บทที่ 1494 ท่านปู่

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1494 ท่านปู่

แปลโดย iPAT

 

เสียงกรีดร้องของเด็กหนุ่มดังขึ้นทำให้ผู้ใช้วิญญาณชราเผยรอยยิ้มสดใส

 

แต่ในไม่ช้าเด็กหนุ่มก็ตระหนักถึงเรื่องนี้และกัดฟันอดทนโดยไม่ส่งเสียงออกมาอีก

 

“หือ? เจ้าหนู เจ้ายังคิดขัดขืนข้าอีกงั้นหรือ?” ผู้ใช้วิญญาณชราโกรธและกระทืบหน้าอกของเด็กหนุ่ม

 

“แคร่ก”

 

ซี่โครงของเด็กหนุ่มแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและเจาะเข้าไปในปอดของเขา

 

นั่นทำให้เด็กหนุ่มเกือบตายทันที

 

แต่เขายังไม่เปล่งเสียงใดๆออกมา เขากัดฟันอย่างรุนแรงขณะที่ดวงตาเบิกโตด้วยความโกรธ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ผู้ใช้วิญญาณชราเริ่มหัวเราะด้วยความไม่พอใจ

 

คราวนี้ไม่ง่ายเหมือนก่อนหน้า เด็กหนุ่มรู้สึกมึนงงจากการโจมตีทุกรูปแบบ

 

“อ๊าก!” เขากรีดร้องออกมาโดยไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป เขากลิ้งไปบนพื้นและเกาผิวหนังของตนเองอย่างบ้าคลั่ง

 

ผู้ใช้วิญญาณชราหัวเราะร่าเริง “ทนไม่ไหวแล้วงั้นหรือ? เจ้ากล้าท้าทายท่านชาเซี่ยวผู้ยิ่งใหญ่ แม้เจ้าจะมีความภาคภูมิใจในตนเองมากเพียงใด เจ้าก็ต้องคุกเข่าต่อหน้าข้าในที่สุด จงร้องขอความเมตตาจากข้า ตราบเท่าที่เจ้าเรียกข้าว่าท่านปู่ ข้าย่อยสามารถให้อภัยเจ้าที่เป็นหลานชาย ฮ่าฮ่าฮ่า”

 

หัวใจของเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยความโกรธ

 

คำกล่าวของชาเซี่ยวกระตุ้นความภาคภูมิใจของเขา เขาสาบานอยู่ในใจว่าแม้เขาจะตายจากอาการคัน ตายจากความเจ็บปวด ตายจากการเน่าเปื่อย หรือตายจากอาการชา เขาก็จะไม่ร้องขอความเมตตา!

 

ชาเซี่ยวรอสักครู่ เด็กหนุ่มยังกลิ้งอยู่บนพื้น เขาฉีกเสื้อผ้าและผิวหนังของตนเอง เขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่เขาไม่ร้องขอความเมตตา

 

เมื่อเด็กหนุ่มไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป เขาจึงใช้ศีรษะของตนเองทุบกำแพงหินอย่างรุนแรง

 

‘เขาอยากตายจริงๆงั้นหรือ!?’ ชาเซี่ยวรู้สึกประหลาดใจและรีบหยุดสิ่งนี้

 

ความแข็งแกร่งของเด็กหนุ่มไร้ความหมายต่อหน้าชาเซี่ยว ฝ่ายหลังสามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย

 

นอกจากชาเซี่ยวจะช่วยเด็กหนุ่ม เขายังรักษาอาการบาดเจ็บของเด็กหนุ่มผู้นี้อีกด้วย

 

“เจ้าหนู เจ้าเด็กโง่ กระทั่งข้าก็ยังรู้สึกชื่นชมเจ้าอยู่บ้าง” ชาเซี่ยวกล่าว

 

เขามองเด็กหนุ่มที่นอนอยู่พื้นและกล่าวอย่างช้าๆ “แต่หากเจ้าตาย ครอบครัวของเจ้าจะทำอย่างไร? แน่นอนว่าข้าย่อมไม่สนใจเรื่องนี้ แต่พ่อแม่ของเจ้าจะรู้สึกอย่างไร? ยังมีพี่น้องของเจ้า ฮ่าฮ่า เจ้ามีคนรักหรือไม่? นางจะรู้สึกอย่างไรหากเจ้าตาย?”

