บทที่ 761 น่าสนใจขึ้นมาบ้าง

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 761 น่าสนใจขึ้นมาบ้าง

ท้องฟ้า ในที่สุดก็สว่างแล้ว

ณ จวนฉิน วังตะวันออก

เนื่องจากงานเลี้ยงเฉลิมฉลองเมื่อคืนวานนี้ ฉินเปียวนอนดึกมาก แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยนอนหลับด้วยความขี้เกียจเช่นนี้ ทว่าวันนี้เขากลับนอนอย่างเกียจคร้าน

เขาหลับใหลอยู่ภายในห้วงนิทราและฝันหวาน พี่ชายที่เขาคิดอยากจะโจมตีมาโดยตลอด คิ้วต่ำตาต่ำ[1] ยอมคุกเข่าลงตรงหน้าเขา

เขาประสบความสำเร็จกลายเป็นเจ้าบ้านคนใหม่แห่งตระกูลฉิน เป็นที่เรียกกันว่าราชาแห่งซีเป่ย

เมื่อได้กลายเป็นราชาแห่งซีเป่ย เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเขา ทั่วทั้งเขตแดนซีเป่ยนั้นคือรากฐานของเขา

ด้วยรากฐานนี้ของเขาจะเป็นการเริ่มต้นเส้นทางการเดินสู่ความยิ่งใหญ่ที่อยู่ภายในหัวใจของเขา

หลังจากที่ตื่นจากห้วงความฝัน เขาพบกว่าบรรยากาโดยรอบนั้นเงียบสนิท

ขณะที่เขานอนไม่มีใครกล้าเข้ามารบกวนเขา เมื่อเป็นเช่นนี้เขารู้สึกพอใจมาก

เขาอ้าปากหาวหนึ่งครา ย้อนนึกถึงภาพฉากบางส่วนภายในความฝัน ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มพึงพอใจ

“ฉินเทียน นายไม่คู่ควรเป็นลูกหลานตระกูลฉิน ฉันจะใช้การกระทำมาเป็นตัวพิสูจน์” มุมปากยกยิ้ม เขาเอ่ยพึมพำกับตนเองประโยคหนึ่ง

“อะหง อะลวี่ ฉันตื่นแล้ว”

“เข้ามา ปรนนิบัติคุณชายในการเปลี่ยนเสื้อผ้า”

เขาสวมชุดนอนและลงจากเตียงนอน เขาตะโกนเรียกเป็นปกติ เหมือนอย่างในทุกวัน

ถ้าหากเป็นเหมือนอย่างเคย หลังจากที่เขาตะโกนเรียก อะหงและอะลวี่คนรับใช้ข้างกายเขาก็จะเข้ามาในทันที

ร่างกายของพวกเธอนั้นอรชรอ้อนแอ้นราวกับนกตัวน้อยบนกิ่งไม้อย่างไรอย่างนั้น รอยยิ้มสว่างเจิดจ้าเหมือนกับแสงอาทิตย์ในยามเช้า

ขณะที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับฉินเปียว หัวใจเต้นระรัว ใบหน้าแดงระเรื่อ ดวงตาพร่าเลือน

“คุณชายแข็งแกร่งมากเลย!”

“คุณชายมีกล้ามหน้าท้องที่งดงาม!”

“คุณชายเป็นผู้ชาย…ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเลยจริงๆ…”

นั่นคือคำชมเชยที่มาจากก้นบึ้งหัวใจของหญิงสาว

เช่นนั้นบางครั้งเมื่อฉินเปียวมีความสนใจ เขาใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งในตอนเช้าและแสดงความโปรดปรานพวกหล่อนหนึ่งครา

โดยพื้นฐานแล้วหลังจากที่ได้แสดงความโปรดปราน อะหงและอะลวี่ก็จะนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงใหญ่และนอนอยู่ด้านหลังของเขาตลอดทั้งวัน

