บทที่ 729 อำนาจที่น่ากลัวของซาตาน

โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล

บทที่ 729 อำนาจที่น่ากลัวของซาตาน

 

  เมื่อเห็นการมาถึงของพี่น้องตระกูลหลาน ซาตานแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็เป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

  ในไม่ช้าความประหลาดใจเส้นบาง ๆ จึงเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเย็นชา

 

  “ข้าไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า ในช่วงเวลาอันโดดเดี่ยวและตื่นขึ้นมาของข้านี้จะปรากฏปรมาจารย์ตบะพระเจ้าอยู่ด้วย มันเหลือเชื่อจริง ๆ ”

 

  “แต่เจ้าคิดว่าจะสามารถต่อกรกับมหาตบะของข้าโดยพวกเจ้าทั้งสามได้หรือ? ช่างไร้สาระนัก”

 

  ทันใดนั้นร่างของซาตานก็ลอยขึ้น พริบตานั้นดูเหมือนแม้แต่สวรรค์และโลกยังยอมจำนนต่อเขา แม้พี่น้องตระกูลหลานจะอยู่ในตบะพระเจ้า แต่พวกเธอก็ไม่สามารถต้านทานแรงกดดันเช่นนี้ได้ทั้งหมด

 

  “ตายซะเถอะ!” หลานจูชิงปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความฟุ้งซ่าน และในขณะเดียวกันนั้น ซาตานก็ปล่อยลำแสงไปยังหลานจูชิง

 

  หลานจูชิงยังไม่ทันได้ตอบสนอง ทันใดนั้น—–

 

  “ระวัง!” หลินเฟิงรีบหายตัวไปอยู่ด้านหน้าและเตะลำแสงนั้นออกไป

 

  “อย่าวู่วาม!” หลินเฟิงเอ่ยเตือน

 

  หลานจูชิงมองไปที่หลินเฟิง จากนั้นจึงสงบใจและจริงจังมากขึ้น

 

  “เริ่มได้” จากคำสั่งของหลินเฟิง หลานจูชิงก็พุ่งออกไปพร้อมกับหลินเฟิง

 

  ด้วยความร่วมมือจากหลานจูชิงและหลานหลิง หลินเฟิงรู้สึกได้ทันทีว่าความกดดันที่มีน้อยลงมาก

 

  เขารับรู้ได้ว่าพี่น้องทั้งสองไม่ใช่ปรมาจารย์ตบะพระเจ้าธรรมดา แต่ละคนมีทักษะเฉพาะตัว เมื่อยามเอาจริง ประสิทธิภาพการต่อสู้ของพวกเธอก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน

 

  แสงสีต่าง ๆ กำลังบินว่อนอยู่บนท้องฟ้า เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

  ทุก ๆ เสียงรุนแรงพอที่จะทำให้ยอดเขาต่าง ๆ พังทลายลงได้

 

  นี่คือการต่อสู้ระหว่างเหล่าเทพเจ้า เกรงว่าจะไม่มีใครสามารถแทรกแซงได้นอกจากผู้ที่กำลังต่อสู้กันอยู่

 

  แต่ขณะที่การต่อสู้ดำเนินไป สภาพของหลานหลิงกลับแย่ลงเรื่อย ๆ

 

  การต่อสู้ครั้งนี้กินเวลานานเกินไป เธอไม่เพียงแต่ช่วยหลานจูชิงเท่านั้น แต่ยังช่วยปรมาจารย์อย่างหลินเฟิงอีกคนจึงทำให้เธอรู้สึกว่ามันช่างหนักหนาเกินไป

 

  ในที่สุดเธอจึงเป็นคนแรกที่ล้มลง ความสามารถการเพิ่มพลังเหือดหายไปจนหมด ร่างทั้งร่างไร้เรี่ยวแรงที่จะนั่งทรงตัวอยู่บนพื้นไหวอีกต่อไป

 

  การเพิ่มพลังของหลานหลิงนั้นแข็งแกร่งมาก แต่หลังจากสูญเสียการเพิ่มพลังนี้ ผู้ที่ประสบปัญหาเร็วที่สุดก็คือหลานจูชิง

 

  แม้ว่าหลานจูชิงจะเป็นหญิงสาวที่งดงามมาก แต่ซาตานกลับไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย เมื่อเขาบุกเข้าไปถึงตรงหน้าของเธอ เขากำลังจะระเบิดหัวของเธอทิ้ง!

