ตอนที่ 886 หยิบยืมพลัง
สองวันต่อมาหานเซี่ยวเรียกเจ้าหน้าที่ทั้งหมดมาห้องเขาและแจ้งว่าเขากำลังจะไปกาแล็กซี่กลาง
ซิลเวียพยักหน้าและถาม”อาจารย์จะเดินทางนานปค่ไหน?”
“ฉันต้องไปตกลงกับจักรวรรดิเราจะลงมือหลังพวกเขารวมกำลังคนได้มากพอ”
“งั้นเรื่องของกองัทพจะถูกจัดการโดยฉัน อาจารย์ไม่ต้องกังวล”ซิลเวียกล่าว
ข้างๆฮีล่ากล่าว”ฉันมีของที่ต้องเก็บ เราจะออกเดินทางตอนไหน?”
หานเซี่ยวส่ายหัว
“เธอไม่ต้องไปครั้งนี้ฉันจะไม่พาองครักษ์แบล็คสตาร์ไปด้วย”
ฮีล่าหยุดนิ่งและถาม”ทำไม?”
“เพราะฉันจะสู้กับเทพเอสและพวกเธอคงช่วยไม่ได้ มันดีกว่าที่จะอยู่กันในวงแหวนดาวกระจาย”หานเซี่ยวกล่าว
สมาชิกองครักษ์แบล็คสตาร์ล้วนเป็นภัยพิบัติและความรับผิดชอบหลักก็คือจัดการกับศัตรูที่ไม่ต้องให้เขาลงมือเอง ไม่จำเป็นต้องพาพวกเขาไปจัดการกับเทพเอสด้วย พวกเขาจะเป็นแค่ภาระ หานเซี่ยวตัดสินใจไปคนเดียว
“..ก็ได้”ฮีล่าไม่พอใจและเดินออกห้องไป
เธอดูเหมือนจะมีไฟอีกครั้ง
หานเซี่ยวหัวเราะในใจนี่เป็นเรื่องดี ฮีล่าไม่ใช่คนบ้าอย่างที่เคยเป็นในชีวิตก่อนหน้าเขา มันดีที่จะให้แรงจูงใจกับเธอ
“พี่สาวจะผ่านการฝึกแสนโหดร้ายอีกครั้ง”จากนั้นออโรร่าก็มองหานเซี่ยวและกล่าวด้วยความกังวล”จะเป็นอันตรายไหมหากลุงหานไปคนเดียว?”
“ฉันไม่พาองครักษ์แบล็คสตาร์ไปด้วยแต่ฉันไม่ได้บอกว่าจะไปคนเดียว”
ขณะกล่าวเขาก็หันไปหาเรย์โนล
“หืม?ฉัน?”เรย์โนลชี้ตัวเขาเอง
“ถูกต้องนาย”
“แต่ฉันยังต้องจัดการโลจิส..”เรย์โนลไม่เข้าใจว่าทำไมหานเซี่ยวถึงอยากพาเขาไปด้วย
“ไม่เบื่อบ้างหรือไง?ตามฉันไปดีกว่าใช่แล้ว ใครเป็นรองผู้นำวยการฝ่ายโลจิส?”
“ช่างกลภัยพิบัติที่เข้าร่วมหลายปีก่อนค่ะนี่คือประวัติเขา”ซิลเวียนำข้อมูลออกมา
กองทัพพัฒนาอย่างรวดเร็วและหานเซี่ยวก็มีผู้เชี่ยวชาญมากมายภายใต้เขา มีภัยพิบัติมากขึ้นมาทำงานให้เขาและจำนวนภัยพิบัติที่เขามีก็มากกว่าอารยธรรมระบบดาว นอกจากองครักษ์แบล็คสตาร์ในวงแหวนดาวกะจาย ภัยพิบัติอื่นก็มีอยู่ทั่วทุกแผนกและมีตำแหน่งสูง
มีภัยพิบัติที่มาจากภายนอกมากกว่าเช่นเฮดาวี่ ลากี และอื่นๆ ส่วนภัยพิบัติที่ได้รับการฝึกโดยกองทัพอย่างเฮอลัส ซิลเวียและเรย์โนลจะมีน้อยกว่า
จากนั้นหานเซี่ยวก็ดูประวัติและถาม”มีบันทึกการรับสินบนหรือการขายพิมพ์เขียวกองทัพหรือการทุจริตไหม?”
