ข้อมูลที่น่าตกตะลึงของป้อมปราการแสงดาว

ทุกคนนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินเป้าหมายของซือเฟิง ไม่มีใครคิดว่าเขาจะบ้ามากพอที่จะเข้าสู่ดันเจี้ยนภูมิภาค โหมดพระเจ้าของหุบเขาดาว

ไม่เพียงแต่โหมดพระเจ้าจะจัดเป็นความยากสูงสุดของดันเจี้ยนภูมิภาคใน God domain แต่ดันเจี้ยนภูมิภาคในหุบเขาดาวที่ว่านี้ยังเป็นดันเจี้ยนเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยอีกด้วย แม้ว่าดันเจี้ยนจะมีทรัพยากรมากมายที่จะนำเสนอให้ แต่มันก็มีอันตรายจำนวนมากที่เหนือกว่าสิ่งที่ผู้เล่นในปัจจุบันจะต้องเผชิญในโลกภายนอก

มันมีมหาอำนาจจำนวนหนึ่งได้ส่งทีมผู้เล่นขั้นสามเข้าสู่ดันเจี้ยนนี้เมื่อไม่นานมานี้ แต่ในท้ายที่สุดพวกเขาก็ถูกบังคับให้ต้องล่าถอยไปในเวลาไม่ถึงสามสิบนาที และสูญเสียสมาชิกไปเกือบครึ่งหนึ่ง และหลังจากการสูญเสียครั้งนี้มหาอำนาจต่างๆก็ได้เลือกจะยอมแพ้ในดันเจี้ยนนี้ชั่วคราว

ดันเจี้ยนนี้ไม่ได้อันตรายแค่เพราะมันมีมอนสเตอร์ที่มีพลังมหาศาลอยู่ภายใน แต่มันยังอันตรายเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่รุนแรงมากด้วย

เมื่ออยู่ในดันเจี้ยนภูมิภาคแห่งนี้ ผู้เล่นจะต้องเผชิญหน้ากับแรงโน้มถ่วงที่สูงขึ้นมาก และแม้แต่ผู้เล่นขั้นสามก็ยังจะต้องดิ้นรน หากต้องการจะเคลื่อนไหวภายใต้แรงโน้มถ่วงนี้ ยิ่งไปกว่านั้นมอนสเตอร์ที่อยู่ในดันเจี้ยนภูมิภาคแห่งนี้ยังมีมาตราฐานการต่อสู้ที่สูงมาก

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ฉันเองก็หวังจะยอมรับข้อเสนอของคุณ แต่สุสานดาวนั้นมันไม่ใช่ที่สำหรับผู้เล่นในปัจจุบัน ค่าสถานะพื้นฐานของเราอาจจะยังคงเหมือนเดิม เมื่อเข้าไปภายใน แต่สถานที่แห่งนั้นมันก็จำกัดการเคลื่อนไหวของเราอย่างมาก และการต่อสู้กับลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่ เลเวลหนึ่งร้อยห้านั้นก็จะนับว่าเป็นความท้าทายมากแล้ว ไม่ต้องพูดถึงแกรนลอร์ด เลเวลหนึ่งร้อยห้าเลย” เฮลรัชอธิบายหลังจากสูดหายใจเข้าลึกๆ

แม้ว่าข้อเสนอของซือเฟิงนั้นจะน่าดึงดูดอย่างมาก แต่ความคิดในการเข้าสู่สุสานดาวนั้นมันเป็นเรื่องตลกชัดๆ

ในขณะที่เข้าไปภายในสุสานดาว ความคล่องตัวของผู้เล่นขั้นสามนั้นจะลดลงมาอยู่ที่มาตราฐานของขั้นหนึ่ง และที่แย่ไปกว่านั้นคือแรงโน้มถ่วงที่เพิ่มขึ้นจะไม่ส่งผลต่อมอนสเตอร์ของดันเจี้ยนด้วย

แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด ….

