เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 613
“ขอรับ!”
หลังจากนั้นไม่นาน
ภายใต้การนำทางของเสือขาว
หยางเฟิงก็มาถึงยังลำธารสายเล็ก
ลำธารนี้ไม่มีความพิเศษอันใด
ความพิเศษเพียงหนึ่งเดียวของมันก็คือ น้ำในลำธารใสมาก
บริสุทธิ์กว่าน้ำแร่ที่จำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไปในโลกภายนอกเสียอีก
เหนือลำธาร บนกำแพงหิน มีเห็ดหลินจือสีม่วงดำขนาดเท่าจานหินโม่แป้ง
จากสายตาของหยางเฟิง
เขาปรายตามองก็รู้ทันทีว่านี้เป็นเห็ดหลินจือพันปี
เห็ดหลินจือพันปีกับเห็ดหลินจือมีจุดที่ไม่เหมือนกัน
เห็ดหลินจือพันปีมีสีม่วงดำ แต่บนเห็ดหลินจือจะมีรัศมีหลากสี มองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ธรรมดา
ในเวลาเดียวกัน
ถัดจากลำธารคือ จางเทียนซาน ไป๋หลิงหลงและคนอื่นๆ
พวกเขาเป็นคนค้นพบเห็ดหลินพันปีเหล่านี้
ดวงตาที่พวกเขามองไปที่เห็ดหลินจือพันปี ก็เต็มไปด้วยความร้อนดั่งไฟแผดเผา
อย่างไรเสียนี้ก็เป็นเห็ดหลินจือพันปี ไม่ว่าจะเป็นความเห็นของนักบู๊ผู้ใด ล้วนมองว่าเป็นสมบัติที่หายาก!
แต่ไม่ว่าอย่างไร ในใจของจางเทียนซานหรือไป๋หลิงหลงต่างก็รู้ดีว่า
ของล้ำค่าเช่นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถครอบครองได้
“เข้าพบท่านแม่ทัพ!”
“เข้าพบเจ้าพันธมิตรหยาง!”
หลังจากที่เห็นหยางเฟิง
ทุกคนดูมีความเคารพ และในขณะเดียวกันก็ถอยออกมา ปล่อยให้หยางเฟิงสังเกตหลิงจือพันปีอย่างใกล้ชิด
“ฮ่าฮ่า!”
หยางเฟิงหัวเราะพลางพูดว่า: “มันเป็นเห็ดหลินจือพันปีจริงๆ ดูเหมือนว่าการเดินทางครั้งนี้จะคุ้มค่า!”
สุสานเย่เวิ่นนี้ช่างเป็นสรวงสวรรค์จริงๆ
แค่เพียงเห็ดหลินจือพันปีนี้ถูกวางอยู่ที่โลกภายนอก คงจะทำให้พวกนักบู๊ไร้สมองเหล่านั้นเกิดการรบราฆ่าฟันกันได้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
สุสานเย่เวิ่นนี้ ยังซ่อนชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรและมรดกของหมัดหย่งชุน
เมื่อเห็นสีหน้าดีใจของหยางเฟิง
เย่หลงจึงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เจ้าหนุ่มนี้ชอบฉวยโอกาส ถ้าไม่ใช่เพราะหมู่บ้านตระกูลเย่ของข้าที่ไม่มีผู้สืบทอด ข้าก็คงไม่เต็มใจพาเจ้าเข้ามา ไอ้สารเลว! ”
เมื่อพูดจบ
เย่หลงก็รู้สึกเสียใจภายหลัง
ถ้าหมู่บ้านตระกูลเย่สามารถผลิตอัจฉริยะโลกบู๊ได้
เขาคงไม่ให้ชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรตกอยู่ในมือของหยางเฟิงแน่
แต่น่าเสียดาย
ทายาทของหมู่บ้านตระกูลเย่ยังดีไม่พอ
ยกเว้นเสียว่าพวกเขาจะเก่งด้านการทำนา
จะให้พวกเขามารบราฆ่าฟัน?
สู้ทำเหมือนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นเลยดีกว่า
อย่างไรก็ตามในใจของเย่หลงก็รู้สึกโชคดีเล็กน้อย
หากชาวบ้านในหมู่บ้านตระกูลเย่ไม่ใช่คนธรรมดาทั้งหมด
คาดว่านักบู๊ที่เหมือนหมาป่าข้างนอก คงจะได้ล้างผลาญหมู่บ้านตระกูลเย่ให้ราบเป็นหน้ากลองไปนานแล้ว
ดังที่เรียกกันว่า เคราะห์ร้ายมักมาพร้อมกับเคราะห์ดี เคราะห์ดีมักมาพร้อมกับเคราะห์ร้าย
ณ เวลานั้น
จางเทียนซานยืนขึ้นพลางพูดว่า “เจ้าพันธมิตร ให้ลูกน้องของท่านเลือกเห็ดหลินจือพันปีมาให้ท่านเถอะ”
ตอนนี้จางเทียนซานได้ยอมจำนนต่อหยางเฟิงอย่างสมบูรณ์
เขาเตรียมการแสดงออกมาอย่างดี
เพื่อจะทำให้ตำแหน่งของตนเองขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว
จางเทียนซานรู้ดีว่า
ต่อให้สำนักมังกรพยัคฆ์จะสร้างขึ้นมาใหม่
เจ้าสำนักอย่างเขา ก็ต้องรับมือภัยพิบัติระดับหยางเฟิงอยู่ดี
ถ้าไม่แสดงตอนนี้ จะให้ไปแสดงเมื่อใด
เมื่อได้ยินคำพูดของจางเทียนซาน สีหน้าของไป๋หลิงหลงพลันเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
เจ้าจางเทียนซานนี้ ต้องการขโมยซีนของตนเอง
จะเป็นไปได้อย่างไร?
ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป
ตำแหน่งของตนเองจะต้องไม่ขยับเป็นแน่
เมื่อคิดได้ดังนี้
ไป่หลิงหลงก็ยืนขึ้นพลางพูดว่า “เจ้าพันธมิตรหยาง ผู้ใต้บังคับบัญชาเต็มใจที่จะหยิบเห็ดหลินจือพันปีมาให้ท่าน!”
เมื่อเผชิญกับสงครามลับๆระหว่างทั้งสอง หยางเฟิงก็ไม่โกรธ
ในฐานะผู้นำระดับสูง ต้องมีศิลปะในการควบคุมของกองทัพ
หยางเฟิงเป็นถึงเทพเจ้าแห่งสงครามองค์แรกของต้าเซี่ย บังคับบัญชาทหารผู้เก่งกาจนับล้าน
ปัญหาเล็กน้อยแค่นี้ สำหรับเขาแล้วไม่นับว่าเป็นปัญหาเลย
หยางเฟิงยิ้มเล็กน้อยพลางพูดว่า “ในเมื่อพวกเจ้าสองคนตั้งใจแน่วแน่ ก็จงเลือกเห็ดหลินจือพันปีมาให้ข้าเถอะ”
จางเทียนซานและไป๋หลิงหลงต่างต้องการการแสดงไม่ใช่รึ?
ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะให้พวกเขาแสดงอย่างดีเลย
“ขอรับ!”
เมื่อได้ยินดังนี้
จางเทียนซานและไป๋หลิงหลงพลันหันกายไปในเวลาเดียวกัน
ทั้งสองคนจ้องตากัน
สายตาของทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างรุนแรง