 

การแสดงออกของเด็กหนุ่มเปลี่ยนแปลงไป

 

เขามีชีวิตอยู่ในโลกนี้มากว่าสิบปีแล้ว อย่างไรก็ตามในโลกใบเดิมของเขา เขามีครอบครัว พ่อแม่ที่แข็งแรง และคู่หมั้นอันเป็นที่รัก

 

‘ข้าตายไม่ได้! ข้าต้องอยู่ต่อไป!’

 

‘ข้าต้องหาทางออกจากโลกใบนี้และกลับบ้าน มีคนรอข้าอยู่ที่นั่น!’

 

ชาเซี่ยวเป็นคนเจ้าเล่ห์ มุมปากของเขาม้วนตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นการแสดงออกที่เปลี่ยนแปลงไปของเด็กหนุ่ม

 

เด็กหนุ่มมองชาเซี่ยวอย่างไม่เกรงกลัว “เจ้าไม่ได้ฆ่าข้าเพราะเจ้าต้องการใช้ประโยชน์จากข้า พูด เจ้าต้องการให้ข้าทำสิ่งใด?”

 

ชาเซี่ยวหัวเราะเสียงดังและยกนิ้วให้เด็กหนุ่ม “เจ้าหนู เจ้ามีความกล้า เจ้ากล้าพูดกับข้าเช่นนั้นจริงๆ”

 

หลังกล่าวจบคำ สีหน้าของชาเซี่ยวก็เปลี่ยนไป เสียงหัวเราะของเขาหายไปและถูกแทนที่ด้วยความโกรธ

 

เขาเตะใบหน้าของเด็กหนุ่มอย่างไรปรานีและทำให้เด็กน้อยบินออกไป

 

จากนั้นเขาก็ยิงแสงประหลาดออกจากนิ้วและพุ่งเข้าปะทะร่างของเด็กหนุ่ม

 

การแสดงออกของเด็กหนุ่มเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วขณะที่เขารู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่าง เขาพยายามยืนขึ้น แต่ด้วยความไร้กำลัง เขาจึงทำได้เพียงนั่งอยู่บนพื้นเท่านั้น

 

ใบหน้าของเขาเปื้อนเลือด จมูกของเขาหักจากลูกเตะของชาเซี่ยว

 

เด็กหนุ่มแทบไม่สามารถประคองสติเอาไว้ได้

 

ด้วยสติที่เหลืออยู่ เขาเห็นมือของตนเองที่กำลังเน่าเปื่อยราวกับถูกกัดกร่อนด้วยน้ำกรดเข้มข้น

 

ในความเป็นจริงไม่เพียงมือแต่กระทั่งใบหน้า แขน ลำคอ และร่างกายของเขาก็กำลังเน่าเปื่อย

 

ในไม่ช้าดวงตาของเขาก็สูญเสียการมองเห็น

 

เสียงที่น่ากลัวของชาเซี่ยวลอยมา “เจ้าคิดว่าข้าต้องการเจ้างั้นหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นโชคของเจ้าที่จะถูกใช้งานโดยข้า! เจ้ากล้าแสดงทัศนคติดังกล่าวให้ข้าเห็นแล้วคิดว่าจะสามารถตายงั้นหรือ? ข้าจะทำให้เจ้าทรมานยิ่งกว่าความตาย เจ้าจะกลายเป็นหุ่นเชิดของข้า ฮ่าฮ่าฮ่า”

 

“ตอนนี้เป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้าแล้ว ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง หากเจ้าไม่อยากตาย จงเรียกข้าว่าท่านปู่ ปฏิบัติตามคำสั่งของข้าอย่างเคร่งครัด!”

