ตอนที่ 644 สังหารอย่างไร้รอย / ตอนที่ 645 เกิดเหตุประหลาด

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 644 สังหารอย่างไร้รอย 

 

 

พอได้ยินว่าต้องเอาชีวิตเข้าแลก จวี๋เซียงซึ่งอยู่ข้างๆ ก็ร้อนใจทันที รีบพูดห้าม “อย่า คุณหนู อย่าทำอะไรโง่ๆ เด็ดขาดนะเจ้าคะ” 

 

 

“จวี๋เซียง ออกไป” เฟิงชิงสุ่ยดุ แล้วพูดต่อ “ข้าตายพร้อมกับซูจิ่วซือก็ได้ แต่เจ้าต้องให้ข้าเห็นความสามารถที่แท้จริงของเจ้า” 

 

 

“ได้ เช่นนั้นข้าจะแสดงให้คุณหนูเฟิงเห็น” 

 

 

นางมารพูดจบก็เริ่มท่องคาถา มีไอสีดำออกมาจากฝ่ามือลอยไปที่จวี๋เซียง ชั่วพริบตาไอสีดำก็จางหายไป 

 

 

จวี๋เซียงยังอยากจะพูด แต่รู้สึกว่าตนไม่สามารถเปล่งเสียง ได้แต่อ้าปาก แต่ไม่มีเสียงแม้แต่น้อย 

 

 

“คุณหนูเฟิงสาวใช้คนนี้พูดมากเกินไป ข้าจึงใช้กลเล็กน้อย ให้นางพูดไม่ได้สักสองวัน พอพ้นสองวัน คำสาปหมดฤทธิ์ นางก็จะพูดได้เอง” 

 

 

เฟิงชิงสุ่ยจ้องหน้านางมาร แม้ไม่เคยได้ยินเรื่องราวอย่างนี้ แต่ก็รู้ว่านางมารมีความสามารถจริงๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถทำให้จวี๋เซียงพูดไม่ได้ ตั้งแต่ต้นจนจบ นางมารไม่ได้แตะต้องจวี๋เซียง เห็นแต่ไอสีดำเข้าไปที่หน้าผากของจวี๋เซียง 

 

 

เมื่อก่อนนางเคยอ่านบันทึกการสาปแช่งในตำราโบราณ แต่ไม่ได้ใส่ใจ ถือเป็นเรื่องไร้เหตุผล นึกไม่ถึงว่าจะมีการสาปแช่งที่สามารถสังหารคนได้อย่างไร้ร่องรอย 

 

 

จวี๋เซียงเบิ่งตากว้าง ตกใจจนตัวสั่น นางรู้สึกว่านางมารคนนี้น่ากลัวจริงๆ มิน่าจึงมีชื่อเรียกที่น่าขนลุก 

 

 

“ในการสาปแช่งต้องใช้อะไรบ้าง” 

 

 

“ต้องการเส้นผมของพระชายารัชทายาทกระจุกหนึ่ง ไม่รู้ว่าคุณหนูเฟิงจะหามาได้หรือไม่” 

 

 

“ข้าจะส่งคนไปเอามาให้” 

 

 

“ภายในสามวันคุณหนูเฟิงต้องได้เส้นผมมา ถ้าเอามาไม่ได้ ข้าจะไปจากตูเฉิง คุณหนูเฟิงต้องเร่งมือหน่อย” 

 

 

นางมารพูดจบก็หายไปทันที ด้วยความเร็วที่เฟิงชิงสุ่ยดูไม่ถนัดว่าออกไปได้อย่างไร ราวกับหายวับไปชั่วพริบตา 

 

 

หน้าต่างห้องยังเปิดอยู่ นางมารออกไปจากที่นี่แล้ว 

 

 

เฟิงชิงสุ่ยนั่งที่โต๊ะ แค่เรื่องผมเท่านั้น แต่ที่แคว้นเจียง การตัดผมไม่ใช่จะทำได้ตามใจชอบ วังตะวันออกมีการป้องกันเป็นชั้นๆ จะให้คนไปวังตะวันออกเพื่อตัดผมซูจิ่วซือแทบเป็นไปไม่ได้ นางไม่มียอดฝีมือที่เก่งกาจปานนั้น 

 

 

จู่ๆ นางก็นึกถึงธรรมเนียมของแคว้นเจียง หลังแต่งงานสามีภรรยาจะเอาผมของตนใส่ในถุงผ้าสีแดง แล้วนำไปเก็บไว้ที่ศาลบรรพชนของฝ่ายชาย 

