จางเจิ้งเฉียงเห็นว่ามีมนุษย์หนอนสองตัวกำลังเข้ามาใกล้ เขาจึงรีบออกไปบล็อคพวกมันทันที ในขณะเดียวกันหลินหลี่กำลังกวัดแกว่งดาบยักษ์เป็นวงกว้าง เมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้หัวหน้ามนุษย์กิ้งก่าก็ตกตะลึง ‘ความเสียหายต่อเนื่องของเด็กคนนั้นน่ากลัวจริงๆ หนอนเหล่านี้ไม่สามารถทนต่อการกรีดเฉือนจากดาบของเขาได้เลย’ ทันใดนั้นมนุษย์หนอนที่อยู่ข้างหน้าเขาก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ขณะที่ดวงตาและหัวใจของมันถูกยิง เขาหันกลับไปมองทันที และเห็นมนุษย์ที่มีหัวหมาป่ายืนถือบาลิสต้าอยู่ ‘มนุษย์เหล่านี้มาที่นี่เพื่ออะไร? เอาไว้ค่อยคิดทีหลังดีกว่า ฉันควรจดจ่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ก่อน!’ เขาปีนขึ้นไปบนร่างของมนุษย์หนอนอย่างรวดเร็ว และตอกลูกศรที่แทงหัวใจมนุษย์หนอนด้วยไม้รูปกรวย

ทันใดนั้นชาล่าก็รู้สึกอบอุ่น ลำแสงพุ่งทะลุผ่านเขา แล้วหันไปหาเพื่อนที่บาดเจ็บจนทำให้บาดแผลของพวกเขาหายเป็นปกติอย่างรวดเร็ว และสถานะของพวกเขาก็ฟื้นคืนกลับมา

เมื่อเย่เทียนเปิดใช้งานเวทย์มนตร์เพื่อฮีล จากนั้นก็มีไข่มุกเรืองแสงจำนวนมากลอยวนอยู่รอบๆ ไข่มุกเหล่านี้ถูกส่งไปยังร่างกายของมนุษย์กิ้งก่า ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสในก่อนหน้านี้ฟื้นตัวกลับมาในทันที และเริ่มกลับไปต่อสู้ ชาล่ามองไปที่เย่เทียนที่กำลังขี่อยู่บนแมลง “ลาชิยา ลอฮา! (ขอบคุณมนุษย์!)”

เมื่อได้ยินภาษานี้ เย่ฉางที่มาถึงด้านข้างนั้นก็ตกตะลึงไปชั่วครู่ ‘โอ้! ดูเหมือนว่าฉันจะเข้าใจภาษามังกรด้วยเหมือนกัน!’ จากนั้นเขาก็ใช้ [Healing Spring] ให้กับกลุ่มมนุษย์กิ้งก่า และตะโกน “อลีนาโด้ คิยาคองนานิย๊า! (ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมาดื่มน้ำพุนี่! มันช่วยสมานบาดแผลได้!)

เมื่อเห็นว่ามีหนอนนักซุ่มโจมตีจำนวนหนึ่งโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง ประกายไฟและแสงก็เรืองรองอยู่ในมือของเขา เย่ฉางทำให้พวกมันล้มลงด้วย [Light Strike Array] ชาล่าจึงใช้โอกาสนี้โจมตีศัตรูที่อยู่ในทีมของเขาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นพื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือน หัวหน้ามนุษย์กิ้งก่าเห็นโกเล็มคำราม และวิ่งกระแทกหนอนออกไปตลอดเส้นทาง ‘ทำไมถึงมีเงาดำสองเงา และมนุษย์ที่ตามมาด้านหลัง?’

การมีส่วนร่วมในการต่อสู้ของพวกเย่ฉางเปลี่ยนสถานการณ์โดยทันที โดยเฉพาะเย่ฉาง และเย่เทียน หลังจากที่ AV ได้ฟื้นฟูพลังงานแล้ว เหล่ามนุษย์กิ้งก่าก็กลับไปที่สนามรบอีกครั้ง เย่ฉางถือหอกน้ำ และเปลี่ยนเป็นชาแมนเพื่อทำการสนับสนุนชั่วคราว คลื่นน้ำเรืองรองอยู่ในมือของเย่ฉาง ในขณะที่เขาเปิดใช้งาน [Water Source Tortem] เมื่อเปรียบเทียบการฮีลจากธาตุแสงของของเย่เทียนแล้ว ธาตุน้ำของเย่ฉางดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพมากกว่าในแง่ของการฟื้นฟู นี่ก็เป็นเพราะว่าพลังเวทย์ของเย่ฉางสูงมากเช่นกัน ในขณะที่ [Healing Tide] พุ่งออกไป เหล่ามนุษย์กิ้งก่าก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากยิ่งขึ้นเมื่อสัมผัสกับคลื่นน้ำ จากนั้นพวกเขาก็โจมตีด้วยพลังทั้งหมด ราวกับนักรบที่ก้าวข้ามผ่านคลื่นมรสุม

