1843-3 vs 1843-4 โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1843-3

รูปหล่ออันดับหนึ่งคือพี่อ้วน “อยู่กันไหม ออกมา ออกมาให้หมด!”

หลินเฉินทาว “เฮ้ย เปลี่ยนชื่อโปรไฟล์ทุกวันเลยเว้ย สุดยอด”

รูปหล่ออันดับหนึ่งคือพี่อ้วน “ชมเกินไปแล้ว วันนี้พวกนายเห็นในเวยป๋อหรือยัง ไม่รู้สึกเหรอว่าคนบางคนหน้าไม่อายอย่างแรง”

“เห็นแล้ว หน้าไม่อายแบบขีดสุดเลย”

“ฉันงับปีกไก่แน่นจนดูจบเลยล่ะ เห็นแล้วอยากอัดคนว่ะ”

“ไม่อยากพูดอะไรแล้ว อยากโทรหา 110 แจ้งความว่ามีคนทำร้ายหมาโสดแสนดีอย่างฉัน!”

“เซ็นชื่ออย่างเว่อร์ พวกนายว่าไหม”

“ฉันว่าเราต้องแอดบางคน (ภาพมีมฉินมั่ว)”

“ฉันว่าเดี๋ยวคนบางคนต้องส่งอั่งเปามาแน่ มีแฟนแล้วนี่ (ภาพมีมฉินมั่ว)”

“ส่งสองซองเลย ในเมื่อมีสองคนก็ต้องสองซอง เจ้าแบล็กอ่ะช่างเหอะ ให้แฟนส่งให้ (ภาพมีมฉินมั่ว)”

คงเพราะมีเสียงมือถือดังอยู่นั่น ป๋อจิ่วจึงหันมามอง และเห็นท่านเทพส่งข้อความทางวีแชทอย่างรู้สึกประหลาด เธออยากดู แต่เขาไม่ยอม ยกมือกันไว้ พยักเพยิดบอกเพียงว่า “นั่งลง”

จริงๆ เลยนะ กันเธอไว้อย่างกับกันหมาป่า ป๋อจิ่วเลิกหางตา อาศัยช่วงที่เขาหลุบตาลง จับข้อมือเขา ฉวยโอกาสมองดูสักแวบสองแวบ ฉินมั่วกลับยิ้มให้ “ทำไม? มิสซิสฉิน แอบจับผิดเหรอ?”

ป๋อจิ่วจะไปรู้เนื้อหาได้ยังไง เธอรู้สึกเสียเปรียบขึ้นมาจึงหยิบน้ำแร่ขึ้นดื่ม เสไปมองอีกครั้ง ก็เห็นฉินมั่วจิ้มนิ้ว “จะส่งจริงๆ เหรอ?” ฉินมั่วทำไม่เหมือนจะส่งอั่งเปาให้อย่างบริสุทธิ์ใจ ต้องมีแผนแน่

นั่นไงล่ะ ป๋อจิ่วมองดูหน้าจอมือถืออีกครั้ง เห็นว่าชายหนุ่มส่งอั่งเปาให้จริงๆ แต่ใส่ชื่อไว้ว่า ‘อาหารหมา’ ป๋อจิ่วเดาได้เลยล่ะว่า กรุ๊ปแชทท่านเทพจะต้องโพสต์ด่าฉินมั่วหน้าไม่อายเพียบชัวร์

ฉินมั่วกลับเป็นปกติ ส่งอั่งเปาให้หมดก็เก็บมือถือ ราวกับไม่ได้เป็นคนจุดเพลิงขึ้นมา ป๋อจิ่วคว้ามือถือตัวเองขึ้นมาดูอย่างทนไม่ไหว ทว่าเมื่อเปิดดูวีแชทก็พบว่า

“ฉินมั่ว! แน่จริงก็อย่าเพิ่งปิดวีแชทดิ อย่าปิดมือถือนะ”

จ้าวซานพั่ง อื้ม ถึงจะมีมือถือกั้น แต่ป๋อจิ่วยังรู้สึกได้ถึงความแค้น พูดตรงๆ วันนี้ท่านเทพสร้างความแค้นได้พอๆกับที่ตัวเองเดี่ยวใส่บอสจอมโหดเลย

