ตอนที่ 1,718 : หวางเฟยเซวียน
รองจ้าววังลี้ลับนั้นเป็นชายชราที่มีหนวดเคราขนคิ้วทั้งเส้นผมขาวโพลนปานเทพเซียน
และตอนนี้มันก็กำลังมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้มกว้าง
การทดสอบอัจฉริยะเมื่อครู่ เผยให้รู้ว่าในบรรดาอัจฉริยะทั้ง 37 คนที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปีนั้น ต้วนหลิงเทียนคือที่สุด!
“เฒ่าเถียน…เจ้ากล่าวเช่นนี้หมายความว่าอะไร!?”
รองจ้าววังปฐพีที่ถูกรองจ้าววังลี้ลับกล่าวแทรกขึ้นมาถึงกับบังเกิดความไม่พอใจ หันไปมองเขม่นกล่าว “อย่าลืมว่าวันนี้ผู้ที่จักมีสิทธิ์เลือกศิษย์ก่อนคือ วังปฐพีของข้า…วังลี้ลับของเจ้าค่อยเลือกหลังจากที่ข้าเลือกคนแล้ว!”
“เรื่องนั้นข้าย่อมรู้…”
รองจ้าววังลี้ลับนาม เถียนจี้ เมื่อเห็นรองจ้าววังปฐพีกล่าวถามด้วยความไม่พอใจ ไม่เพียงแต่มันจะไม่รู้สึกผิด ยังกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “วังปฐพีเจ้าได้สิทธิ์เลือกผู้คนก่อนแล้วอย่างไร? หรือเจ้าหนูคนนี้จักมิมีสิทธิ์ปฏิเสธ?”
“หากเจ้าหนูคนนี้ปฏิเสธ ย่อมหมายความว่าเจ้ามิอาจเลือกเขาได้ เช่นนั้นเจ้าก็ทำได้แต่เลือกคนอื่นมิใช่หรือ? คราวนี้หากถึงคราวที่วังลี้ลับข้าเลือกบ้าง หากเขาเต็มใจข้าก็พรอมรับทันที”
เถียนจี้กล่าวจบก็หัวเราะร่า
ทันทีที่เถียนจี้กล่าวคำนี้ออกมา รองจ้าววังปฐพีก็ได้แต่รับฟังด้วยใบหน้าบึ้งตึง เพราะมันเองก็ไร้คำใดจะมาโต้แย้งเช่นกัน
“ฮ่าๆๆ…เถียนจี้ เจ้ากล่าวถูกแล้ว!”
ทันใดนั้นเองรองจ้าววังเหลืองก็หัวเราะขึ้นมา มันยังหันไปกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้มเช่นกัน “เจ้าหนุ่ม เจ้าเรียกว่าอะไรหรือ?”
“หลิงเทียน”
ต้วนหลิงเทียนเองก็ไม่คิดเลยว่าการเฉยๆของเขาจะดึงดูดความสนใจจากรองจ้าววังทั้ง 3 ของตำหนักฟ้าลี้ลับได้ขนาดนี้ ยังรู้สึกพูดไม่ออกอยู่บ้าง อย่างไรเสียเมื่อเผชิญกับคำถามเขาก็จำต้องตอบออกไป
หลิงเทียน เป็นนามแฝงที่เขาใช้ในปัจจุบัน
สำหรับรูปโฉมนั้นก็เป็นอะไรที่ง่ายปลอมแปลงนักและแม้มันจะหล่อเหลา แต่ก็ไม่ใช่ใบหน้าเดิมของเขา
ด้วยไหวพริบทั้งชั้นเชิงในการแปลงโฉม น่ากลัวว่าคงไม่อาจมีใครล่วงรู้ว่าตอนนี้เขากำลังใช้ใบหน้าปลอมอยู่
“หลิงเทียน…นามอันประเสริฐ!”