เมื่อใดก็ตามที่ฉินเปียวนั้นใจกว้างมากเป็นพิเศษ เดิมทีเขานั้นเป็นคนรักความสะอาด เตียงของเขาไม่ว่าใครก็ห้ามแตะต้อง

ในขณะนี้ เมื่อมองดูตัวเองในกระจก ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่ง ใบหน้าที่แน่วแน่และเด็ดเดี่ยว เขารู้สึกว่าสัตว์ร้ายภายในร่างกายของเขานั้นกำลังจะตื่นขึ้น

นัยน์ตาของเขานั้นปรากฏร่องรอยความแปลกประหลาด

“อะหง อะลวี่ เตรียมตัวไว้ให้พร้อม วันนี้ฉันจะแสดงความโปรดปรานต่อพวกเธอ!”

เขาเอ่ยอีกคราหนึ่ง

เมื่อตระหนักได้ว่าไร้ซึ่งผู้ใดตอบกลับ เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

เกิดเรื่องอะไรขึ้น?

อะหง อะลวี่หายไปไหน?

พวกหล่อนอยากตายหรือ?

ขณะนี้ ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่าสิ่งนี้นั้นไม่ถูกต้อง!

ด้านนอกเงียบงันผิดปกติ!

ตามปกติแล้ว ถึงแม้ว่าจะเงียบ แต่ทว่าเมื่ออาศัยโสตประสาทการได้ยินที่พิเศษของเขา เขายังสามารถได้ยินเสียงคนรับใช้ที่กำลังทำงานอยู่ในระยะไกล

เสียงไม้กวาดปัดกวาดใบไม้ที่ร่วงหล่น เสียงบัวรดน้ำที่กำลังรดน้ำต้นไม้

แต่วันนี้กลับไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยแม้แต่น้อย!

แม้กระทั่งเสียงนกร้องก็ยังไม่มี

เงียบสงัด!

เงียบงันราวกับว่าทุกอย่างตายจากไปหมดแล้วอย่างไรอย่างนั้น!

ราวกับว่าวังตะวันออกที่ยิ่งใหญ่นั้นได้กลายเป็นสุสานเพียงชั่วข้ามคืน

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น!” สีหน้าของฉินเปียวดูน่าเกลียดขึ้นทันใด เขาแผดเสียงคำรามและรีบเดินออกไปด้านนอกในทันใด

เมื่อได้เห็นภาพเหตุการณ์ในลานกว้าง เขาอดไม่ได้ที่จะตื่นตะลึง

ภาพเบื้องหน้า ไม้กระดานนับสิบแผ่นถูกจัดเรียงไว้อย่างเรียบร้อย บนไม้กระดานเหล่านั้นล้วนแต่มีศพผู้คนที่ถูกคลุมไว้ด้วยผ้าขาว

เบื้องหลังศพเหล่านั้นเต็มไปด้วยฝูงชนที่กำลังนั่งคุกเข่า

ทั่วทั้งวังตะวันออก รวมถึงฮุยเฮ่อ อะหงและอะลวี่ ทุกคนต่างกำลังนั่งคุกเข่าและก้มศีรษะลง

ร่างกายของผู้คนเหล่านั้นต่างสั่นสะท้าน

ท่ามกลางพวกเขา มีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ใช่สมาชิกของวังตะวันออก

พวกเขาทุกคนสวมชุดไว้ทุกข์ ดวงตาแดงก่ำ

ฉินเปียวรู้จักคนเหล่านี้ พวกเขานั้นมาจากเมืองซินเฉิง จวนราชาซีเตี้ยน

คนที่คอยสนับสนุนเขามากที่สุด จวนราชาซีเตี้ยนเป็นรากฐานที่สำคัญในตระกูลฉิน

“ผู้อาวุโสเฮ่อ นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“คนที่เสียชีวิตเหล่านี้คือใคร?”

“หรือว่าคุณไม่รู้กฎของฉันงั้นเหรอ? ไม่ว่าผู้ตายจะเป็นใคร การที่ให้ฉันไปงานศพในช่วงเช้าตรู่ นั่นเท่ากับว่าต้องการทำให้ฉันดวงซวยใช่หรือไม่?”