รู้สึกอย่างไรที่มีแฟนแบบนี้ คงอยากหัวเราะ

คนที่ทำการสัมภาษณ์เข้ามา เห็นท่าแอบขำของป๋อจิ่วพอดี

คงเพราะเธอนั่งเกียจคร้านบนเก้าอี้ โชว์ให้เห็นขายาวๆ และมือถือขวดน้ำแร่ด้วย ทั้งที่รู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง แต่กลับรู้สึกถึงคำว่าหล่ออย่างช่วยไม่ได้

ป๋อจิ่วเห็นว่ามีคนเข้ามา จึงหันไปมองเล็กน้อย สายตาจ้องไปที่ป้ายชื่อพนักงาน จากนั้นลุกขึ้นยืนเหมือนจะเดินจากไป ทว่าฉินมั่วกลับยื่นมือฉุดชายเสื้อป๋อจิ่ว

ป๋อจิ่ว “เอ๋?” ไหนว่าจะสัมภาษณ์? เธอจะได้ลงไปเดินเล่นเสียหน่อย

ฉินมั่วเฉยเมย “ทางผู้จัดขอที่นั่งให้คนในครอบครัวด้วย”

ผู้สัมภาษณ์ได้ยินแล้ว รีบตอบ “ไม่ผิดหรอกค่ะ เทพ Z ถึงจะสัมภาษณ์เดี่ยว แต่พวกเราหวังว่าคนในครอบครัวจะนั่งข้างๆ…”

พิธีกรฝืนใจพูด เพราะสถานการณ์แบบนี้หาได้ยาก ทว่าสายตาของฉินมั่ว หากเธอมองไม่ออกอีก ก็ไม่ต้องอยู่ในวงการนี้แล้ว ทว่าเรื่องนี้เธอต้องขอบคุณเทพฉิน เดิมกะผลอย่างเลวร้ายที่สุดก็คือ ฉินมั่วไม่ยอมให้สัมภาษณ์ ไม่คิดว่าเขาจะมา แถมยังพาแบล็กพีชมาด้วย รายการยังไม่เริ่มก็ดังแล้ว!

 ………………………………………

ตอนที่ 1843-4

ป๋อจิ่วเป็นคนที่ให้ความร่วมมือต่อคนอื่นเสมอมา คงเพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับทางครอบครัวและการเลี้ยงดู เธอเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กจนโต ถึงจะเย็นชาไปหน่อย แต่ไม่ใช่คนแล้งน้ำใจ เธอเคารพทุกอาชีพ นี่เป็นสิ่งที่พ่อเธอสอนมาตลอด แม้ในตอนนี้ ป๋อจิ่วก็ไม่เคยทำให้ใครต้องลำบากใจในการงาน เธอจึงนั่งตรงอันเป็นบริเวณริมหน้าต่างพอดี แถมฉินมั่วสั่งให้ผู้ช่วยจางเอาตัวเจ้าหญิงมาส่ง เธอจึงอุ้มมันมาเล่นด้วย

เจ้าหญิงโมโหแทบแย่ เพื่อแสดงอารมณ์โกรธของมันออกมา จึงส่งเสียงคำรามไม่หยุด ใครจะรู้ เจ้ามนุษย์นี่ไม่สนการข่มขู่ของมัน เจ้าหญิงพอจะมองออกแล้วในตอนนี้ เจ้านายโอ๋คนบางคนมากเกินไปแล้ว ไม่ยอมให้มันตัดสินใจสักนิด มันจึงต้องปรับตัวให้ฉลาด ทำตัวเป็นแมวเรียบร้อย เพราะการถูกอุ้มก็ดีเหมือนกัน

พิธีกรเองก็ชอบใจต่อการจัดการดังกล่าว แม้ว่าแบล็กพีชจะไม่ได้โผล่โฉมหน้าออกมา ทั้งยังหันหลังให้ แต่แค่แผ่นหลัง ทุกคนก็รู้แล้วว่าเจ้าตัวเป็นใคร แถมยังอุ้มแมวไว้ด้วย เด็กวัยรุ่นที่เสื้อสเวตเตอร์สีดำดูเท่มาก ผู้ใหญ่อย่างเธอยังจะกลายเป็นเลสเบี้ยนเพราะแบบนี้

คงเพราะสังเกตเห็นสายตาของพิธีกรสาว ฉินมั่วจึงเคาะนิ้วเรียวบนโต๊ะ เอ่ยช้าๆ ว่า “ไม่สัมภาษณ์แล้วเหรอ?”

