ตอนที่ 536 หาไม่เจอ / ตอนที่ 537 ผมจะต้องหาคุณให้เจอ!

เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

ตอนที่ 536 หาไม่เจอ

 

 

พูดจบก็ดันมือของเขาออก ส่วนตัวเองเดินไปทันที

 

 

เหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ

 

 

ร่างของจิ้นหยวนเซ รู้สึกเหมือนร่างกายมันไร้เรี่ยวแรง แค่ถูกฉินเพ่ยหรงดันตัวออกก็เซไปอีกด้านอย่างง่ายดาย

 

 

เขายืนนิ่งอยู่กับที่อยู่ครู่ใหญ่กว่าจะเรียกสติกลับมาได้

 

 

ผู้ดูแลบ้านที่ยืนดูอยู่อีกด้านรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อ ไม่กล้าพูดอะไรออกมาสักคำ

 

 

จิ้นหยวนค่อยๆเดินไปนั่ง และสายตาของเขาก็ถูกบาอย่างดึงดูดให้หันไปมอง

 

 

เขาค่อยๆยื่นมือไปหยิบสิ่งๆนั้นขึ้นมา และเปิดออกดู

 

 

มันคือกระเป๋าของเฉียวซือมู่ กระเป๋าสีครีมอ่อนที่ข้างบนมีเอกไม้สีชมพูประดับอยู่ ช่างดูสง่างามสมกับเป็นหญิงสาว เขามักเห็นเธอพกมันอยู่เสมอ

 

 

แต่ทว่าในตอนนี้มันกลับถูกวางทิ้งไว้อย่างโดดเดี่ยวอยู่บนโซฟา

 

 

เขาเปิดดูก็พบว่าทั้งมือถือและกระเป๋าเงินของเธอยังอยู่ข้างใน หรือแม้แต่บัตรเครดิตหลายใบที่เขาเคยได้ให้เธอไว้ก็ยังอยู่

 

 

ลมหายใจเขาชะงัก ก่อนจะรีบหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาและสั่งให้คนออกตามหาเธอ

 

 

เธอไม่ได้เอาอะไรไปเลยสักอย่าง ถ้าออกไปแล้วจะไปไหนได้?

 

 

เขาไม่อยากจะเชื่อเลย ยิ่งไปกว่านั้น ที่จริงเขาควรที่จะสั่งให้คนออกตามหาตั้งแต่แรกที่ได้ยินแล้ว แต่เขาก็ยังช้ามาจนมาถึงตอนนี้

 

 

หลังจากได้รับคำตอบแล้ว เขาก็วางมือถือลง จากนั้นก็กวักมือเรียกผู้ดูแลบ้าน “มานี่สิ บอกเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้มาให้หมด ทุกๆเรื่อง พูดแต่ความจริงเท่านั้น!”

 

 

ผู้ดูแลบ้านค่อยๆเดินเข้าไป สิ่งแรกที่พูดออกมาหลังจากที่ได้มองหน้าจิ้นหยวนก็คือ “นายท่าน สิ่งที่คุณนายพูดมาทั้งหมดไม่ใช่ความจริงครับ”

 

 

จิ้นหยวนยังคงนิ่ง “พูดสิ่งที่คุณรู้มา”

 

 

ถึงแม้ว่าปกติแล้วผู้ดูแลบ้านเฉินจะเป็นคนเงียบๆ แต่เพราะอย่างไรก็ได้ใช้ชีวิตกับเฉียวซือมู่มานาน แน่นอนว่าตนไม่มีทางเชื่อว่าเธอจะทำเรื่องแบบนั้น ดังนั้นจนถึงตอนนี้แล้วตนก็อยากที่จะพูดอะไรเพื่อเธอบ้าง แต่สีหน้าท่าทางที่ดูนิ่งเฉยของจิ้นหยวน ตนก็ไม่รู้ว่าเขาจะใส่ใจกับมันหรือเปล่า ตนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา จากนั้นก็เล่าสิ่งที่จู่ๆฉินเพ่ยหรงก็เข้ามาในวันนี้

 

 

พอฟังจบแล้วก็พยักหน้า “พูดจบแล้วเหรอ?”

 

 

“ครับ”

 

 

จิ้นหยวนเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ ผู้ดูแลบ้านเฉินที่รู้จักเขาเป็นอย่างดีก็พอจะเข้าใจ ท่าทางแบบนี้ของนายท่านคงกำลังใช้ความคิดอยู่

 

 

แต่ทว่า…ดูสีหน้าของนายท่านแล้ว ก็มองไม่ออกเลยสักนิดว่ากำลังมีเรื่องร้อนใจอะไร อกไม่ได้ที่จะบ่นอยู่ในใจ หรือว่านายท่านจะคิดจริงๆว่านายหญิงกำลังรู้สึกผิดต่อเขาตัวเอง? ไม่อย่างนั้นทำไมถึงดูไม่ร้อนใจเลยล่ะ?

