บทที่ 482 สวมนามแฝงง้อสามี

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 482 สวมนามแฝงง้อสามี
【หมูฟองน้ำสีชมพู:เอาละ โดนคุณจับได้จนได้ เทพเจ้าจริงๆแล้วฉันอยากให้ท่านเป็นอาจารย์ ท่านสามารถรับฉันเป็นศิษย์ได้ไหม?】

【เทพเจ้าแห่งสวรรค์:ไม่รับ!】

【……】

ปฏิเสธอย่างไม่ลังเล ปอร์เช่ที่มองมาทางนี้ตกใจจนเนื้อเต้น

พี่เขยนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

พี่สาวอุสาต์เกลี้ยกล่อมเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง แต่เขาก็ยังโหดร้าย ก็แปลว่าเขาไม่อยากคืนดีไม่ใช่เหรอ?

ปอร์เช่รู้สึกเป็นห่วงมาก

ส่วนทางด้านเส้นหมี่ที่ได้ยินคำพูดนั้นก็มีสีหน้าสิ้นหวัง

ผู้ชายคนนี้เกลี้ยกล่อมยากจริงๆ…

【เทพเจ้าแห่งสวรรค์:คุณเป็นผู้เล่นมือใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ กล้าดียังไงมาขอเป็นศิษย์ผมที่มีระดับสูงขนาดนี้?】

【หมูฟองน้ำสีชมพู:……】

เวลาผ่านไปนานแล้ว เส้นหมี่จึงยกมือขึ้นเคาะประตู

【หมูฟองน้ำสีชมพู:เพาะฉันอกหัก แฟนฉันทิ้งฉันไปแล้ว แต่เขาชอบเล่นเกมมาก ฉันแค่อย่างเล่นเกมเป็นเพื่อที่จะได้เกลี้ยกล่อมเขาให้มีความสุข】

【เทพเจ้าแห่งสวรรค์:……】

【หมูฟองน้ำสีชมพู:เทพเจ้าคุณมีแฟนไหม?】

เส้นหมี่เริ่มพูดคุยแบบสุภาพ.

เส้นหมี่พูดตามมารยาท

หลังจากนั้นไม่นาน สิ่งที่ทำให้หล่อนปลาบปลื้มคือเทพเจ้าที่มีทีท่าว่าจะบล็อกหล่อน แต่กลับส่งข้อความกลับมาเพียงคำเดียว

【เทพเจ้าแห่งสวรรค์:มีแฟนแล้ว】

【หมูฟองน้ำสีชมพู:อ้อ งั้นดีเลยเทพเจ้าฉันขอถามอะไรคุณหน่อยได้ไหม? ถ้าหากแฟนของคุณทำให้คุณโมโห จะต้องทำยังไงคุณถึงจะให้อภัยเธอ?”】

【เทพเจ้าแห่งสวรรค์:……】

เขายังไม่ทันได้เอ่ยปากตอบ น้องๆเห็นว่าเขานั่งอยู่ที่โซฟาในห้องเพรสซิเดนสูทโดยไม่ขยับขยับขยื่น น้องๆบางคนเลยพากันมาดู

“ยุ่งอะไรอยู่เหรอ การประชุมเล็กๆของพวกเรายังรอคุณเลือกตัวเอกอยู่นะ”

“ใช่ ประธานคุณหนูดาว พวกเราบางส่วนได้ข้ามมาแล้ว เรื่องนี้คุณจะให้พวกเราทำอย่างไร บอกมาได้เลย”

“ได้……”

รวมเป็นสามคน

แต่พวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา และพฤติกรรมของพวกเขาเต็มไปด้วยการฝึกฝนตนเองเป็นอย่างดีและความเย่อหยิ่งที่ซ่อนเร้น

แสนรักถึงกับเงยหน้าขึ้น เหลือบมองดูเขาเล็กๆ:“จะรีบไปเดี๋ยวนี้ เจเคแกไปเปิดไวน์รอก่อนเลย

“ได้”

ชายหนุ่ยวัยรุ่นมีชื่อว่าเจเค เขาพยักหน้าด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแล้วไปเปิดไวน์

คนอื่นสองคนเห็นเข้าก็หัวเราะอย่างช่วยไม่ได้

แต่พวกเขามีสายตาที่เฉียบแหลม พบว่านี่คือเจ้าชายหิรัญชากรุ๊ปที่พวกเขาจะลาออกจากงานอย่างไม่ลังเลและเริ่มติดตามหาเขา

ที่นี่ เขากลับเล่นเกม

“เขาหมายความว่ายังไง? ถึงช่วงเวลาสำคัญแล้วยังติดเกมอยู่อีกเหรอ?”

“เห้อ……”

แม้แต่พี่ชายคนโตอย่างม็อกโกที่ใจเย็นที่สุดในบรรดาสี่คนก็ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้อย่างไร

แสนรักยังคงก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์

เขาเห็นว่าเพียงไม่กี่นาทีที่ผ่านมาในกล่องข้อความบนหน้าจอเกมนี้ รูปโปร์ไฟล์หมูฟองน้ำสีชมพูได้ส่งสติ๊กเกอร์อิโมจิรูปน่าสงสาร

【หมูฟองน้ำสีชมพู:เทพเจ้า?อิโมจิน่าสงสาร อิโมจิน่าสงสาร อิโมจิน่าสงสาร】

【เทพเจ้าแห่งสวรรค์:เป็นเด็กดีเชื่อฟังหน่อย】

【หมูฟองน้ำสีชมพู:อ่ะ?】

【เทพเจ้าแห่งสวรรค์:เลิกงานแล้วก็รีบกลับบ้านและถ้าออกจากนอกสายตาของผมต้องรายงานผมทุกเรื่อง】

【หมูฟองน้ำสีชมพู:……】

【เทพเจ้าแห่งสวรรค์ และถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากผม ไม่ต้องไปพูดคุยกับคนพรรค์นั้น โดยฉะเพราะคนที่ออกไปหลอกลวง】

【……}

คำพูดประโยคสุดท้าย เส้นหมี่นั่งอยู่หน้าจอคอม และทุกนาทีมีความรู้สึกว่าคนๆ นี้รู้อยู่แล้วว่าหล่อนเป็นใคร

แม่เจ้า คำพูดสองสามประโยคเป็นเหตุสถานการณ์จริงของเธอไม่ใช่เหรอ?

เกลือกกลั้ว?

เขาหมายถึงแสงดาวใช่ไหม?

ห๊ะๆๆๆๆ!!!

เส้นหมี่ตื่นเต้นจนนิ้วสั่น

สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจก็คือหลังจากที่เทพเจ้าแห่งความสว่างไสวสั่งสอนหล่อน ในวินาทีต่อมา ช่องแชทโต้ตอบก้เงียบไป เขาลบหล่อนเป็นเพื่อนแล้ว

แม่งเอ้ย!!

เส้นหมี่พูดคำหยาบออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

แต่เมื่อหล่อนสงบสติลงได้ แววตาก็เปล่งประกายเหมือนคิดอะไรออก

ไม่ใช่สิ เขาลบหล่อนเป็นเพื่อนได้โดยไม่ลังเล แสดงว่าเขาไม่รู้ว่าผู้ใช้นี้เป็นหล่อน

ไม่งั้นเขาจะลบหล่อนทำไม?

เส้นหมี่เข้าใจแล้ว ทันใดนั้น จู่ๆหล่อนก็มีความสุข

เลิกงานแล้วรีบกลับบ้าน

และถ้าออกจากนอกสายตาของเขาต้องรายงานเขาทุกเรื่อง

งั้นหล่อนก็ต้องกลับตอนนี้เลยละสิ? ตอนนี้ก็สิบโมงกว่าแล้ว เลิกงานเที่ยงตรงไหนจะรถติดอีก กลับถึงบ้านก็ตรงเวลาเลิกงานพอดี?

เส้นหมี่นั่งต่อไปไม่ได้แล้วรีบหยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้น

ปอร์เช่:“พี่จะทำอะไร?”

เส้นหมี่:“พี่ก็เลิกงานสิ สิบโมงกว่าแล้วพี่ต้องรีบกลับบ้าน ดูแลบริษัทด้วยนะมีเรื่องอะไรโทรหาพี่ได้”

หลังจากนั้นผู้หญิงคนนี้ก็วิ่งหายไปเร็วยิ่งกว่ากระต่าย

เหลือเพียงปอร์เช่ที่นั่งอยู่ตรงนั้นกับสายลม

เลิกงาน?

บริษัทของพวกเขามีเลิกงานด้วยเหรอ? และยังเลิกงานตอนเที่ยงอีกด้วย!!

——

ชั้นบนสุดของโรงแรมซีจี

ในที่สุดแสนรักก็นั่งร่วมโต๊ะโปกเกอร์กับทุกคน แต่ท่าทีของเขาดูไม่จริงจัง

ในทางกลับกันเขากลับมีรอยยิ้มบนใบหน้า

ม็อกโกถือไพ่ไว้ในมือแล้วพูดอย่างเลือกไม่ได้:“บอกมาสิว่าจะเอายังไงกับเรื่องตระกูลหิรัญชาของแกนี้ แกมีแผนยังไง?”