บทที่ 582 พี่สาว ข้าไม่ทำร้ายท่านหรอก

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 582 พี่สาว ข้าไม่ทำร้ายท่านหรอก
“ไม่ไป” เวินเส้าหยีกล่าวอย่าไม่สบอารมณ์

“ไม่ไปก็ช่างเถอะ ถึงอย่างไรคนที่หิวก็คือเจ้า ไม่ใช่ข้า”

กู้ชูหน่วนหาที่สบายแห่งหนึ่ง นั่งไขว่ห้าง ปากคาบหญ้าหางหมาที่ไม่รู้เอามาด้วยจากที่ไหนเส้นหนึ่ง รอแคว้นคนแคระค้นหาเสร็จแล้วจากไปอย่างสบายใจเฉิบ

“จิตวิญญาณความยึดมั่นของแคว้นพวกนาง หากไม่บรรลุจุดประสงค์จะไม่รามือเด็ดขาด” ความหมายในถ้อยคำของเวินเส้าหยีคือ ถ้าค้นหาพวกเขาไม่พบ แคว้นคนแคระก็จะไม่ยอมถอยทัพ

“ยุ่งมาหลายวันขนาดนั้น ข้าก็เหนื่อยแล้ว นอนสักงีบ อย่ากวนข้าตื่น”

นางเบือนหน้าไป หลับตา ราวกับนอนหลับแล้วจริงๆ

แต่ในใจกลับคิดว่าจะไปแดนเหนือสุดโดยไม่ทำร้ายถูกแคว้นคนแคระ และหามุกมังกรเม็ดที่หกพบให้ไวที่สุดได้อย่างไร

แล้วหากเจอมังกรน้ำระดับเจ็ด จะรับมืออย่างไร

วันนั้นที่อยู่ภูเขาน้ำเต้าโลหิต อานุภาพมังกรไฟระดับเจ็ดทรงพลังเพียงไร นางยังติดตาจนถึงตอนนี้

ถ้าไม่มีวิธีจัดการอสูรมังกรระดับเจ็ด เกรงแต่มุกมังกรเม็ดที่เจ็ดจะได้มาโดยยาก

กู้ชูหน่วนเค้นมันสมอง คิดถึงสิ่งที่ใช้ได้บนตัวทั้งหมด แต่ก็หาวิธีจัดการมังกรน้ำไม่ได้

ห่างชั้นกันเกินไป

ถึงจะเป็นช่วงแข็งแกร่งที่สุดของเย่จิ่งหานกับจอมมาร ก็ไม่แน่ว่าจะสู้ได้

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนาง…

อยากได้มุกมังกรเม็ดที่หก ได้แต่หลบมังกรน้ำ หรือไม่ก็อาศัยสติปัญญาเอาชนะ

ก็ไม่รู้ว่าพี่เฉินเฟยกับประชาชนเผ่าหยกจะเป็นอย่างไรบ้าง

กู้ชูหน่วนใจร้อนดั่งไฟ

แต่ความเป็นจริงกลับทำให้นางลำบากใจมาก

ทันใดนั้นข้างนอกก็มีเสียงดังเข้ามา คล้ายมีเสียงพูดคุยผสม

กู้ชูหน่วนลืมตาขึ้นพึ่บ ความเย็นเฉียบหนึ่งพุ่งเข้ามา

ใบหูนางกระดิก ได้ยินเสียงข้างนอกชัดแจ๋ว

“ค้น! ค้นหาให้ละเอียด ไม่เว้นที่ใดทั้งนั้น!”

“ท่านแม่ทัพ ข้างหน้าเหมือนจะมีถ้ำขอรับ”

“แล้วยังบื้ออะไรอีก เข้าไปดูสิว่าพวกมันหลบอยู่ที่นั่นหรือเปล่า”

เสียงฝีเท้าเดินมาทางถ้ำที่กู้ชูหน่วนอยู่ไม่หยุด

ถึงกู้ชูหน่วนจะอารมณ์ดีอย่างไรก็เดือดแล้ว

นางรีบจะไปแดนเหนือสุด แต่คนพวกนี้กลับถ่วงรั้งอยู่นั่นแหละ

หากพวกนางบุกเข้ามา ก็อย่าหาว่านางไม่ไว้ไมตรีแล้วกัน

ก็ขณะที่กู้ชูหน่วนเตรียมการพร้อมสรรพ จู่ๆ เสียงเด็กที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น

“แม่ทัพฮัว ถ้ำนั้นเมื่อครู่ข้าให้คนตรวจสอบแล้ว ไม่มีอะไร พวกเจ้าไปค้นหาทางอื่นเถอะ”

“ข้าน้อยคารวะองค์หญิงรัชทายาท องค์หญิงรัชทายาท นางมารนั่นเจ้าเล่ห์นัก บางทีพวกนางอาจไปแล้วย้อนกลับมาก็เป็นได้ ให้ข้าน้อยตรวจดูสักหน่อยเถอะเพคะ”

“บัดซบ! เจ้ากำลังสงสัยในความสามารถของข้าอยู่หรือ? หรือสงสัยว่าข้าจะช่วยคนร้าย?”

แม่ทัพฮัวตะลึง เลิ่กๆ ลั่กๆ

“ข้าน้อยมิกล้า ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้เพคะ”

คนอึกทึกพากันจากไป เหลือเพียงองครักษ์กลุ่มหนึ่ง

องค์หญิงรัชทายาทปัดๆ มืออย่างอ่อนล้า “เพื่อหาพวกสอดแนมสองคน ทำเอาข้าเหนื่อยจะตายชัก ข้าจะพักที่นี่ก่อน พวกเจ้าไปค้นทางนั้นอีกที”

“องค์หญิง ทรงประทับอยู่ที่พระองค์เดียว เกรงจะไม่ปลอดภัยนะเพคะ”

“มีอะไรไม่ปลอดภัย? ละแวกนี้ก็เป็นคนของเราทั้งหมด แค่ข้าตะโกนพวกเจ้าก็มากันแล้ว อีกอย่าง ข้าอยู่ในดินแดนแคว้นตัวเอง ข้ายังต้องกังวลอะไรอีกหรือ?”

“เออ…”

“เอออาอะไร นี่เป็นคำสั่ง ยังไม่รีบไปค้นหาพวกสอดแนมอีก”

“เพคะ”

องครักษ์อีกกลุ่มถูกองค์หญิงรัชทายาทลวงออกไปอีก

องค์หญิงรัชทายาทฉีกปากยิ้ม สามก้าวรวบเป็นสองก้าววิ่งเข้าในถ้ำ หัวเราะคิกๆ พลางเอ่ย “พี่สาว ข้ารู้ว่าท่านอยู่ในนี้ พวกนางไปหมดแล้ว ท่านออกมาได้แล้วล่ะ”