ตอนที่ 648 เฟิงชิงสุ่ยติดคุก / ตอนที่ 649 เลอะเลือนไปชั่วขณะ

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 648 เฟิงชิงสุ่ยติดคุก

 

 

ถึงอย่างไรเฟิงชิงสุ่ยก็เป็นคนแคว้นเจียง แม้นางจะแค้นฟู่เฉินหรง แต่ก็รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ให้ซูจิ่วซือตายได้ แต่จะให้ฟู่เฉินหรงตายไม่ได้ ถ้าเขาตาย จะส่งผลกระทบต่อแคว้นเจียง นางไม่เคยคิดจะเอาชีวิตฟู่เฉินหรง

 

 

นางมารไม่ตอบคำถามของเฟิงชิงสุ่ย นางหลบสายตา “ข้าไม่รู้ว่าคุณหนูเฟิงพูดอะไร ฮูหยินมู่ก็ตายไปแล้ว ย่อมไม่ต้องฆ่า คนตายจึงกลายเป็นมู่อวิ๋นชาง จะแปลกอะไร”

 

 

“นางมาร เจ้าคิดว่าข้าเป็นเด็กอายุสามขวบหรือ วันนี้เจ้าอย่าคิดหนีเด็ดขาด”

 

 

เฟิงชิงสุ่ยพูดจบก็ตบมือ คนชุดดำพรวดเข้ามาทันที ล้อมนางมารไว้อย่างแน่นหนา

 

 

นางมารยิ้มอย่างเย็นชา “พวกเจ้าแค่นี้คิดจะขวางข้าหรือ ดูถูกข้าเกินไปแล้ว คุณหนูเฟิง นี่เป็นชะตากรรมของเจ้า โทษใครไม่ได้”

 

 

นางมารพูดจบ ในมือก็ปรากฏมีพัดสีดำเมื่อไรไม่รู้ นางหมุนตัวอย่างรวดเร็วพร้อมกับโบกพัด ไอสีดำพุ่งออกจากพัดตลอดเวลา

 

 

ไอสีดำนั้นกระจายไปยังองครักษ์ไม่ขาดระยะ องครักษ์ชุดดำพากันถอย รู้สึกเหมือนยืนไม่ติดพื้น

 

 

นางมารถือโอกาสหนี กว่าคนชุดดำจะไล่ตามก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของนางมาร ไม่รู้ไปไหนแล้ว

 

 

เฟิงชิงสุ่ยยืนอยู่ใกล้หน้าต่างมองดูทิศทางที่นางมารหนีไป นางรู้ว่าจับไม่ได้ และรู้ว่าจุดจบถูกกำหนดไว้แล้ว

 

 

นางกับซูจิ่วซือ ตั้งแต่เริ่มแรกนางไม่เห็นซูจิ่วซืออยู่ในสายตา รู้สึกว่าซูจิ่วซือไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นคู่ต่อกรกับนาง ต่อมานางมองซูจิ่วซือใหม่ แต่ก็ยังเชื่อว่าตนเองสามารถเอาชนะซูจิ่วซือได้ นึกไม่ถึงว่าสุดท้ายนางกลับพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ

 

 

เมื่อก่อนนางไม่เคยยอมรับความพ่ายแพ้ เวลานี้ในที่สุดนางก็รู้ ตนแพ้แล้ว

 

 

นางอยู่ที่นี่รอซูจิ่วซือ นางรู้ว่าซูจิ่วซือต้องมาหานางแน่

 

 

ปิงอวิ๋นพากำลังหลักขององครักษ์พิทักษ์อุทยานตะวันออกมาจับนางมาร ประตูเมืองปิดก่อนหน้านี้แล้ว องครักษ์พิทักษ์อุทยานตะวันออกแข็งกร้าว นางมารสาปแช่งจนได้รับบาดเจ็บภายใน แต่ฝืนใช้เวทมนตร์ หนีออกจากจวนแม่ทัพสยบปฐพีได้สำเร็จ ปะปนกลมกลืนกับชาวบ้าน หลบหนีซ่อนตัวอยู่ในตูเฉิง แต่ในที่สุดก็ถูกปิงอวิ๋นจับตัวมาได้

 

 

หลังจากทรมานสืบสวน นางมารให้การซัดทอดเฟิงชิงสุ่ย บอกว่าเฟิงชิงสุ่ยให้นางมาสาปแช่ง

 

 

