บทที่ 566 นามอันศักดิ์สิทธ

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา

บทที่ 566 นามอันศักดิ์สิทธิ์
ณ ‘มิตินรกสายฟ้า’ ภายในห้องลับของเฟอร์นันโด…

ทันใดนั้น เครื่องรางชีวิตก็โปร่งใสและเรืองแสงขึ้นมา และส่วนอวัยวะภายในที่มีเลือดเกรอะกรังก็บิดตัว แตกออก และงอกเงยขึ้นมา

เวลาผ่านไปเต็มๆ ชั่วโมงกว่าเจ้าแห่งวายุจะคืนสู่สภาพเดิมที่เคยเป็น และใช้เวลาอีกสองชั่วโมงก่อนที่เขาจะกลับสู่ร่างของนักเวทชั้นตำนานระดับสาม

หลังจากสวมเสื้อคลุมเวทมนตร์สีแดงเลือดตัวเก่งและใส่ลูกตาปลอมลักษณะแปลกๆ ลงในเบ้าตาซ้ายของเขา เฟอร์นันโดก็เปิดสถานีเชื่อมโยงของ ‘มิตินรกสายฟ้า’ ที่เชื่อมต่อกับโลกภายนอก ไม่ใช่เพราะเขาไม่ไว้ใจดักลาส แฮททาเวย์ หรือลูเซียน แต่เป็นเพราะความรอบคอบที่มีอยู่แต่เดิมของนักเวทชั้นตำนานที่มีชีวิตอยู่มาแล้วนับพันปี

ไม่เกินครึ่งนาทีหลังจากเปิดสถานีเชื่อมโยง วงเวทการส่งผ่านก็เปล่งแสง และลูเซียนมาเข้ามายัง ‘มิตินรกสายฟ้า’

“มาเร็วจริงๆ?” เฟอร์นันโดหัวเราะแฝงนัยชั่วร้าย “ข้าคิดว่าเจ้าจะไป ‘ฉลอง’ กับนาตาชาเสียอีก”

แม้ว่าลูเซียนจะคุ้นเคยกับมุกหยอกล้อของอาจารย์เป็นอย่างดี เขาก็ยังคงหน้าแดงด้วยความเหนียมอาย “เจ้าชายแพทริกถูกปลงพระชมน์ตามบัญชาของกษัตริย์พระองค์ก่อน นาตาชากำลังอารมณ์ไม่ดีเพราะเรื่องนี้ ข้าปลอบใจนางอยู่พักใหญ่ แล้วราชาแห่งฝันร้ายก็ส่งตัวแกรนด์ดยุกแห่งโอวาริตมา ทั้งสองไม่ได้พบหน้ากันนานแล้ว ข้าเป็นห่วงว่าอาจารย์ฟื้นตัวไปถึงไหนแล้ว ข้าเลยมาที่นี่ขอรับ”

“เจ้าจะห่วงอะไร? ข้ายังสู้กับพวกนักบุญได้อีกสักรอบ” เฟอร์นันโดเปิดเผยความรู้สึกที่ร้อนแรงดั่งพายุอีกครั้ง แล้วเขาก็ส่ายศีรษะ “เรื่องพวกนั้นไม่แปลกหรอกนะในราชวงศ์ เด็กน้อยนาตาชาก็คงจะได้เห็นเอง” เมื่อเห็นว่าลูเซียนสบายใจและเข้าไปปลอบใจนาตาชาถึงภายในปราสาทเนคโซ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าสงครามจบลงแล้วอย่างไม่ยืดเยื้อด้วยผลที่น่าพึงพอใจ เขาจึงไม่รีบถามอะไร

อย่างไรก็ตาม ลูเซียนยังคงมองเฟอร์นันโดด้วยความเป็นห่วง “อาจารย์ขอรับ ทำไมข้ารู้สึกว่าท่านบาดเจ็บหนักว่า Holy Avenger เสียอีก? ดูเหมือนพลังของท่านจะลดลงหนึ่งขั้นหรือเปล่าขอรับ?”

