ณ อัลลิน นครลอยฟ้า…

สถาบันอะตอมให้ค่าตอบแทนดีเสียจนเบลคสามารถเช่าคฤหาสน์หลังหนึ่งที่มีสวนแมกไม้ในเขตชานเมืองหลังจากทำงานได้เพียงปีเดียว อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของเขาไม่เปลี่ยนไปเพียงเพราะเขามาถึงนครอัลลิน และเขาไม่อาจนอนหลับหากไม่ได้ฟัง ‘เสียงแห่งอาร์คานา’ และ ‘ความจริงของโลก’

“…สรุปว่าสภาเวทมนตร์ขยายอิทธิพลไปยังสี่ประเทศของช่องแคบและแนวชายฝั่งตอนเหนือ…”

น้ำเสียงที่กระตือรือร้นขอลาร์คดังเข้ามาในหูของเบลค ทำให้เบลคซึ่งกำลังเอนกายโซฟาอย่างเฉื่อยแฉะรู้สึกสงบสุขและรื่นรมย์จากก้นบึ้งของหัวใจ เขาประสานตัวเองเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับราตรีอันเงียบสงบรอบบ้านของเขา

ซ่า ซ่า ซ่า เสียงกระแสไฟดังสะท้อนมาจากวิทยุเวทมนตร์ เบลคมองที่วิทยุด้วยความสับสน เกิดอะไรขึ้น? รายการ ‘ความจริงของโลก’ น่าจะยังเหลือเวลารายการอีกครึ่งหนึ่ง หรือเป็นเพราะความผิดปกติของสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าอีกแล้ว?

เบลคลุกขึ้นมาจากโซฟาและเดินตรงไปยังวิทยุเวทมนตร์ เขากำลังจะปรับคลื่นวิทยุด้วยมือขวา ขณะที่จู่ๆ เสียงของชายชราคนหนึ่งก็ดังออกมาจากวิทยุ

“ท่านประธาน ก็จริงอยู่ที่ทฤษฎีหรือผลการศึกษาใหม่ๆ ที่อาจช่วยแก้ปัญหาของข้าจะออกมาเร็วๆ นี้ แต่นั่นก็อาจทำให้หัวของข้าระเบิดได้เหมือนกัน โดยเฉพาะถ้ามาจากลูเซียน อีวานส์ เจ้าเครื่องบดสมองคนนั้น”

เบลคตะลึงงันในทันที ท่านประธาน? เขาหมายถึงท่านดักลาสอย่างนั้นหรือ? รายการ ‘ความจริงของโลก’ เชิญเขามาด้วยหรือ? ฟังดูโลดโผนเกินไป

จอมเวทที่เติบโตขึ้นในสภาได้รับการสั่งสอนถึงความเพียรพยายามของท่านประธานในการก่อตั้งสภาเวทมนตร์ แม้จะมีอันตรายรอบด้านจากงานอันยากลำบากตั้งแต่วัยเยาว์ ทฤษฎีแรงโน้มถ่วงและระบบเคลื่อนที่ของเขาก็ยังเป็นทฤษฎีคลาสสิกที่นักเวททุกคนบูชาและศึกษาเรียนรู้ หลังจากผ่านมาหลายร้อยปี ทั้งสองทฤษฎีก็ยังคงเป็นเสาหลักที่แบกรับระบบอาร์คานา ‘หลักคณิตศาสตร์ของปรัชญาเวทมนตร์’ ก็ได้รับการยกย่องเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์อาร์คานาและเวทมนตร์ และเป็นสัญลักษณ์แห่งอารยธรรมที่แบ่งแยกความมืดและความโง่เขลาออกจากการค้นพบปริศนาของโลกอันแท้จริง

ฉะนั้น สำหรับนักเวทส่วนใหญ่ ประธานดักลาสคือเสาค้ำยันทางจิตใจของสภา เป็นขุนเขาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงในโลกแห่งเวทมนตร์ และเป็นบุรุษผู้ค้ำจุนฟากฟ้าแห่งระบบอาร์คานา เขาเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน ไม่ว่าจะวัยชราหรือวัยหนุ่มสาว

“เขายังไม่ได้เปิดเผยความก้าวหน้าที่นำเสนอออกมาทั้งหมด เจ้าอาจจะเห็นคุณค่าในทฤษฎีใหม่ของเขาในอีกสาม ห้า หรือสิบปีก็เป็นได้”

ใช่ นี่คือเสียงประธานดักลาสจริงๆ! ทั้งเนื้อเสียงและน้ำเสียงบอกตรงกัน!