“เอ่อ ขอโทษด้วยเทพฉิน” พิธีกรสาวพูดพลางทำสัญญาณมือให้ช่างกล้อง

เมื่อถามคำถาม ฉินมั่วเหมือนตอบอยู่ แต่กลับคิดในใจว่าต่อไปเขาคงไม่เพียงแต่ป้องกันพวกผู้ชาย ยังต้องกันพวกผู้หญิงด้วย

“เรามาพูดถึงเรื่องความรักของเทพฉินดีกว่าค่ะ แฟนคลับต่างก็อยากรู้มากที่สุด” พิธีกรถามแบบเรื่อยเปื่อย อันที่จริงรู้เหมือนกันว่าทำไมเทพฉินที่เย็นชาไปทั้งตัว นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น กลับทำให้รู้สึกว่าน่ากลัวอย่างไม่รู้สาเหตุ

“เทพฉินกับเทพ Z พวกคุณสองคน ใครเป็นคนสารภาพรักก่อนค่ะ สะดวกจะบอกพวกเราไหม?”

ป๋อจิ่วได้ยินคำถามดังกล่าวเช่นกัน มือที่ลูบหลังแมวอยู่ถึงกับชะงัก เรื่องนี้ยังต้องถามอีกหรอก ต้องเป็นเธออยู่แล้ว ตอนเด็กๆ เธอก็อยากซื้อเจ้าหญิงน้อยมาเก็บไว้ เพียงแต่ตอนนั้นเขาเห็นเธอแล้วขมวดคิ้ว รู้สึกธรรมดากับเธออย่างเห็นได้ชัด แต่ป๋อจิ่วคิดยังไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงดังขึ้นอย่างชัดเจน “ผมเอง”

พิธีกรหญิงประหลาดใจ “เทพฉินดูไม่เหมือนคนที่จะสารภาพรักกับใครได้เลยนะคะ”

“จะทำไงได้ล่ะครับ ก็เขาซื่อบื้อ ผมมอบตัวให้เขาไปหมดก็ยังไม่รู้เรื่องอีก เลยได้แต่สารภาพรัก” ฉินมั่วพูดออกมาด้วยท่าทีที่ต่างไปจากในอดีต

พิธีกรพลอยหัวเราะไปด้วย “ดูวิธีการเล่นเกมของเทพ Z แล้ว ดูเหมือนไม่ว่าจะซื่อบื้อเลยนะคะ หรือว่าเทพฉินเก็บความรู้สึกมากไปหน่อย เทพ Z เลยไม่เข้าใจคะ”

“คุณพูดมีเหตุผล เพราะตอนนั้นเขาเองก็อายุยังน้อย อ่านหนังสือไม่ค่อยออก” ฉินมั่วไม่เพียงจะตอบคำถาม แต่ยังโยนก้อนหินให้พิธีกรถามต่อ

นั่นไง!

“ตอนนั้นเขายังอายุน้อยมาก? พระเจ้า หรือว่าคุณรู้จักเทพ Z มาตั้งแต่เด็กแล้ว?” พิธีกรรู้สึกว่าตัวเองได้แหล่งข้อมูลเด็ด

ฉินมั่วกลับมาเป็นปกติ “แปลกมากเหรอครับ”

“เปล่าค่ะ เพียงแต่ตอนแข่งระดับเอเชีย พวกแฟนคลับเห็นความสนิทสนมของเทพ Z กับเทพโฮชิโนะแล้ว คิดว่าพวกเขาน่าจะรู้จักกันตั้งแต่เด็กมากกว่าน่ะค่ะ”

ฉินมั่วได้ยินแล้ว เหยียดยิ้มทันที “งั้นตอนนี้ทุกคนก็รู้ความจริงแล้วสิครับ”

“ค่ะๆๆ รู้แน่นอน” พิธีกรสาวพูดจบก็รวบรวมความกล้าพูดต่อ “งั้นคุณมีอะไรจะพูดกับเทพโฮชิโนะไหมคะ?”

………………………………………………………