ตอนที่ 87: ช่องทางขาย โดย Ink Stone_Romance

วันรุ่งขึ้นเฉินจงช่วยเฉินเยี่ยนตัดกระดาษเรียบร้อย เฉินเยี่ยนเอายาเส้นสองอย่างมาผสมกัน จากนั้นเธอลองพันดู

ตอนแรกความละเอียดของบุหรี่ไม่เท่ากัน มีอันใหญ่ มีอันเล็ก มีอันที่ครึ่งบนใส่ยาเส้นเยอะ ครึ่งล่างใส่ยาเส้นน้อย ดูไม่ได้เลย

เพราะเป็นครั้งแรก น้ำหนักมือเฉินเยี่ยนยังไม่เท่ากัน ทำไปราวครึ่งชั่วโมงได้ เฉินเยี่ยนถึงค่อยพันบุหรี่ที่เท่ากันทั้งมวนออกมาได้

“พวกนี้เอาไปใส่ในกล่องไม่ได้หรือ?”

เห็นเฉินเยี่ยนเอาบุหรี่ที่ไม่เท่ากันแยกออกมาอีกฝั่ง หวางนิวเสียดายมาก กระดาษนี้ไม่ถูกเลย แล้วยังมียาเส้นอีก ถ้าทิ้งไป ล้วนเป็นเงินทั้งสิ้น

“แบบนี้เอาไปขายไม่ได้ คนอื่นเห็นคุณภาพสินค้าแบบนี้ ก็ไม่ซื้อหรอก เอาให้พ่อสูบเถอะ”

เฉินเยี่ยนไม่เสียดาย ทุกเรื่องล้วนยากตอนแรก เสียหายนิดหน่อยไม่ถือว่าเท่าไร ตอนนี้เธอควบคุมปริมาณยาเส้นให้เท่ากันได้แล้ว บุหรี่ที่พันไม่เท่ากันยิ่งน้อยลงทุกที

“ได้ ให้พ่อลูกสูบแล้วกัน แบบนี้เขาจะได้มีสูบ”

หวางนิวได้ยินว่าให้สามีสูบก็ไม่มีความเห็นอะไรแล้ว สามีเหนื่อยตั้งแต่เช้าจรดเย็น สูบบุหรี่หน่อยก็ถือว่าสมควร หวางนิวไม่พูดอะไรอีก ช่วยเฉินเยี่ยนปิดผนึกกล่องบุหรี่ตามที่เฉินเยี่ยนต้องการ

วันนี้ทั้งวันเฉินเยี่ยนและครอบครัวร่วมแรงร่วมใจกันห่อบุหรี่ออกมาได้ยี่สิบกล่อง แน่นอนที่พันออกมามีเอะกว่า แต่เพราะทำเสียไปตอนแรก อีกทั้งมีใบยาสูบที่หั่นออกมาไม่ครบ เลยเสียไปมาก

พูดเรื่องหั่นใบยาสูบ นี่เป็นเรื่องเทคนิค เฉินจงเป็นคนจัดการเรื่องนี้ ตอนหลังเขาเปลี่ยนเป็นเลื่อยเหล็กขนาดเล็ก เฉินจงลองอยู่สองครั้งถึงเลื่อยบุหรี่ได้ครบ ถ้าให้เฉินเยี่ยนและหวางนิวทำ คงเสียมากกว่านี้

ทำกันแบบนี้ เฉินเยี่ยนห่อ เฉินจงหั่น หวางนิวและหวางจวนรับผิดชอบปิดผนึกกล่องและเอาบุหรี่ใส่กล่อง แล้วปิดฝากล่องบุหรี่อีกที เห็นแต่ละบุหรี่ออกมาแต่ละกล่องแล้ว เฉินเยี่ยนซาบซึ้งใจและภูมิใจด้วย ในที่สุดก็สำเร็จแล้ว พวกเขาทำบุหรี่เองสำเร็จแล้ว ตามที่เธอเข้าใจ ในหมู่บ้าน บุหรี่มี่ใช้มือพันเองแบบนี้ปรากฏในยุคปีแปดสิบ แต่เธอทำออกมาเป็นครั้งแรกเร็วกว่าตั้งหลายปี อาศัยอันนี้เธอก็สามารถหาเงินได้ก้อนหนึ่งมาทำให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว

ผ่านไปสองวัน มาถึงวันที่มีตลาด เฉินเยี่ยนตามเฉินจงไปตลาดอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ขายผัก แต่ยังมีบุหรี่ด้วย