จังหวะนั้นที่เฟอร์นันโดระบายอารมณ์ออกมา ลูเซียนสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

“บาดแผลบนวิญญาณลุกลามไปถึงร่างกาย แต่ก็เพียงชั่วคราว ข้าจะฟื้นตัวในหนึ่งถึงสองปี” จู่ๆ เฟอร์นันโดก็โมโหขึ้นมา “ถึงเมลแม็กซ์จะแข็งแกร่งกว่าข้า ข้าคงไม่บาดเจ็บไปกว่าเขา หากข้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์! ข้าบาดเจ็บเพียงเพราะข้าไม่ได้พกอุปกรณ์เวทชั้นตำนาน หุ่นเชิด และกระจกเวทที่จะใช้จัดการกับนักบุญทั้งห้าคน”

เพราะฉะนั้น เขาถึงมั่นใจว่าจะหนีรอดได้ แม้จะเผชิญหน้ากับโป๊บ ทั้งนี้ทั้งนั้น เขามีอุปกรณ์เวทชั้นตำนานจำนวนมาก อีกทั้งเวทมนตร์ชั้นตำนานที่ใช้รักษาชีวิตรอด

จากการตายของนักเวทชั้นตำนานหลายต่อหลายคน จักรวรรดิเวทมนตร์สรุปหลายๆ ประเด็นที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยทฤษฎีอาร์คานาปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น ‘ดาบแห่งสัจธรรม’ สามารถสังหารวิญญาณได้โดยตรง และการโจมตีด้วยพลังบริสุทธิ์ก็อาจส่งผลกระทบต่อวิญญาณภายในอุปกรณ์ชุบชีวิต หลังจากทำลายวิญญาณต้นกำเนิด หากพลังงานทรงพลังกว่า นักเวทจะไม่ได้รับการป้องกัน และอาจถูกทำร้ายจนสิ้นซาก

นักเวทโบราณจะเรียกกระบวนการนี้ว่า ‘การบาดเจ็บวินาศสันตะโร’ ซึ่งคล้ายคลึงกับบทคำสาป ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่ายังไม่มีใครอธิบายเรื่องนี้ได้

สภาสูงสุดมีความเห็นต่อศูนย์กลางการระเบิดของ ‘เวทเปลวไฟนิรันดร์’ ว่าคือพลังงานปริมาณมหาศาลที่ทำให้เส้นแห่งความเป็นเหตุผลเสียระบบ สภาจึงลดระดับพลังการโจมตีลง ด้วยเกรงว่าเฟอร์นันโดจะถูกสังหารระหว่างทาง

ลูเซียนเองก็ยังไม่เชื่อกับคำอธิบายนั้น แต่เขาก็ไม่สามารถคิดหาเหตุผลอื่นได้ ในเรื่องการศึกษาวิญญาณ เขายังเป็นเพียงมือสมัครเล่น

“ใช่ แน่นอนขอรับ” ลูเซียนรู้ดีว่าอาจารย์ของเขาเป็นนักเวทที่ทรนงและไม่ค่อยเอ่ยปากชมคนอื่น อันที่จริง เขารีบพยักหน้าและเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “จะว่าไป สภาก็ใช้อุปกรณ์เวทมนตร์ทั้งหมดเพื่อกักขังนักบุญทั้งห้า เราคงไม่อาจทำเหมือนเดิมได้ในอนาคต”

อุปกรณ์ที่ใช้ได้ครั้งเดียว เช่น หุ่นเชิด และกระจก เป็นคัมภีร์ชั้นตำนานที่สำคัญ หายากเสียยิ่งกว่าอุปกรณ์เล่นแร่แปรธาตุระดับเดียวกัน แม้แต่สภาเวทมนตร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุ ก็ยังมีเพียงแค่สามชิ้น ซึ่งทั้งหมดเป็นของนักเวทชั้นตำนาน หุ่นเชิดเป็นของดักลาส และกระจกเป็นของสะสมของเฟอร์นันโด

“เพื่อให้สูญเสียน้อยที่สุด นอกจากวางแผนอย่างรอบคอบแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเจ้าต้องไม่หยุมหยิมกับการใช้อุปกรณ์และคัมภีร์ ถ้าเจ้าไม่อยากจ่ายเงิน เจ้าต้องจ่ายด้วยชีวิต!” เฟอร์นันโดดูมีความมุ่งมั่น แต่พายุในดวงตากลับหลอกลวงเขา “หากข้าไม่มีกระจกกับหุ่นเชิด ข้าคงใช้เสื้อคลุมแห่งอำนาจบูชายัญเพื่อถ่วงเวลานักบุญทั้งห้า แต่เดี๋ยว สภาจะต้องชดใช้ความสูญเสียของข้าด้วยอุปกรณ์ชั้นตำนานเหมือนกัน”