 

“ใช้เวลาที่เหลืออยู่ของเจ้าให้คุ้มค่า ร่างกายของเจ้าจะเน่าเปื่อยต่อไป ในอีกสิบลมหายใจ เจ้าจะเหลือเพียงโครงกระดูก ฮ่าฮ่า ข้าจะดูว่าเจ้ายังจะยโสได้อีกนานเท่าใด!?”

 

เด็กหนุ่มเงียบ

 

ชาเซี่ยวไม่กล่าวสิ่งใดอีก เขาเพียงมองไปที่เด็กหนุ่มด้วยสายตาที่น่ากลัวเท่านั้น

 

เด็กหนุ่มทรุดตัวลงและไม่เคลื่อนไหว

 

ร่างกายของเขาเน่าเปื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ

 

บาดแผลอันน่าสะพรึงกลัว ความเจ็บปวดที่รุนแรง และสิ่งสำคัญคือความคิดที่อยู่ในใจของเขาทำให้ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว

 

‘ข้าคือเบนเจสันแม่ทัพผู้สูงศักดิ์ ข้าจะร้องขอความเมตตาได้อย่างไร?’

 

‘แต่…หากข้าตายที่นี่ ข้าจะทำให้คนรักที่อยู่ในโลกอีกใบต้องรอคอยอย่างสูญเปล่า?’

 

‘เห้อ…’

 

เด็กหนุ่มลอบถอนหายใจอยู่ภายใน

 

เขาค่อยๆปรับท่าทางและคุกเข่าลง จากนั้นก็วางศีรษะไว้บนพื้น

 

เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรงและหยาบคาย “เจ้าชนะ”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ชาเซี่ยวหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาของเขาเบิกกว้างขณะมองเด็กหนุ่ม “แล้วควรเรียกข้าว่าอย่างไร?”

 

“ท่าน…ท่านปู่” เด็กหนุ่มกัดฟันกล่าวด้วยร่างกายสั่นเทาและน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาที่สึกกร่อน

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า หลานชายที่ดีของข้า” ชาเซี่ยวพอใจมาก

 

เด็กหนุ่มถึงขีดจำกัดและหมดสติไปในที่สุด

 

ฟางหยวนเผชิญหน้ากับความมืดอีกครั้ง

 

อาณาจักรแห่งความฝันกัดกร่อนจิตวิญญาณของเขาอย่างรุนแรง

 

ฟางหยวนอดทนผ่านช่วงเวลานี้ไปอย่างยากลำบาก เขาสูญเสียรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณไปนับล้านแล้ว

 

การสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ต้องใช้รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณสูงมาก! หากฟางหยวนไม่เคยบ่มเพาะจิตวิญญาณมาก่อน เขาจะไม่มีคุณสมบัติที่จะสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันแห่งนี้

 

เมื่อเวลาผ่านไป ฟางหยวนก็กลับมามองเห็นอีกครั้ง

 

ดวงอาทิตย์แผดแสงอยู่บนท้องฟ้า เด็กหนุ่มกำลังเคลื่อนที่ข้ามทะเลทรายด้วยร่างกายที่อ่อนแอ

 

บาดแผลอันน่าสะพรึงกลัวบนร่างของเขาหายไปแล้วแต่ยังมีอาการบาดเจ็บใหม่หลายแห่งที่ดูเหมือนบาดแผลที่เกิดจากคมเขี้ยวของสัตว์ป่า

 

“เจ้าหนู ฟังให้ดี เมื่อเจ้ากลับเข้าเผ่า สืบหาสิ่งที่ท่านปู่ของเจ้าต้องการ”

 

“ท่านปู่จะนำหมาป่าทะเลทรายสองสามตัวมาให้เจ้า ฮ่าฮ่า หากเจ้าทำได้ดี เจ้าจะไปถึงจุดหมาย ท่านปู่จะไม่ช่วยเจ้า หากเจ้าไม่สามารถรักษาชีวิต มันก็โทษได้เพียงตัวเจ้าเองเท่านั้น”

 