เบลครู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที เขามีสิทธิพิเศษในการรับฟังปาฐกถาของท่านประธานผ่านช่วง ‘หนึ่งสัปดาห์ในอัลลิน’ ในรายการ ‘ความจริงของโลก’ ซึ่งทำให้เขาประทับใจมาก ความเรียบง่าย ความกรุณา และคำชื่นชมที่มีต่อผู้มีพรสวรรค์หน้าใหม่ๆ อย่างไม่ขาดสายของเขาเป็นสิ่งที่กลั่นออกมาจากใจอย่างไม่ต้องสงสัย!

“วิเศษไปเลย ในที่สุด พวกเขาก็เชิญท่านประธานมา ‘ความจริงของโลก!’ ปัญหาเดียวก็คือทำไมผู้สัมภาษณ์เป็นชายแก่ น้ำเสียงไม่เป็นมิตร แผนที่สหายเก่าของทุกคน ท่านหญิงลาร์คหรือท่านหญิงไนติงเกล? แค่ฟังเสียงของสองคนนี้ก็มีความสุขแล้ว”

ความคิดตลกบางอย่างก็ผุดขึ้นในหัวเบลค แต่เขาเดาว่าชายคนนั้นคือสหายเก่าของท่านประธาน เพราะฉะนั้นเขาถึงสามารถเชิญท่านประธานมาร่วมรายการได้ สถานีวิทยุสองช่องนี้ก่อตั้งมาแล้วหลายปี แต่ไม่มีสมาชิกสภาสูงสุดคนไหนอยากเข้าร่วมรายการสนทนาเลยสักคน

“เหมือนเรื่อง ‘กระแสไฟฟ้าของวัตถุเคลื่อนที่และสมการมวลสาร-พลังงาน’ อย่างนั้นหรือ?”

“ใช่”

หูของเบลคได้ยินน้ำเสียงหดหู่ของดักลาสอย่างชัดเจน ทำให้รอยยิ้มของเขาหายไปจากหน้า

ขณะที่เขาชื่นชมเจ้านายและผู้จัดการสถาบันอะตอม ท่านลูเซียน อีวานส์ อย่างมาก แต่ก็ยังจำกัดอยู่เฉพาะสาขาการเล่นแร่แปรธาตุสมัยใหม่และธาตุเท่านั้น เขาเป็นสาวกของท่านประธานในเรื่องของทฤษฎีแรงโน้มถ่วงและระบบเคลื่อนที่ ดังนั้น ส่วนหนึ่งเขาจึงรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้เห็นอีวานส์แจ้งปัญหาของระบบเคลื่อนที่ของดักลาส แต่อีกส่วนหนึ่งก็รู้สึกหลงทางเพราะจู่ๆ เสาหลักทางจิตใจที่ค้ำยันแนวคิดอาร์คานาก็พังทลายลง โลกแห่งอาร์คานาที่เคยแจ่มชัดและเต็มไปด้วยจินตนาการก็กลายเป็นวุ่นวายและคลุมเครือ

นอกจากนี้ ความยุ่งเหยิงของกาลและอวกาศสัมพัทธ์ต่อแนวคิดกาลและอวกาศสัมบูรณ์ และคำอธิบายที่น่าเหลือเชื่อ ก็เข้าเกาะกุมหัวใจของเขาซึ่งเรื่องตั้งคำถามถึงระบบอาร์คานาทั้งระบบ

หากระบบเคลื่อนที่ของท่านประธาน หนึ่งในทฤษฎีคลาสสิกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผิดพลาดแล้ว ทฤษฎีคลาสสิคอื่นจะเป็นอย่างไร?

