวชามนั้นผู้หญิงคนนั้นแตะแค่นิดเดียว เขาไม่แม้แต่จะมองเลย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องกิน เพราะเป็นเฉินเยี่ยน เขาถึงกิน ส่วนทำไมเขาถึงกินเส้นที่เหลือของเฉินเยี่ยน? บางทีอาจจะเป็นเพราะเขาคิดว่าเฉินเยี่ยนเป็นเพื่อน ระหว่างเพื่อนไม่จำเป็นต้องถืออะไรมากมาย
ตอนคิดเงินเฉินเยี่ยนอึดอัดขึ้นมาจริงๆ เขาต้องการตั๋วข้าว แต่เธอไม่ได้เอามา ตอนออกมาเธอไม่คิดว่าจะกินข้าวข้างนอก สุดท้ายคนที่ให้ตั๋วข้าวคือซินห้าว เขาบอกเฉินเยี่ยนไม่ต้องใส่ใจ ครั้งหน้าค่อยเลี้ยงเขา
ทั้งสองคนขี่ออกมาจากร้านสักพัก ซินห้าวหยุดรถ ให้เฉินเยี่ยนรอเขา ไม่นานเขากลับมาพร้อมยื่นขนมปังอบให้เธอ ข้างในมีเนื้อวัวอยู่
“คุณต้องกินไม่อิ่มแน่ ขนมปังอบเนื้อวัวนี่ยังร้อนอยู่ รีบกินเถอะ”
ซินห้าวดูเย็นชา แต่แววตาเขามีความอ่อนโยน ความใส่ใจของเขาทำให้ในใจเธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา เขาหยุดรถเพื่อจะไปซื้อขนมปังอบเนื้อวัวมาให้ตัวเอง เขารู้ด้วยว่าตัวเองกินไม่อิ่ม เฉินเยี่ยนรู้สึกหวั่นไหว ผู้ชายคนนี้ดีมาก ความรู้สึกนี้ดีมากจริงๆ
นั่งเบาะหลัง กัดขนมปังอบเนื้อวัวหนึ่งคำ ขนมปังหอมมาก เนื้อวัวยิ่งหอม สองอย่างผสมกันทำให้เฉินเยี่ยนได้อร่อยเต็มคำ ที่แท้ขนมปังอบเนื้อวัวอร่อยแบบนี้นี่เอง
เฉินเยี่ยนกัดคำใหญ่ ตอนนี้เธอค่อยเข้าใจนักแสดงวัยรุ่นในทีวีตอนยุคเจ็ดสิบแปดสิบพวกนั้นแล้ว ยุคนั้นสิ่งของพวกเขาไม่มีอะไรเลย แต่พวกเขาก็ยังอยู่อย่างมีความสุข เด็กชายวัยรุ่นปั่นจักรยานด้วยความฮึกเหิม สีหน้ามีรอยยิ้มของวัยแรกแย้ม หญิงที่นั่งเบาะหลังใบหน้าอ่อนหวาน ดูมีความสุข ดูเขินอายที่พิงไปกับแผ่นหลังของเด็กหนุ่ม ความรู้สึกแบบนั้นเหมือนได้ครอบครองโลกทั้งใบ
เมื่อก่อนเธอไม่เคยเข้าใจ ทำไมคนที่นั่งหลังเบาะจักรยานถึงมีความสุขขนาดนั้น? ทำไมพวกเขาถึงดูร่าเริงแบบนั้น วันนี้เธอพอเข้าใจแล้ว ความรู้สึกแบบนี้ดีจริงๆ
นี่คือความรู้สึกหวั่นไหวใช่ไหม?
