ตอนที่ 663 พูดจาส่งเดช
อนุรองตกใจจนใบหน้าขาวซีด ในที่สุดก็ทนฟังไม่ได้ จึงเอ่ยขัดคำพูดของนาง
“คุณหนูรอง จะพูดจาอะไรก็ควรจะนึกถึงใจผู้อื่นเสียบ้าง ทำไมจึงพูดจาส่งเดชเช่นนี้ หากท่านไม่พอใจการกระทำของข้า ข้าน้อยจะได้แก้ ที่กล่าวหาว่าข้าทำร้ายพระชายานั้นเป็นเรื่องเล็กๆ อย่างนั้นหรือ อย่างไรข้าก็ไม่อาจทำเรื่องเช่นนี้ได้แน่!”
“ในเมื่อไม่ได้ทำ แล้วอนุรอง เจ้าจะตื่นตกใจไปทำไมกัน” อวี้ว่าพลางอมยิ้ม
“ก็เพราะ… เพราะท่านใส่ร้ายป้ายสีข้า จะให้ข้านิ่งอยู่ได้อย่างไร?” อนุรองชะงักไปในทันที จากนั้นก็เถียงนางขึ้นมาด้วยคอแข็งเกร็ง ทางด้านหนึ่งก็กุมท้องเอาไว้ ร่างทั้งร่างสั่นไหว โชคดีที่ยังมีสาวใช้คอยช่วงพยุงเอาไว้ มิเช่นนั้นนางคงล้มไปลงที่พื้นแล้ว
สายตาทั้งคู่หลากหลายความหมาย แล้วจึงกุมชายเสื้อของหลิงอ๋องเอาไว้อย่างน่าสงสาร
“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องเชื่อในหม่อมฉันนะเพคะ หม่อมฉันไม่มีทางทำร้ายพระชายาแน่ คุณหนูรองไม่พอใจในตัวหม่อมฉัน เรื่องนั้นยังพออภัยให้ได้ แต่ที่นางพูดเช่นนี้ขึ้นมา โอย หม่อมฉันเจ็บท้องเหลือเกิน…”
พูดยังไม่ทันจบ นางก็กุมท้องแล้วนิ่วหน้า น้ำเสียงไร้เรี่ยวแรง
เพื่อต้องการให้ผู้อื่นได้ยิน จะได้หลงเชื่อในท่าทีน่าสงสารของนาง จนทำให้ร้อนอกร้อนใจ
“เหตุใดจึงเจ็บท้องขึ้นมาได้ เร็ว รีบไปตามหมอมา!” หลิงอ๋องตกใจและรีบเข้าไปประคองอนุรอง ไม่ลืมที่จะหันไปมองอวี้อาเหราด้วยสายตาโกรธเคือง “เจ้ารู้ดีว่าอนุรองตั้งครรภ์ ยังพูดเช่นนี้คนนางโกรธเคือง เจ้าไม่สนใจเลยใช่หรือไม่ว่าลูกในท้องของนางจะเป็นอย่างไร”
หลังจากหลิงอ๋องพูดจบแล้ว ก็ไม่สนใจอวี้อาเหราอีก เอาเข้ากอดอนุรองพลางปลอบใจ
อวี้อาเหรายืนขึ้น ไม่ยอมพูดเรื่องอะไรออกมาเลย
อวี้จื้อคุกเข่าลงข้างๆ อนุรอง “ท่านแม่ ท่านเป็นอะไรไปหรือ หรือว่ากระเทือนถึงครรภ์หรือขอรับ”
“ไม่…ไม่เป็นไร” ริมฝีปากของอนุรองซีดขาว เพียงชั่ววินาทีก็แก่ลงไปหลายปี
อวี้จื่อเยียนจ้องมองอวี้อาเหรา “เป็นเพราะเจ้า! หากท่านแม่ข้าเป็นอะไรไป เจ้าคอยดูได้เลย!”