โดยปกติแล้ว ผู้มีพลังชั้นตำนานเท่านั้นที่มีอุปกรณ์ชั้นตำนาน แต่สภาเวทมนตร์มีปฏิบัติการมากมายในการสำรวจมิติพิเศษของนักเวทโบราณ เพื่อสืบหาอุปกรณ์ของนักเวทโบราณที่พลาดท่าเสียชีวิตในอุบัติเหตุ

อุปกรณ์ชั้นตำนานและอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาจากวัสดุหายากจากซากโบราณวัตถุล้วนเป็นของสภาเวทมนตร์ ใครก็ตามที่ได้ทำภารกิจรับใช้เป็นพิเศษหรือรวบรวมเงินทองมากพอก็สามารถซื้อขายกันได้ สมาชิกของสภาสูงสุดสามารถหยิบยืมอุปกรณ์ได้ หากมีภารกิจผจญภัย

อุปกรณ์เวทชั้นตำนานของสาธารณะมีสี่ชิ้น ซึ่งมีราคาสูงเกินไปแม้กระทั่งกับนักเวทชั้นตำนาน สำหรับผลงานพิเศษ มีการรับรองผลงานสองลักษณะ ลักษณะแรกได้แก่การสังเวยที่เฟอร์นันโดอธิบาย และอีกลักษณะหนึ่งก็คือการระบบการเปลี่ยนกระบวนทัศน์เชิงทฤษฎี ซึ่งทำให้เฟอร์นันโดได้เสื้อคลุมแห่งอำนาจมา

เมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน ขณะที่มหาจอมเวทหน้าใหม่เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน สภาเกือบจะไม่เหลืออุปกรณ์เวทชั้นตำนาน ยิ่งได้รับวัสดุหายากมาจากมิติดินแดนใหม่มากเท่าไร ‘ผู้บุกเบิก’ และ ‘ปรมาจารย์แห่งรสายนเวท’ ต่างก็จะสร้างอุปกรณ์เวทชั้นตำนานขึ้นมาคนละชิ้นเพื่อให้มีอุปกรณ์เพียงพอ

ลูเซียนเข้าใจเรื่องการใช้เงินอย่างถ่องแท้อีกครั้ง ขณะที่ศาสนจักรมีเงินทองมากกว่าสภาเวทมนตร์ แต่ในสาขาการเล่นแร่แปรธาตุ สภาเวทมนตร์กลับมีอุปรณ์มากมายก่ายกองกว่า

เฟอร์นันโดถามถึงผลของการรบ “นักบุญทั้งห้าตายไปกี่คน? ผลสุดท้ายเป็นอย่างไร?”

ลูเซียนอธิบายผลสุดท้ายสั้นๆ เฟอร์นันโดนิ่งฟังและหายใจแรงออกทางจมูก “เพราะเมลแม็กซ์คนเดียว นักบุญทั้งสี่พากันตายหมด”

หลังจากลูเซียนอธิบายจบ เฟอร์นันโดก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า “เราไม่เสียนักเวทชั้นตำนานสักคน ยอดเยี่ยมมาก แต่ก็แปลกที่โป๊บคนใหม่มาจุติในระดับมนุษย์ครึ่งเทพในทันที ถ้าโป๊บได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้าแห่งสัจธรรมจริงๆ ทำไมเขาถึงไม่สังหารนักเวททั้งหมดเลยล่ะ? ก็เขาได้รับพรแล้วนี่ ก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเริ่มลงโทษพวกเรา”

ในอดีตที่ผ่านมา โป๊บทุกคนต่างสิ้นใจด้วยสาเหตุทางธรรมชาติ และพวกเขามีเวลามากพอที่จะเลือกและฝึกผู้สืบทอดอำนาจ แม้กระทั่งอย่างนั้น โป๊บคนใหม่ก็ยังต้องใช้เวลาหนึ่งปีก่อนที่จะขึ้นเป็นมนุษย์ครึ่งเทพ