ตลาดนี้พอขายผักได้ บุหรี่ถือเป็นของหายาก ถึงแม้จะถูกกว่าบุหรี่มียี่ห้อ เงินค่ากระดาษ ค่ายาเส้น รวมกันกำไรที่พวกเขาต้องการ บุหรี่กล่องหนึ่งไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถซื้อได้

เฉินเยี่ยนขายออกไปได้สิบสองกล่องที่ตลาดนี้ ถึงแม้จะไม่เยอะ แต่ก็ไม่ถือว่าน้อย ระหว่างทางกลับเฉินเยี่ยนและเฉินจงปรึกษากัน บุหรี่สามารถห่อได้ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องขายในตลาดจนหมด และสามารถเอาไปขายในหมู่บ้านหรือที่ที่มีคนเยอะได้ ถ้าไม่ได้อีกก็ไปเดินขายตามถนน แบบนี้ทุกวันจะได้มีรายได้ แน่นอน ไม่มีจักรยานก็จะลำบากหน่อย แต่ตอนนี้บ้านเฉินไม่มีปัญญาซื้อจักรยาน ไม่ต้องพูดเรื่องเงินไม่พอ แม้แต่ตั๋วจักรยาน พวกเขาก็ไม่มีปัญญาหามา

หลังจากกลับมาเห็นที่บ้านยังมีผักอยู่อีกไม่น้อย เฉินเยี่ยนคิดว่าสามารถไปโรงงานที่ครั้งที่แล้วไปได้ คิดว่าผักกาดขาวเผ็ดที่พวกเขาน่าจะกินหมดแล้ว ครั้งนี้ส่งกิมจิไปหน่อย อีกอย่างเธอยังเอาบุหรี่ไปได้อีกด้วย ที่นั่นคนไม่น้อย ถึงแม้รสชาติบุหรี่เธอจะต่างจากที่มียี่ห้อเล็กน้อย แต่ความต่างถือว่าไม่มาก ถึงแม้จะไม่มียี่ห้อ แค่ห่อสีขาว แต่ถูกกว่าบุหรี่มียี่ห้อนะ เธอเชื่อว่าจะสามารถขยายไปถึงคนกลุ่มกว้างได้

วันรุ่งขึ้นเฉินจงและเฉินเยี่ยนทั้งสองคนจูงรถเข็นไปโรงงานครั้งที่แล้ว เดินเข้าทางประตูหลังเจอชายอ้วนคนนั้นที่เจอครั้งที่แล้ว หัวหน้าเจิ้ง

ได้บอกความตั้งใจที่มาแล้ว หัวหน้าเจิ้งลองชิมกิมจิที่พวกเขาลากมา กินคำแรกหัวหน้าเจิ้งรู้สึกว่าเปรี้ยว แต่ผ่านไปสักพักเขารับรู้รสชาติอีกครั้ง

อีกทั้งกิมจินี้ไม่ได้หมักแค่ผักกาดขาว แต่ยังมีไชเท้า พริก ถั่วฝักยาว แครอทแล้วยังมีขิงอ่อน ขิงแก่อีกด้วย มีผักครบหมด รสชาติของผักแต่ละชนิดก็ไม่เหมือนกัน ถึงแม้จะเปรี้ยว แต่เปรี้ยวอย่างเจริญอาหาร กินไปแล้วให้ความรู้สึกกรุบกรอบ

ครั้งที่แล้วรสชาติผักกาดเผ็ดไม่เลวเลย ทำให้เขาได้หน้า หลังผู้นำกินแล้วก็พูดมาประโยค แบบนี้สิถึงจะถูกต้อง อาหารควรจะต้องใช้ใจหน่อย ได้รับการยอมรับจากผู้นำเขาก็ดีใจ แต่ผักกาดเผ็ดไม่สามารถกินได้ทุกวัน อีกอย่างกินจะหมดแล้ว ที่นี่วันหนึ่งมีคนกินข้าวตั้งหลายสิบคนเลย เขากำลังเครียดอยู่ เฉินเยี่ยนพ่อลูกเอากิมจิมาส่งให้ นี่ถือว่ามีคนมาประเคนให้ถึงที่เลย

หัวหน้าเจิ้งซื้อกิมจิและผักกาดขาวเผ็ดที่เฉินจงและเฉินเยี่ยนลากมาทั้งหมด แล้วให้เงินและตั๋วด้วยความดีใจ

เฉินจงเก็บเงินและตั๋วไว้ ใจตกไปแทบเท้า ดีมากจริงๆ ขายผักลอตนี้ไปได้ที่บ้านก็เหลือผักอยู่ไม่เท่าไรแล้ว มีเงินกับตั๋วนี่ ถึงแม้ที่เหลือจะขายออกไม่หมด ก็ถือว่ากำไรอยู่ แต่ที่เหลือก็ขายไม่ออกไม่ได้ ยังไงก็ถือว่า ธุรกิจขายผักนี้ได้กำไรแล้ว ไม่ขาดทุน

