ตอนที่ 556 คนบดและคนถูกบด
“ผมจะปล่อยให้คุณทำได้ยังไง ผมจะเอาไปทิ้ง ทำให้คุณใหม่” เจียงรุ่ยเฉินพูดจบก็เอื้อมมือไปหยิบจาน คิดจะเอาจานอาหารในจานไปทิ้งกลับถูกหันฮุ่ยซินเอ่ยขัดไว้
“ไม่ต้อง คุณทำได้แค่นี้ก็ไม่เลวแล้ว ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเลย คุณคิดไปเองแล้ว ไม่รู้จะพูดกับคุณยังไงดีจริงๆ”
แต่พอกินดีๆ ยิ่งกินยิ่งมีรสชาติ หันฮุ่ยซินไม่ใช่ไม่เข้าใจความคิดของเจียงรุ่ยเฉิน ก็แค่สองคนที่แตกต่างกันมาก เธอต้องรับรู้สึกต่างชนชั้นจากครอบครัวลั่วเซ่าเชินมาแล้ว ตอนนี้เธอไม่อยากรับมันจากเจียงรุ่ยเฉินอีก
ต้องรู้ว่าถ้าเธอรักเจียงรุ่ยเฉินมากๆ เข้า เธอก็อาจจะยอมลองดูสักครั้ง เพียงแต่ตอนนี้ใจเธอสงบแล้วเลยไม่อยากทำให้มีปัญหาอีก
เจียงรุ่ยเฉินไม่มีโอกาสลงมือและไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะได้หัวใจเธอมาอีกครั้ง ถ้าให้เธอยอมแพ้ไปทั้งอย่างนี้ เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีแล้ว
คำถามนี้อาจจะมีแค่ส่วนลึกของหัวใจเขาเท่านั้นที่จะได้รับคำตอบ คำถามนี้มีแค่เขาเท่านั้นที่จะคิดหาคำตอบได้ ไม่มีใครช่วยเขาได้
“เอาล่ะ ฉันควรกลับแล้ว คุณคงจะไม่ขวางฉันแล้วใช่ไหม” หันฮุ่ยซินทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เขาเองก็คงไม่มีเหตุผลที่จะรั้งให้เธออยู่อีก
“คุณจะกลับแล้วเหรอ อยู่เป็นเพื่อนผมอีกหน่อยไม่ได้เหรอ” เจียงรุ่ยเฉินเพิ่งจะได้ซึมซับการมีอยู่ของเธอแต่เธอกลับทำลายมันลงอย่างโหดร้าย เธอไม่สนใจความรู้สึกของเขาสักนิดเลยเหรอ ไม่อยู่เป็นเพื่อนเขาอีกหน่อยเหรอ
“ไม่ล่ะ ฉันจะไปทำงาน ในเมื่อคุณบาดเจ็บ ถ้าอย่างนั้นคุณก็อยู่พักผ่อนที่บ้านเถอะ ไม่ต้องไปบริษัทจะดีมาก ตอนค่ำๆ ฉันจะมาเยี่ยม”
“ตอนค่ำคุณจะมาเหรอ” เจียงรุ่ยเฉินไม่คิดว่าจะได้ยินข่าวดีนี้ เดิมทีคิดว่าหันฮุ่ยซินจะไม่กลับมาแล้ว ตอนค่ำเธอยังจะมาอีกใช่ไหม
“ทำไม คุณไม่อยากให้มาเหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันจะได้ไม่มา” เดินทางไปมาเธอเองก็เหนื่อย แต่เจียงรุ่ยเฉินก็บาดเจ็บเพราะเธอ เธอทำเพื่อเขาก็เป็นเรื่องที่สมควร
ไม่อาจชดเชยให้เขาได้ก็ดูแลเขาแทนด้วยความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ของเธอ สำหรับเธอแล้วเป็นสิ่งที่เธอทำได้มากที่สุดแล้ว
“มาสิๆ ฮุ่ยซิน ผมแค่ตกใจเฉยๆ” ไม่คิดว่าเขาจะได้เจอเรื่องดีอย่างนี้
“เอาล่ะ ฉันจะไปจริงแล้ว ตอนเที่ยงทำอาหารเองมีปัญหาไหม ตอนเย็นฉันจะมาทำให้คุณ”
“ได้ ฮุ่ยซิน ตกลง” เจียงรุ่ยเฉินฟังหันฮุ่ยซินพูดแล้วก็ดีใจราวกับว่าอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ได้รับการเยียวยา