 

 

ผมของซูจิ่วซือกับฟู่เฉินหรงก็ต้องอยู่ในศาลบรรพชนของราชตระกูล แม้มีทหารรักษาการณ์อย่างเข้มงวด แต่ก็ง่ายกว่าไปตัดผมที่วังตะวันออก 

 

 

นางรู้ว่านางมารผู้ไม่มีที่มาที่ไปชัดเจนคนนี้ เบื้องหลังคงมีคนบงการ นางไม่อยากไปสืบเรื่องนี้ และคร้านจะไปสืบ ขอแต่ให้นางกำจัดซูจิ่วซือได้สำเร็จ ไม่พัวพันถึงตระกูลเฟิง นางยินดีจ่ายค่าตอบแทนทุกอย่าง 

 

 

นางไม่อาจทนดูซูจิ่วซือได้รับตำแหน่งฮองเฮาในฐานะผู้พิชิต 

 

 

หากซูจิ่วซือตาย นางรู้ว่าชาตินี้ฟู่เฉินหรงคงไม่มีความสุขแน่ นี่ก็เป็นเรื่องที่นางจะแก้แค้นฟู่เฉินหรง นางต้องการให้ฟู่เฉินหรงโศกเศร้าไปตลอดชีวิต อยู่กันคนละโลกตลอดชาติ 

 

 

พอคิดได้อย่างนี้ เฟิงชิงสุ่ยก็ผุดรอยยิ้มที่มุมปาก ซูจิ่วซือเอ๋ยซูจิ่วซือ ข้ากำลังวิตกว่าจะจนปัญญา ต้องโทษเจ้าที่มีคู่แค้นมากเกินไป ไม่เพียงแต่ข้าที่ต้องการให้เจ้าตาย ยังมีคนที่ทุ่มเทหาหมอผีมากำจัดเจ้า 

 

 

เย็นวันต่อมา เฟิงชิงสุ่ยก็ได้ถุงผ้า นางมารมาปรากฏตัวทันที 

 

 

นางมารรับถุงผ้าจากเฟิงชิงสุ่ย ในนั้นมีเส้นผมสองปอยพันกันอยู่ เส้นละเอียดอ่อนเป็นของผู้หญิง ผมทั้งสองปอยมัดติดกันด้วยด้ายแดง 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 645 เกิดเหตุประหลาด 

 

 

พอเห็นผมสองปอย สีหน้าของนางมารก็ดีใจอย่างชัดเจน 

 

 

เฟิงชิงสุ่ยเดินมาหานางมาร รู้สึกว่าเส้นผมสีดำที่พันกันอยู่เสียดแทงตามาก นางพูดสีหน้าเครียด “นางมาร ในเมื่อได้เส้นผมมาแล้ว ก็เริ่มสาปแช่งได้เลย” 

 

 

“คุณหนูเฟิงไม่ต้องร้อนใจ ยังต้องใช้เลือดคุณหนูเฟิง ขอให้คุณหนูเฟิงยื่นมือมา เอาเลือดหยดลงบนเส้นผม” 

 

 

เฟิงชิงสุ่ยหยิบปิ่นที่ปักผมออกมา แทงที่ปลายนิ้ว เลือดสีแดงสดหยดลงบนเส้นผมละเอียดอ่อน ขณะที่เตรียมจะหดมือกลับ นางมารก็พูดต่อ “คุณหนูเฟิง เลือดหยดเดียวน้อยเกินไป” 

 

 

พูดจบนางมารก็จับนิ้วมือเฟิงชิงสุ่ย ออกแรงบีบเลือดออกมาอีก แล้วจึงปล่อยมือ 

 

 

“บังอาจ” พอเห็นมางมารบีบเลือดออกโดยไม่ขออนุญาต เฟิงชิงสุ่ยก็ไม่พอใจ นางคนนี้ช่างไม่รู้จักแบบแผนเลย 

 

 

“คุณหนูเฟิง ข้าเป็นคนวงการนักเลงจากต่างถิ่น ไม่เข้าใจแบบแผนของตระกูลใหญ่” 

 

 

นางมารอยู่ต่อหน้าเฟิงชิงสุ่ยไม่มีความยำเกรงแม้แต่น้อย พูดจาไม่มีมารยาท นางไม่ใช่คนจงหยวน การมาจงหยวนครั้งนี้ก็เพื่อหาเงิน ทำงานให้สำเร็จก็พอ 