“ไม่ค่ะฉันจะรายงานให้อาจารย์รู้ทันทีหากเขาทำแบบนั้น…”ซิลเวียหลั่งเหงื่อเย็น
อาจารย์คือช่างกลเสมือนระดับผู้อยู่เหนือและอาจรู้ขนาดชุดชั้นในฉันด้วยจะมีอะไรเล็ดรอดสายตาอาจารย์ได้บ้าง?
“งั้นเรื่องฝ่ายโลจิสก็จะส่งมอบให้เขาดูแลชั่วคราว”จากนั้นหานเซี่ยวก็หันไปมองเรย์โนล”เนโร่ยังเด็กและเขาก็ใช้เวลาเรียนทุกวันฉันวางแผนพาเขาไปเยือนดาววงแหวนคริมสันด้วย แน่นอน การมีวันหยุดเป็นอีกเรื่อง แต่การเรียนเขาไม่อาจหยุดได้”
จากนั้นเรย์โนลก็เข้าใจแบล็คสตาร์อยากพาเนโร่ออกไปพักผ่อน แต่ก็ไม่อยากให้ลูกบุญธรรมเขาผ่อนคลายเกินไป ดังนั้น เขาจึงถูกนำไปในฐานะอาจารย์
ซิลเวียพลันรู้สึกปวดใจ
ฉันเองก็เป็นลูกศิษย์ของท่านแบล็คสตาร์!ทำไมอาจารย์เราถึงเอนเอียงไปทางเรย์โนล?ฉันก็สามารถเป็นอาจารย์ของเนโร่ได้!
ฉันเองก็ต้องการวันหยุด!
“ไม่ต้องห่วงทุกคนจะอยู่บนดาววงแหวนคริมสันตอนฉันสู้กับเทพเอส ไม่ต้องตามมา จะไม่มีอันตรายอะไร”จากนั้นหานเซี่ยวก็มองเฟย์ดิน”นายก็ไปด้วย”
“ได้”เฟย์ดินยิ้ม”เนโร่ควรมีความสุขมาก”
ฉันไม่รู้ว่าเขาจะมีความสุขไหมแต่ฉันมี..
หานเซี่ยวหัวเราะกับตัวเอง
หานเซี่ยวนำเฟย์ดินและเนโร่ไปเพราะเขาเชื่อในโชคเหนือสิ่งอื่นใด มันยากสำหรับเขาที่จะจัดการกับเทพเอส และการนำทั้งสองไปด้วยก็จะเพิ่มโอกาสสำเร็จ
ด้วยตัวละครนำโชคทั้งสองมันย่อมดีกว่า
จากนั้นหานเซี่ยวก็กำเนิดเวลาเดินทางในอีกสองชั่วโมง
ทุกคนออกห้องและเฮดาวี่ก็ลากลากีที่งัวเงียออกห้องไปราวกับกำลังลากถุงขยะ
หลังจบการประชุมเรย์โนลก็กลับไปฝ่ายโลจิสทันทีเพื่อออกคำสั่งก่อนกลับไปห้องทำงานเขาและเปิดประตูด้านข้าง
เนโร่กำลังทำการบ้านในห้องนี้
หลังดื่มยาเลือดมังกรเขาก็ไม่รู้สึกง่วงเลย ดังนั้นเขาจึงทำท่างีบหลับเหมือนที่เคยทำบนดาวอความารีนเพื่อพยายามนอน
หลังตรวจสอบการบ้านของเนโร่รอยยิ้มพอใจก็ปรากฏบนหน้าเรย์โนล ตอนแรก เขาแค่สอนเนโร่เพราะมันคือคำสั่งของหานเซี่ยว แต่ระหว่างการสอน เขาก็มองเนโร่เป็นศิษย์เขาไปแล้ว
แม้เนโร่จะไม่ชอบเครื่องจักรแบบเขาเขาก็สามารถทนความยากลำบากได้ เนโร่มีความแข็งแกร่งในสิ่งที่เขาไม่มีทางมี ต่อให้ปริมาณงานที่เขามอบให้จะน่าหดหู่ เนโร่ก็ยังทำมันเสร็จได้ เรย์โนลชอบศิษย์เช่นนี้มาก