มองหันฮุ่ยซินออกไป เจียงรุ่ยเฉินก็กระโดดขึ้นมาทันที “ตอนค่ำเธอจะมาอีก ในที่สุดฮุ่ยซินก็ให้โอกาสเราแล้ว” มันทำให้เขามีความสุขมากกว่าโครงการใดๆ ในบริษัทของเขาเสียอีก
แม้ว่าโครงการเหล่านั้นจะมีมูลค่าเป็นพันล้านหรือมากกว่านั้น แต่ผลสำเร็จที่ได้รับมาเล็กน้อยนั้นกลับไม่ได้ทำให้เขารู้สึกมีความสุขน้อยไปกว่ากันเลย
เมื่อหันฮุ่ยซินเดินออกจากประตูไป ถึงได้พบว่าตัวเองตอบรับเร็วไปรึเปล่า จะทำให้เจียงรุ่ยเฉินเข้าใจผิดไหม หวังว่าหลังจากนี้เขาจะไม่มาตอแยเธออีก
เธอคิดอยู่สักพักก็ส่ายหน้า ไม่ว่าเขาจะคิดฝันแบบไหนเธอก็ไม่สามารถตอบรับความรู้สึกนั้นได้ ดังนั้นเขาควรปล่อยเธอไป
นี่คือสิ่งที่หันฮุ่ยซินกับเจียงรุ่ยเฉินต้องประสบพบเจอ อีกด้านหนึ่งก็เหมือนถังโจวโจวกับลั่วเซ่าเชิน
เดิมทีหลังจากที่ถังโจวโจวได้กินหัวผักกาดดองกระเพาะก็ดีขึ้น เริ่มอยากอาหารและอาหารที่อยากทานก็จะเป็นรสเปรี้ยว บางครั้งเหมือนจะใส่น้ำส้มสายชูไปเกือบครึ่ง ถ้าทานข้าวอยู่บ้านจะได้กลิ่นน้ำส้มสายชูลอยมาแต่ไกล
ลั่วเซ่าเชินอดทนกับถังโจวโจวอย่างไม่มีเงื่อนไขใด เพราะว่าตอนท้องบางครั้งเธอก็โมโหง่าย นี่เป็นสิ่งที่เธอควบคุมตัวเองไม่ได้
บางครั้งถังโจวโจวก็เกิดอยากกินอะไรสักอย่างขึ้นมา ถ้าลั่วเซ่าเชินไม่ทำให้เธอทาน คิดว่าทั้งคืนเธอคงนอนไม่หลับ
ตอนที่ 557 อย่าทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้เหตุผล
นอกจากนี้เมื่อท้องใหญ่แล้ว ถังโจวโจวก็เริ่มขยับตัวได้ลำบาก บางเรื่องลั่วเซ่าเชินก็ช่วยเธอไม่ได้ ทำได้เพียงให้ถังโจวโจวพยายามด้วยตัวเอง อารมณ์เธอเริ่มแย่ลง แม้แต่คุณแม่ถังพูดเธอก็อารมณ์เสียขึ้นมา
แต่ลั่วเซ่าเชินก็ยังอดทน เช่นครั้งก่อนลั่วเซ่าเชินป้อนผลไม้เธอช้าไปนิดเดียว ถังโจวโจวก็พูดว่าไม่กินแล้วทันที ที่จริงแล้วเขาช้าไปไม่ถึงสองวินาที เธอก็โมโหขึ้นมาแล้ว ลั่วเซ่าเชินจนหนทาง รอให้เธอดีขึ้นถึงจะเอาผลไม้ป้อนให้เธอ
หลังจากเรื่องนี้ผ่านพ้นไป ถังโจวโจวก็รู้สึกผิดมาก แต่ก็พูดขอโทษออกมาไม่ได้เพราะคงช้าเกินไปแล้ว คุณแม่ถังจึงเริ่มคุยกับเธอ แต่ว่าไปสองสามคำ ถังโจวโจวก็ฟังจนหูอื้อไปหมดแล้ว
“แม่คะ หนูเข้าใจ แต่เรื่องนี้มันคุมไม่ได้นี่คะ” เธอก็รู้ว่าช่วงนี้เธออารมณ์เสียง่าย เธอก็พยายามควบคุมแล้ว แต่ก็ควบคุมไม่ได้จริงๆ
“ทำไมลูกทำอย่างนี้กับสามีตัวเอง ดึกแล้วมาอยากกินเกี๊ยวน้ำแล้วให้เขาไปซื้อตั้งไกลเป็นสิบกิโล แม่ว่าลูกจะเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ ดูเหมือนว่าแม่ต้องทำให้ลูกรู้หน่อยแล้วว่าควรใช้ชีวิตยังไง”