 

 

แต่เขาไม่รู้เลยสักนิดว่าเหตุผลง่ายๆที่ทำให้นายท่านของตัวเองไม่ได้มีท่าทีร้อนใจคืออะไร เขากำลังรอผลลัพธ์อยู่

 

 

ไม่นานเกินรอ มือถือของเขาก็ดังขึ้นมา เขารีบหยิบขึ้นมารับสาย ปลายสายเองก็รีบรายงานออกมาด้วยเสียงหวาดๆ “พี่ใหญ่ พวกเราหาพี่สะใภ้ไม่เจอเลย”

 

 

นาทีนั้นไอเย็นๆก็แผ่ออกมาจากตัวของจิ้นหยวนจนผู้ดูแลบ้านเฉินที่อยู่ข้างๆก็ยังสัมผัสถึงความเย็นเยือกนั้นได้

 

 

เขาตัวสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ และเดินถอยหลังออก

 

 

“แกพูดว่าอะไรนะ? หาไม่เจองั้นเหรอ? แกกำลังล้อเล่นหรือไง?” แน่นอนว่าจิ้นหยวนไม่มีทางยอมรับคำตอบที่ได้ยิน “เธอไม่ได้เอาอะไรไปเลยสักอย่าง แม้แต่มือถือกับกระเป๋าเงินก็ไม่ได้เอาไป ผู้หญิงคนเดียวเดินออกไปตามทางที่มีแต่ภูเขาแบบนั้น จะไปไหนได้ไกลกัน? พวกแกหาไม่เจองั้นเหรอ?”

 

 

ผู้ดูแลบ้านเองก็พอที่จะได้ยินเสียงจากปลายสาย อดไม่ได้ที่จะเกิดความเห็นใจขึ้นมา เพราะว่าตอนนี้ไม่เพียงแต่สีหน้าของจิ้นหยวนเท่านั้นที่น่ากลัว เพราะเสียงของเขาเองก็เหมือนกำลังคำรามอย่างไรอย่างนั้น

 

 

เขาเดินถอยหลังอย่างไม่รู้ตัวอีกครั้ง

 

 

 

 

ตอนที่ 537 ผมจะต้องหาคุณให้เจอ!

 

 

ทางฝั่งมู่หรงเซินเองก็สูดหายใจเข้าลึก และพยายามอธิบายให้เขาฟัง “พี่ใหญ่ ผมให้คนออกหาตามทางหลายรอบแล้ว แถมยังตามดูกล้องวงจรปิดทุกตัวที่อยู่แถวนั้น เจอว่าพี่สะใภ้เดินลงจากภูเขาตามทางมาจริงๆ แต่ว่าพอเธอเดินมาถึงถนนใหญ่ไอ้กล้องสองตัวตรงนั้นก็เหมือนจะเสียพอดี ไม่มีการบันทึกภาพเอาไว้เลย พวกเราเองก็หมดหนทางที่จะตามต่อ”

 

 

พวกเขาเองก็เหมือนถูกฉีกหน้า อะไรจะซวยขนาดนี้ ไอ้กล้องวงจรปิดนั่นจะเสียตอนไหนไม่เสีย ดันมาเสียตอนที่พวกต้องการจะหาคนซะอย่างนั้น มันช่างไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ

 

 

จิ้นหยวนยิ้มเยาะ มือก็กำมือถือแน่น

 

 

พอดีอย่างนั้นเหรอ? มีคนตั้งใจให้เป็นแบบนั้นมากกว่า

 

 

ที่นี่คือหมู่บ้านที่มีความปลอดภัยมากที่สุดในเมือง ในส่วนของ ZF เองก็ไม่กล้าที่จะละเลยเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว จะมีการส่งให้คนมาตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา โอกาสที่จะเสียนั้นมีความเป็นไปได้น้อยมาก แต่ทว่าไม่เพียงแค่จะมาเสียวันนี้เท่านั้น แต่มันยังมาเสียพร้อมกันถึงสองตัว ถ้ามันไม่มีอะไรปกปิดอยู่จริงๆ จะตีเขาให้ตายเขาก็ไม่มีทางเชื่อ

 

 

ส่วนมันคือใคร…

 

 

ใบหน้าของเขาเรียบนิ่ง ในใจมันกำลังทบทวนความคิดของตัวเอง พลางลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปข้างนอก

 

 

ในใจของเขายังมีความหวังสุดท้ายอยู่อีกหนึ่งความหวัง หวังว่าเธอจะยังคอยหงุดหงิดหรืองอนอยู่ข้างๆเขา อาจจะแอบอยู่ที่ไหนสักที่ไม่ยอมออกมา บางทีเธออาจจะกำลังรอให้เขาตามหาเธออยู่ รอจนเขาไปเจอเองถึงจะยอมออกมา