[Chain Lightning], [Lightning Bolt], [Lightning Shield], [High-pressured Rapid] [Water Bullets] และ [Tidal Wave] SpyingBlade ประหลาดใจกับเวทมนตร์ชนิดต่างๆเหล่านี้ ‘แม้ว่าคุณจะไม่สนใจความสามารถในการต่อสู้ระดับท็อปของเย่ฉาง และความสามารถในการซุ่มยิงของเขา แต่ก็มีคนไม่มากนักที่สามารถเอาชนะเขาได้ หลายคนมองข้ามประเด็นนี้โดยคิดว่าความสามารถทางด้านเวทมนตร์ของเขานั้นอ่อนแอที่สุด แต่จริงๆแล้วมันตรงกันข้ามกันหมดเลย มีความเป็นไปได้ที่ความสามารถทางด้านเวทมนตร์ของเขา จะทรงพลังกว่าความสามารถในการต่อสู้ของเขาซะอีก’

และแล้วการต่อสู้ก็สิ้นสุดลง เย่ฉางได้ประสบความสำเร็จในการปล้นศพมนุษย์หนอนตัวหนึ่ง ทุกคนถอนหายใจ และอูนาก็กระทืบเท้าของเธอ โชคดีที่พวกเขาได้รับอุปกรณ์ระดับ Dark Gold มา 3 ชิ้น หลินหลี่ได้รับแหวนที่เพิ่มค่า Strength ส่วนสร้อยคอที่มีค่า Dexterity สูง ถูกมอบให้กับ SpyingBlade และเหลือเพียงแค่โล่อีกชิ้นเดียวเท่านั้น เย่เทียนจึงโยนลงไปในรถเข็นเพื่อนำไปขายต่อ

เมื่อเห็นว่าเย่ฉางและคนอื่นๆได้จัดการสิ่งต่างๆของพวกเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว หัวหน้ามุนษย์กิ้งก่าก็รีบวิ่งเข้ามา และเริ่มพูดภาษาที่พวกเขาไม่เข้าใจยกเว้นแต่เย่ฉาง เย่ฉางโบกมือ และถอดฮู๊ดหมาป่าออก จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา “ไม่จำเป็นต้องขอบคุณเราหรอกหัวหน้าอันซ่า เราเป็นเพียงนักสำรวจที่เดินผ่านมาเท่านั้น”

เมื่อรู้ว่าเย่ฉางสามารถพูดได้อย่างคล่องแคล่ว อันซ่าก็เริ่มอยากรู้เกี่ยวกับพวกเขามากขึ้น และขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ “โปรดมาที่เผ่าของเรา เพื่อให้ฉันเลี้ยงอาหารพวกคุณทุกคนเถอะ”

เนื่องจากพวกเขากำลังค้นหาสถานที่พักผ่อน เย่ฉางจึงไม่ปฏิเสธคำเชิญ บางทีพวกเขาอาจได้รับข้อมูลบางอย่างจากมนุษย์กิ้งก่าก็ได้ “ถ้าเป็นอย่างนั้น เราขอตอบรับการเชิญของคุณก็แล้วกัน หัวหน้าอันซ่า”

ระหว่างการเดินทาง อันซ่าก็ได้บรรยายรายละเอียดให้กับเย่ฉางอย่างละเอียด เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในที่บึงแห่งนี้ มนุษย์หนอนที่พวกเขาเผชิญอยู่ตอนนี้ เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวในสถานที่แห่งนี้ และฐานหลักของพวกมันอยู่ทางฝั่งตะวันออกที่ห่างไกล อย่างไรก็ตามไม่มีใครเคยไปที่นั่น ตรงกลางของบึงเป็นจุดรวมตัวของมนุษย์กิ้งก่า มันยังเป็นสถานที่ที่ชนเผ่าส่วนใหญ่มักจะมารวมตัวกันในช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นพวกเขาจะแยกย้ายกลับไปยังเผ่าของตนหลังจากนั้น ที่ห่างไกลออกไปทางทิศใต้ มันเป็นสถานที่ที่คนส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้าไป มันเป็นที่รู้จักกันในชื่อบึงแห่งความตาย สิ่งมีชีวิตที่อันตรายจำนวนมากอาศัยอยู่ที่นั่น รวมไปถึงสัตว์ประหลาดเก้าหัว สำหรับฝั่งตะวันตกนั้นใกล้กับทะเล มันไม่ใช่พื้นที่อันตราย และมนุษย์กิ้งก่าส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ที่นั่น ในหมู่พวกเขา พวกเขาจะแลกเปลี่ยนกันด้วยสกุลเงินหนึ่งที่เรียกว่า ‘เหรียญหินเอโดส’