“โอ้ อย่าลืมว่าอย่าพูดจาเหลวไหล ท่าไม้ตายของท่านปู่อยู่ในร่างของเจ้า เจ้าเคยลิ้มรสความรู้สึกของร่างกายที่เน่าเปื่อยมาแล้ว ตราบเท่าที่ข้าต้องการ อวัยวะภายในและสมองของเจ้าจะเน่าเปื่อยทันที ฮ่าฮ่า จงเป็นหลานชายที่ดีของข้า”

 

เด็กหนุ่มมองไม่เห็นร่างของชาเซี่ยวแต่เสียงของชายชรายังดังขึ้นในใจของเขา

 

ทันทีที่ชายชรากล่าวจบ หมาป่าทะเลทรายหลายตัวก็พุ่งออกมาจากเนินทราย

 

พวกมันเห่าหอนเพื่อส่งสัญญาณโจมตี

 

เด็กหนุ่มไม่ขยับเขยื้อนและมองระยะห่างระหว่างเขากับหมาป่าทะเลทรายที่หดตัวลงเรื่อยๆ

 

ฟางหยวนงุนงงก่อนที่เขาจะตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาลอบสาปแช่งอยู่ภายในขณะพยายามควบคุมร่างกายของเด็กหนุ่ม

 

ดังคาด เขาสามารถควบคุมร่างกายนี้อีกครั้ง

 

ฟางหยวนรีบออกวิ่งขณะที่เขาตรวจสอบวิญญาณที่อยู่ในทะเลวิญญาณ

 

วิญญาณหลุมทราย วิญญาณควันไฟ และวิญญาณน้ำใส

 

มีพลังวิญญาณเพียงสิบกว่าส่วนเท่านั้น

 

วิญญาณลมเย็นที่เขาเคยรวบรวมไว้หายไปหมดแล้ว

 

‘ดูเหมือนชาเซี่ยวไม่ต้องการเปิดเผยการคงอยู่ของโอเอซิสเล็กๆแห่งนั้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงทำลายเบาะแสที่เกี่ยวข้องทั้งหมด’

 

‘บัดซบ! วิญญาณน้ำใสไม่มีประโยชน์ที่นี่ มีเพียงวิญญาณหลุมทรายและวิญญาณควันไฟเท่านั้นที่พึ่งพาได้’

 

ขณะที่ฟางหยวนคิดเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกถึงลมที่พัดมาจากด้านหลัง

 

เขากระโดดไปทางซ้ายโดยไม่ต้องคิดมาก

 

ในเวลาต่อมาหมาป่าทะเลทรายก็กระโจนไปที่ตำแหน่งก่อนหน้าของฟาหงยวน มันตกลงบนพื้นและกลิ้งออกไปไกลพอสมควร

 

ฟางหยวนเกือบล้มลงบนพื้น หากเขาล้ม หมาป่าทะเลทรายที่วิ่งเข้ามาจะไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสลุกขึ้นได้อีก

 

ในช่วงเวลาสำคัญฟางหยวนใช้มือดันพื้นทรายและส่งร่างของตนเองพุ่งไปข้างหน้า เขาแทบไม่สามารถรักษาสมดุลแต่เขายังคงวิ่งต่อไป

 

เพียงไม่กี่ก้าวต่อมา หมาป่าทะเลทรายอีกตัวก็ไล่ตามมาด้านหลัง

 

ฟางหยวนกระตุ้นใช้งานวิญญาณหลุมทราย วิญญาณระดับหนึ่งใช้พลังวิญญาณห้าส่วน

 

หลุมทรายปรากฏขึ้นทันที

 

หมาป่าทะเลทรายตัวที่สองที่กำลังพุ่งเข้ามาตกลงไปในหลุมทราย

 

แต่หมาป่าทะเลทรายตัวที่สามกระโดดขึ้นสู่อากาศ หมาป่าตัวนี้ค่อนข้างฉลาด นอกจากนั้นมันยังมีวิญญาณป่าที่ช่วยในการเคลื่อนไหวได้โดยไร้เสียง

 

ฟางหยวนไม่มีเวลามองกลับไปขณะที่เขาเห็นเงาบนพื้นทรายที่อยู่ตรงหน้า

 