“เชื่อหรือไม่ ฉันจะสังหารพวกนายทั้งหมด!”

ครั้นได้ยินคำตำหนิที่โกรธเกรี้ยว ทุกคนที่กำลังนั่งคุกเข่าต่างก็ก้มศีรษะลงต่ำกว่าเดิม

ฮุยเฮ่อกัดฟันแน่นและเอ่ยด้วยความหวาดกลัว “คุณชาย เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว”

“คุณมองดูด้วยตัวเองเถอะ”

คนเหล่านั้นแห่งจวนราชาซีเตี้ยน ก้มศีรษะแนบลงกับพื้นและเอ่ยเสียงดังลั่น “คุณชายได้โปรดล้างแค้นให้กับท่านอ๋องของพวกเราด้วย!”

“คุณชายได้โปรดสังหารฉินเทียนด้วย!”

อะไรนะ?

ร่างกายของฉินเปียวสั่นสะท้าน ล้างแค้นให้กับท่านอ๋อง หรือว่าผู้ตายคือ—–

สายตาของเขาจับจ้องไปศพบนไม้กระดานทั้งสองที่อยู่ด้านหน้าสุด เขากัดฟันแน่นและก้าวเท้าเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า จากนั้นเปิดผ้าข้าวที่คลุมหน้าศพออก

“ซีคุน!”

สีหน้าของฉินเปียวแปรเปลี่ยนไปในทันใด!

จากนั้นเปิดผ้าขาวที่คลุมศพอีกศพหนึ่งที่อยู่ด้านข้างซีคุน

เมื่อได้เห็นใบหน้าซีดขาวที่นอนนิ่งอยู่เบื้องล่าง เลือดในร่างกายพลันพลุ่งพล่านและพุ่งไปยังกระหม่อมของเขา

ภาพตรงหน้ากลับกลายเป็นภาพมืดมิด จากนั้นเขาล้มพับและหมดสติไปทันใด

“คุณชาย!”

“เร็ว เรียกหมอมา!”

ฮุยเฮ่อรีบวิ่งเข้าไปและประคองฉินเปียวไว้ เห็นเพียงเขากำลังกัดฟันกรอด ใบหน้าหมองคล้ำและไม่รู้สึกตัว

“อาการป่วยของคุณชายกำเริบ!”

“เร็วเข้า รีบแจ้งคุณหญิง!”

ฉินเปียวนั้นมีอาการป่วยที่เก็บซ่อนไว้ มีเพียงแค่คนใกล้ชิดเท่านั้นถึงจะสามารถล่วงรู้ได้ นั่นก็คือหลังจากที่เขาตื่นตระหนก เลือดที่ไหลเวียนอยู่ภายในร่างกายนั้นจะไหลทวนย้อนกลับ เขาจะหมดสติและไม่รู้สึกตัวเลย

หลังจากที่อาการกำเริบอยู่หลายครั้งหลายครา อุปนิสัยของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

“เปียวเอ๋อร์!”

“พวกนายออกไปให้หมด ไม่ว่าใครก็ห้ามแตะต้องเปียวเอ๋อร์!”

ด้านนอกลานกว้างมีเสียงโกรธเกรี้ยวของคุณหญิงดังขึ้น หยางหลิวมาพร้อมกับยายแม่มด ทั้งสองรีบเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก

“ยายแม่มด เร็วเข้า!”