“เนื่องจากมีนักเดินทางที่เป็นมนุษย์มาถึง กลิ่นของพวกมนุษย์จะเป็นตัวดึงดูดการโจมตีของหนอนเหล่านี้ แต่คุณมีลมหายใจของเหล่าตัวหนอน ดังนั้นฉันพนันได้เลยว่ามันจะต้องปกปิดกลิ่นของคุณได้อย่างแน่นอน ถ้าไม่ การออกไปไกลจะเป็นเรื่องยากและอันตรายมาก เอาล่ะ! เรามาถึงแล้ว นี่คือที่อยู่ของพวกเรา ยินดีต้อนรับสู่เผ่าคีน” อันซ่านำทีมไปที่หนองน้ำ ที่นั่นมีบ้านไม้ที่เรียบง่ายมากมายอยู่ล้อมรอบ บ้านเหล่านี้เรียบง่ายจนดูเหมือนเป็นถ้ำแทนที่จะเป็นบ้าน มีมนุษย์กิ้งก่าหลายร้อยคน มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่มาต้อนรับพวกเขา และอยากรู้เกี่ยวกับเย่ฉาง และคนอื่นๆ

เมื่อเห็นหัวหน้าและคนอื่นๆกลับบ้านมาอย่างปลอดภัย ทั่วทั้งหมู่บ้านก็ส่งเสียงเชียร์ออกมา ชาล่าแนะนำเย่ฉางและคนอื่นๆ พร้อมกับบอกชาวบ้านว่าพวกเขาเป็นผู้ช่วยชีวิตหัวหน้า และคนอื่นๆให้ปลอดภัย

[ขอแสดงความยินดี ชื่อเสียงของคุณในเผ่าคีนเปลี่ยนเป็นความเคารพนับถือ] ข้อความของระบบโผล่ขึ้นมา

เย่ฉางใช้ภาษามังกรทักทายเหล่ามนุษย์กิ้งก่าที่มาต้อนรับเขา ด้วยการนำของอันซ่า พวกเขาก็มาถึงบ้านไม้หลังใหญ่ของเขา

“ขอให้ฉันแสดงความขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือของพวกคุณอีกครั้ง ฉันไม่มีอะไรที่จะสามารถเสนอให้พวกคุณได้ ดังนั้นหากมีอะไรที่ฉันสามารถช่วยคุณได้ โปรดแจ้งเราได้เลย” อันซ่าค่อยๆนั่งลง และขอให้พวกเขานั่งลงด้วยเช่นกัน จากนั้นเขาก็ส่งสัญญาณให้คนของเขาเสิร์ฟอาหาร สิ่งที่ทำให้เย่ฉางประหลาดใจก็คือ การที่เขามีไวน์อยู่ในบ้าน “พวกคุณผลิตไวน์ด้วยเหรอ?”

“ไม่ใช่ เราไม่มีวัตถุดิบที่สามารถใช้ในการผลิตไวน์ได้ มีคนพูดว่าคนแคระไม่สามารถอยู่รอดได้โดยปราศจากไวน์ ยิ่งไวน์แข็งแกร่งมากเท่าไหร่ จิตวิญญาณในการต่อสู้ และพลังของเราก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นแม้จะมีความเสี่ยงในชีวิตของเรา แต่เรายังคงไปที่จุดชุมนุมเพื่อซื้อไวน์” เมื่อได้ยินสิ่งที่อันซ่าพูด ทุกคนก็ประหลาดใจ ‘เนื่องจากพวกเขาไม่รู้วิธีการผลิตไวน์ แล้วไวน์นี้มาจากไหน?’

“ในทุกๆปี เผ่ามนุษย์สัตว์ และพ่อค้าเผ่ากบที่อาศัยอยู่ในบึงนี้ จะนำไวน์มาร่วมการชุมนุม” อันซ่าอธิบายให้ทุกคนทราบถึงข้อสงสัย เย่เทียนจึงคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ ‘นี่เป็นธุรกิจที่ดี พวกมันมีเผ่ากบ และพวกเรามีเผ่ามนุษย์ปลา เราสามารถให้คนของเรามาที่นี่ได้ ฝั่งตะวันออกอยู่ใกล้ทะเลใช่ไหม? เราสามารถไปจอดเรือที่นั่นได้’

“นอกจากนี้ในบึงยังมีสิ่งมีชีวิตที่อันตรายอยู่อีกตัวหนึ่งอย่างจีเซลอยู่ มันเร่ร่อนไปทั่วบึงไร้สิ้นสุด อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรที่จะต้องกลัว เพราะมันจะไม่โจมตีนักเดินทางหรือเผ่าต่างๆ หากคุณเห็นมันก็อย่าตกใจ และอย่าไปสนใจมัน เพียงแค่เดินจากไปก็พอ” อันซ่านำไวน์มาจิบทีหนึ่ง แล้วดูเหมือนจะสนุกไปกับมัน มันเป็นความจริงที่เขารักไวน์มาก

“จีเซล?” เย่ฉางถาม

“ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นสัตว์ประเภทใด หรืออยู่มานานมากขนาดไหนแล้ว เรารู้แค่ว่ามันมีขนาดมหึมา ราวกับภูเขาที่กำลังเคลื่อนที่ ผิวของมันแข็งเหมือนเหล็กกล้า เมื่อมองดูแล้วคุณจะรู้สึกว่ามันสามารถบดขยี้คุณให้เป็นเศษเนื้อได้อย่างง่ายดาย” อันซ่ายิ้มออกมาอย่างขมขื่น