ที่สำคัญที่สุดคือการผลาญค่าสตามิน่าของผู้เล่นจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในระหว่างการต่อสู้ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงแบบนี้

หากผู้เล่นเข้าไปอยู่ในสุสานดาวนานเกินไป พวกเขาก็อาจจะตายจากการที่ค่าสตามิน่าหมดลงได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นในดันเจี้ยนภูมิภาค โหมดพระเจ้าแห่งนี้ ผู้เล่นยังจะไม่สามารถเทเลพอร์ตออกมาได้ง่ายๆด้วย แม้จะมีบาเรียมานาของจักรวรรดิโลกใต้พิภพก็ตาม

ซึ่งหากพวกเขาไม่ระมัดระวังมากนัก พวกเขาก็อาจถูกสังหารหมู่ได้อย่างง่ายดายเลย

“ฉันเข้าใจถึงความกังวลของคุณ ผู้บัญชาการรัช แต่ถ้าเราทำได้สำเร็จ ฉันยินดีจะจองห้องฝึกมานาแปดห้องในคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองป้อมปราการไว้ให้สำหรับจักรวรรดิโลกใต้พิภพเพียงกิลเดียวเลย และแน่นอนว่าเราก็จะสามารถคำณวนค่าใช้จ่ายแยกต่างหากกันได้ …” ซือเฟิงบอกแขกของเขาพลางหัวเราะเบาๆ “ฉันแน่ใจว่าคุณรู้ถึงความหนาแน่นของมานาภายในคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองดี แต่ในห้องฝึกมานานั้นมันจะหนาแน่นกว่านี้อีก”

นอกเหนือจากเรื่องวัสดุหายากแล้ว มันยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่ซือเฟิงเดินทางมายังทวีปด้านตะวันตก

เขาต้องการดาวแห่งแสง !!!

หากปราศจากดาวแห่งแสง เขาก็ไม่มีโอกาสจะฟื้นฟูกิ่งหลักที่เหี่ยวเฉาของต้นไม้แห่งชีวิต

ดาวแห่งแสงนั้นเป็นวัสดุระดับตำนานที่มีอยู่แค่เฉพาะในทวีปด้านตะวันตกเท่านั้น และเพื่อความแม่นยำ มันสามารถพบได้ในสุสานดาวเท่านั้น

จากข้อมูลที่เขารู้มาจากชีวิตที่ผ่านมาของเขา ในสุสานดาวนั้นมันมีดาวแห่งแสงดรอปออกมาสามชิ้น ในขณะที่ผู้เล่นเริ่มการสำรวจดันเจี้ยนภูมิภาคแห่งนี้เป็นครั้งแรก และในตอนนี้ ตอนที่สุสานดาวนั้นยังไม่มีใครกล้าเข้าไป มันจึงเป็นโอกาสดีสำหรับเขาที่จะเข้าไปหาสิ่งที่ต้องการให้กับตัวเอง หากเขาพลาดโอกาสนี้ไป โอกาสที่เขาจะได้รับดาวแห่งแสงนั้นจะลดลงอย่างมาก ในตอนที่เขาเดินทางกลับมาที่ทวีปด้านตะวันตกอีกครั้ง

ในการจะเข้าสู่ดันเจี้ยนภูมิภาคแห่งนี้ให้ได้นั้น ผู้เล่นจะต้องมาถึงขั้นสามเป็นอย่างน้อยที่สุด ผู้เล่นนั้นจะไม่สามารถเข้าสู่ดันเจี้ยนได้เลย หากไม่ผ่านข้อกำหนด ยิ่งไกว่านั้นทีมหนึ่งร้อยคนนั้นก็จะไม่เพียงพอที่จะสำรวจดันเจี้ยนภูมิภาคแห่งนี้ และซือเฟิงก็ต้องการผู้เล่นอย่างน้อยห้าร้อยคนเพื่อให้แน่ใจว่าแผนของเขาจะประสบความสำเร็จ

