หนิงเหยี่ยนส่ายหน้า แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ปลาเล็กปลาน้อยพวกนี้ไม่มีความสำคัญเท่ากับสิ่งที่ฉันต้องจัดการในตอนนี้” เขามองไปทางห้องพักของถังซีกับเฉียวเหลียงแล้วยักไหล่ “นายน้อยของพวกนายเพิ่งสั่งให้ฉันจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยภายในวันนี้ ฉันยิ่งต้องทุ่มเทให้มากขึ้น”
แล้วเขาก็โบกมือไปมา “ไปกันได้แล้ว ไปกันได้แล้ว”
เขาทำท่าราวกับไม่ใช่ธุระอะไรของเขาอีกต่อไป
อาหกกับอาห้ามองสบสายตากันอีก แล้วก็รู้สึกขึ้นมาว่าอยากจะเลิกยุ่งกับเรื่องนี้ไปเลย แต่แล้วพวกเขาก็นึกขึ้นได้ว่าคุณเซียวโหรวก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่ ในที่สุดพวกเขาจึงพาตัวคนกลุ่มนี้ออกไป
เมื่อหนิงเหยี่ยนกลับเข้าไปในห้อง ท่าทีสบายๆ ก็เปลี่ยนไปทันที สีหน้าเขาเคร่งเครียดขึ้น เซียวโหรวกับหว่านอีคงจะรู้เรื่องนี้ก่อน แต่หว่านอีไม่ยอมบอกเขา เพราะเป็นห่วงเขา และคงต้องการบอกหลังจากที่เขาตื่นขึ้นมา ส่วนเซียวโหรวก็คงโดนหว่านอีกำชับไม่ให้เอาข่าวมาบอกเขา ทั้งสองคนจึงเก็บเรื่องนี้ไว้อย่างเงียบกริบ
แต่คนของเขาที่ประเทศจีนต้องรายงานเขาอยู่แล้ว ถึงแม้สองสาวจะไม่ยอมบอก เขาก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าวหลายสายจากทั้งผู้ช่วยและเพื่อนร่วมงาน
หนิงเหยี่ยนทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา เปิดคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป ประเด็นยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดประเด็นแรกที่ปรากฏขึ้นคือ ข้อความที่ถังซีกับเฮ่อหว่านอีเพิ่งเผยแพร่สู่สาธารณะ หนิงเหยี่ยนขมวดคิ้วเพ่งมองหน้าจอ…
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาต่อสายถึงใครบางคน ก่อนที่เขาจะทันได้กล่าวอะไร ทางปลายสายก็ชิงพูดขึ้นว่า “ผู้กำกับหนิง ตอนนี้ไมโครบล็อกจะถล่มอยู่แล้ว เราควรทำยังไงกันดี”
“ไปสืบมาว่าใครเป็นคนพยายามใส่ร้ายฉัน! เมื่อหาเจอแล้วว่าเป็นใคร ก็ฆ่ามัน!” หนิงเหยี่ยนสั่ง มีประกายอำมหิตกะพริบอยู่ในดวงตา เขาปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วสั่งการต่อไปเสียงเย็นเยียบ “สั่งแผนกประชาสัมพันธ์ให้ออกข่าวอย่างเป็นทางการว่า บริษัทเราจะดำเนินการตามกฎหมายกับคนที่กุข่าวนี้ขึ้น เช่นเดียวกับทางเดอะควีนก็เหมือนกัน!”