โชคดีที่ยังมีทฤษฎีแรงโน้มถ่วงที่น่าเกรงขามอยู่!

ในห้องออกอากาศของรายการ ‘ความจริงของโลก’…

‘ลาร์ค’ หรือซาแมนธา กำลังท่องบทของตัวเองอย่างตั้งใจ เตรียมพร้อมแสดงความเห็นในประเด็นอย่างเสรีให้หลัง ขณะที่จู่ๆ ประตูของห้องออกอากาศก็ถูกเปิดออก

“เกิดเรื่องแล้ว!” จอมเวทที่เดินเข้ามาพูดด้วยใบหน้าซีดเผือด

ซาแมนธาเป็นทั้งผู้ดำเนินรายการหลักและผู้จัดการที่ลูเซียนมอบหมายให้ดูแลกิจการของรายการ ‘ความจริงของโลก’ นางบอกเป็นนัยว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นด้วยสายตาของนางและขอให้จอมเวทที่รับผิดชอบการถ่ายทอดวิทยุเล่นโฆษณาไปก่อน

จอมเวทที่เพิ่งเข้ามาถือวิทยุเวทมนตร์ติดมือเขามาด้วย เขาพูดด้วยน้ำเสียงสับสนและตื่นตระหนก “ท่านหญิงซาแมนธา รายการของท่านถูกตัดและเอาบทสนทนาระหว่างท่านประธานกับนักเวทอีกคนมาออกแทน”

“อะไรนะ?” ซาแมนธารู้ดีกว่าใครว่าท่านประธานจะไม่ถูกรับเชิญมาร่วมรายการ

นางตกตะลึงจากสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นจนทำอะไรไม่ถูกอยู่พักใหญ่

จอมเวทคนใหม่เปิดวิทยุ และปล่อยให้ทุกคนในห้องออกอากาศได้ฟังเสียงของชายชรา

“…สงสัยในตัวข้าเองและระบบอาร์คานาที่ผ่านมาหลายร้อยปี ท่านดักลาส ข้าเฝ้าติดตามท่านมาตั้งแต่สิ้นสุด ‘สงครามแห่งรุ่งอรุณ’ เราก่อตั้งสภาขึ้นมาภายใต้การกดขี่ของศาสนจักร ทฤษฎีแรงโน้มถ่วงและระบบการเคลื่อนที่ของท่านเป็นประหนึ่งประภาคารที่ส่องแสงนำทางข้า แต่ตอนนี้ หนึ่งในประภาคารสองแห่งนี้กลับถูกประกาศว่า ‘ผิด’ ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าควรเชื่ออะไรอีกแล้ว ข้าไม่ต่างจากเรือในพายุ ไม่เหลืออะไรนอกจากความมืดอยู่ตรงหน้า”

ความสับสนและความสิ้นท่าของเขาทำให้จอมเวททุกคนในห้องออกอากาศตะลึงงัน ดูเหมือนว่านี่จะเป็นคำอธิบายที่ดีที่สุดสำหรับคำถามที่พวกเขาเฝ้าถามตัวเองมานานหลายเดือน ผู้ที่ไม่เคยมีภาวะความเจ็บป่วยทางอารมณ์และจิตใจคงไม่อาจเข้าใจความสิ้นหวังและความหดหู่

ซาแมนธา สังกัดสำนักโหราศาสตร์และสนามแรง กลั้นหายใจและรอคำตอบของท่านประธาน เขาไม่เคยแสดงความเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้มาก่อน

“มันไม่ผิด แต่มีปัญหาที่การประเมินค่าความเร็วต่ำของระบบสัมพัทธภาพ”

