เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 716
หลังจากนั้นเห็นลู่เฟิงกับลู่หมิงพาพวกลูกหลานตระกูลลู่มา

“เชิญนั่ง!”

ลู่ฝานพูดเสียงดัง

ลู่หมิงกับลู่เฟิงเดินเข้ามาอย่างตื่นเต้น

“เจ้าบ้าน!”

ลู่หมิงพูดอย่างนอบน้อม

ลู่ฝานพยักหน้าเป็นการบอกให้ลู่หมิงนั่งลง ลู่หาวมองลู่เฟิงแล้วพูดว่า “นายอ้วนขึ้น!”

ลู่เฟิงหัวเราะแล้วพูดว่า “วันๆ ไม่มีอะไรทำ ต้องอ้วนอยู่แล้ว”

ลู่ฝานพูดกับลู่หมิงว่า “ตำแหน่งผู้เฝ้าเมืองเป็นยังไงบ้าง”

ลู่หมิงไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ยุ่งจนฉันไม่มีเวลาฝึกฝนเลย เจ้าบ้าน นายทำได้ดีมาก”

ลู่ฝานยิ้มบางๆ แล้วตบไหล่ลู่หมิง

ปึง ปึง ปึง!

ขณะนั้นลู่หาวเคาะแก้วเหล้า บอกให้ทุกคนอยู่ในความสงบ

หลังจากนั้นทุกคนหันไปมองทางลู่ฝาน

ลู่ฝานค่อยๆ ยืนขึ้น ต่อไปเป็นช่วงบูชาฟ้าดินของตระกูลลู่

เดิมทีเขาจะดูคุณปู่ทำ ปีนี้ถึงตาเขาแล้ว

ลู่ฝานกวาดตามองทุกคนด้วยแววตาราบเรียบ นี่คือตระกูลของเขา

ลู่ฝานยกแก้วเหล้าขึ้นแล้วพูดเสียงก้อง “ลูกหลานตระกูลลู่ บูชาฟ้าดิน!”

ทุกคนลุกขึ้นยืน ยกแก้วเหล้าขึ้นสูง

ลู่ฝานพูดเสียงดังอีกว่า “เริ่มต้นปีใหม่ วิถีบู๊ยืนยาว!”

พูดจบ ทุกคนสาดเหล้าในแก้วลงบนพื้น

ลู่ฝานหัวเราะอย่างมีความสุข รู้สึกว่าดวงตาตัวเองเริ่มเปียกชื้น

ขณะนั้นลู่หาวพูดต่อ “ลูกหลานตระกูลลู่ เริ่มทดสอบได้”

ทุกคนเริ่มส่งเสียงเชียร์ ลูกหลานตระกูลกลุ่มหนึ่งเอาหินเจ็ดสีออกมา ไม่ใช่หินศิลาดำที่ใช้ทดสอบนักบู๊ระดับต่ำ

ลู่เฮ่าหรานมองท่าทีของลู่ฝาน หัวเราะแล้วพูดว่า “สืบสานประเพณี สืบสานตระกูลลู่”

ลู่ฝานนั่งลงแล้วพูดว่า “ใช่ ประเพณีคือสิ่งสำคัญที่สุด”

มองลูกหลานตระกูลลู่เดินเข้าไปทดสอบทีละคนอย่างเงียบๆ

ลู่ฝานรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก!

ขณะนั้น จู่ๆ ลู่ฝานเห็นศิษย์พี่หานเฟิงยืนมองเขาจากไม่ไกล ลู่ฝานกำลังจะเรียกเขาดื่มเหล้า แต่กลับเห็นสีหน้าของศิษย์พี่ลู่ฝานไม่สู้ดี

ลู่ฝานลุกขึ้นเดินมาข้างศิษย์พี่หานเฟิง

“เป็นอะไรไปศิษย์พี่หานเฟิง”

หานเฟิงถอนหายใจแล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ฉันไม่อยากทำให้นายหมดสนุก แต่เรื่องนี้ยื้อต่อไปไม่ได้จริงๆ ดังนั้นจำเป็นต้องพูดกับนาย นายดูเองเถอะ นี่จดหมายที่ศิษย์พี่ใหญ่ส่งมา”

ลู่ฝานรับกระดาษจากมือศิษย์พี่หานเฟิง แล้วเพ่งมอง

หลังจากอ่านดู สีหน้าของลู่ฝานเปลี่ยนไปทันที

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ พวกคณะหยินหยางมาถึงขั้นนี้แล้วเหรอ”

หานเฟิงพูดว่า “คนคณะหยินหยางเริ่มเสียสติแล้ว”

ลู่ฝานกัดฟันพูดว่า “ไปกันเถอะศิษย์พี่หานเฟิง เรารีบไปกันเถอะ”

ศิษย์พี่หานเฟิงมองหน้าลู่ฝาน พยักหน้าแล้วพูดว่า “ได้!”