รองจ้าววังเหลืองเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างสมส่วน มันพยักหน้าด้วยความชอบใจขณะกล่าวกับต้วนหลิงเทียน “หลิงเทียนตราบใดที่เจ้าปฏิเสธคำเชิญของวังทั้ง 2 และเข้าร่วมวังเหลืองของข้า…ข้า ซุนหลิน ให้คำมั่นต่อเจ้าว่า 3 เดือนหลังจากนี้ เจ้ามิจำเป็นต้องต่อสู้ช่วงชิงสิทธิ์เข้าแดนลับเซียนอันใด ข้าในนามรองจ้าววังเหลืองขอมอบศิษย์นั้นให้เจ้าทันที!!”
ถึงแม้น้ำเสียงของ ซุนหลิน รองจ้าววังเหลืองจะไม่ได้ดังอะไรมากมาย ทว่าตอนนี้บรรยากาศโดยรอบกลับเงียบสงบนัก วาจาประโยคนี้ของมันจึงดังชัดถนัดหูผู้คนทั้งหมด! กระทั่งผู้คนบนพื้นยังได้ยินแจ่มแจ้ง!!
“รองจ้าววังเหลือให้ความสนใจในตัวเจ้าหนุ่มหลิงเทียนนั่นถึงเพียงนี้เลยหรือ? กลับยินดียกสิทธิ์เข้าแดนลับเซียนให้ทั้งๆที่มิต้องแข่งขันอันใด?”
“นั่นสิ น่าทึ่งนัก!”
“ฮึ่ม! หลิงเทียนผู้นี้หรือยังมีใครไม่เห็นว่าสามารถทานทนรับแรงกดดันได้จนเหลือเป็น 2 คนสุดท้าย แต่กระทั่งศิษย์สตรีจากคฤหาสน์ดาบทรราชยังเหงื่อชุ่ม ทว่าเขากลับมิแลดูเหน็ดเหนื่อยอันใดราวกับไม่รู้สึกรู้สาสักนิด! เกรงกว่าพลังฝีมือคงเหนือกว่าใครในบรรดาอัจฉริยะทั้ง 37 คนที่อายุมิถึง 40 ปีไปไกล!”
“ด้วยพลังฝีมือระดับนั้น…แม้จะต้องประลองเพื่อชิงสิทธิ์เข้าแดนลับเซียน เป็นธรรมดาที่ต้องได้รับสิทธิ์นั้นมาแน่ๆ เช่นนั้นคำมั่นนี้ของรองจ้าววังเหลืองถึงจะฟังดูดีแต่ที่แท้กลับไร้แก่นสารอันใด”
“จริงด้วย!”
……
เหล่าผู้คนเริ่มระเบิดคำสนทนากันทันที แววตาที่ทั้งหมดใช้มองต้วนหลิงเทียนตอนนี้ยังเปลี่ยนไปไม่น้อย
เพราะชายหนุ่มผู้นี้ถึงกับทำให้ รองจ้าววังถึง 3 คนบังเกิดจิตคิดแย่งชิง! นั่นนับว่ามากพอที่จะเผยให้เห็นถึงคุณค่าเขา และการเข้าร่วมกับตำหนักฟ้าลี้ลับ วันหน้าต้องมีอนาคตไร้สิ้นสุดแน่!!
ไม่ทราบว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ รองผู้นำคฤหาสน์ข้ามฟ้า เริ่นจง กับอาวุโสลำดับ 2 ของคฤหาสน์คลื่นคลั่ง หลิวหงกวง พลันหันหน้ามามองสบตากันเอง
ตอนนั้นหาก ลี่เฟิง ที่พวกมัน ‘นก’ ไปมาปรากฏตัวที่นี่ล่ะก็ น่ากลัวว่าสมควรโดนผู้คนช่วงชิงตัวไม่ต่างอะไรจากหลิงเทียนคนนี้แน่ๆ…
เรื่องนี้พวกมันมั่นใจเต็มสิบส่วน!