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้ หมอจะมาแล้ว” หลิงอ๋องกุมมือของอนุรองแน่น กลัวว่านางจะแท้ง หลังจากได้ยินอวี้จื่อเยียนพูดว่านางโกรธเสียจนแทบจะกระทบต่อครรภ์ พยายามที่จะทำใจให้สงบ ไม่ยอมที่จะพูดถึง
เมื่อเกิดสถานการณ์วุ่นวายขึ้น ทุกคนก็เอาแต่สนใจครรภ์ของอนุรอง ไม่มีใครใส่ใจอวี้อาเหราเลยแม้แต่น้อย
นางก้มหน้าลงมองร่างของอนุรองอย่างเย็นชา คงจะเสแสร้งเป็นแน่ นางไม่เชื่อหรอกว่าพูดเพียงสองสามประโยคแล้วจะกระเทือนถึงครรภ์ เพราะอนุรองนั้นแข็งแกร่งกว่าผู้อื่น ไหนเลยจะเป็นอะไรง่ายๆ มิเช่นนั้นนางคงจะไม่หาโอกาสทำร้ายนางง่ายๆ หรอก
ผ่านไปไม่นาน หมอก็มา หลังจากตรวจชีพจรอนุรองแล้ว ในยามนั้น อนุรองก็สงบนิ่งไปมาก นางก็สลบไปบนเตียงนอน
หลังจากที่ตรวจชีพจรแล้ว อวี้จื่อเยียนก็กุมใบหน้าแล้วเดินเข้ามา “ท่านหมอ ท่านแม่ของข้าเป็นอะไรกันแน่ เด็กในท้องของท่านแม่เป็นอย่างไร ข้าจะบอกเจ้าเอาไว้ หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา เจ้าต้องตามท่านแม่ของข้าไปด้วย!”
“เยียนเอ๋อร์ สงบปากหน่อย” หลิงอ๋องว่าเสียงดุ
อวี้จื่อเยียนยอมถอยหลังไป จากนั้นก็ยืนอยู่ข้างๆ
หมอหันมามองหลิงอ๋อง แล้วเรียนว่า “ทูลท่านอ๋อง เมื่อครู่นี้อนุรองโกรธจึงกระทบต่อครรภ์ โชคดีที่ครรภ์ของนางมีอาการคงที่ ดังนั้นจึงสามารถช่วยได้ทัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ขอเพียงทานยาและพักผ่อนสองสามวันก็หายแล้ว”
“ไม่เป็นอะไรหรือ ดูแน่แล้วใช่หรือไม่” อวี้จื่อเยียนถามแทรกขึ้นมา
ตอนที่ 664 โกรธจนจะตาอยู่แล้ว
“แน่นอนว่าคงไม่เป็นไร หรือเจ้าอยากให้นางเป็นไรกันแน่เล่า?” อวี้อาเหราวางถ้วยชาในมือ ยืนขึ้นจากเก้าอี้ ไม่สนใจว่าอนุรองจะโกรธเสียจนกระทบถึงครรภ์ นางเอาแต่นั่งลงบนเก้าอี้อย่างไม่สนใจอะไร
“เจ้า!” อวี้จื่อเยียนกัดฟัน สายตาโกรธแค้นมองไปยังอวี้อาเหราราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
หลิงอ๋องเห็นท่าทีไม่ทุกข์ไม่ร้อนของอวี้อาเหราแล้วก็ดุขึ้นมาเสียงดัง “เจ้าหยุดอยู่ตรงนั้นเลย พูดจาส่งเดชจนทำให้กระทบกระเทือนถึงครรภ์ของอนุรองยังทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ข้าโกรธเสียจนแทบจะตายอยู่แล้ว!”
“เสด็จพ่อ ท่านยังไม่ได้โมโหจนตายเสียหน่อย ทำไมถึงบอกว่าตัวเองจะตายเสียเล่า” อวี้อาเหราว่าพลางเลิกคิ้วขึ้น
ในยามนั้น หลิงอ๋องก็โกรธเสียจนควันออกหู ไม่เคยมีใครพูดกับเขาเช่นนี้มาก่อน
ตอนนี้นางช่างกล้าหาญมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เห็นอะไรอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
“พี่รอง ท่านพูดน้อยๆ ลงหน่อยเถิด” อวี้จื้อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี ก็พยายามที่จะเอ่ยปลอบ
อวี้จื่อเยียนว่าเสียงสะบัด “เจ้ายังจะมาพูดกับคนเช่นนี้เพื่ออะไร ทำไมถึงยังไม่ไปดูเสด็จแม่อีก?!”