เหนือสิ่งอื่นใดสายช่างกลแตกต่างจากสายอื่น ความรู้คือพลัง ยิ่งรากฐานดี อนาคตก็ยิ่งราบรื่น ดังนั้น เรย์โนลจึงรู้สึกว่าเนโร่ต้องไปได้ไกลแน่
แม้จะด้วยความคิดเช่นนั้นในหัวใจเรย์โนลก็ย่อมไม่พูดด้วยนิสัยเขา จากนั้นเขาก็กระแอมแห้งและกล่าว”หยุดทำงานและเก็บของได้แล้ว ผู้บัญชาการกองทัพอยากพาเธอไปกาแล็กซี่กลาง”
ดวงตาของเนโร่เป็นประกายด้วยความตื่นเต้น
“พ่อบุญธรรมจะพาผมออกไปเล่น!ฮ่าๆๆๆ…ในที่สุดก็ไม่ต้องทำการบ้านแล้ว!”
จากนั้นเนโร่ก็โยนปากกาทิ้งและตื่นเต้นจนเกือบร้องไห้
พ่อบุญธรรมยังโอ๋ฉัน!
ความขุ่นเคืองเล็กน้อยในหัวใจเขาหายไปและเขาก็แทบอยากกระโดดหาพ่อบุญธรรมเขา
“เก็บของเร็วเราจะออกเดินทางในไม่ช้า”
การกระทำของเนโร่หยุดชะงักและเขาก็หันมาช้าๆ”รอเดี๋ยว..เราหรอ?”
“ผู้บัญชาการกองทัพอยากให้ฉันตามไปด้วยเพื่อคอยสอนเธอ”เรย์โนลกล่าวอย่างไร้อารมณ์
ใบหน้าของเนโร่พลันเปลี่ยนไป
…
จากนั้นหานเซี่ยวและคนอื่นก็มารวมถึงที่ท่าจอดส่วนตัวเฟย์ดินคือคนแรกที่มาถึง และพวกเขาก็คุยกันสักพักก่อนเรย์โนลและเนโร่จะมา
เนโร่แบกกระเป๋าใบเล็กด้วยใบหน้าท้อแท้
“ทุกคนมากันแล้วไปกัน”
หานเซี่ยวนำทุกคนขึ้นยานและให้ฟิลลิปบังคับยานอัตโนมัติ
จากนั้นยานอวกาศก็บินไปในอวกาศและเข้าไฮเปอร์ไดรฟ์
เขาไปกาแล็กซี่กลางมาแล้วและคุ้นเคยกับการเดินทาง
หลังบินอยู่สักพักพวกเขาก็มาถึงประตูดาวกองทัพและข้ามผ่านทุ่งดาวมากมายเพื่อมาถึงระบบดาววงแหวนคริมสัน ภายใต้การนำของกองทัพ พวกเขาผ่านวงแหวนผนึกไซโอนิคและมาถึงดาววงแหวนคริมสัน
“นี่คือเมืองหลวงของจักรวรรดิคริมสัน…”เรย์โนลมองโครงสร้างจักรกลรอบเขาและพึมพำ
“ยิ่งใหญ่มาก”เนโร่มองออกนอกหน้าต่างนี่เหนือกว่าดาวบ้านเกิดเขา ดาวอความารีนไปมาก
เมื่อยานลงจอดก็มีฑูตจักรวรรดิรอพวกเขาที่ท่า โค้งคำนับหานเซี่ยวอย่างเคารพและพาทั้งกลุ่มไปวัง
นี่คือเมืองหลวงในตำนานของอารยธรรมจักรวาลเนโร่อยากรู้ทุกอย่างและหากไม่ใช่เพราะพ่อบุญธรรมเขา เขาคงไม่มีทางด้มาเยือนสถานที่แห่งนี้
จากนั้นฑูตก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม”ท่านแบล็คสตาร์เราจะรับผิดชอบทุกความต้องการของท่าน โปรดเรียกหาผมหากท่านต้องการอะไร”
“อืมงั้นทำไมไม่พาพวกเขาไปสำรวจวังนี้ละ?ดาวแม่ของจักรวรรดิใหญ่มาก ช่วยหาสถานที่สนุกๆให้พวกเขาหน่อย”หานเซี่ยวกล่าว
“พ่อบุญธรรมจะไม่มากับเรางั้นหรอครับ?”