โชคร้ายที่ลี่เฟิงไม่คิดจะเข้าร่วมตำหนักฟ้าลี้ลับ เพราะอีกฝ่ายไม่แม้แต่จะมาเข้าร่วมการคัดเลือก
‘บางทีลี่เฟิงสมควรเป็นยอดฝีมือรุ่นเยาว์ของภูมิภาคเบื้องบนที่ลงมาหาประสบการณ์ในภูมิภาคเบื้องล่างจริงๆ…หลังจากอยู่ในภูมิภาคเบื้องล่างจนเบื่อแล้วจึงย้อนกลับไป…’
นี่เป็นความคิดที่อยู่ในใจของพวกมันทั้งคู่
อย่างไรก็ตามให้หลิวหงกวงกับเริ่นจงคิดจนหัวระเบิด พวกมันก็ไม่มีทางรู้เลยว่า หลิงเทียน อัจฉริยะที่บรรลุเซียนทั้งที่ยังอายุไม่ถึง 40 ปีที่รองจ้าววังทั้ง 3 กำลังกล่าววาจาแย่งชิงกันนี้ ที่แท้ก็คือลี่เฟิงที่ทำให้พวกมันรอเก้อ!
ไม่ต้องกล่าวบอกเลยว่าตอนนี้อัจฉริยะที่บรรลุเซียนก่อนวัย 40 ปีคนอื่นจะตกใจเพียงใด ในใจของพวกมันยังบังเกิดความรู้สึกอิจฉาต้วนหลิงเทียนนัก ที่อีกฝ่ายโดดเด่นฉายแสงจนกลบรัศมีพวกมันหมด!
ยังมีใครไม่อยากให้ผู้อื่นเห็นคุณค่า? ยังมีผู้ใดไม่อยากเฉิดฉาย?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวตนอย่างอัจฉริยะที่บรรลุเซียนก่อนอายุ 40 ปีอย่างพวกมัน…แต่ก่อนพวกมันก็คิดว่าพวกมันคืออัจฉริยะฟ้าประทาน ไปที่ใดย่อมมีแต่ผู้คนสนใจให้ความสำคัญ!
อนิจจาพอได้มารวมตัวกันวันนี้จึงได้ตระหนักว่าพวกมันธรรมดาเพียงใด…
ภายใต้สถานการณ์เดียวกัน การปรากฏตัวของหลิงเทียนกลับทำให้พวกมันรู้สึกแพ้พ่ายอย่างสิ้นเชิง ในใจจึงบังเกิดความรู้สึกไม่ยินยอมถึงที่สุด
“เฮอะ! ซุนหลินข้าก็นึกว่าเจ้าจะสัญญาอันใด…คำสัญญานี้วังปฐพีของข้าก็ให้ได้!”
รองจ้าววังปฐพีกล่าวออกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ก่อนที่จะหันไปมองต้วนหลิงเทียนค่อยกล่าวสืบต่อ “หลิงเทียน หากเจ้าเต็มใจจะเข้าร่วมกับวังปฐพีของข้า ไม่เพียงแต่ข้าจะมอบสิทธิ์เข้าแดนลับเซียนให้เจ้า พวกเราจักจัดหาทรัพยากรบ่มเพาะที่ดีที่สุด รวมถึงสภาพแวดล้อมในการบ่มเพาะที่ดีที่สุดให้เจ้าอย่างมิมีเงื่อนไข!”
“ไม่เพียงเท่านั้น วังปฐพีของพวกเรายังมียอดฝีมือมากมาย ทั้งหมดสามารถผลัดกันมาให้คำชี้แนะการฝึกปรือของเจ้าได้! และหากเจ้าเต็มใจข้า จางชิง รองจ้าววังปฐพียินดีที่จะแนะนำเจ้าให้กับจ้าววังปฐพีด้วยตัวเอง ตราบใดที่ท่านจ้าววังรับรู้ถึงความสามารถของเจ้าล่ะก็…”
เห็นชัดว่าต้วนหลิงเทียนได้รับความสนใจจากจางชิง รองจ้าววังปฐพีอย่างสูง
คำสัญญาของจางชิงนี้เป็นธรรมดาที่จะทำให้หลายๆคนตกใจ! พวกมันไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มที่ยังไม่ทันเข้าร่วมตำหนักฟ้าลี้ลับด้วยซ้ำ กลับมีข้อเสนอดีๆเช่นนี้รองรับแล้ว!!
