ตอนที่ 436

The Novel’s Extra

บทที่ 436 เป้าหมายเดียวกันเส้นทางที่ต่างกัน (4)

 

ชั้น 30

 

“ช้าเกินไป.”

 

คำพูดของราชาปีศาจดังขึ้น คิมซูโฮพูดเบาๆขณะนอนเหยียดยาวอยู่บนพื้น

 

“ดูเหมือนว่านายจนมุนแล้วนะ”

 

คิมซูโฮ แพ้ไปแล้ว 30 ครั้ง แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จในการทำให้ราชาปีศาจดึงพลังออกมาได้อย่างเต็มที่แต่เขาก็ไม่สามารถสู้กับอีกฝ่ายในสภาพนั้นได้

 

คิมซูโฮมองไปที่ราชาปีศาจผู้ถอดชุดเกราะออก เขาไม่ได้สวมเกราะเพื่อการป้องกัน มันเป็นเพียงการจำกัด ความเร็วของเขา

 

ราชาปีศาจพูดว่า “อัศวิน เจ้าอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช”

 

ราชาปีศาจมีออร่าแห่งกษัตริย์ที่แท้จริงแม้คิมซูโฮจะไม่เชื่อเรื่องโหงวเฮ้ง ก็รู้ว่าชายตรงหน้าเขานั้นเป็นราชา ผิวของเขาซีดกว่ามนุษย์มากแต่ดวงตาและผมสีเข้มกว่า

 

“หากเจ้าไม่แสดงความก้าวหน้าออกมมาอีก ข้าจะไม่ยอมรับการท้าทายของเจ้าอีกแล้ว”

 

ราชาปีศาจ ทิ้งคำพูดนั้นไว้และหันหลังกลับไป เสื้อคลุมที่พลิ้วของเขาปกคลุมสายตาของคิมซูโฮ คิมซูโฮเดือดดาน เขารู้สึกอยากร้องไห้ดังนั้นเขาจึงหลับตาลง ความพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องเป็นความพ่ายแพ้ที่สิ้นหวังความสิ้นหวังอย่างต่อเนื่องมันคือกำแพงที่สูงเกินกว่าจะข้าม…การทำอะไรไม่ได้ซึมลึกเข้าไปในกระดูกของเขา เสียงบอกให้เขาเลิกปรากฏออกมาในจิตใจ

 

ในเวลาเดียวกันมีผู้คนมากมายปรากฏอยู่ใต้เปลือกตาปิดของเขา

พวกเขาเป็นคนที่เชื่อในตัวเขา ในบรรดาพวกเขาเป็น คิมฮาจิน และ

ยุนซึงอา ความไว้วางใจที่พวกเขามีต่อเขาผลักเขาให้ก้าวต่อไป

 

‘ฉันยอมแพ้ไม่ได้ ฉันยังไปต่อได้ สำหรับเพื่อนที่เชื่อใจในตัวฉัน…ฉันน่ะ’

 

เขาลุกร่างของเขาขึ้นมาอีกครั้ง

 

“…ฉันสามารถชนะได้”

 

แม้ว่าพลังเวทมนต์ของเขาจะหลั่งไหลออกมา มือของเขายังขยับได้ความแตกต่างของความแข็งแกร่งแค่ทำให้ขาและกระดูกซี่โครงหักมันเป็นสิ่งที่ถูกทำลายไม่ใช่ดาบของเขา ร่างกายของเขายังไหว ตราบใดที่เขายังมีดาบมันก็ยังคงอยู่ก็มีโอกาส ตราบใดยังมีโอกาสเขาจะไม่ยอมแพ้

 

“ฉันจะชนะ….”

 

ความแข็งแกร่งของดาบขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของอัศวิน ความเชื่อมั่นที่มากทำให้ดาบแข็งแก่รง คิมซูโฮ ยังคงเชื่อในคำพูดที่อาจารย์ของเขาเคยสอนเขามา

 

“… อืม.”

 

และแล้ว แม่มดก็เดินเข้าหาคิมซูโฮผู้ซึ่งอ้าปากค้างเพื่อหายใจ เธอยื่นกระเป๋าเล็กๆให้เขา

 

“นี่คือ…?”