 

 

เขารู้ว่าความคิดของตัวเองมันดูเป็นไปไม่ได้เลย แต่เขาก็ยังแบกเอาความหวังนั้นไปแล้วเดินตามหาเธอไปตามทางเดินแบบนั้นอยู่หลายรอบ และภาวนาว่าจะได้เจอร่องรอยอะไรบ้าง

 

 

แต่ทว่าโชคชะตาหรือเทวดากลับไม่ได้เข้าข้างเขาเลยสักนิด ผ่านไปแล้วสามชั่วโมงสำหรับการค้นหาอย่างละเอียด สุดท้ายเขาก็ต้องยอมแพ้ ไม่ได้รับอะไรกลับมาเลยสักอย่าง

 

 

กลับมาถึงบ้านสิ่งที่ทำเป็นอย่างแรกก็คือถอนหายใจและกวาดทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะลงกับพื้น

 

 

ความโกรธมันแผ่กระจายปกคลุมไปทั้งห้องอย่างรวดเร็ว ทำเอาคนที่อยู่รอบๆตัวเขาตกใจตื่นตระหนกกันไปหมด พากันถอยหนีไม่กล้าเข้าใกล้

 

 

“ผมจะต้องหาคุณให้เจอ!”

 

 

สองมือของเขาเท้าลงบนโต๊ะเงามัน เขาเอ่ยคำมั่นกับตัวเองอย่างแน่วแน่ เสียงทุ้มต่ำของของเขาดังก้องไปทั้งห้องทำเอาคนที่ได้ยินนั้นพากันรู้สึกเหมือนอยู่ในสงครามเย็น

 

 

เรื่องที่เฉียวซือมู่หายตัวไป ในใจของเขามันคาดเดาบางอย่างขึ้นมา แต่ตอนนี้มันไม่มีแล้ว มันก็เป็นการหยั่งเชิงเท่านั้น

 

 

         เขาสูดหายใจเข้าลึก พยายามที่จะเก็บความคิดและอารมณ์ที่รุนแรงเอาไว้ไม่แสดงออกมา จากนั้นก็หันไปสั่งคำสั่งกับคนรับใช้คนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทันที

 

 

         หลินจื้อเฉิงยิ่งได้ยินก็ยิ่งตกตะลึง สุดท้ายก็ทำได้มองไปที่พี่ใหญ่และแค่อ้าปากค้างด้วยความงุนงง “พี่มั่นใจแล้วเหรอ? แล้วถ้าไม่ใช่มันล่ะ?”

 

 

         จิ้นหยวนตวัดสายตาที่ราวกับมีดไป “ทำตามที่สั่งก็พอ!”

 

 

         ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะมาอธิบายอะไรแล้ว ตอนนี้เขาต้องการแค่คนที่ทำตามคำสั่งโดยไม่ต้องถามต้องพูดอะไรทั้งนั้น

 

 

         หลินจื้อเฉิงพยักหน้า พยายามแก้ไขความผิดของตัวเอง แม้แต่คำตอบรับก็ไม่ได้พูด เขารีบหมุนตัวแล้วเดินออกไปทันที

 

 

         เขามองไปยังรูปถ่ายของเฉียวซือมู่ที่กำลังยิ้มอย่างน่ารักบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ริมฝีปากบางนั่นกำลังยกยิ้มอย่างงดงาม

 

 

         จะเป็นแบบนั้นหรือเปล่านะ พอเขาสั่งคนออกไปเรื่อยๆ มันจะต้องได้ผลลัพธ์ที่เร็วขึ้นแน่ๆ ถึงตอนนั้นแล้ว

 

 

         หมัดของเขาทุบลงบนโต๊ะแข็ง โต๊ะทั้งโต๊ะสั่นสะเทือน และหน้าโต๊ะนั่นก็เกิดเป็นรูโหว่ขึ้น

 

 

         “ผมไม่มีวันปล่อยคุณไปแน่…ไม่มีวัน…” เขาเอ่ยขึ้นเบาๆ เป็นเสียงกระซิบที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็นราวกับปีศาจ

 

 

         ในขณะที่คนของจิ้นหยวนกำลังวิ่งวุ่นหาเฉียวซือมู่ราวกับแมลงวัน ชายหนุ่มที่เป็นคนช่วยเฉียวซือมู่กลับกำลังนั่งนิ่งๆอยู่ที่หน้าประตูห้องๆหนึ่ง ดวงตาคู่นั้นเหมือนกำลังมองไปยังข้างหน้า แต่ถ้ามองดูดีๆแล้วละก็ จะพบว่าแววตาของเขานั้นมันไร้จุดหมาย ราวกับว่ากำลังเหม่อลอยอย่างไรอย่างนั้น