ศิษย์สตรีของคฤหาสน์ดาบทรราชที่ลอยอยู่บนฟ้าข้างๆต้วนหลิงเทียนนั้น ตั้งแต่ต้นจนจบนางยังไม่ละสายตาออกจากเขาแม้แต่น้อย
ต้วนหลิงเทียนนับเป็นยอดฝีมือรุ่นเยาว์ที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่นางเคยเห็นมา!
ในอดีตไม่ว่าจะเป็นคฤหาสน์ดาบทราราช หรือขุมพลังอื่นใด นางก็ไม่เคยเห็นผู้ฝึกยุทธ์หรือผู้ฝึกเต๋าคนไหน ที่จะมีพลังฝีมือทัดเทียมกับนาง หากอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน และไม่ถึง 40 ปี…
ก่อนที่นางจะเดินทางมาตำหนักฟ้าลี้ลับ นางก็พกพาความมั่นใจมาเต็มกระเป๋าว่าวันนี้คงไม่มีใครเทียบนางได้แน่…
เว้นเสียแต่สุดยอดฝีมืออย่าง ลี่เฟิง ที่ได้อันดับ 1 ในการประลองยอดนักรบฟ้าลิ่วล่องจะปรากฏตัวออกมา!
ลี่เฟิง ผู้ฝึกตนพเนจรในเขตอิทธิพลหลักของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง เป็นอะไรที่ทำให้นางสะท้านในใจหนักหนา อีกฝ่ายปรากฏตัวครั้งแรกก็ฆ่าฉีจิ้งนายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง!
ยิ่งไปกว่านั้นลี่เฟิงเองก็เป็นถึงยอดฝีมือขอบเขตเซียนขัดเกลาขั้นสูงสุดทั้งๆที่ยังมีอายุไม่ถึง 40 ปี!
หากถามว่าในบรรดารุ่นเยาว์มีผู้ใดที่ได้ใจนาง ก็เห็นจะมีแต่ลี่เฟิงคนเดียว!
ต้องทราบด้วยว่าแม้จะเป็นตัวนางเอง แต่ตอนนี้พลังฝึกปรือก็แค่เซียนขัดเกลาขั้นต้นที่เจียนบรรลุขั้นกลางเท่านั้น!
ทว่าวันนี้พอได้เห็นหลิงเทียน นางก็รู้ได้ทันทีว่าแต่ก่อนนางเป็นแค่กบน้อยที่แหงนมองฟ้าจากก้นบ่อน้ำเท่านั้น ที่แท้ในภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแห่งนี้ นอกจากลี่เฟิงแล้ว ก็มีรุ่นเยาว์ที่ทรงพลังเหนือกว่านาง!
ถึงแม้ว่านางกับต้วนหลิงเทียนจะทานรับพลังกดดันไร้สภาพได้จนจบการทดสอบ
ทว่าตอนนั้นนางใกล้ถึงขีดจำกัดเต็มทีจนเหงื่อไหลชุ่มโชก แต่หลิงเทียนยังแลดูสบายๆคล้ายไม่รู้สึกรู้สาอะไร..
จังหวะนั้นในใจของนาง จึงอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความรู้สึกยอมแพ้!
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นางบังเกิดความสนใจต่อบุรุษที่เหนือกว่านางมากคนนี้ขึ้นมา
ต้องทราบด้วยว่านางในฐานะผู้ฝึกตนสตรี ย่อมมีความภาคภูมิใจอันสูงล้ำ แม้จะมีชายหนุ่มมากมายในคฤหาสน์ดาบทรราชต้องตาพึงใจในตัวนาง แต่นางก็ไม่คิดจะเหลือบแลใครเลย…
เพราะในสายตาของนาง มีเพียงบุรุษที่แข็งแกร่งกว่าตัวนางเท่านั้นถึงจะคู่ควรกับนาง!
อันที่จริงสายตาที่จ้องมาเขม็งด้วยท่าทางสนอกสนใจเต็มเปี่ยมของศิษย์สตรีคฤหาสน์ข้ามฟ้านางนี้ ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้แต่แรกแล้ว แต่เขาทำได้แค่แกล้งเมินทำเป็นไม่เห็นเท่านั้น…
มิฉะนั้นจะให้เขาทำอะไรได้อีก?