ทางปลายสายอีกด้านรับคำทันที หนิงเหยี่ยนวางสาย ในเวลาเดียวกันนั้นก็มีสายเรียกเข้า เขาขมวดคิ้ว แล้วรับสาย “ครับ พ่อ”
“ไอ้ลูกไม่รักดี! ฉันเคยบอกแกแล้วใช่ไหม ว่าให้เลิกเล่นเหลวไหลอยู่ในวงการบันเทิงไร้สาระนี่เสียที แล้วกลับมาช่วยธุรกิจครอบครัว! แล้วตอนนี้ดูสิว่าแกก่อเรื่องอะไรไว้! แกจะอธิบายข่าวนี้ว่ายังไง! จะอธิบายเรื่องที่มีนักข่าวมาออกันอยู่ข้างล่างเต็มไปหมดนี่ว่ายังไง!” น้ำเสียงหงุดหงิดสุดขีดของหนิงเฟิงแผดมาตามสาย
สีหน้าหนิงเหยี่ยนเครียดขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินคำพูดของบิดา “มีคนจัดฉากใส่ร้ายผม ผมไม่ได้ทำอะไรอย่างที่เขียนในข่าว พ่อช่วยบอกแผนกประชาสัมพันธ์ของบริษัทพ่อให้ออกข่าวอย่างเป็นทางการไปเลยว่า เราจะฟ้องร้องคนที่กุข่าวลือนี้ขึ้น ผมสั่งให้ทางสตูดิโอของผมออกแถลงการณ์นี้เหมือนกัน พวกคนที่กุข่าวลือนี้จะต้องรับผิดชอบที่สร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของผม และผมจะฟ้องเจ้าของไมโครบล็อกที่เอาข่าวลือนี้ไปโพสต์ด้วย เขาจะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ผม!”
เมื่อได้ยินสำเนียงความโกรธในน้ำเสียงหนิงเหยี่ยน หนิงเฟิงก็ขมวดคิ้ว “แต่พวกเขาต้องมีหลักฐาน ไม่อย่างนั้น คงไม่กล้า…”
“หลักฐานหรือครับ…” หนิงเหยี่ยนส่งเสียงหัวเราะเบาๆ อย่างเย้ยหยัน “กล้าพนันได้เลยว่าพวกมันไม่มีหลักฐานอะไรแน่นอน! พวกมันพยายามส่งผู้หญิงลักลอบเข้ามาในห้องพักของผม เพื่อถ่ายรูปไว้ใช้เป็นหลักฐาน แต่เพื่อนผมมาเจอเข้าเสียก่อนเลยขัดขวางพวกมันไว้ได้ เอาละครับ พ่อช่วยจัดการตามที่ผมบอกนะครับ ผมจะให้มันรู้เสียทีว่าใครกันแน่ที่คุมวงการบันเทิง!”
ทันทีที่หนิงเฟิงวางสายไป ก็มีเสียงเคาะประตูห้องหนิงเหยี่ยน เขาเปิดประตูออกไปพบเฮ่อหว่านอีกับพี่ๆ ยืนอยู่หน้าประตู เขาขมวดคิ้ว “มาทำไมกัน”
เฮ่อหว่านอีมองเขาด้วยสายตาเป็นห่วง “เป็นอะไรหรือเปล่า”
หนิงเหยี่ยนยิ้มให้ “ไม่เป็นอะไร สบายดี ฉันอาจจะต้องเดือดร้อนมากถ้าผู้หญิงสองคนนั้นแอบเข้ามาในห้องได้ แต่โชคยังดีที่โหรวโหรวขวางพวกหล่อนไว้ได้ทัน! ตอนนี้มั่นใจได้ว่าฉันไม่เป็นอะไรแล้ว”
ในเวลาเดียวกันนั้นเซียวจิ่งซึ่งพักอยู่ห้องติดกันก็รีบเข้ามาสมทบ เขากล่าวขึ้นว่า “ฉันรู้อยู่แล้วว่าสักวันนายต้องโดนคนจัดฉากใส่ร้าย!”
หนิงเหยี่ยนหันไปจ้องหน้าเขา “ถ้าอย่างนั้นก็เป็นเพราะนายแช่งนั่นแหละ ฉันถึงต้องเจอเรื่องยุ่งยากแบบนี้!”
“เฮ้ย ไร้สาระ” เซียวจิ่งตะเบ็งเสียงดัง “ถ้าคำสาปแช่งของฉันได้ผลจริง น้องสาวฉันคงเลิกกับเฉียวเหลียงไปนานแล้ว!”