ซุ่นตี้พิโรธมาก เฟิงเชียนเสนอให้ลงโทษทั้งครอบครัว พาตัวเฟิงชิงสุ่ยมารับโทษ เฟิงชิงสุ่ยติดคุก เฟิงเชียนอ้างเรื่องตนสุขภาพไม่ดี ทูลขอลาออกจากราชการกลับบ้านเกิด ขอส่งมอบอำนาจทหาร ซุ่นตี้ทรงอนุญาต ไม่ได้สืบสวนเอาผิดตระกูลเฟิงอีก

 

 

จวนแม่ทัพสยบปฐพีที่เคยรุ่งโรจน์สุดขีดจึงตกต่ำเช่นนี้ คนในตระกูลเฟิงทั้งหมดไม่ได้รับผลกระทบ แต่ไม่อาจฟื้นฟูกลับไปเหมือนเมื่อก่อน ผู้คนต่างหลบเลี่ยง ตระกูลเฟิงที่เคยคึกคักเงียบเหงาทันที

 

 

ขณะที่ซูจิ่วซือมาหาเฟิงชิงสุ่ยที่คุกหลวง กำหนดเวลาของเฟิงชิงสุ่ยใกล้เข้ามาแล้ว วันนี้เป็นวันที่ห้า หากไม่มีอะไรผิดพลาด วันนี้เป็นวันตายของนาง

 

 

ตอนอยู่ในคุกนางขอพบซูจิ่วซือมาตลอด เดิมทีนึกว่าคงไม่ได้พบแล้ว แต่สุดท้ายซูจิ่วซือก็มา

 

 

เนื่องจากการตายของมู่อวิ๋นชาง ซูจิ่วซือจึงแต่งตัวเรียบง่าย ใบหน้าทาแป้งร่ำเล็กน้อย ใส่ชุดสีกลีบบัว ประดับผมด้วยปิ่นงามประณีต เรียบง่าย แต่สง่างาม

 

 

เฟิงชิงสุ่ยในชุดนักโทษสีขาว ผมสยายรุงรัง ใบหน้ามีแผลเป็นน่าเกลียด ยืนต่อหน้าซูจิ่วซือท่าทางน่ากลัว ไม่เหลือความทระนงองอาจแม้แต่น้อย

 

 

นี่เป็นการพบกันครั้งแรกของทั้งสอง หลังจากเฟิงชิงสุ่ยเสียโฉม นางไม่ได้คารวะซูจิ่วซือ และไม่ได้เรียกพระชายารัชทายาท เดิมทีตำแหน่งพระชายารัชทายาทควรจะเป็นของนาง ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่อาจเรียกออกมาได้

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 649 เลอะเลือนไปชั่วขณะ

 

 

ซูจิ่วซือไม่ได้ถือสา ชำเลืองมองเฟิงชิงสุ่ยแวบหนึ่ง “ได้ยินว่าคุณหนูเฟิงต้องการพบข้า”

 

 

“แล้วเจ้าไม่อยากพบข้าหรือ ซูจิ่วซือ ระหว่างเจ้ากับข้าสุดท้ายเจ้ากลับเป็นคนหัวเราะทีหลัง”

 

 

เฟิงชิงสุ่ยแม้ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่น้ำเสียงยังคงไม่ยินยอม นางไม่เข้าใจ ตนเองทำไมจึงแพ้ ทั้งๆ ที่เริ่มแรกนางเหนือกว่า สุดท้ายกลับพ่ายแพ้อย่างยับเยิน

 

 

“ระหว่างเราแพ้ชนะถูกกำหนดไว้แล้ว เพียงแต่เจ้าไม่กล้ายอมรับ เวลานี้ตระกูลเฟิงพลอยเดือดร้อนเพราะเจ้า เฟิงเชียนต้องการปกป้องตระกูลเฟิงจึงยอมมอบอำนาจการทหาร เจ้าว่าข้าควรขอบใจเจ้าหรือไม่

 

 

ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าทำอย่างนี้ เฉินหรงคงไม่ได้รับอำนาจการทหารจากพ่อเจ้าเร็วปานนี้ เฟิงชิงสุ่ย เจ้าฉลาดมาตลอดชีวิต แต่เลอะเลือนไปชั่วขณะ”

 

 

เฟิงชิงสุ่ยกัดริมฝีปากไม่พูดไม่จา นางรู้สึกผิดต่อตระกูลเฟิงจริงๆ เป็นเพราะนางไม่ฟังคำเตือนของเฟิงเชียน แต่เมื่อลงมือทำไปแล้ว นางก็ไม่รู้สึกเสียใจ

 

 

พ่อของนางแก่แล้ว ไม่มีใจจะแย่งชิงอะไร พี่รองก็ไม่มีความสามารถ ทูลขอลาเกษียณกลับบ้านเกิด ยังได้อยู่อย่างสงบในวาระสุดท้าย