หันไปมองสบตานาง ให้ความหวังอะไรนางงั้นเหรอ?
เพราะเขาสัมผัสได้ชัดเจนว่าสตรีนางนี้ไม่ใช่สตรีขี้อายเคอะเขินง่ายๆอะไร หากเขาหันไปมองนางล่ะก็…ไม่วายนางต้องหาเรื่องสนทนากับเขาแน่นอน!
ดังนั้นต้วนหลิงเทียนจึงเลือกที่จะไม่สนใจนางตั้งแต่แรก
‘ฮึ! เจ้าท่อนไม้ผู้นี้น่าสนใจยิ่ง…หากเจ้าโดดเด่นร้ายกาจจริงๆ ข้า หวางเฟยเซวียน มิสนหรอกนะ! หากต้องเป็นฝ่ายไล่เกี้ยวเจ้า!!’
สตรีจากคฤหาสนืดาบทรราชนางนี้ มีชื่อว่า หวางเฟยเซวียน
และนางยังเป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของผู้นำคฤหาสน์ดาบทรราชคนปัจจุบันอีกด้วย!
เหตผลที่ทำให้ต้วนหลิงเทียนแลดูน่าสนใจในสายตาของหวางเฟยเซวียนนั้น เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยที่นางพบพานกับบุรุษที่กล้าเมินเฉยนาง ราวกับเสน่ห์ของนางไม่อาจทำอะไรอีกฝ่ายได้เลย!
ยังดีที่ต้วนหลิงเทียนไม่รู้ความคิดของหวางเฟยเซวียน หาไม่แล้วเขาคงต้องเหวอ กระทั่งพยายามหาทางหลบหน้านาง
ถึงแม้หวางเฟยเซวียนจะมีความน่าสนใจและมีเสน่ห์ดึงดูบุรุษอย่างสูง แต่เขาในฐานะชายที่มีคู่หมั้นงามล่มเมืองแล้วถึง 2 คน กับสตรีงดงามปานเทพธิดาที่ต้องตาพึงใจอีก 1 คน…
ไม่ว่าจะเป็นลี่เฟยหรือเค่อเอ๋อ หรือเฟิ่งเทียนหวู่ ก็ไม่ได้งดงามด้อยไปกว่าหวางเฟยเซวียนแม้แต่น้อย…ทำให้เขามีภูมิคุ้มกันสาวงามในระดับหนึ่ง!
เมื่อเห็นว่ารองจ้าววังปฐพีจางชิงถึงกับยื่นข้อเสนอขนาดนี้ รองจ้าววังลี้ลับเถียนจี้กับรองจ้าววังเหลืองซุนหลิน ถึงกับตกตะลึง!
จางชิงยื่นข้อเสนอมาซะขนาดนี้ เช่นนั้นพวกมันจะอาศัยอะไรในการคว้าตัวหลิงเทียนมาจากอีกฝ่ายได้อีก?
เพราะในบรรดาข้อเสนอที่พวกมันสามารถให้ได้ เต็มที่ก็เหมือนกับจางชิงเท่านั้น!
“หลิงเทียน ด้วยพรสวรรค์แต่กำเนิดของเจ้า ข้าคิดว่าจักเป็นการดีที่สุดหากเจ้าเข้าร่วมกับวังนภา”
ในขณะที่คนส่วนใหญ่คิดว่าต้วนหลิงเทียนคงต้องเห็นด้วยกับข้อเสนอของรางจ้าววังปฐพีแล้วแน่ๆ กลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้น และดึงดูดความสนใจของผู้คนทันที
คนที่กล่าวออกมาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นรองจ้าววังนภา!
ทันใดนั้นความโกลาหลพลันบังเกิดขึ้นในฝูงชน ทั้งหลายไม่คาดคิดมาก่อนจริงๆว่ากระทั่งรองจ้าววังนภาก็ยังถูกต้วนหลิงเทียนดึงดูดความสนใจ!