“ฮะ หากโป๊บเป็นผู้ถ่ายทอดพระวจนะของพระเจ้าแห่งสัจธรรมบนโลกจริงๆ ซึ่งสามารถได้รับพร แล้วศาสนจักรฝ่ายเหนือและคริสตจักรแห่งโฮล์มล่ะ? ทำไมพวกเขาถึงใช้พลังเทพได้? ทำไมสันตะปาปาถึงใช้พลัง ‘พระคุณของพระเจ้า’ ได้” ลูเซียนก็ถามคำถามออกมา

เฟอร์นันโดตอบอย่างครุ่นคิด “ข้าเพิ่งนึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เนื่องจากโป๊บคนใหม่จะมีพลังงานสูงสุดในหนึ่งปีหลังจากการสถาปนา แล้วทำไมมนุษย์ครึ่งเทพทั้งสามตนถึงไม่ฉวยโอกาสในช่วงหลายปีที่ผ่านมา? กำลังต้องการของนครศักดิ์สิทธิ์สามารถต้านทานมนุษย์ครึ่งเทพได้ตนเดียวเท่านั้น ไม่มีทางต้านได้สองตน”

ลูเซียนส่ายศีรษะ หากถามคำถามนี้กับดวงจันทร์สีเงิน อัลเทอร์นา แน่นอนว่าย่อมไม่ได้คำตอบกลับมา

ณ หอประชุมแสงที่สุด แลนซ์ นครศักดิ์สิทธิ์…

อนาสตาซึ่งยังไม่ได้รับการสถาปนาอย่างเป็นทางการ ยืนอยู่ต่อหน้าเหล่าพระคาร์ดินัลหลวงและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า “สภาเวทมนตร์สมคบคิดกับปีศาจจากขุมนรก และพยายามทำลายโลก แต่โชคดีที่องค์สมเด็จพระสันตปาปาทรงสละชีพและรับมือกับเจตจำนงแห่งอเวจี ช่วยพิทักษ์วิญญาณบริสุทธิ์ไว้ได้ ข้าจะรับภาระความปรารถนาสุดท้ายของพระองค์ และกำจัดพวกปีศาจให้สิ้นซาก!”

นี่คือคำแถลงอย่างเป็นทางการต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ ตอนนี้ศาสนจักรฝ่ายใต้สูญเสียเขตอำนาจในสี่ประเทศตามแนวเขตชายทะเลด้านตรงและด้านเหนือ และต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่าผ่านที่มั่นมีความมั่นคง และไม่มีเรื่องใดจะปลอบประโลมผู้มีจิตศรัทธาได้ดีกว่าการรับรู้ว่าสมเด็จพระสันตปาปาสละชีพเพื่อช่วยโลก

ขณะมองไปรอบๆ ตัว เมลแม็กซ์ก็รู้สึกเศร้าสร้อย ในบรรดานักบุญทั้งแปดรูป มีสองรูปที่ตายอย่างอเนจอนาถ รูปหนึ่งแปรพักตร์และสิ้นใจตาย และอีกรูปหนึ่งกลายเป็นพระสันตะปาปา จนเหลือกำลังอยู่เพียงครึ่งหนึ่ง สำหรับพระคาร์ดินัลนักบุญระดับธรรมดา มีทั้งบุญสิ้นชีพไปหนึ่งรูปและหายสาบสูญอีกสามรูป นั่นหมายความว่าปัจจุบันมีพระคาร์ดินัลหลวงเหลือเพียงสิบหกรูป แต่โชคดีที่ราชาทูตสวรรค์เตรียมตัวพำนักอยู่บนโลกเพื่อช่วยให้ศาสนจักรก้าวผ่านวิกฤตการณ์ที่เลวร้าย

“เราจะยึดมั่นในแรงปรารถนาสุดท้ายขององค์สมเด็จพระสันตะปาปาและกำจัดปีศาจ!” พระคาร์ดินัลหลวงทำสัญลักษณ์กางเขนตรงหน้าอกและต่อมาพร้อมเพรียงกันด้วยท่าทีโศกเศร้า “สัจจะคงอยู่นิรันดร์”