“พ่อ พ่อเอาบุหรี่ให้หัวหน้าเจิ้งลองสูบสักสองตัวสิ”

จบเรื่องผักแล้ว ฝั่งหัวหน้าเจิ้งให้คนเอาผักในไหออกมา เฉินเยี่ยนส่งสายตาให้เฉินจง ตอนมาเฉินเยี่ยนบอกเฉินจงไว้แล้ว ถ้าจะให้คนซื้อบุหรี่ ก็ต้องให้เขาลอง ไม่อย่างนั้นคนเขาไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี จะซื้อได้ยังไง

เฉินจงรีบเอากล่องบุหรี่ที่เปิดแล้วออกมา บุหรี่กล่องนี้เอาไว้สำหรับให้ลองสูบ เขายื่นให้หัวหน้าเจิ้ง

มีคนเอาบุหรี่มาให้ฟรีๆ ทำไมหัวหน้าเจิ้งจะไม่เอา ตอนนี้บุหรี่เป็นของขาดตลาดอยู่ คนทั่วไปอยากจะซื้อยังหาซื้อไม่ได้เลย อีกอย่างราคาก็แพง คิดไม่ถึงว่าคนในหมู่บ้านสองคนขายผักนี่จะมีบุหรี่ด้วย แต่ดูข้างนอกแล้วไม่รู้ว่ายี่ห้ออะไร

“เอ๋ รสชาติไม่แย่เลย บุหรี่นี่ยี่ห้ออะไร? พวกเจ้าไปเอามาจากไหน?”

หัวหน้าเจิ้งสูบไปสองที แล้วถามเฉินจงเสียงเบา

เฉินเยี่ยนยิ้ม เธอเก็บไปป์บุหรี่มาเยอะขนาดนั้น มีบุหรี่ที่ดี และก็มีแบบธรรมดา เอามาผสมกัน ถึงแม้จะเทียบกับอันที่ดีที่สุดไม่ได้ แต่รสชาติก็ยังพอใช้ได้

“ไม่มียี่ห้ออะไร พวกเราทำกันเอง พวกเราซื้อกระดาษและยาเส้นเอามาห่อ”

เฉินจงหัวเราะหึหึ แนะนำให้หัวหน้าเจิ้ง

“หัวหน้าเจิ้ง บุหรี่ที่พวกเราห่อเอง คุณได้ลองแล้ว รสชาติไม่แย่เลยใช่ไหม ไม่ต่างจากบุหรี่ที่มียี่ห้อเท่าไร แต่บุหรี่มียี่ห้อพวกนั้นขาดตลาดอยู่ คนทั่วไปหาซื้อไม่ได้ และซื้อไม่ไหว ส่วนของที่พวกเราทำเอง รสชาติดี ราคาถูกกว่า หัวหน้าเจิ้งช่วยพวกเราถามดูว่ามีใครต้องการซื้อไหมคะ?”

เฉินเยี่ยนพูดวัตถุประสงค์ที่เธอมาแล้ว ที่นี่มีหลายสิบคน เป็นคนงาน ยุคนี้คนงานเนื้อหอมมาก มีเงินเดือน พวกเข้าใช้จ่ายได้ ดังนั้นเป็นกลุ่มเป้าหมายของบุหรี่ คนหนึ่งซื้อกล่องหนึ่ง ก็ขายได้หลายแท่งแล้ว เหมาะกว่าไปขายในตลาดอีก

“ไม่มีปัญหา ที่นี่คนเยอะ เวลาปกติอยากจะซื้อบุหรี่ก็ไม่ใช่ว่าจะซื้อได้ แต่บุหรี่พวกเจ้าสามารถรับประกันว่าเป็นรสชาตินี้ไหม?”

หัวหน้าเจิ้งมองเฉินเยี่ยนหยิบบุหรี่ออกมา สายตากลอกไปมา ถ้าพวกเขาสามารถรับประกันรสชาตินี้ ราคาก็ถูก งั้นก็ไม่ต้องกังวลเรื่องช่องทางขาย ตัวเองซื้อไปหน่อยแล้วเอาไปขายคนงานในโรงงาน กล่องหนึ่งเพิ่มมาสตางค์หนึ่ง ขายได้มาก นานไป ก็ได้เงินมาไม่น้อยแล้ว นี่ถือว่าได้มาฟรี แล้วยังตกมาถึงคนที่รู้จักคนมากมายด้วย

————–