น่าเสียดายที่การจัดทีมผู้เล่นขั้นสาม ห้าร้อยคนนั้นเป็นเรื่องยากมากอย่างไม่น่าเชื่อ ในระยะนี้ของเกม จนถึงตอนนี้มันมีเพียงแค่ซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดห้าอันดับแรกเท่านั้นที่จะสามารถทำแบบนี้ได้ ดังนั้นซือเฟิงจึงได้ข้อให้ฟิธาเลียเชิญเฮลรัชมาเพื่อเจรจาข้อตกลง

“ห้องฝึกมานา ?” ดวงตาของเฮลรัชเปล่งประกาย เมื่อซือเฟิงเสนอผลประโยชน์เพิ่มเติม

เมื่อเขาเข้ามาในคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครอง เขาก็สัมผัสได้ถึงความหนาแน่นที่ไม่ธรรมดาของมานาภายใน และมันนับเป็นสถานที่ที่มีมานาหนาแน่นที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมา หากผู้เชี่ยวชาญของจักรวรรดิโลกใต้พิภพได้ฝึกฝนในคฤหาสถ์นี้ พวกเขาจะพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็วแน่นอน

แต่ตอนนี้ซือเฟิงกับพึ่งบอกเขาว่า ที่นี่มีห้องฝึกมานาที่มีมานาหนาแน่นกว่าในคฤ
หาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองซะอีก

หากสิ่งที่ซือเฟิงกล่าวมามันมีอยู่จริงนั้น พวกเขาก็จะสามารถพัฒนาการควบคุมมานา และปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของพวกเขาได้ด้วยความเร็วที่พวกเขาไม่คาดคิดเลย

“โปรดพิจารณาข้อเสนอของฉันให้ดี ผู้บัญชาการรัช หากเราพบสถานการณ์ภายในสุสานดาวที่ล่อแหลม และไม่สามารถเอาชนะได้ คุณก็สามารถจะล่าถอยได้เลย และผลประโยชน์ที่ฉันเสนอไปก็จะยังเป็นของคุณ” ซือเฟิงชี้แจง

“เอาแบบนี้เลยงั้นหรอ ?” เฮลรัชนั้นไม่สามารถเพิกเฉยต่อการล่อลวงได้ “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ยอมรับข้อเสนอนี้ ฉันขอทวนเงื่อนไขหน่อย หากทีมของฉันเสี่ยงต่อการถูกสังหารหมู่ ฉันก็จะสั่งให้พวกเขาถอยทันทีนะ หากคุณโอเค เราก็ยินดีจะทำงานร่วมกับคุณ”

เฮลรัชนั้นไม่แน่ใจว่าเป้าหมายของซือเฟิงคืออะไร แต่เขาก็ไม่สามารถจะปฎิเสธข้อเสนอนี้ได้จริงๆ

มานานั้นจัดเป็นรากเหง้าของทุกสิ่งในทวีปด้านตะวันตก ซึ่งมหาอำนาจต่างๆที่นี่ล้วนต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่งเพื่อสิ่งนี้

เนื่องจากตอนนี้ การเข้ายึดป้อมปราการแสงดาวนั้นเป็นไปไม่ได้เลย เขาจึงจำเป็นจะต้องตั้งเป้าเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดอย่างอื่นแทน และฝึกมานานี้ก็จะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญของกิลเขานั้นสามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองได้เร็วขึ้น และเมื่อพวกเขาปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้สำเร็จ และสมบูรณ์ จักรวรรดิโลกใต้พิภพจะสามารถเอาชนะสองจากห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดที่อยู่ในทวีปด้านตะวันตกได้แน่นอน ….