 

“คู่ซ้อมของนายทิ้งไว้ให้นาย”

 

คิมซูโฮจ้องมองอย่างว่างเปล่า เขาจำสิ่งที่คิมฮาจินบอกเขาได้

‘เปิดสิ่งนี้เมื่อไม่เหลืออะไร มันจะช่วยนายได้มากเลยละ’

 

“ฉันคิดว่าคุณลืมมันไปแล้ว”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของแม่มด คิมซูโฮ ก็ยิ้ม ‘ลืม? ฉันจะลืมสิ่งที่ฮาจินให้มาได้ยังไง ฉันไม่ได้ใช้เพราะฉันไม่อยากให้ตัวเองอ่อนแอลง ‘

 

“นี้ไม่ใช่เวลาที่นายต้องการความช่วยเหลือหรอกเหรอ?”

 

เสียงของ แม่มด ดังขึ้นกว่าปกติ

 

“อา….นั้นสินะ”

 

คิมซูโฮถอนหายใจออก หลังจากคิดถึงเรื่องนี้เขาก็เอื้อมมือไปข้างหน้าแล้วหยิบกระเป๋า มันเบา เขาไม่ได้สงสัยว่าอะไรอยู่ข้างใน แต่เมื่อพิจารณาว่ามาจากใครเขาก็หวังเอาไว้สูงมาก

 

ด้วยความเชื่อที่ฝังลึกของเขา เขาจึงค่อยๆเปิดกระเป๋าออกมา

 

“เอ๊ะ?”

 

ข้างในนั้นมีกระดาษ 3 ใบเหมือนคูปอง

 

[คูปองแต้ม]

[คูปองแต้ม]

[คูปองรวมพิเศษ]

 

************************************************************************

[เกาหลี – โซล]

 

หนึ่งเดือนต่อมาในวันที่ทีมลอบสังหาร ออร์เดน ออกเดินทาง

 

– สมาคมฮีโร่เตรียมการสังหารออร์เดนเสร็จแล้ว ไอเท็มที่มีประสิทธิภาพจาก Tower of Wish ก็ถูกใช้อย่างเต็มกำลัง ….

 

ในขณะที่ดูทีวีผมก็นึกถึงคิมซูโฮขึ้นมา

 

“…เขาใช้มันหรือยังนะ”

 

ซูโฮน่าจะต่อสู้อย่างแลกเลือดกับราชาปีศาจ ผมไม่สงสัยเลยว่าราชาปีศาจในโลกนี้แข็งแกร่งกว่าที่ผมเคยเขียนอย่างแน่นอน

 

ด้วยเหตุนี้ผมจึงเหลือ [คูปองแต้ม] และ [คูปองรวมพิเศษ] ให้กับ

คิมซูโฮ ซึ่งผมใช้ การตั้งค่า ทำให้มันเป็นจริง ผมไม่ต้องการให้พวกมันมีอิสระมากกว่านี้แต่ด้วยค่าสถานะตอนนี้ของคิมซูโฮคงยังไม่ไหวผมเลยได้แต่ต้องใช้วิธีนี้

 

พูดตามตรงผมไม่มีทางเลือกมากนัก

 

– ทีมลอบสังหารออร์เดนจะออกเดินทางในอีก 1 เดือน

 

ผู้ประกาศข่าวทางทีวีรายงานเกี่ยวกับทีมลอบสังหารออร์เดนของสมาคมฮีโร่ ‘1 เดือน’ ที่เขาพูดถึงนั้นไม่ได้เป็นอะไรนอกจากเป็นชั้นเชิงกากๆ วันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะออกเดินทางและผมจะต้องไปช่วยหญิงสาวคนนั้นในขณะที่พวกเขาฟุ้งซ่าน ….

 

– จินเซยอน, ไอลีน, ชินจงฮัก, อียองอา และฮีโร่ชื่อดังอื่นๆอีกมากมายเข้าร่วมในงานนี้

 

แต่คำพูดต่อไปของสมาคมทำให้ความคิดของผมหยุดนิ่ง ผมจ้องมองไปที่ทีวีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

 

“…เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อนนะ”

 

ความสงสัยเกิดขึ้นในหัวของผม เมื่อคิดถึงตอนนี้ไอลีนไม่เคยปรากฏตัวหลัง Arc ออร์เดน ในเนื้อเรื่องเดิม จินเซยอน เองก็ไม่ปรากฏตัวเช่นกันและอียองฮาเองก็เช่นกันเป็นเพราะผมเปลี่ยนไปมุ่งเน้นที่มุมมองของ คิมซูโฮ คิมซูโฮพ่ายแพ้ต่อออร์เดนและพันธมิตรของเขา สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นผมเองก็ไม่รู้เพราะผมก็มาที่นี่แล้ว

 

“นี้….”