“ฉันมีเรื่องอื่นต้องทำและต้องไปพบกับผู้ปกครอง”
หานเซี่ยวโบกมือและตรงไปอาคารกลางที่เออแรนเรลอยู่เขาได้รายงานการมาของเขาแล้วและเออแรนเรลกำลังรอพบเขา
หานเซี่ยวมาถึงนอกห้องทำงานของผู้ปกครองอย่างรวดเร็ว
เลขาเคาะประตูและเสียงของเออแรนเรลก็ดังจากด้านใน
“เชิญ”
ประตูเปิดและหานเซี่ยวก็เดินเข้าไป
นี่คิครั้งสองที่เขาได้พบผู้ปกครองและเหมือนกับครั้งแรก มีสองคนในห้อง
“แบล็คสตาร์เชิญนั่ง”เออแรนเรลกล่าว
หานเซี่ยวพยักหน้าและเมื่อเขานั่ง เออแรนเรลถึงพูดต่อ
“คุณทำผลงานไว้มากบนดาวประภาคารทำได้ดีมาก”novel-lucky
เออแรนเรลชมเขาแล้วผ่านการสื่อสารทางไกลก่อนหน้านี้และยังให้คำชมเป็นการส่วนตัวตอนพบหน้ากันอีก
“ก็แค่เรื่องเล็กน้อย”หานเซี่ยวตอบ
“คุณถ่อมตัวไปจักรวรรดิมักให้รางวัลกับคนที่ทำผลงานดี และคุณควรรู้ว่าเราจะเพิ่มการสนับสนุนแก่คุณในแง่ของทรัพยากรและให้ผลประโยชน์คุณตอนแบ่งอาณาเขตในโลกริบหรี่”
จากนั้นเออแรนเรลก็หยุดสักพักก่อนพูด”ฉันสามารถมอบให้คุณล่วงหน้าได้หลังจบการพัฒนาช่วงแรก เราจะตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานในกลุ่มดาวต่างๆและจัดแบ่งอาณาเขตให้องค์กรพันธมิตรเรา คุณสามารถเสนอเรื่องนี้ได้และเราจะพิจารณาข้อเสนอคุณอย่างจริงจัง”
หานเซี่ยวเลิกคิ้วนี่คล้ายกับการปล่อยให้เขาเลือกอาณาเขตก่อน มันอาจไม่ใช่แค่เพราะผลงานเขา แต่ยังเป็นเชือกรั้งเขาไว้
การพัฒนาทุ่งดาวใหม่เป็นแผนระยะยาวและจักรวรรดิก็ไม่กระวนกระวาย หลังการสำรวจจะเป็นการพัฒนา พวกเขาต้องพัฒนาเขตต่างๆที่พวกเขาสำรวจก่อนขยายไปในกลุ่มดาวอื่น ตอนนั้น พันธมิตรต่างๆย่อมได้รับอาณาเขต
นี่ดีต่อหานเซี่ยวเขาสามารถได้รับอาณาเขตหลังช่วงแรกจบและสามารถพัฒนาอารยธรรมสิ่งมีชีวิตจักรกลเขาได้อย่างเป็นทางการและย้ายเผ่าแบล็คสปิริตไปที่นั่น
เขามีอิสระมากกว่าในอาณาเขตเขาเมื่อเทียบกับวงแหวนดาวกระจายและไม่ต้องแบ่งปันอะไรกับอารยธรรมระบบดาวอื่น
“ผมกำลังตั้งตารออยู่เลย”หานเซี่ยวยิ้ม
“อืมมาพูดเรื่องที่เหมาะสมบ้าง จักรวรรดิได้เชิญคุณมาครั้งนี้ด้วยเรื่องสองเรื่อง หนึ่ง จักรวรรดิรับปากศาสนจักรว่าจะช่วยพวกเขาปลดผนึกหนึ่งในผู้อยู่เหนือของพวกเขาและเราต้องการให้คุณช่วย”
หานเซี่ยวพยักหน้ารับ
“สองคือการล้อมจับเทพเอสมันยังเกี่ยวกับเรื่องแรก ศาสนจักรจะตกลงร่วมด้วยหากคุณปลดผนึกให้พวกเขา”
หานเซี่ยวตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเรื่องนี้
ศาสนจักรยังถูกลากเข้ามาด้วย?