“ตกลงตามนั้นไม่มีปัญหา” ซือเฟิงตอบ เขาเข้าใจความรู้สึกของเฮลรัชดี เพราะท้ายที่สุดแล้วสุสานดาวนั้นเป็นดันเจี้ยนภูมิภาค โหมดพระเจ้า ที่มีเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อย และมันก็อันตรายกว่าโลกภายนอกมาก

มหาอำนาจต่างๆในชีวิตที่ผ่านมาของเขานั้นต้องเจอกับความสูญเสียอย่างรุนแรง ในตอนที่เริ่มต้นการสำรวจสุสานดาว และหลังจากนั้นพวกเขาจึงได้เริ่มจัดตั้งทีมผู้เล่นขั้นสาม ห้าร้อยคนเป็นอย่างน้อยเพื่อเข้าไปสำรวจที่นี่

โชคดีที่กองกำลังนรกในปัจจุบันนั้นมีจำนวนและความแข็งแกร่งมากเพียงพอตามวัตถุประสงค์ของเขา เป้าหมายของเขาไม่ใช้การสำรวจสุสานดาวทั้งหมด เพียงแค่ต้องการจะได้รับดาวแห่งแสงเท่านั้น

ดาวแห่งแสงนั้นมันจะสุ่มดรอปในสุสานดาว ซึ่งมันแปลว่า แม้แต่มอนสเตอร์ที่อ่อนแอที่สุดในสุสานดาวก็ยังมีโอกาสจะดรอป ดังนั้นการโจมตีบอสในดันเจี้ยนจึงไม่จำเป็นเลย

มันมีทีมนักผจญภัยสามทีมในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิงที่ได้รับดาวแห่งแสงไป และพื้นที่ที่มันดรอปมาให้พวกเขานั้นก็ล้วนอยู่ในพื้นที่ชั้นนอกทั้งหมด

ทีมนักผจญภัยเหล่านั้นเพียงต้องการเข้ามาล่าและเก็บรวบรวมคริสตัลเวทย์มนต์ แต่พวกเขากับได้รับดาวแห่งแสงมาแทน และกลายเป็นคนรวยในชั่วข้ามคืน

เนื่องจากยังไม่มีใครเข้าไปสำรวจสุสานดาวอย่างเป็นกิจจะลักษณะ เมื่อพวกเขาเข้าไปตอนนี้ พวกเขาจึงควรจะมีโอกาสได้รับดาวแห่งแสงอย่างน้อยหนึ่งดวงมา

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้ทำการเซ็นสัญญากับเฮลรัช โดยระบุว่าสมาชิกของจักรวรรดิโลกใต้พิภพทุกคนจะได้รับส่วนลดสี่สิบเปอเซ็นต์สำหรับค่าใช้จ่ายพื้นฐานของป้อมปราการแสงดาว นอกจากนี้มันยังจะมีห้องฝึกมานาแปดห้องที่ถูกสงวนไว้สำหรับจักรวรรดิโลกใต้พิภพโดยเฉพาะ โดยค่าใช้จ่ายในการใช้ห้องฝึกมานานั้นจะคิดเป็นคริสตัลเวทย์มนต์สามร้อยชิ้นต่อชั่วโมง

ในการแลกเปลี่ยน ซือเฟิงจะเข้าไปเป็นผู้บัญชาการชั่วคราวของกองกำลังนรก เมื่อพวกเขาเข้าไปในสุสานดาว และสิ่งนี้จะยังคงมีผลจนกว่าซือเฟิงจะทำงานของเขาสำเร็จหรือทีมประสบปัญหาเกินกว่าจะรับมือได้ นอกจากนี้จักรวรรดิโลกใต้พิภพยังจะส่งคนของตัวเองเข้ามาปกป้องป้อมปราการช่วยสภาสิบแปดปีก และเผ่าศักสิทธิ์ด้วย

เมื่อพวกเขาได้เซ็นสัญญากันเรียบร้อยแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างสภาสิบแปดปีกและจักรวรรดิโลกใต้พิภพนั้นก็กลายเป็นดั่งหินผา หลังจากนั้นไม่นานข่าวเรื่องการเป็นหุ้นส่วนของพวกเขาก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วราวกับโรคระบาด และมันก็ไปถึงหูของมหาอำนาจต่างๆในทวีปด้านตะวันตกอย่างรวดเร็ว

โดยสิ่งนี้นั้นจุดชนวนความปั่นป่วนในหมู่มหาอำนาจต่างๆที่ตั้งใจจะเข้ายึดป้อมปราการแสงดาวอย่างมาก