 

  “ออกไปให้พ้น!” หลินเฟิงตะโกนแล้วผลักหลานจูชิงออกไป หน้าอกของเขาจึงรับแรงกระแทกนั้นแทน

 

  พรู่ด! ทันใดนั้น ใบหน้าหลินเฟิงก็ซีดขาวและเลือดไหลออกจากปาก

 

  “หลินเฟิง!” ในเวลานี้หลานจูชิงทำได้แค่เรียกชื่อของหลินเฟิง

 

  “ข้าไม่เป็นไร” แม้จะเป็นฝ่ามือจากตบะเหนือธรรมชาติที่ไม่อาจต้านทานได้ แต่ตอนนี้หลินเฟิงยังอยู่ในสถานะร่างสัตว์จึงไม่เป็นอันตรายร้ายแรงนัก

 

  ซาตานทำปากจุ๊ ๆ: “ช่างเสียสละตัวเองเพื่อผู้อื่น อ้า งั้นข้าเอาจริงละนะ”

 

  เขาโจมตีหลินเฟิงอีกครั้ง หลินเฟิงก็กระอักเลือดอีกครั้ง ตามด้วยคนทั้งคนกระเด็นไปทางด้านหลังและพุ่งเข้าชนหลานจูชิง

 

  ทั้งสองล้มลงด้วยกัน แทบจะลุกไม่ขึ้น

 

  “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” สีหน้าของหลานจูชิงเต็มไปด้วยความกังวลจนน้ำตาใกล้จะหลั่งออกจากดวงตาคู่งามของเธอ

 

  หลินเฟิงไอสองครั้งด้วยใบหน้าซีดเซียว

 

  แม้ว่าเขาจะสามารถต้านทานการโจมตีได้หนึ่งครั้ง แต่คงไม่อาจต้านทานไหวหากมีอีกครั้งตามมา

 

  เสียงของซาตานดังลงมาจากท้องฟ้า: “นี่คือความแข็งแกร่งของเจ้างั้นหรือ? หากปรารถนาจะต่อต้านข้าด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้ก็น่าขำนัก!”

 

  “ในเมื่อพวกเจ้ามาอยู่ด้วยกันแล้ว ข้าก็ไม่ต้องเสียเวลาตามหาทีละคน หลินเฟิง เจ้าโชคดีจริง ๆ ที่จะมีสาวงามถึงสองคนถูกฝังไปพร้อมกับเจ้า!”

 

  ซาตานแสยะยิ้มอย่างเย็นชา เขาวาดมือลงและระเบิดลำแสงออกมา

 

  หากเป็นช่วงเวลาที่มีพลังสูงสุด หลินเฟิงจะสามารถบังคับลำแสงที่ลงมาได้ แต่เวลานี้ร่างสัตว์ของเขาเหือดหายไปตามพลังจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะต้านทานมัน

 

  เมื่อเห็นลำแสงกำลังตกลงมาจากท้องฟ้า หลินเฟิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขึ้นไปด้านบน

 

  ขณะที่สายตาของเขามุ่งมั่น ทันใดนั้นก็มีรอยแยกเปิดขึ้นกลางอากาศ จากนั้นลำแสงจึงถูกกลืนหายไป!

 

  “ใครกัน?” ซาตานรู้ได้ทันทีว่ามีบางคนกำลังแทรกแซง

 

  “ซาตาน ข้าไม่คาดคิดว่าจะได้เจอเจ้าหลังจากผ่านไปนานเช่นนี้ มันคงเป็นโชคชะตาสินะ”

 

  รอยแยกถูกเปิดออกอย่างช้า ๆ จากนั้นเจ้ามิติจึงออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม

 

  “เป็นเจ้าเองหรือ?” ซาตานและเว่ยนั้นถือเป็นผู้ที่อยู่ในยุคเดียวกัน ย่อมรู้จักการมีอยู่ของมิติมนุษย์เป็นธรรมดา

 

  “ผู้อาวุโสเว่ย?” หลินเฟิงกล่าวด้วยความประหลาดใจ “ทำไมเร็วนัก… “

 

  จากการคำนวณของหลินเฟิง ต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งปีในการฟื้นฟูกลับมาสู่ระดับเดิมของเว่ย

 

  เว่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ต้องขอบคุณที่เจ้าได้สังหารราชาแห่งการเหยียบย่ำ พลังงานของเขาเลยถูกพื้นที่ของข้าของดูดซับเอาไว้และสุดท้ายก็เข้าสู่ร่างกายของข้า”

 

  “ด้วยพลังของราชาแห่งการเหยียบย่ำ ข้าไม่เพียงแต่ฟื้นตัวเอง ทั้งยังได้ก้าวเข้าสู่ตบะเหนือธรรมชาติอีกด้วย”

 

  หลินเฟิงไม่เคยคิดมาก่อนว่าการกระทำแบบง่าย ๆ ของเขาจะส่งผลกระทบได้มากมายขนาดนี้ แต่อย่างไรนี่ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี

 

  เมื่อได้ยินคำพูดของเว่ย ซาตานจึงเอ่ยคำพูดดูถูกเหยียดหยามพร้อมยิ้ม: “ตบะเหนือธรรมชาติ ถึงเจ้าจะก้าวเข้าสู่ตบะนี้ได้ แล้วอย่างไร? ต่อหน้าข้า สถานะเหนือธรรมชาติกลับไม่ถือเป็นสิ่งใดได้เลย!”