 

ผมมองดู ไอลีน ที่กำลังยิ้มอย่างสดใสในทีวี ตัวละครที่ไม่ได้ปรากฏตัวในนิยาย…แม้ว่ามันจะไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ต่างไปจากการตาย มันอาจจะเป็น…?

 

“งั้น เธอก็จะตายที่นี่?”

 

ขนลุกขึ้นมาบนร่างของผม ไม่มีตัวละครแม้แต่คนเดียวในหมู่พวกเขาที่จะต้องตาย พวกเขาทั้งหมดมีบทบาทสำคัญในการหยุดภัยพิบัติในอนาคต แต่อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนทรยศ เพราะผมไม่เคยเขียนมันไว้อย่างชัดเจน ผมเขียนในเนื้อเรื่องเดิมเพียงแค่ประโยคเดียวด้วยซ้ำ

 

“…คิมฮาจิน แกมันไอ้โง่”

 

ผมโทษตัวเองและจ้องมองไปที่ทีวี

 

– คุณ ไอลีน คุณมีอะไรที่อยากจะพูดไหม? ผมอยากให้พูดให้กำลังใจพวกเขา

 

– ให้กำลังใจ? งั้นพวกเราจะชนะแน่นอน จินเซยอน, อียองอา! พวกเธอเองก็มาพูดอะไรบางสิ

 

– ….อืม…คือผม อียองฮา ภรรยาของผมให้ผมไปดังนั้น…ผมรักคุณ ยองเฮ!

 

– เอ๊ะ หาาาา หยุดนะ!

 

จินเซยอน, ไอลีน, อียองอา และแม้แต่ ชินจงฮัก ทั้ง 4 คนเต็มไปด้วยพลังงาน

 

– ขอบคุณมากครับ นั่นคือ ปรมจารย์วาจาสิทธิ์ ไอลีน นั้นเอง

 

เมื่อนักข่าวสิ้นสุดการสัมภาษณ์ผมก็คิด เจน และ ชอคจุนกยอง น่าจะลักพาตัวหญิงสาวคนนี้กับพลังรักษามาได้แล้วแม้ว่าจะไม่มีผม

 

แต่ถ้าปาร์ตี้ของ ไอลีน อยู่ในช่วงวิกฤตชีวิตหรือความตายหากว่าความรู้สึกลางร้ายที่ผมมีเป็นเรื่องจริง คนเดียวที่สามารถช่วยพวกเขาได้ก็คือ…ผมเอง

 

“อ๊ะ .. ”

 

ผมทนไม่ไว้เลยหยิบ Desert Eagle ขึ้นมาจากนั้นผมก็ติดต่อบอสทันที

 

*************************************************************************

 

[Pandemonium ลานต่อสู้ – ห้องพักของ จินซาฮยอค]

 

“แม่งเอ้ย แก แกไอ้สวะ! ทำไมแกถึงมาทำกับฉันแบบนี้!”

 

จินซาฮยอค ด่าออกมาไม่หยดุ แน่นอนคนที่โดนค่าคือเบลล์ แต่เบลเพียงแค่ยักไหล่

 

“ทำไมละ กลัวฉันจะทรยศพวกเรางั้นเหรอ”

 

“…แกบ้าหรือเปล่า? ในที่สุดแกก็บ้าไปแล้วสินะ? แกก-!?”

 

จินซาฮยอค เป็นบ้าไปแล้วเพราะเบลล์ เบลล์เพิ่งประกาศว่าเขาจะเข้าร่วมทีมลอบสังหาร ออร์เดน ของ วิคเก็ช ที่ Chameleon เองก็มีส่วนร่วมเช่นกันและ เบลล์ รู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเขาเจอกัน

เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่น่าสะอิดสะเอียนของเบลล์ ก็ทำให้จินซาฮยอคโกรธจัด

 

เบลล์พูดออกมา “เธอเป็นคนที่เอาคริสตัลนั่นมาจากออร์เดนโดยไม่บอกฉันเองนะ”

 

“ …หาาาาา ฉันต้องขออนุญาตนายก่อนทุกอย่างงั้นเหรอ?”

