บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 777

เมเดลีนไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่เธอเป็นคนที่เริ่มจูบผู้ชายคนนี้ก่อน

แต่เธอห้ามความรู้สึกของตัวเองไม่ได้เลย

เหมือนกันกับเจเรมี่

แม้ว่าเสียงภายในใจจะโต้แย้งอยู่ตลอดว่าเขาไม่รู้จักหรือรักผู้หญิงคนนี้ แต่ร่างกายของเขากลับต้องการอยู่ใกล้เธอ เขาต้องการครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ

ไฟในห้องดับลง เหลือเพียงแสงจันทร์พร่ามัวที่สาดส่องเข้ามา

หิมะที่ตกอยู่นอกหน้าต่างทำให้อากาศเย็นยะเยือก แต่หัวใจของเมเดลีนและเจเรมี่กลับร้อนแรง

ท่าทีที่อ่อนโยนของเขาในตอนนี้ ได้เตือนเธอถึงพฤติกรรมป่าเถื่อนของเขาในเวลานั้น

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยหวงแหนเธอมากถึงขนาดนี้

เจเรมี่กำลังจูบเมเดลีน แต่จู่ ๆ เขาก็รับรู้ได้ถึงรสเค็มของน้ำที่ไหลออกมาจากหางตาของเธอ

“คุณเป็นอะไร?” เสียงทุ้มต่ำของเขาเล็ดลอดเข้ามาในหูของเธอ

เมเดลีนลืมตาขึ้น สบสายตาเข้ากับแววตาแสนอ่อนโยนของชายคนนั้นในความมืด

“เจเรมี่ คุณต้องรีบหายนะ”

เจเรมี่ถึงกับอึ้ง เขาเลิกคิ้วและจูบหน้าผากของเมเดลีนเบา ๆ “ครับ”

เขาสัญญาและกระชับแขนที่รั้งเธอไว้

เมเดลีนขยับเข้าใกล้กับเขาในอ้อมแขนและไม่ขัดขืนอีกต่อไป

การอยู่ในอ้อมกอดของเขาในตอนนี้ ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยมาก

เจเรมี่อยากที่จะสานต่อสิ่งที่เขาเคยทำกับเมเดลีนต่อไป แต่เมื่อเห็นคนที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของเขากำลังง่วงงุน เขาทำได้เพียงยับยั้งชั่งใจและกอดเธอไว้ เพื่อให้เธอหลับไป…

ในอีกด้านหนึ่ง เฟลิเป้เดินทางกลับบ้านพักไปด้วยอารมณ์โมโห เขาสั่งให้คนของเขาไปตามหาเมเรดิธที่ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้

เขาทนไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นในงานแต่งงานก่อนหน้านี้

เคธี่ยืนอยู่ที่ทางเข้าของห้องทำงาน เธอลังเลที่จะเข้าไปเมื่อเห็นเฟลิเป้กำลังอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก

เธอสัมผัสหน้าท้องส่วนล่างของเธอโดยไม่รู้ตัว และนึกถึงตอนที่เฟลิเป้ผลักเธอ จนทำให้ท้องของเธอกระแทกเข้ากับมุมโต๊ะและเสียลูกไป

ตอนนี้เขากำลังโกรธ ถ้าเธอเข้าไป มันเหมือนกันว่าเธอเข้าไปหาเรื่องตายรึเปล่า?

แต่เธอไม่สามารถทนเห็นเขาเป็นแบบนี้ได้

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เคธี่ก็ตัดสินใจเดินเข้าไป

ดูเหมือนว่าเฟลิเป้จะสังเกตเห็นเธอแล้ว

เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ ดวงตาสีดำที่เย็นชาของเขาจ้องเขม็งไปที่ใบหน้าของเคธี่

“เฟลิเป้ มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?” เคธี่ถามอย่างระมัดระวัง

เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนหน้านี้แผนของเขาก็ดูดำเนินไปได้อย่างราบรื่น แต่ตอนนี้เขากลับดูโกรธมากหลังจากกลับมาจากงาน

“มานี่สิ” เสียงโทนต่ำของเขา ราวกับมีเวทมนตร์ที่ทำให้เคธี่ขยับตัวเข้าไปใกล้เขา

“เฟลิเป้…”

“วันนั้นที่เธอสะกดจิตเจเรมี่ เธอได้ทำมันอย่างเต็มที่รึเปล่า หรือเธอไม่ได้สะกดจิตเขาทั้งหมด?”

เคธี่อึ้งไปครู่หนึ่ง “ไม่นะคะ คุณถามทำไม?”

“ถ้าเธอครอบงำจิตเขาทั้งหมด แสดงว่าความสามารถในการสะกดจิตของเธอลดลงเหรอ? ถ้าเธอยังรับมือเรื่องแค่นี้ไม่ได้ จะมีประโยชน์อะไรที่จะให้เธออยู่เคียงข้างฉันล่ะ?” เฟลิเป้เหลือบมองเธออย่างเย็นชา

หัวใจของเคธี่ราวกับหยุดเต้น เธอรีบก้าวไปข้างหน้าและคว้าแขนของเขาเอาไว้ “ไม่นะ ได้โปรด อย่าไล่ฉันไปเลยนะคะ”

เฟลิเป้หลุบตาลงมองดูมือที่กำลังเกาะเกี่ยวของเคธี่ เธอรีบปล่อยมือที่จับแขนของเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว ความเครียดของเธอทวีความรุนแรงขึ้น

เธอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะแตะต้องเขาโดยที่เขาไม่ได้อนุญาต

แต่ตราบใดที่เขาชอบ เขาก็สามารถเล่นกับเธอได้ตลอด

นี่อาจเป็นความแตกต่างระหว่างการรักและการถูกรัก

การรักและการถูกรักไม่เคยเท่าเทียมกัน

เมื่อเห็นดวงตาของเคธี่แดงก่ำ เฟลิเป้ก็รู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นในทันที ทันใดนั้นเขาก็เอื้อมมือออกไปและบีบคางของเธอ “อย่าร้องไห้”

เขาดุเธอด้วยน้ำเสียงเชิงออกคำสั่ง

“ถ้าเธอกล้าร้องไห้ออกมา ฉันจะไล่เธอออกไปทันที”