Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 526 หนีไม่พ้น
ตระกูลหลี่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และตระกูลเกือบจะล่มสลาย
หากเย่เซิ่งเทียนมาไม่ทัน เกรงตระกูลหลี่จะถูกทำลายไปแล้ว
และขณะนี้ หลังจากไอ้อู๋ออกไปจากตระกูลหลี่แล้ว เขาก็ไปที่คฤหาสน์แห่งหนึ่ง หลังจากถอดหน้ากากหนังมนุษย์ออกแล้ว เขากลายเป็นผู้หญิงวัยสี่สิบกว่า ตามที่หัวเวิ่นยีกล่าว
“คุณหนู ฉันทำงานล้มเหลวแล้ว เพราะเย่เซิ่งเทียนปรากฏตัวออกมาในวินาทีสุดท้าย”
ไอ้อู๋กล่าวด้วยความเสียใจ
คนที่เธอเรียกว่าคุณหนูคือเหย้ซูหลิง ซึ่งเพื่อนนักเรียนสมัยมัธยมปลายของเย่เซิ่งเทียน
เหย้ซูหลิงสวมเสื้อหนังและกางเกงขายาว กล่าวด้วยความไม่แยแสว่า “ล้มเหลวก็ล้มเหลว มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ดูเหมือนว่าเย่เซิ่งเทียนจะมีความสามารถไม่น้อย หลัวฉางลี่ตายแล้วใช่ไหม?”
“ถูกต้อง เขาไม่สามารถรับได้แม้แต่กระบวนท่าเดียวของเย่เซิ่งเทียนด้วยซ้ำ”
ไอ้อู๋กล่าวด้วยความไม่เต็มใจ “ถ้าเย่เซิ่งเทียนไม่ปรากฏตัวในนาทีสุดท้าย ตอนนี้ตระกูลหลี่ก็กลายเป็นของพวกเราแล้ว ส่วนหลัวฉางลี่ถูกพิษของฉันแล้ว”
เหย้ซูหลิงกล่าวด้วยความตื่นเต้น “พวกเราไม่ขาดทุน ถือว่าพวกเราได้กำไร ฝ่ายเหย้อวิ๋นฉางสูญเสียราชาบู๊ไปหนึ่งคน ซึ่งเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเรา ส่วนเย่เซิ่งเทียน ฉันมีเวลาเล่นกับเขา เพื่อนนักเรียนเก่าคนนี้ปกปิดได้เนียนจริง ๆ ไม่เสียแรงที่เป็นคู่หมั้นของฉันเหย้ซูหลิง”
ไอ้อู๋กล่าวด้วยความแปลกใจ “คุณหนู ตอนนี้เย่เซิ่งเทียนมีภรรยาและลูกแล้ว ทำไมคุณถึงยังสนใจเขาอยู่อีกล่ะ? ด้วยสถานะของคุณหนู ชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์แบบไหนที่หาไม่ได้? สัญญาการแต่งงานไม่มีผลผูกมัดกับคุณแล้ว”
เหย้ซูหลิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เธอไม่รู้อะไร เย่เซิ่งเทียนมีสายเลือดประหลาด แล้วยังเป็นลูกชายของผู้หญิงคนนั้นอีกด้วย ผู้หญิงคนนั้นเป็นสมาชิกของตระกูลนั้น เมื่อสามสิบปีที่แล้ว พวกเราได้ทำสัญญาการหมั้นกับตระกูลนั้น จนถึงรุ่นของฉันถึงจะสามารถทำให้มันกลายเป็นความจริงได้ ฉันแค่อยากจะรู้ว่าสายเลือดของตระกูลนั้นแข็งแกร่งเพียงใด ถ้าเขาสามารถบรรลุมาตรฐานของฉันได้จริง ๆ ฮ่า ๆ เขามีภรรยาและลูกแล้วไงล่ะ? ฆ่าตายก็สิ้นเรื่อง?”