ไม่ใช่คุณแม่ถังไม่สนใจลูกสาวตัวเอง แต่ลูกเขยเองก็เป็นคน ถ้าวันหนึ่งเขาเหนื่อยแล้ว ถึงเวลานั้นลูกสาวจะชดใช้ให้เขาอย่างไรไหว เกิดทั้งสองคนทะเลาะกันขึ้นมาจะทำยังไง คุณแม่ถังแค่ทำเพื่ออนาคตของเธอเท่านั้น
“แม่คะ เซ่าเซินดีต่อหนูมาก พวกเรารอคอยวันที่ลูกจะคลอดออกมา หนูรู้ว่าเขาอยู่ที่บริษัทก็ลำบาก พวกเราต่างก็พยายามเพื่อลูกที่กำลังจะเกิดมา เขาเองก็ยินดีที่จะทำ”
ถ้าลั่วเซ่าเชินแสดงการต่อต้านสักครั้ง ถังโจวโจวก็คงจะไม่ร้องขออะไรขนาดนั้น เธอไม่ใช่คนที่จะมาทะเลาะเพราะเรื่องไร้สาระ นอกจากนี้ลั่วเซ่าเชินก็เคยพูดว่าเพราะไม่มีโอกาสได้ดูแลลูกคนแรก เขายอมอดทนกับลูกคนนี้มาก
แน่นอน การกระทำของเขา ไม่ได้มีเพียงแค่ความรักสำหรับลูกในท้อง ที่สำคัญคือรักถังโจวโจว รู้ว่าเธอท้องแล้วต้องลำบาก เขาไม่สามารถรับรู้ถึงความลำบากได้ เลยทำทุกอย่างให้เธอพอใจ
ถ้าถังโจวโจวไม่ร้องขอต่างหากจึงจะทำให้เขาเป็นห่วงที่สุด เขาจะคิดว่าถังโจวโจวเป็นอะไร การเงียบและไม่พูดไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเลย
ฟังถังโจวโจวพูดละเอียดอย่างนี้ คุณแม่ถังก็เลยรู้ว่าเธอคิดมากไป แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ ต้องรู้ว่าข้างกายเธอมีคู่รักสักกี่คู่ที่ทั้งสองฝ่ายไม่เกรงใจกัน แต่ละคนคิดแต่สิ่งที่พวกเขาต้องการจนในที่สุดพวกเขาก็ไม่อาจจะไปต่อได้
และคุณแม่ถังอยากให้ลูกสาวของเธอมีความสุขไปตลอดชีวิต แน่นอนว่าไม่ใช่ขึ้นอยู่กับลั่วเซ่าเชิน ลูกสาวของเธอเป็นคนเอาแต่ใจ สำหรับถังโจวโจวแล้วก็ไม่ใช่เรื่องดีนัก
หลังจากหลินเหยากลับมาจากฮันนีมูนแล้วก็โดนเค้นถามเหมือนถังโจวโจวตอนนั้นไม่มีผิด ทั้งสองล้วนเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว แน่นอนว่าหัวข้อสนทนาจึงไม่ธรรมดาเหมือนแต่ก่อนอีก บางครั้งหลินเหยาก็รู้สึกเหมือนตนโดนถังโจวโจวลากไปขังกรงอย่างนั้น
“ไปเที่ยวกับฟังหยวนสองคนเป็นยังไงบ้าง มีความสุขมากใช่ไหม” หลินเหยารู้สึกว่าถังโจวโจวกัดเธอแรงมาก โจวโจวถามคำถามส่วนตัวแบบนี้ได้ยังไงกันนะ
แต่เธอก็ไม่ได้รังแกได้ง่ายขนาดนั้น “โจวโจว เธอเองก็มีความสุขกับลั่วเซ่าเชินทุกวันใช่ไหม โจวโจว เธอว่าพวกเราคุยเรื่องแบบนี้จะไม่ดีต่อลูกในท้องหรือเปล่า”
“งั้นเหรอ ฉันไม่รู้เหมือนกัน เธออย่าเปลี่ยนเรื่องนะ ฉันยังถามไม่จบเลย” ถังโจวโจวกลัวว่าอีกเดี๋ยวหลินเหยาเบี่ยงประเด็นแล้วเธอจะลืมเรื่องที่อยากถามไปหมด
เธอสงสัยเกี่ยวกับชีวิตฮันนีมูนของหลินเหยามาก ต้องรู้ว่าตอนเธอแต่งงาน ฟังหยวนถูกลั่วเซ่าเชินกลั่นแกล้งอย่างหนัก นอกจากนี้ร่างกายหลินเหยาก็ยังไม่ปกติ ถือว่าคืนเข้าหอของฟังหยวนกับลั่วเซ่าเชินนั้นไม่ต่างกันเท่าไหร่