“อ้อ” อวี้จื้อถูกเรียกเข้าไปหา
ดวงตาทั้งสองของอวี้อาเหราแฝงรอยยิ้ม ไม่สนใจอาการโกรธเคืองของหลิงอ๋องเลยแม้แต่น้อย
หลิงอ๋องจ้องมองใบหน้าของนาง ท่าทีของนางเลื่อนลอย ยามที่กำลังจะเอ่ยปากขึ้นพูด อนุรองก็ได้สติขึ้นมากะทันหัน เขาจึงจำต้องกล้ำกลืนคำพูดลงท้อง แล้วเดินไปทางอนุรอง
สีหน้าของอนุรองซีดเผือด ริมฝีปากซีดเผยอขึ้นกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ขอให้ท่านอย่าได้กล่าวโทษคุณหนูรองเลยเพคะ ต้องโทษที่ร่างกายของข้าน้อยไม่ดีเอง ผ่านช่วงต้นของครรภ์ไปแล้วยังปล่อยให้กระเทือนอีก…”
“เรื่องวันนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้าเลย เจ้ารักษาเนื้อรักษาตัวดีๆ เถิด” หลิงอ๋องส่ายหน้า เมื่อประสานสายตาแล้วจึงยิ้ม
สีหน้าของอวี้จื่อเยียนไม่ค่อยยินยอมนัก “เสด็จพ่อ อย่างไรเสียวันนี้ก้องสั่งสอนอาเหราให้ได้นะเพคะ เมื่อครู่นี้นางทำให้ท่านแม่ของข้าเสียใจจนกระเทือนถึงครรภ์ ต่อไปก็คงกล้าที่จะทำเรื่องเช่นวางยาพิษแน่ หากเสด็จพ่อยังเข้าข้างนางเช่นนี้ ก็อย่าตรัสว่าลูกจะไม่พอใจ แม้แต่จื้อเอ๋อร์และบุตรในครรภ์ของท่านแม่ก็ไม่พอใจเช่นเดียวกัน!”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะทำอะไร” หลิงอ๋องช้อนตามองนาง
“แน่นอนว่าต้อง…” เมื่ออวี้จื่อเยียกำลังจะเอ่ยปากพูด อนุรองก็กระแอมอึ้นมา “ท่านอ๋อง ไม่จำเป็นต้องโทษคุณหนูรองเลย มิเช่นนั้นคนคงพูดกันว่ารังแกลูกไม่มีแม่…”
บอกว่าจะไม่โทษ แต่ทุกประโยคนั้นก็เหมือนกำลังกดอวี้อาเหราให้ต่ำลง
ท่าทีของอวี้อาเหรานิ่งสงบ เพราะกำลังชื่นชมการแสดงของอนุรอง นางอยากจะทำอะไร ไม่ใช่ว่านางจะไม่รู้ เมื่ออยู่ตรงหน้าทุกคน นางก็เหมือนนักแสดงชั้นดี ไม่มีใครมองออก ไม่ใช่ว่าไม่รู้ แต่นางรู้สึกว่าน่าหัวเราะเหลือเกิน
การแสดงของอนุรองในยามนี้ ช่างเหมือนกับนักแสดงตัวตลกชัดๆ
หลิงอ๋องมองพวกนางอยู่สักครู่ จากนั้นก็ถอนหายใจ แล้วมองไปทางอวี้จื้อ “เจ้าว่า เรื่องนี้ควรจะจัดการอย่างไรดี”
อวี้จื้อลูบหน้า เตรียมจะพูดขึ้น ทว่าอนุรองกลับยืนขึ้นมาเสียก่อน “ท่านอ๋อง หม่อมฉันบอกไปแล้วอย่างไรเพคะว่าไม่ต้องติดตามเอาผิดกับคุณหนูรอง โทษหม่อมฉันที่ไม่ระวังตัวให้ดีมากกว่า”
ตอนนี้ อวี้จื้อเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวของพวกนาง ไม่รู้ว่าใจของหลิงอ๋องกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ เพื่อเป็นการรับประกันตัวเอง นางก็ไม่อยากให้เขาเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ แม้ว่าหลิงอ๋องจะรักใคร่ปกป้องเขาเป็นอย่างดี แต่ในใจก็ยังคงปกป้องเข้าข้างธิดาอย่างอวี้อาเหรา แน่นอนว่าย่อมไม่ต้องการที่จะให้ใครเข้ามายุ่งย่ามตัดสินลูกสาวแสนรักของตัวเองแน่