EG บทที่ 649 เล่ห์เหลี่ยม 1

 

“ต้าจวง!ไปที่หนึ่งเป็นเพื่อนฉันหน่อยและนายก็…”

แม้ว่าเฮียเหอยืนยันว่าจะไปช่วยหยิงซีจริงแต่เขาจะไม่ไปคนเดียวเป็นอันขาด ต้าจวงเป็นหนึ่งในผู้ติดตามของเขา แม้ว่าต้าจวงจะไม่มีทักษะการขโมยแต่ก็เป็นคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่และแข็งแรง หน้าที่หลักๆของเขาในแก๊งค์คือการช่วยเหลือสมาชิกที่ถูกจับตัวไป เขาเปรียบเสมือนบอดี้การ์ดของแก๊งค์เสียมากกว่า

ต้าจวงจงรักภักดีต่อเฮียเหอยิ่งนัก เขาไม่ลังเลที่จะแทงใครสักคนหากเฮียเหอเป็นคนสั่งให้เขาทำ แต่คราวนี้เฮียเหอจะไม่ได้สั่งให้เขาไปแทงใครและไม่ได้ให้ไปเป็นบอดี้การ์ดอย่างที่เคยเป็นเช่นกัน

เฝิงหยู่วางสายโทรศัพท์ลงหลังจากคุยกับหัวหน้าหลี่เป็นที่เรียบร้อย สิ่งนี้ทำให้หยิงซีถึงกับตกตะลึง คนผู้นี้ไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิด! เขาบอกให้เฮียเหอเดินทางมาช่วยเธอแต่ในขณะเดียวกันเขาก็เรียกตำรวจให้มาที่นี่ด้วย

บ้าที่สุด! คนผู้นี้ต้องการจับพวกเขาทั้งหมด! ถ้าเฮียเหอถูกจับก็เท่ากับจบเห่! เฮียเหอไม่ได้ก่อคดีเพียงคดีเดียวเท่านั้น เขามีคดีอื่นๆยิ่งกว่าหางว่าวเสียอีก!

“คุณโทรหาใคร? คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”

หยิงซีตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

“ผมก็โทรหาหัวหน้าตำรวจหลี่สิครับ? เขาเป็นหัวหน้าใหญ่ของมณฑลนี้! ผมคิดว่าสถานีตำรวจเล็กๆพวกนี้คงไม่สามารถทำอะไรกับพวกคุณทั้งหมดได้ ดังนั้นผมก็ต้องขอความช่วยเหลือจากคนที่มีอำนาจสูงขึ้นเพื่อจะกวาดล้างพวกคุณทั้งหมด! นี่คุณคิดว่าผมจะปล่อยคุณไปจริงๆงั้นหรือ? แต่ผมคิดว่าคุณเป็นเพียงแค่เหยื่อล่อเท่านั้นล่ะ!”

เฝิงหยู่ไม่รู้สึกละอายที่จะบอกคนอื่นว่าตัวเองโกหกแม้แต่น้อย

เฝิงหยู่ไม่ใช่คนใจบุญ เขาไม่สนใจหรอกว่าเหตุผลอะไร?ที่ทำให้คนกลุ่มนี้เลือกหันมาเป็นโจร เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะมาสงสารคนอื่นและปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ คนพวกนี้เลือกเป้าหมายเป็นไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตเองนี่นา? แน่นอนว่าเขาต้องการเชือดไก่ให้ลิงดูว่าพวกเขาไม่ควรพุ่งเป้ามาที่ไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตตั้งแต่แรก!

ผู้จัดการจ้าวแจ้งแก่เขาว่าต้องการสอนบทเรียนให้กับคนพวกนี้และขู่ให้พวกเขาอยู่ห่างจากไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตเข้าไว้แต่วิธีของเฝิงหยู่กับรอบคอบมากกว่าเดิม!