 

 

“ฉลาดก็ดี เลอะเลือนก็ดี ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ข้าอยากทำ ข้าไม่เสียใจ และไม่มีวันเสียใจ แต่เรื่องแพ้เจ้า ถึงตายข้าก็ไม่มีวันยอม เจ้าไม่ควรชนะข้า”

 

 

ซูจิ่วซือยิ้มหยัน “เฟิงชิงสุ่ย เจ้ามุ่งแต่เรื่องแพ้ชนะ แต่เจ้าลืมไปแล้ว ความรักไม่มีแพ้ชนะ มีแต่ชอบหรือไม่ชอบ

 

 

เฉินหรงใกล้ชิดข้ามาตลอด ตั้งแต่แรกคนที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะมาแย่งชิงกับข้าก็คือเจ้า แต่ไหนแต่ไรเฉินหรงไม่ใช่คนที่จะให้ใครมากำกับได้ตามใจชอบ

 

 

เจ้าใช้ความฉลาดมาบีบเขา เท่ากับบีบให้เฉินหรงเกลียดเจ้า ตั้งแต่ต้นจนจบ เจ้าเอาแต่ใจตัวเองมาตลอด”

 

 

เฟิงชิงสุ่ยผู้ไม่เคยแพ้ถือฟู่เฉินหรงเป็นสิ่งของ มีความรักเท่าไรแน่ ตัวนางเองก็บอกไม่ได้ บางทีอาจจะไม่มีเลย

 

 

นางยอมรับ นางคิดผิด คิดว่าตัวเองควบคุมฟู่เฉินหรงได้

 

 

สุดท้ายก็เป็นอย่างที่ซูจิ่วซือว่า นางผลักฟู่เฉินหรงออกไปเรื่อยๆ ทำให้ฟู่เฉินหรงเกลียดนาง จนสุดท้ายเขาไม่ยอมแม้แต่จะมองนาง

 

 

นางไม่เข้าใจผู้ชาย อย่างน้อยไม่เข้าใจเหมือนซูจิ่วซือ จุดนี้นางรู้ว่าตัวเองสู้ไม่ได้

 

 

“เจ้าคิดว่าองค์รัชทายาทจะรักเจ้าอีกนานเท่าไร วันหลังเจ้าอายุมากขึ้น ไม่มีลูกชาย องค์รัชทายาทมีหญิงสาวหน้าตาดีคนแล้วคนเล่า สักวันหนึ่ง เจ้าก็จะถูกทอดทิ้ง”

 

 

ซูจิ่วซือดวงตาฉายแววอำมหิต “เจ้าไม่ได้เห็นแน่ มาใส่ใจเรื่องนี้ทำไม เดิมทีข้าไม่คิดจะฆ่าเจ้า แต่เจ้ามาท้าทายข้าครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้าทำร้ายข้าจนมีลูกไม่ได้ แล้วทูลฝ่าพระบาทเรื่องนี้ ทำให้วังตะวันออกมีพระชายารอง ทำร้ายท่านแม่ของข้าทางอ้อม ทำให้พี่สะใภ้แท้ง ทำร้ายชังไห่ของอาหลาน เวลานี้ยังทำร้ายท่านพ่อของข้า

 

 

แต่ละเรื่อง ข้าจำใส่ใจไว้เสมอ เฟิงชิงสุ่ย แม้ตายเจ้าก็ไม่อาจชดใช้ความผิดที่เจ้าทำไว้”

 

 

ทั้งหมดนี้เฟิงชิงสุ่ยไม่ได้โต้แย้ง นางยิ้มหยัน “อย่าถือว่าตัวเองเป็นคนมีเมตตา เหมือนกับว่าเจ้าถูกข้าทำร้ายฝ่ายเดียว ระหว่างเราไม่มีใครติดค้างใคร มีคำกล่าวว่าแพ้เป็นโจรชนะเป็นเจ้า คิดจะให้ข้าขอโทษรึ อย่าหวังเด็ดขาด”

 

 

“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าขอโทษ เพียงแต่อยากคิดบัญชีกับเจ้า อาหลาน จัดการเลย!”

 

 

ซูจิ่วซือคร้านจะฟังคำพูดเหลวไหลของเฟิงชิงสุ่ย หันไปข้างหลังพยักหน้าให้อาหลาน

 

 

อาหลานเข้าไป ดีดนิ้วมือ หินก้อนหนึ่งซึ่งเตรียมไว้แล้วพุ่งใส่เฟิงชิงสุ่ย