เขาไม่ได้รับข่าวนี้ล่วงหน้าและประหลาดใจเล็กน้อย
“มันไม่ใช่แค่สหพันธ์แห่งแสง?ศาสนจักรก็…”
“นี่คือเจตนาฉันในเมื่อคุณดึงสหพันธ์แห่งแสงเข้ามา ฉันจึงเรียกศาสนจักรมาด้วยและพวกเขาก็ยินดีช่วยเรา”
นี่นับว่าไม่คาดคิดด้วยศาสนจักรที่เพิ่มเข้ามา มันจึงเป็นการร่วมมือของสามอารยธรรมจักรวาล พวกเขามีโอกาสกำจัด
เทพเอสสูงขึ้น!
หานเซี่ยวแสร้งทำเป็นไตร่ตรองสักพักก่อนตอบด้วยรอยยิ้ม”เดิมเราเป็นพวกเดียวที่เกี่ยวข้องแต่ด้วยสามอารยธรรมจักรวาลที่ร่วมมือกัน เราสามารถเพิ่มโอกาสได้มาก”
“นี่ไม่ใช่เหตุผลเดียวมันยังเป็นเพราะคุณ”
“ผม?”
“ใช่จักรวรรดิสามารถรับรู้ได้ถึงจิตสังหารที่คุณมีต่อเทพเอสและเราก็เลือกเติมเต็มความปราถนาคุณ”
หานเซี่ยวดีใจมาก
นี่หมายความว่าคำแนะนำเขามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ!
“คุณคือพันธมิตรคนสำคัญของเราและเราจะเคารพความคิดคุณ”เออแรนเรลหยุดก่อนพูดต่อ”เราควรจบการสนทนาไว้แค่นี้ ฉันยังมีเรื่องต้องจัดการ และกองยานศาสนจักรก็ยังมาไม่ถึง คุณควรอยู่บนดาวนี้ไปสักพักและเราจะแจ้งคุณถึงเวลาปฏิบัติการที่แน่ชัด”
“ตกลง”
หานเซี่ยวสามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายเชิญเขาออกไป
ดูเหมือนผู้ปกครองจักรวรรดิจะยุ่งจริงๆ
จากนั้นหานเซี่ยวก็ลุกเดินออกไป
เมื่อได้ยินประตูด้านหลังเขาปิดหานเซี่ยวก็ถอนหายใจโล่งอกและตื่นเต้น
เดิมจักรวรรดิแค่วางแผนสร้างหน้าเพื่อจัดการกับเทพเอสแต่เขากลับทำให้สามอารยธรรมจักรวาลร่วมมือกัน!
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะคำแนะนำเขาและผลลัพธ์ก็ดีกว่าที่เขาคิด!
ข้อเสนอกำจัดเทพเอสได้รับการยอมรับโดยจักรวรรดิและเป็นผลมาจากสินทรัพย์ทางการเมือง
อิทธิพลที่เขาสั่งสมมาหลายปีบรรลุผลแล้ว!
“มันถึงเวลาเอาคืนแล้ว”หานเซี่ยวหรี่ตา