 

จินซาฮยอค วางแผนที่จะย้อนกลับไปในอดีตกับคิมฮาจิน ด้วยวิธีนี้เธอจะสามารถรู้ตัวตนของเขาได้ อย่างไรก็ตามเบลล์กำลังวางแผนที่จะ

ขัดขวางแผนการของเธอ

 

“ก็เอ้อ ซาฮยอค เธอรู้ไหมว่าตัวเธอสั่นเมื่ออยู่ตรงหน้าเขา ฉันพนันได้เลยว่าเธอจะพูดติดอ่างตลอดเวลาเลยละ”

 

ในขณะนั้นไหล่ของจินซาฮยอคก็สั่นไหว อย่างไรก็ตามในไม่ช้าเธอก็ตัวตรงทันที

 

“กะ- แกบ้าไปแล้วเหรอ แก-หมายถึงใคร ฉันเนี้ยนะพูดติดอ่าง!”

 

“…เธอฝันร้ายใช่มั้ย ฉันเห็นมัน ฉันถ่ายเก็บไว้ด้วยนะ ~อย่าทำอย่างนั้น ~ อย่าทำฉันเลยยย~”

 

เบลล์หัวเราะและฉายภาพโฮโลแกรมในอากาศ

จินซาฮยอค จ้องมองด้วยความเงียบงัน หน้าจอที่ทำจากพลังเวทมนต์แสดงวิดีโอโดนที่ตัวเธอไม่รู้ตัว

 

– ไม่หยุด. อย่าทำ…

– มันเจ็บนะไอ้บ้า…ไอ้สารเลว….

– ไม่นะ…มันเจ็บ…ฉัน…ขอร้องละ….

 

นี่อาจเป็นอีกทักษะหนึ่งของเบลล์ จินซาฮยอค คิดอะไรไม่ออกในตอนนี้

จิตใจของเธอว่างเปล่า ไม่สิมันเหมือนจะพังทลาย ไม่นานเธอก็ระเบิดออกมา การระเบิดปะทุขึ้นผ่านกะโหลกศีรษะของเธอและพุ่งขึ้นไปสู่ท้องฟ้า

 

“กะ…แก….”

 

จินซาฮยอค ตัดสินใจที่จะซื่อสัตย์กับความรู้สึกของเธอ

 

“ไอ้เหี้ยยยยยย!”

 

เสียงคำรามสั่นโลกทั้งใบ หน้าต่างในห้องพักแตกและเฟอร์นิเจอร์ก็ลอยขึ้นไปในอากาศ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่ามีอะไรแปลก? ฉันคิดว่ามันน่ารักดี ถ้าเอามันให้กับคิมฮาจินเขาจะไม่เกลียดเธอเลย- ดีไม่ดีอาจจะชอบเธอก็ได้นะ’

 

“หุบปาก!”

 

หอกเวทมนต์พุ่งไปข้างหน้า เบลล์เปลี่ยนร่างกายของเขาเป็นพลังเวทย์อย่างสบายๆ ดังนั้นหอกของจินซาฮยอค จึงไม่สามารถแทงทะลุร่างของเขาได้

 

“… ?”

 

อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่ควรจะเป็น แต่เบลล์สังเกตเห็นความเจ็บปวดหลั่งไหลเข้ามาก่อนที่หอกจะค่อยสลายไป ตอนแรกเขาคิดว่าเขาเข้าใจผิด แต่เขาคิดผิด

 

ฉึก

 

“อะไรกัน?”

 

เบลล์มองไปที่อาการบาดเจ็บที่ต้นขาของเขา จากนั้นเขาก็มองกลับไปที่

จินซาฮยอค เธอถูกครอบงำด้วยความโกรธและโจมตีอย่างบ้าคลั่ง

 

ฉึก

 

มือของเขาถูกตัด คราวนี้มันลึกมาก

 

“อ้า…ฉันเข้าใจแล้ว”

 

เมื่อมองไปที่บาดแผลเบลล์ก็ยิ้มออกมา ก่อนที่เขาจะสังเกตจินซาฮยอค ได้ก้าวไปอีกระดับแล้ว

 

‘ดูเหมือนว่าความตายของฉันจะอีกไม่ไกลแล้วสินะ’

 

เบลล์รับการโจมตีของจินซาฮยอคด้วยความสุข ความเจ็บปวดที่เขาได้รับจากหอกค่อยๆผ่านร่างกายของเขาด้วยความปีติยินดี

 

“ดีดี…ดีมาก มากกว่านี้อีกสิ…”

 

เบลล์ ตะโกนด้วยความดีใจภายใต้ความเจ็บปวด