 

 

เฟิงชิงสุ่ยพยายามสะกดอารมณ์ ถามขึ้น “เจ้าจะสาปแช่งเมื่อไร” 

 

 

“การสาปแช่งต้องมีฤกษ์ยาม คุณหนูเฟิงวางใจเถอะ ข้าจะให้คุณหนูเฟิงสมปรารถนาแน่ เที่ยงคืนคืนนี้ข้าจะเริ่มสาปแช่ง” 

 

 

เฟิงชิงสุ่ยอยากเห็นการสาปแช่งกับตาตัวเอง จึงถามต่อ “เจ้าสาปแช่งที่ไหน” 

 

 

“เป็นเรื่องของข้า คุณหนูเฟิงไม่ต้องถามมาก การสาปแช่งไม่เหมือนอย่างอื่น คนที่ไม่เกี่ยวข้องจะเข้ามาดูไม่ได้ หมดธุระแล้ว ข้าไปก่อนละ คุณหนูเฟิงยังมีชีวิตอยู่ได้ห้าวัน ภายในสองวันนี้จะเกิดเหตุร้ายขึ้นที่วังตะวันออก พอถึงเวลานั้นคุณหนูเฟิงคงตายโดยไม่รู้สึกเสียดาย” 

 

 

พูดจบนางมารก็ออกไปจากห้องของเฟิงชิงสุ่ย 

 

 

แม้เฟิงชิงสุ่ยไม่สบายใจนัก แต่พอนึกถึงว่าเวลานี้ตนสามารถอาศัยนางมารมาจัดการซูจิ่วซือ นางจึงไม่ได้ใส่ใจนางมารอีก 

 

 

เวลานี้นางไม่มีหนทางอื่น ความสามารถของนางมารนางก็เห็นแล้ว และเชื่อว่านางมารต้องการสังหารซูจิ่วซือจริงๆ เวลานี้นางเพียงแต่รอฟังข่าว 

 

 

ส่วนชีวิตของนาง ขอเพียงแต่เห็นซูจิ่วซือตายก่อน นางก็จะตายโดยไม่รู้สึกเสียดาย 

 

 

 

 

 

วังตะวันออก 

 

 

อาหลานยืนอยู่ข้างหน้าซูจิ่วซือรายงานว่า “พระชายารัชทายาท วันนี้ที่ศาลบรรพชนเกิดเหตุประหลาดเพคะ” 

 

 

“เหตุประหลาดอะไรหรือ” 

 

 

“มีมือสังหารลอบเข้าไปในศาลบรรพชน ต่อมาจึงพบว่าถุงใส่ผมขององค์รัชทายาทกับพระชายารัชทายาทหายไปเพคะ” 

 

 

พอได้ยินว่าถุงใส่ผมหายไป ซูจิ่วซือก็วางหนังสือในมือลง เป็นเรื่องประหลาดจริงๆ นางสีหน้าครุ่นคิด 

 

 

ปิงซินรับใช้อยู่ข้างๆ พอได้ยินว่ามีคนเข้ามาขโมยถุงใส่ผม ก็แสดงความประหลาดใจ “มือสังหารอยู่ดีๆ จะมาขโมยถุงใส่ผมไปทำอะไร” 

 

 

“ในเมื่อมีคนมาขโมย ก็ต้องเอาไปใช้ประโยชน์ และคงใช้ประโยชน์ไม่น้อย” 

 

 

เรื่องที่ว่าขโมยเอาไปทำอะไร ซูจิ่วซือยังคิดไม่ออก ไม่เคยได้ยินอย่างนี้มาก่อน รอให้ฟู่เฉินหรงกลับมาค่อยถามอย่างละเอียดว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร 

 

 

“ไม่ว่าจะขโมยอะไรไป ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ ยังดีที่ถุงนั้นไม่ใช่ถุงใส่ผมองค์รัชทายาทกับพระชายารัชทายาท” 

 

 

อาหลานพูดต่อ 

 

 

“เรื่องประหลาดอย่างนี้มีมากมาย แม้แต่เส้นผมก็ยังมีคนขโมย คิดไม่ออกจริงๆ ว่าเอาไปทำอะไร” 

 

 

ซูจิ่วซือยิ้ม ถุงผ้านั้นไม่ได้ใส่ผมของนางกับฟู่เฉินหรงจริงๆ