“ฮะ!…” ทุกคนหันไปจ้องหน้าเซียวจิ่ง
เซียวจิ่งรีบยกมือขึ้นปิดปาก ส่ายศีรษะไปมา “ไม่ใช่ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น อย่าเข้าใจผิด ฉันหวังว่าน้องสาวฉันกับเฉียวเหลียงจะรักกันไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย!” แล้วเขาก็กล่าวต่อไปว่า “ฉันให้คนของฉันแฮ็กเข้าไปในบัญชีนั้น หาต้นตอบริเวณที่ส่งสัญญาณเจอแล้ว อยู่ในเมือง A เป็นบัญชีที่เพิ่งลงทะเบียนใหม่ ข้อความที่มันเผยแพร่ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องราวดีๆ น่าเชื่อถือ เหมือนว่าเจ้าของบัญชีอยากสร้างความน่าเชื่อถือก่อน นี่ต้องเป็นงานที่วางแผนไว้ก่อนล่วงหน้า ไอ้คนคนนี้มันต้องเกลียดนายมากแน่ๆ”
เฮ่อหว่านหนิงเลิกคิ้วขึ้นทั้งสองข้าง มองหน้าหนิงเหยี่ยน “หนังเรื่องใหม่ของคุณจะออกฉายในอีกสิบวันที่จะถึง เรื่องอื้อฉาวนี้จะมีผลเสียต่อหนังของคุณหรือเปล่า”
หนิงเหยี่ยนหรี่ตาลง แล้วหันไปมองหน้าเฮ่อหว่านโจว “ฮื่อ นี่เฉียวเหลียงก็เพิ่งยื่นคำขาดว่าให้ฉันจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยภายในวันนี้ ไม่อย่างนั้นจะซ้อมฉันให้น่วม ถ้าหากเรื่องนี้เกิดไปมีผลเสียต่อชื่อเสียงของแฟนสาวของเขา! ดังนั้นฉันต้องรีบจัดการให้จบในวันนี้!”
แล้วเขาก็ทำเสียงหัวเราะประชด “ในเมื่อพวกเขาให้โอกาสฉันโฆษณาหนังเรื่องใหม่ ก็ต้องพยายามทำให้พวกเขาพอใจ!”
เฮ่อหว่านอีมองหน้าหนิงเหยี่ยน แล้วถามเสียงจริงจัง “แล้วคุณรู้ไหมว่าใครเป็นคนสั่งการเรื่องนี้”
“ก็น่าจะเป็นศัตรูคนใดคนหนึ่งของฉันนี่แหละ ถ้ามันกล้าถึงขนาดจัดฉากใส่ร้ายฉันได้ ก็แสดงว่าต้องมีอิทธิพลในวงการบันเทิงไม่น้อยเหมือนกัน ในเมื่อพวกมันอยากตาย ฉันก็ไม่รังเกียจที่จะช่วยส่งพวกมันไปนรกเหมือนกัน” หนิงเหยี่ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ แล้วหันไปมองสบตาเฮ่อหว่านอี “ขอโทษนะ ที่ทำให้เธอต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”
เฮ่อหว่านอียิ้มตอบ “ไม่เป็นไรหรอก แค่ขอให้เราสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ในที่สุดก็พอ”
“อาจต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ก็ไม่ยากที่จะพิสูจน์ว่าเธอสองคนเป็นผู้บริสุทธิ์” หนิงเหยี่ยนกล่าว “เมื่อครู่นี้โหรวโหรวจับตัวผู้หญิงได้สองคน แล้วยังมีหลักฐานการส่งข้อความสนทนาทางโซเชียลมีเดียระหว่างคนจ้างกับผู้หญิงพวกนั้น เราสามารถพิสูจน์ได้ว่าเธอสองคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทันทีที่เราเผยแพร่หลักฐานข้อความสนทนานั้นทางอินเทอร์เน็ต”
เฮ่อหว่านอียิ้ม “ก็ดีแล้ว”
ระหว่างที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอย่างสบายใจนั้น ในเวลาเดียวกัน ภายในห้องพักของถังซีกับเฉียวเหลียง…
ถังซีส่งสายตาใสซื่อให้เฉียวเหลียง พร้อมกับทำตาปริบๆ ด้วยท่าทางน่าสงสาร “แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ!”
เธอแค่สะดุดล้ม แต่ทำไมหัวเข่าสองข้างถึงแตก! แล้วเลือดยังไหลออกมาอีก!
แถมเฉียวเหลียงยังต้องมาเห็นตอนเกิดเหตุ!
ทำไมเธอถึงโชคร้ายอย่างนี้
“ผมต้องลงโทษคุณอย่างหนักแน่ ถ้าคุณตั้งใจ” เฉียวเหลียงจ้องตาถังซีนิ่ง
ถังซีกะพริบตาปริบๆ มองเขา “คุณจะลงโทษฉันยังไง”