หัวหน้าหลี่เดินทางมาถึงไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตในอีก 15 นาทีต่อมา เฝิงหยู่ไปรู้จักเขาได้อย่างไรงั้นหรือ? เฝิงหยู่ได้พบกับหัวหน้าหลี่ครั้งหนึ่งเมื่อตอนร่วมรับประทานอาหารเย็นกับเลขาธิการจาง

เลขาธิการจางเป็นคนรับผิดชอบระบบตุลาการทั้งหมดของเมืองปักกิ่งและสถานีตำรวจทั้งหมดก็ขึ้นตรงกับเขาเช่นกัน ในเมืองปักกิ่งถือว่าคำสั่งของเลขาธิการจางมีอำนาจมากกว่าคณะเทศมนตรีของเมืองปักกิ่งเสียอีก

เลขานุการจางเป็นคนเมืองปิงและผู้จัดการเฝิงคนนี้ก็มาจากเมืองปิงเช่นกัน หัวหน้าหลี่ย่อมรู้ในทันทีว่าพวกเขาทั้งคู่มีคอนเนคชั่นที่ดีต่อกัน ส่วนที่น่าตกใจที่สุดคือช่วงพิธีเปิดของไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ต มีการเชิญหัวหน้าตำรวจระดับสูงถึง 3 นายจาก 3 มณฑลมาร่วมงานด้วย สิ่งนี้ย่อมแสดงให้เห็นว่าผู้มีอำนาจในระดับสูงต้องการให้กรมตำรวจกลางของเมืองปักกิ่งเป็นคนดูแลไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ต

เฝิงหยู่ได้แจ้งแก่หัวหน้าหลี่ว่าหัวขโมยกลุ่มนี้พุ่งเป้ามาที่ไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตและยังจับตัวสมาชิกไว้ได้ 1 คน ทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรีบมาที่นี่โดยไวที่สุด

เขาต้องการสอบปากคำหัวขโมยคนนี้เป็นการส่วนตัวและต้องจัดการเรื่องนี้อย่างรอบคอบ

“ผู้จัดการเฝิง นี่นะหรือหัวขโมยคนนั้น?”

หัวหน้าหลี่เอ่ยถาม

“ใช่ สิ่งที่เธอขโมยไปยังอยู่ในตัวเธอ เราไม่มีรปภ.หญิงเลยไม่สามารถค้นตัวเธอได้”

เฝิงหยู่อธิบายออกมา

“ไม่มีปัญหาครับเพราะเรานำตำรวจหญิงมาด้วย เสี่ยวซู่! รีบไปค้นตัวเธอเร็วเข้า! ผมอยากรู้แล้วว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในตัวเธอบ้าง”

หัวหน้าหลี่ส่งสัญญาณให้กับตำรวจหญิงในเครื่องแบบที่ติดตามมาด้วย เธอรีบสาวเท้าไปหาหยิงซีทันที

“คุณจะทำอะไรฉัน!? นี่คุณ! คุณไม่ได้ยินเหรอว่าเฮียเหอจะมาที่นี่!”

หยิงซีหันไปตะโกนถามเฝิงหยู่

“ผมแค่บอกให้หัวหน้าคุณมาหาคุณที่นี่เท่านั้น! แต่ผมไม่ได้บอกว่าจะให้คุณกลับไปเมื่อหัวหน้าคุณมาถึงแล้วสักหน่อย? คุณต่างหากล่ะที่ตีคำพูดของผมผิดไป”

เฝิงหยู่จ้องหยิงซีเขม็ง

หยิงซีอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ตำรวจหญิงกับล็อคตัวเธอเอาไว้และเริ่มค้นตัวเธอทันที จากนั้นข้าวของต่างๆก็ค่อยๆร่วงออกจากร่างของเธอ

หยิงซีใช้ตะขอห้อยสิ่งที่เธอขโมยเอาไว้และการขยับอย่างกะทันหันทำให้เชือกที่ใช้เกี่ยวกับตะขอภายใต้เสื้อผ้าของเธอขาดออกและข้าวของบางส่วนก็หล่นลงมา

เบียร์,แฮม,หมวกเบสบอล,ใบชา,ยาสระผม…….