เฉินเยี่ยนเลียนแบบเด็กผู้หญิงในทีวีเอาหัวไปพิงกับแผ่นหลังของซินห้าว มือที่จับเบาะรถมาตลอดก็เอามาจับเสื้อซินห้าว
ซินห้าวรู้สึกได้ว่าเฉินเยี่ยนเคลื่อนไหว ร่างกายเขาแข็งทื่อ แล้วก็กลับมาเป็นปกติ
“คือว่า ขอโทษนะ ไม่ได้นั่งให้ดี”
เฉินเยี่ยนรู้สึกได้ว่าซินห้าวตัวแข็งถึงค่อยรู้สึกตัว ตัวเองไม่ใช่นางเอกในละคร เธอและซินห้าวไม่ใช่คนรักกัน ความรู้สึกหวั่นไหวก็จางหายไป
“ไม่เป็นไร ไม่งั้นคุณจับผมไว้”
ซินห้าวก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดประโยคนี้ออกไป เมื่อก่อนเขาให้เฉินเยี่ยนซ้อน มือเฉินเยี่ยนจะจับเบาะหลังตลอด วันนี้มาจับเสื้อเขา แล้วยังพิงเขาเล็กน้อย วินาทีนั้นหัวใจเขาเต้นรัวเร็วมาก ทำเขาเกือบประคองรถไม่นิ่ง ความรู้สึกนี้แปลกประหลาดมาก ดังนั้นเขาเลยตัวแข็ง เขาไม่รู้ว่าจะตอบรับยังไง แต่เขารู้ว่าตัวเขาไม่ได้รังเกียจความรู้สึกนี้ เฉินเยี่ยนให้ความรู้สึกที่แตกต่างกับเขา เหมือนผู้หญิงพวกนั้นที่แม่เขาให้เขาทำความรู้จัก ผู้หญิงคนนั้นอยากจะจูงมือเขา ในใจเขาจะรู้สึกขัดแย้ง รู้สึกรำคาญ แล้วจะอยู่ห่างจากผู้หญิงคนนั้น แต่กับเฉินเยี่ยนไม่ได้เป็นแบบนี้ หรือว่าเขาชอบเฉินเยี่ยนเข้าแล้ว?
ซินห้าวตกใจ แล้วขจัดความคิดตัวเอง
ก่อนหน้านี้เฉินเยี่ยนแค่อินไปกับละคร ได้ยินคำพูดซินห้าว เธอยิ้มเล็กน้อย ยิ้มหวานมาก และก็มีความขมขื่นด้วย ถ้าหาก ถ้าหากเธอเป็นเด็กผู้หญิงในยุคนี้จริงๆ จะดีแค่ไหน เธอคิดว่าเธอชอบซินห้าว ได้ติดต่อกันหลายครั้ง สิ่งที่ซินห้าวทำวันนี้ บรรยากาศแบบนี้ทำให้เธอหวั่นไหว เธอชอบความรู้สึกนี้ ทั้งบริสุทธิ์และสวยงาม ใสๆ และหวานหอม
แต่เธอไม่ใช่เด็กยุคนี้จริงๆ เธอมีประสบการณ์มาก่อน เธอมีสามีมาก่อน เธออกหักมาก่อน ดังนั้นในเมื่อเธอมีใจหวั่นไหว เธอก็จะดับตั้งแต่เริ่มต้น เพราะฝ่ายตรงข้ามไม่เหมาะกับเธอ
“มือฉันมัน จับเบาะหลังดีกว่า”
เฉินเยี่ยนพูดเสียงเบา เธอรู้ว่าเธอสามารถชอบได้สัมผัสความรู้สึกอันบริสุทธิ์นี้ แต่ไม่สามารถตามใจตัวเองได้
ซินห้าวพูดไม่ออก บอกว่ามือมัน ต้องเป็นข้ออ้างแน่นอน เมื่อกี้เธอยังจับเสื้อตัวเองอยู่เลย ทำไมไม่บอกว่ามันล่ะ หรือว่าเมื่อกี้เธอเช็ดน้ำมันออกหมดแล้ว? เอาเสื้อตัวเองมาเป็นผ้าขี้ริ้ว?
ไม่ เฉินเยี่ยนไม่ใช่คนแบบนั้น แต่ทำไมเธอไม่ยอมจับตัวเองอีกล่ะ? หรือว่าเขิน? ก็เป็นไปได้ แต่ก่อนหน้านี้เธอจับตัวเอง พิงตัวเองต้องไม่ใช่เป็นเพราะนั่งไม่มั่น เรื่องนี้ซินห้าวมั่นใจ หมายความว่าเฉินเยี่ยนอยากจะเข้าใกล้ตัวเองหรือเปล่านะ?
เฉินเยี่ยนไม่ได้รังเกียจตัวเองแน่นอน เหมือนที่ตัวเขารู้สึกกับเธอเช่นกัน
ไม่รีบ ตัวเองไม่สามารถทำให้เธอตกใจได้ ค่อยๆ เป็นไป ถ้าพวกเขาสองคนชอบกันจริง…
หลังชอบกันแล้วจะเป็นยังไงนะ? ซินห้าวไม่ค่อยเข้าใจ เขาไม่เคยมีความรักมาก่อน และไม่เคยชอบผู้หญิงสักคนเลย เขารู้แต่ว่า ความรู้สึกตอนนี้ดีมาก มีเฉินเยี่ยนซ้อนท้าย เขามีแรงขี่จักรยาน แค่นี้ก็พอแล้ว
———–