เสียงของดักลาสสะท้อนไปทั่ว ตามที่ทุกคนคาดไว้

ต่างจากจอมเวทระดับต้น เช่น เบลค จอมเวทส่วนใหญ่ในห้องออกอากาศเคยได้รับอภิสิทธิ์พบปะกับท่านประธาน เมื่อเขาได้เอ่ยปากชมรายการ ‘ความจริงของโลก’ แล้วทุกคนสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่านี่คือเนื้อเสียงและน้ำเสียงของท่านประธานสภา ซาแมนธาซึ่งเคยเข้าไปในมิติแดนสัจธรรมพร้อมกับอาจารย์ของนาง มั่นใจเรื่องนี้มากที่สุด

แต่คำตอบของท่านประธานก็ไร้เหตุผลและสร้างความไม่มั่นใจเกินไปไม่ใช่หรือ? นั่นเป็นแค่คำพูดของลูเซียน อีวานส์

“ท่านประธาน การประเมินค่าความเร็วต่ำหมายความว่าท่านมองข้ามหลายอย่างในระบบเคลื่อนที่ของท่านมากเกินไป และมีข้อผิดพลาดมากเกินไป แล้วท่านก็ยังไม่คิดว่า ‘กาลคืออวกาศ และอวกาศคือกาล’ ‘กาลขึ้นอยู่กับสสาร และเป็นหน้าที่ของความเร็ว’ จะหักล้างความเข้าใจของเราโดยสิ้นเชิงสินะ?”

ใช่! นั่นคือความรู้สึก! เหล่าจอมเวทต่างเห็นด้วยกับเขาอยู่เงียบๆ ลองยกแม่แบบหรือคำอธิบายให้เราเข้าใจหน่อยเถอะ ท่านประธาน!

“มันแตกต่างจากญาณของเราโดยสิ้นเชิง ตอนข้าเห็นผล ข้าก็รู้สึกว่าอดีตที่ผ่านมานับพันปีของข้าถูกปฏิเสธ” ดักลาสยอมรับอย่างค่อนข้างตรงไปตรงมา เสียงที่ฟังดูแก่ชราและสมองของเขาก็ลอยออกมา

ตู้ม!

ผู้คนส่วนใหญ่ในห้องออกอากาศรู้สึกถึงสายฟ้าฟาดที่ระเบิดอยู่ในหัวใจ ชีวิตที่ผ่านมาหนึ่งพันปีของเขาถูกปฏิเสธ… ถูกปฏิเสธโดยสิ้นเชิง

แม้แต่ชีวิตของท่านประธานยังถูกปฏิเสธโดยสิ้นเชิง แล้วชีวิตของพวกเขาเองล่ะ?

ซาแมนธากำลังคิดอยู่ในภาวะตะลึงงันในตอนแรก ก่อนที่นางจะตระหนักได้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น “ท่านประธานไม่มีทางตอบแบบนี้! นี่เป็นแผนของศัตรู!”

“ไบรอัน เจ้าไปตามหาลูเซียน ข้าจะขอให้ท่านหญิงเฮลเลน ใช้อุปกรณ์แทรกแซงเพื่อปิดกั้นสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าจากอัลลิน!”

นี่เป็นแผนฉุกเฉินที่ลูเซียนคิดไว้ก่อนแล้ว ด้วยการเทเลพอร์ตมาจากโลกเดิม เขาไม่อาจเพิกเฉยต่อความเป็นไปได้ที่ศัตรูอาจตอบโต้ด้วยการล้างสมองนักเวทด้วยวิทยุและสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้า ดังนั้น เขาจึงเตรียมแผนฉุกเฉินไว้สองสามแผน

แม้ว่าการปิดกั้นวิทยุจะทำได้เฉพาะที่อัลลินในตอนนี้ ซาแมนธาก็ไม่มีเวลาเหลือพอที่จะไหว้วานสาขาหรือองค์กรท้องถิ่นอื่นๆ!

“ความจริงของโลกนี้อยู่เหนือกว่าจินตนาการของเรา มีคำถามอีกมากมายที่ยังตอบไม่ได้ และยังมีอีกมากมายหลายสิ่งมุ่งสู่สิ่งเดียวกัน ลักษณะของแรมโน้มถ่วงคืออะไร? แรงโน้มถ่วงปรากฏขึ้นมาในตอนแรกได้อย่างไร? หากระบบเคลื่อนที่ดาราศาสตร์ของท่านถูกต้อง แล้วแหล่งเริ่มต้นที่ทำให้ดาวเคราะห์หมุนคืออะไร?”