ตำรวจหญิงจึงตัดสินใจดึงเสื้อคลุมของหยิงซีออกทันทีและนั่นทำให้ทุกคนตกใจไปตามๆกัน!

ทุกคนต่างคิดว่าหยิงซีอาจขโมยของต่างๆและเหน็บมันไว้ในเสื้อผ้าเท่านั้น แต่สิ่งที่เธอทำคือการใช้ตะขอเกี่ยวกับเชือกเพื่อห้อยสิ่งของที่ขโมยไว้ภายใต้เสื้อผ้าของเธอ!

หยิงซีเป็นเพียงหญิงร่างบางแต่ด้วยเสื้อผ้าและข้าวของที่ขโมยไปทำให้เธอดูเหมือนคนอ้วน ภายใต้เสื้อคุลมตัวนี้มีสิ่งของต่างๆมากมาย เธอดูเหมือร้านค้าเคลื่อนที่ไม่มีผิด!

หลังจากสินค้าที่อยู่ภายใต้เสื้อคลุมถูกเอาออกมาจนหมด สายตาของคนในห้องต่างพุ่งไปที่กระโปรงของเธอ มันเป็นกระโปรงที่ยาวจนถึงตาตุ่ม

“พวกคุณจะทำอะไร? ฉันเป็นผู้หญิงนะ!”

หยิงซีกรีดร้องออกมา

หัวหน้าหลี่หยุดตำรวจหญิงเอาไว้ก่อนที่เธอจะถลกกระโปรงของหยิงซีออก

“ผมจะให้โอกาสคุณ รับสารภาพมาซะเถอะ! อย่าบังคับให้เราทำร้ายคุณเลยเพราะถึงอย่างไรเราก็มีหลักฐานมัดตัวคุณแล้ว!”

ตำรวจระดับสูงที่หยิงซีเคยพบมาทั้งชีวิตคือหัวหน้าสถานีเล็กๆเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับหัวหน้าตำรวจระดับมณฑล ด้วยเครื่องแบบและท่าทางที่น่าเกรงขามของเขาทำให้เธอไม่กล้าที่จะคิดต่อต้านเขาอีก

“ฉัน..ฉันจะเอามันออกเอง”

ราวกับเฝิงหยู่และคนอื่นๆได้พบสิ่งมหัศจรรย์ของโลก พวกเขาไม่คิดว่ากระโปรงยาวจะสามารถเก็บข้าวของได้มากมายขนาดนี้ โดยเฉพาะเบียร์นำเข้าขนาด 5 ลิตร น้ำมันถั่วเหลืองขวดใหญ่และสินค้าชิ้นใหญ่ๆอีกหลายรายการ ทั้งหมดนี้ซ่อนอยู่ในร่างของหยิงซี! นี่เธอสามารยืนนิ่งอยู่เฉยๆได้อย่างไรโดยที่ไม่ล้มไปก่อน?

บนพื้นห้องมีสินค้าหลากประเภทวางเรียงรายอยู่ มูลค่ารวมของสินค้าเหล่านี้มากกว่า 1,000 หยวน!สินค้านำเข้ามีราคาแพงกว่าและหยิงซีก็เลือกขโมยสินค้านำเข้าเป็นส่วนใหญ่

“สินค้าเหล่านี้รวมทั้งหมดได้ 1,326.53 หยวนครับ!”