เหย้ซูหลิงยิ้มด้วยความชั่วร้าย
เมื่อเผชิญหน้าคุณหนูที่ฉลาดและมีไหวพริบ ไอ้อู๋ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับตระกูลนี้ คุณหนูยอมลดสถานะของตนเอง ไปเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับเย่เซิ่งเทียนเป็นเวลาสามปี
ไม่รู้ว่าคุณหนูคิดอะไรอยู่
ถึงแม้ว่าตระกูลนั้นจะแข็งแกร่งมาก แต่นั่นเป็นเพียงอดีตเท่านั้น
ตอนนั้นตระกูลนั้นถูกทำลายไปแล้ว หมิงยู่แม่ของเย่เซิ่งเทียนเป็นลูกที่เกิดหลังพ่อเสียชีวิตไปแล้ว
น่าเสียดายที่น้อยคนจะรู้ความลับนี้ แม้แต่ตระกูลหมิงที่รับเลี้ยงหมิงยู่ก็ยังไม่รู้สถานะของหมิงยู่
เหย้ซูหลิงกล่าวกับตนเอง “เย่เซิ่งเทียนผ่านการทดสอบด่านแรกของฉันแล้ว นึกไม่ถึงว่าเขาจะสามารถมีชีวิตอยู่รอดในเมืองเฉียนถังที่สถานการณ์ซับซ้อนได้ แล้วเขาไปสร้างความโกลาหลวุ่นวายที่ตระกูลเย่อีก และช่วยตระกูลหลี่ มันเกินความคาดหมายของฉัน ถือว่าเขาผ่านการทดสอบด่านแรกแล้ว”
ไอ้อู๋ได้ยินแล้วรู้สึกอกสั่นขวัญหาย คุณหนูพูดประโยคเหล่านี้ด้วยความผ่อนคลาย แต่สำหรับเย่เซิ่งเทียนและหวางซีที่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว กล่าวได้ว่าอันตรายทุกย่างก้าว
ใครจะคิดว่าคุณหนูเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังสถานการณ์ทั้งหมดนี้?
รวมถึงเรื่องระหว่างหมิงยู่และเย่ห้าวในตอนนั้น ตอนที่หมิงยู่พาเย่เซิ่งเทียนเดินทางไกลเพื่อไปตระกูลเย่ และพวกเขาเกือบจะเสียชีวิตอยู่ข้างถนน ตอนหลังหมิงยู่ถูกคนของตระกูลหมิงฆ่าตาย ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ถูกวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
เท่าที่ไอ้อู๋รู้ ตอนนั้นหมิงยู่ควรจะทำตามสัญญา โดยการแต่งงานกับพ่อของคุณหนู แต่ตอนหลังคุณนายสร้างสถานการณ์ โดยให้เย่ห้าวหลอกลวงความรู้สึกของหมิงยู่ จึงทำได้เพียงยกเลิกสัญญาการแต่งงานเท่านั้น
ตอนนี้ถึงคราวที่คุณหนูจะปฏิบัติตามสัญญาการแต่งงานแล้ว
แน่นอนว่าตระกูลของหมิงยู่ถูกทำลายล้างไปนานแล้ว ตระกูลลึกลับเก่าแกอย่างตระกูลเหย้ จะปฏิบัติตามสัญญาแต่งงานได้อย่างไร?
แต่สัญญาแต่งงานนี้ไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลเหย้สามารถต่อต้านได้ มีหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวข้องกัน และวิธีเดียวที่จะทำให้สัญญาการแต่งงานนี้กลายเป็นโมฆะ ก็คือถ้าสมาชิกของตระกูลนั้นตายไปทั้งหมด!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ไอ้อู๋ก็อดไม่ได้ที่จะขนพองสยองเกล้า และไม่กล้าคิดต่อไป
สิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลหลี่เป็นเพียงเกมเท่านั้น
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเมืองเฉียนถัง ตระกูลเย่ ตระกูลหลี่ ดูเหมือนทุกอย่างนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง แต่มีมือที่มองไม่เห็นบงการอยู่เบื้องหลัง
ไอ้อู๋ถามตนเองว่าถ้าเธอเป็นเย่เซิ่งเทียน เธอคงไม่สามารถมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ได้!
เพียงแต่เย่เซิ่งเทียนและคนอื่น ๆ ที่อยู่ในเกม พวกเขาไม่รู้ว่าวิกฤตทั้งหมดที่พวกเขาเผชิญคือเกมของผู้อื่น