“หานเฟิง ตอนนายเห็นจดหมายฉบับนี้ ศิษย์พี่คงพาศิษย์น้องฮ่วนเย่ว์ ศิษย์น้องฉู่สิงกับศิษย์น้องฉู่เทียน เดินทางไปเมืองหยุนไห่แล้ว แม้ศิษย์น้องหลิงเหยาไม่ใช่คนคณะหนึ่งเดียวของเรา แต่นายก็รู้ความสัมพันธ์ของศิษย์น้องลู่ฝานกับเธอ ฉันไม่มีทางยอมให้คนคณะหยินหยางกลั่นแกล้งคนที่มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นคนของศิษย์น้องพวกเรา

พวกอาจารย์บาดหมางกับคณะหยินหยางแล้ว อีกทั้งยังสู้กับซิงยวน ตอนนี้โดนทำโทษกักขัง ตอนนี้ซิงยวนของคณะหยินหยาง กำลังคิดหาวิธีจัดการคณะหนึ่งเดียวของเรา จากข่าวเอี๋ยนชิงศิษย์ที่ภาคภูมิใจของเขา ต้องไปตลาดหม้อยาที่เขาอวี่ฮั่วแน่นอน ถ้าพวกนายจะตามมาก็รีบมาที่นี่ ศิษย์พี่อู๋เหวย”

ลู่ฝานอ่านจดหมายอีกครั้ง รู้สึกว่าในใจมีแต่ไฟแค้น ทนไม่ไหวจนกำกระดาษในมือจนเป็นก้อน

นอกหน้าต่างเมฆหมอกล่องลอย นกบินผ่าน

ศิษย์พี่หานเฟิงยืนหน้าประตู ต้านสายลม มองไปไกลๆ

“ศิษย์น้องลู่ฝาน อีกนานแค่ไหนเราจะถึงเมืองหยุนไห่ ไอ้เวรเอ๊ย ฉันอยากซัดเอี๋ยนชิงจนทนไม่ไหวแล้ว”

ลู่ฝานเก็บจดหมายแล้วพูดว่า “ผมก็เหมือนกัน”

ลู่ฝานลุกขึ้นเดินออกจากห้อง

ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่บนหลังของนกปิดฟ้า

นกปิดฟ้าขนาดใหญ่มหึมา เป็นสิ่งที่หอฝึกสัตว์เมืองตงหวาทำให้เขาโดยเฉพาะ

นกปิดฟ้าตัวนี้มีชีวิตอยู่หลายร้อยปีแล้ว คนของหอฝึกสัตว์สร้างห้องไว้บนหลังของนกปิดฟ้า เพื่อให้คนอาศัย ข้างในมีของครบถ้วน อีกทั้งยังติดตั้งค่ายกลป้องกันลมเอาไว้ด้วย ว่ากันว่าแค่ห้องนี้ก็ไม่เป็นรองเครื่องรางของอาจารย์บำเพ็ญชี่

ลู่ฝานยืนข้างศิษย์พี่หานเฟิง มองเมฆขาวที่ลอยไปด้านหลังไม่หยุด

ลู่ฝานชะงักไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คนของหอฝึกสัตว์บอกว่านี่เป็นนกปิดฟ้าที่เร็วที่สุด เดินทางด้วยความเร็วสูงสุดอีกสามวันน่าจะถึง”

ลู่ฝานพูดพลาง เอายาเม็ดหนึ่งยื่นให้ศิษย์พี่หานเฟิง

ตอนนี้ยาเม็ดกลายเป็นอาหารสามมื้อของทั้งสองคนไปแล้ว

ตอนแรกศิษย์พี่หานเฟิงยังปรับตัวไม่ได้ คิดว่าถึงลู่ฝานมีจวนอากาศธาตุของเซียนบำเพ็ญชี่ก็ไม่ควรสิ้นเปลืองขนาดนี้

แต่ตอนนี้ศิษย์พี่หานเฟิงชินไปเสียแล้ว

ยาทิพย์วันละขวด ก็ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ

ลู่ฝานก็รู้สึกว่าระดับการกลั่นยาของตัวเองดีขึ้นตามไปด้วย