ผู้ช่วยคลังสินค้าแจ้งมูลค่าที่หยิงซีขโมยไปหลังจากคำนวณเรียบร้อยแล้ว

เฝิงหยู่อยากรู้จริงๆว่าหยิงซีทำแบบนี้ได้อย่างไร? สิ่งที่เธอทำนั้นยิ่งกว่าโชว์มายกลเสียอีกแม้แต่นักมายากลมืออาชีพก็ไม่สมารถซ่อนสิ่งของแบบที่เธอทำได้

“สินค้าที่คุณขโมยไปมีมูลค่ามากกว่า 1,000 หยวน! อีกทั้งคดีเก่าๆที่คุณก่อเอาไว้ เราจะสามารถขังคุณไว้ในคุกได้นานกว่า 15 วันด้วยซ้ำ”

หัวหน้าหลี่พูดด้วยน้ำเสียงสบายอารมณ์

“ฉันยอมแพ้แล้ว”

หยิงซีพยายามอ้อนวอน

“หุบปาก! มือเท้าของคุณก็ยังดีแต่ยังมีหน้ามาขโมยของคนอื่นอีกเหรอ? คุณคิดว่าสิ่งที่คุณทำมันจะทำให้พ่อแม่คุณภูมิใจหรือไง? ผมคิดว่า…..คงต้องส่งตัวคุณไปยังค่ายแรงงานเพื่อดัดนิสัยแล้วกระมัง?”

หัวหน้าหลี่กล่าวพร้อมกับชำเลืองดูปฏิกิริยาของเฝิงหยู่ไปด้วย นี่เป็นบทลงโทษที่หนักที่สุดที่เขาพอจะนึกออก! หากเฝิงหยู่ยังไม่พอใจเขาก็ต้องหาวิธีอื่น

ค่ายแรงงาน?

เฝิงหยู่พยักหน้ารับ แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจเกี่ยวกับกฎหมายในตอนนี้แต่เขาก็รู้ว่าการลักทรัพย์ไม่ถือว่าเป็นคดีอาญาร้ายแรง ไม่มีทางที่จะใช้กฎหมายหนักๆเล่นงานเธอได้และการส่งเธอไปที่ค่ายแรงงานดูเหมือนจะเป็นบทลงโทษที่รุนแรงมากพอสำหรับเธอ

“ใช้ระยะเวลานานเท่าไหร่หรือครับ?”

เฝิงหยู่เอ่ยถาม

“ไม่มีระยะเวลากำหนดแน่ชัดหรอกครับ มันก็ขึ้นอยู่กับความประพฤติของเธอ หากเธอทำได้ดีก็จะถูกปล่อยตัวภายใน 1 เดือน”

หัวหน้าหลี่เห็นสีหน้าของเฝิงหยู่เปลี่ยนไปครู่หนึ่งเขาจึงรีบพูดต่อทันที

“แต่บางคนที่ไม่คิดจะกลับใจก็จะอยู่ในค่ายแรงงานต่อไปอีกหลายปีครับ”

หยิงซีรู้สึกราวกับโลกถล่ม อะไรกัน? ต้องอยู่อีกหลายปีในค่ายแรงงานงั้นหรือ? ฉันแค่ขโมยของไปไม่กี่อย่างแต่พวกคุณต้องการลงโทษฉันหนักขนาดนี้เลยหรือ?

นี่เป็นครั้งแรกที่หยิงซีรู้สึกเสียใจ เธอไม่ได้เสียใจที่คิดขโมยของแต่เธอเสียใจที่มาขโมยของในไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างหาก!

ในขณะนั้นเองรปภ.นายหนึ่งก็เดินเข้ามาและแจ้งบางอย่างแก่เฝิงหยู่

“ผู้จัดการเฝิงครับ! มีชายร่างใหญ่มาขอพบคุณด้านนอกครับ! เขาบอกว่าตัวเองแซ่เหอและมาที่นี่เพื่อช่วยเพื่อนของเขาครับ!”

ในที่สุดนักแสดงหลักก็เดินทางมาถึง! เฝิงหยู่แต้มรอยยิ้มเย็นบนใบหน้าของเขาทันที