ภายใต้คำสั่งของหยางหลิว ยายแม่มดด้วยความคุ้นเคยเป็นอย่างดี มือทั้งสองโอบอุ้มร่างกายของฉินเปียวที่มีน้ำหนักเกือบร้อยกิโลกรัม

เมื่อมองดูแล้วหล่อนเหมือนหนังไก่ผมขาว[2] เป็นเหมือนยายแก่ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ คาดไม่ถึงเลยว่าหล่อนจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเช่นนี้

ครั้นโอบอุ้มฉินเปียวแล้วลมกรรโชกแรงพัดผ่านเข้าไปภายในห้องด้านใน

หยางหลิวรีบตามเข้าไปและประตูลงในทันที ท่าทางทุกข์ระทมหลังจากอาการป่วยกำเริบของลูกชาย เธอย่อมไม่ยินยอมให้ผู้อื่นได้พบเห็น

ไม่อย่างนั้น หลังจากนี้ลูกชายจะเป็นผู้นำตระกูลฉินที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร

ตอนนี้เธอต้องรักษาภาพลักษณ์ที่สง่างามของลูกชายของเธอ

ยายแม่มดจับและนวดเส้นประสาทให้แก่ฉินเปียวเพื่อให้เลือดโลหิตหมุนเวียน ความหมองคล้ำบนใบหน้าของฉินเปียวดูบรรเทาลง เมื่อมองดูแล้วสีหน้าของเขาดูดีมากขึ้น แต่ทว่าเขาก็ยังคงไม่ได้สติ

“คุณหญิง ฉันคิดว่าตอนนี้ต้องให้คุณชายนอนหลับพักผ่อนเสียหน่อย ประเดี๋ยวอาการคงดีขึ้น”

“ไม่อย่างนั้น เขาจะไปพบหญิงชราคนนั้นได้อย่างไร?”

“การตายของพ่อลูกซีเตี้ยนนั้นคือการแก้แค้นของฉินเทียนที่มีต่อคุณชาย สามารถกล่าวได้ว่าเป็นคุณชายที่ลงมือกระทำเขาก่อน”

“ฉันกลัวว่าหญิงชรานั้นจะกล่าวตำหนิ การที่คุณชายไปเผชิญหน้าคงจะไม่ใช่เรื่องดี”

หยางหลิวพยักหน้าและเอ่ยเสียงแผ่วเบา “เด็กดี นอนหลับพักผ่อนเสียเถอะ”

“แกวางใจเถอะ แค้นในครานี้ แม่จะช่วยแกล้างแค้นเอง!”

“ยายแม่มด ฉันจะไปพบหญิงชราเอง ออกคำสั่งไปยังฮุยเฮ่อและคนของจวนราชาซีเตี้ยนให้นำศพตามมาด้วย!”

“ฉันต้องการให้หญิงชราได้เห็น หลานชายที่แสนดีของหล่อนนั้นลงมือฆ่าได้อย่างโหดเหี้ยมเพียงใด!”

“ค่ะ คุณหญิง”

ยายแม่มดและหยางหลิวทั้งสองรีบเดินจากไป

ภายในห้อง ฉินเปียวที่หลับใหลไม่ได้สติ ฉับพลันเขาลืมตาขึ้น

ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด!

ราวกับว่าปีศาจร้ายได้ตื่นขึ้น!

สายตาจ้องมองอากาศอย่างร้ายกาจ ลำคอของเขานั้นเปล่งเสียงคำรามราวกับสัตว์ร้าย

เหมือนว่าภายในร่างกายมีสิ่งของบางอย่างที่ต้องการจะหลุดพ้น

มองท่าทางของเขาดูเหมือนว่าเขากำลังเจ็บปวดมาก เขาดูดุร้ายและน่ากลัว

เขากัดฟันแน่นพยายามอดกลั้น ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถทนต่อไปได้ เขาหัวเราะเสียงดังลั่น

“ฉินเทียน!”

“พี่ชายที่แสนดีของฉัน!”

“ฮ่าๆๆๆ ดี โหดเหี้ยมดีจริง!”

“น่าสนใจ เช่นนี้ถึงจะค่อนข้างน่าสนใจ…”

คิ้วต่ำตาต่ำ[1] หมายถึง คนที่ไม่กล้ามีปากเสียง ไม่ต่อต้านคนอื่น คนที่ไม่มีอำนาจต่อรองใคร

หนังไก่ผมขาว[2] หมายถึง ผิวเหี่ยวย่น ผมขาวราวคนชรา