เสียงของอนาสตากล่าวออกมาอย่างช้าๆ และเคร่งขรึม “เราสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ แต่เราต้องไม่เสียความมั่นใจจากเรื่องนี้ นี่คือบททดสอบจากพระเจ้า และเราจะบรรลุชัยชนะในที่สุดด้วยพระคุณของพระเจ้า เมลแม็กซ์ เจ้าไปตามหาทอร์เรนส์ และและพระคาร์ดินัลนักบุญที่เหลือ แล้วบอกพวกเขาว่าตราบใดที่พวกเขาสำนึกผิด พระเจ้าทรงให้อภัยเสมอ พวกเขาเพียงแค่หลงทางด้วยกลอุบายของซาร์ด พวกเขายังกลับสู่อ้อมอกพระเจ้าได้ และนี่คือพระคุณของพระเจ้า”

ในตอนนั้นเอง เขาได้อ้อนวอนขอพระคุณของพระเจ้าต่อหน้าพระคาร์ดินัลหลวง นั้นหมายความว่าทอร์เรนส์ และพระคาร์ดินัลหลวงรูปอื่นๆ ได้รับการอภัยโทษแล้วจริงๆ นะแต่ถ้าเขาเจตนากลับคำสัญญา เขาก็ต้องพิจารณาว่าจะทำให้พระคาร์ดินัลหลวงทั้งหมดสงบอยู่ได้หรือไม่ นอกจากนี้ ไพ่ตายของซาร์ดก็คือ ‘เจตจำนงแห่งอเวจี’ พระคาร์ดินัลทั้งสามรูปคงไม่รู้เรื่องนี้มากนัก

เพื่อแสดงการขอบคุณ เมลแม็กซ์พูดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา “ตามพระประสงค์ของพระเจ้าและบัญชาของพระองค์”

มีเพียงการรวมพลังเท่านั้นที่จะทำให้ศาสนจักรฟื้นตัวจากความพ่ายแพ้ครั้งนี้ได้ “ข้ายังไม่ใช่โป๊บ” อนาสตายิ้มแล้วเดินขึ้นบันไดไป

บันไดมีเพียงเจ็ดขั้น เมื่ออนาสตาก้าวลงบนขั้นแรก เสียงสวดสรรเสริญที่ศักดิ์สิทธิ์และคาดไม่ถึงก็ดังกึกก้อง

เมื่อเขาก้าวขึ้นบันไดขั้นที่สอง แสงศักดิ์สิทธิ์สลัวๆ ก็เป็นประกายออกมา ทำให้ทั้งหอประชุมแสงพิสุทธิ์สว่างขึ้นกว่าเดิม

หลังจากก้าวสู่ขั้นที่สาม ทูตสวรรค์จำนวนนับไม่ถ้วนก็ทำให้มีจุดแสงปรากฏอยู่รอบตัวอนาสตา

หลังจากขั้นที่สี่ ทั้งนครศักดิ์สิทธิ์ แลนซ์ ก็ถูกปกคลุมไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ คณะนักบวชและผู้มีจิตศรัทธาทั้งหมดต่างคุกเข่าลงสวดภาวนากับพื้น “…ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก”

หลังจากก้าวที่ห้า ภาพสะท้อนหุบเขาวิมานก็ดูเหมือนจะปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

หลังจากขั้นที่หก ลำแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ฉายลงมาบนร่างของอนาสตา

หลังจากขั้นที่เจ็ด อนาสตาซึ่งกำลังหันหลังให้กับทุกคน ก็มีสีหน้าซีดเผือด และมือซ้ายของเขาก็สั่นเกินที่จะควบคุม ราวกับว่าเขาแก่และอ่อนแอเกินไป แต่ไม่นานทุกอย่างก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เขาหันหลังกลับมาและยกคทาขึ้นไปยังเหล่าพระคาร์ดินัลหลวงจำนวนมาก

ณ ตอนนั้นเอง เสียงอันเคร่งขรึมและศักดิ์สิทธิ์กลอนลงมาจากบนฟ้าตรงไหนสักแห่ง

“เจ้าจะได้รับนามอันศักดิ์สิทธิ์ว่า ‘เบเนดิกต์’!”

อนาสตาทำสัญลักษณ์กางเขนด้วยความเคารพและพูดด้วยเสียงที่ดังกึกก้องภายในนครศักดิ์สิทธิ์ทั้งเมือง

“นับแต่นี้ไป เราคือเบเนดิกต์ที่สาม!”

…………………………………………………………….