มันเป็นเงาของหมาป่าทะเลทรายตัวที่สามที่กำลังกระโจนเข้ามาจากด้านหลัง

 

ฟางหยวนกัดฟันแน่น เขาไม่สามารถใช้งานวิญญาณดวงสุดท้ายและไม่มีมีเวลาหลบเลี่ยง

 

อย่างไรก็ตามประสบการณ์การต่อสู้ของฟางหยวนทำให้เขาตัดสินใจได้อย่างสมเหตุสมผลที่สุด

 

แม้เขาจะไม่สามารถหลบได้อย่างสมบูรณ์แต่เขายังสามารถหลบหนีจากสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

 

ฟางหยวนใช้ไหล่ข้างขวารับกรงเล็บที่แหลมคมของหมาป่าทะเลทรายตัวที่สาม

 

เศษเนื้อถูกฉีกกระชากออกไปแต่ฟางหยวนยังไม่หยุดวิ่ง

 

เขาวิ่งต่อไปอย่างบ้าคลั่ง

 

ถึงเวลานี้หมาป่าทะเลทรายตัวแรกและตัวที่สองก็สามารถตั้งหลักและตามมาแล้ว

 

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ฟางหยวนส่งพลังวิญญาณทั้งหมดให้กับวิญญาณควันไฟ

 

เดิมทีวิญญาณดวงนี้มักถูกใช้ในการรมควันอาหาร แต่ตอนนี้ฟางหยวนยังสามารถใช้งานมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ควันหนาทึบบดบังวิสัยทัศน์และการดมกลิ่นของหมาป่าทะเลทรายทั้งสาม ฟางหยวนฉวยโอกาสสร้างระยะห่างออกไป

 

แต่นี่เป็นเหมือนการต่อสู้ที่สิ้นหวัง

 

ในไม่ช้าหมาป่าทะเลทรายทั้งสามก็ทะลวงผ่านกลุ่มควันและไล่ล่าฟางหยวนอีกครั้ง

 

‘ข้าจะล้มเหลวงั้นหรือ?’

 

‘ความยากลำบากนี้สูงเกินไป!’

 

ฟางหยวนรู้สึกหมดสิ้นความหวัง แต่ในจังหวะนี้โซ่สายฟ้ากลับพุ่งผ่านแก้มของฟางหยวนไปและโจมตีหมาป่าทะเลทรายทั้งสามในพริบตา

 

‘พวกพ้อง!’ ฟางหยวนรู้สึกมีความสุขเมื่อตระหนักถึงบางคน

 

แต่ร่างกายของเด็กหนุ่มมาถึงขีดจำกัดแล้ว เขาหมดสติไปอีกครั้ง

 

ความมืดไม่ปรากฏขึ้น ขณะที่การค้นพบของฟางหยวนทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ ดวงวิญญาณของเขาลอยอยู่กลางอากาศ เขาอยู่นอกอาณาจักรแห่งความฝัน!

 

กล่าวให้ถูกต้องมากขึ้นก็คือฉากแรกของอาณาจักรแห่งความฝันที่ปกคลุมดวงวิญญาณของฟางหยวนอยู่ก่อนหน้านี้หายไปแล้ว

 

‘เป็นเช่นนี้ ข้าประสบความสำเร็จในการสำรวจฉากที่หนึ่งของอาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์แล้ว!’ ฟางหยวนตระหนักถึงสิ่งนี้ได้อย่างรวดเร็ว

 

‘ยอดเยี่ยม! ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมของข้าบรรลุถึงระดับปรมาจารย์ทันที!’

 

ฟางหยวนรู้สึกมีความสุขมาก

 

แม้รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขาจะลดลงอย่างมาก แต่การเก็บเกี่ยวของเขาก็ไม่น้อย

 

มันคู่ควรกับการเป็นอาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์อย่างแท้จริง เพียงฉากแรก มันก็ทำให้ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมของฟางหยวนก้าวเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ไปแล้ว

 

จะน่ากลัวเพียงใดหากเขาสำรวจต่อไป?