มือของซาแมนธาซึ่งกำลังจะแตะที่ต่างหูสื่อสารของนางก็แข็งทื่อขึ้นมา นั่นเป็นคำถามที่ทำให้นักเวททุกคนของสำนักโหราศาสตร์สับสนมึนงงมาตลอด

ลักษณะของแรมโน้มถ่วงเป็นอย่างไร? ท่านประธานจะตอบอย่างไร? แรงเฉื่อยของมือที่ไปแตะต่างหูสื่อสารช่วยให้นางติดต่อเฮลเลนผ่านทางคลื่นความถี่ลับ ขณะที่นางกำลังรอคำตอบ นางพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงไม่ต่างจากลม “ท่านหญิงเฮลเลน สัญญาณของศัตรูได้เจาะระบบสัญญาณ ‘ความจริงของโลก’…”

เฮลเลนซึ่งมีหน้าที่ป้องกันนครอัลลินกำลังอยู่ที่ชั้นสามสิบสาม นางเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนเอลฟ์หิมะ ริมฝีปากของนางเป็นสีฟ้า แต่นางก็มีเสน่ห์อันแปลกประหลาดรายล้อมอยู่รอบตัว

เมื่อได้ยินรายงานเรื่องราวของซาแมนธา นางไม่ได้รีบร้อนที่จะเปิดอุปกรณ์แทรกแซงสัญญาณในอัลลิน แต่ตรงกันข้าม นางเปิดวิทยุบนโต๊ะทำงาน และพยายามสืบหาว่าใครเป็นผู้แทรกซึมสัญญาณเข้ามาและด้วยวิธีไหน เพื่อการเตรียมรับมือที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต

“นั่นก็เป็นเรื่องที่ข้ากำลังสงสัย แรงโน้มถ่วงมาจากไหน? มันกระจายตัวอย่างไร? มันถูกสร้างขึ้นมาในตอนแรกอย่างไร? ยิ่งข้ารู้มาก ข้าก็ยิ่งหลงทางและหวาดกลัว”

“บางทีข้าอาจคิดผิดมาตลอด”

ขณะที่นางกำลังฟัง ความตะลึงงานและความสิ้นศรัทธาก็ปรากฏบนใบหน้าอันแช่มช้อยและเยือกเย็นของเฮลเลนเกินกว่าที่นางจะควบคุมได้

คนอื่นๆ อาจสงสัยว่าเสียงนั้นถูกปลอมขึ้นมาผ่านเวทมนตร์หรือพลังเทพ แต่ในฐานะมหาจอมเวท นางรู้ดีว่าหลังจากใครสักคนขึ้นเป็นนักเวทชั้นตำนาน โลกแห่งปัญญาของคนๆ นั้นจะค่อยๆ หลอมละลายรวมกับวิญญาณ และคำพูดก็จะมีพลังของโลกแห่งปัญญาและส่งผลสะท้อนถึงโลกความเป็นจริง แม้แต่ตอนที่ไม่ได้ใช้เวทมนตร์ เสียงของนักเวทชั้นตำนานก็ยังคงมีกลิ่นอายที่เป็นเอกลักษณ์ เว้นเสียแต่ว่านักเวทชั้นตำนานตั้งใจปลอมเสียงเสียเอง

หากไม่รู้องค์ประกอบในโลกแห่งปัญญาของนักเวทชั้นตำนาน ก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะเลียนแบบและปลอมความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์นี้ คนที่มีความสามารถระดับนั้นล้วนเป็นผู้เป็นเลิศในด้านภาพมายาและการแปลงกาย เช่น เนตรแห่งคำสาป ราชาแห่งฝันร้าย และปรมาจารย์แห่งการแปลงกาย แต่ทำไมพวกเขาถึงทำเรื่องนี้ขณะที่สภาเพิ่งประสบชัยชนะอันเกรียงไกร?

…………………………………