 

  เว่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ตามธรรมชาติแล้ว ข้าคงไม่สามารถเผชิญหน้ากับเจ้าได้โดยลำพัง แต่อะไรจะบังเอิญนัก? หลังจากที่ข้าฟื้นตัวได้สมบูรณ์กลับพบว่าในพื้นที่ของข้ายังมีพลังงานที่แข็งแกร่งมากเป็นพิเศษซึ่งเกิดจากการสั่งสมมาหลายปี “

 

  “ตอนนี้เจ้าน่าจะรู้ดีแล้วว่าข้าหมายถึงสิ่งใด?”

 

  ด้วยการโบกมือเบา ๆ ของเว่ย รอยแยกของพื้นที่จำนวนมากถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นพลังงานสีทองก็ออกมาจากรอยแยกราวกับสายน้ำ มันหลั่งไหลเข้าสู่ร่างของหลินเฟิงและพี่น้องตระกูลหลาน

 

  ทันใดนั้นความแข็งแกร่งทางร่างกายของคนสามคนก็ได้รับการฟื้นฟู

 

  สีหน้าของซาตานมืดมนเป็นอย่างมาก รู้ไหม กว่าเขาจะโจมตีหลินเฟิงและคนอื่น ๆ จนสะบักสะบอมได้ขนาดนี้ย่อมต้องเสียแรงแลกไปไม่น้อยและไม่ได้ผ่อนคลายเลย

 

  แล้วเว่ยก็มาทำให้ทั้งสามคนนี้กลับคืนสู่สภาวะสูงสุดซึ่งเขาจะยอมรับมันได้อย่างไร

 

  “ช่างเป็นการโกงหน้าด้าน ๆ… ” ซาตานเอ่ยแล้วพุ่งเข้าใส่เว่ยด้วยความโกรธ กำปั้นของเขาเปล่งแสงสีดำออกมา

 

  เว่ยตรงเข้าไปในพื้นที่เพื่อหลบหนี วินาทีถัดไปก็มาปรากฏตัวอยู่ข้าง ๆ หลินเฟิง

 

  ซาตานใกล้จะบ้าคลั่งเต็มที เขารู้ดีว่าหากเขาไม่สามารถกำจัดทั้งสี่คนนี้ให้ได้โดยเร็ว ผลที่ตามมาจะยิ่งอันตรายมาก

 

  ดังนั้นเขาไม่ต้องการที่จะรอช้าอีกต่อไปจึงตะคอกขึ้นว่า: “เจ้าคิดว่าสบายแล้วหรือ ข้าเป็นถึงปีศาจแห่งนรกจะมาพ่ายแพ้ง่าย ๆ ได้อย่างไร?”

 

  หลินเฟิงมองเขาพร้อมเอ่ยบั่นทอน: “ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร วันนี้ถึงคราวที่เจ้าต้องพ่ายแพ้แล้ว!”

 

  ซาตานระเบิดเสียงออกมา: “เช่นนั้นก็มาลองดู!”

 

  หลังจากนั้นซาตานจึงควบรวมพลังวิญญาณทั้งหมดในร่างแล้วระเบิดเปลวไฟสีดำที่ลุกโชติช่วงออกมา ในช่วงเวลานั้น ทะเลเพลิงลุกโหมขึ้นทั่วท้องฟ้า ไกลออกไปเป็นระยะทางหลายร้อยไมล์

 

  “มาลงมือด้วยกันเถอะ!” หลินเฟิงเปล่งเสียงดังออกมาพร้อมกันนั้นก็ได้ควบรวมพลังวิญญาณเพื่อเปล่งแสงสีทองขนาดใหญ่ออกมา

 

  พลังวิญญาณของพี่น้องตระกูลหลานและเว่ยหมุนวนรอบแสงสีทอง แล้วพุ่งเข้าใส่เปลวเพลิงสีดำพร้อมกัน

 

  ตู้ม!

 

  ทั่วโลกต่างตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน