1851-2 vs 1852-1 โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1851-2
“ส่วนกระติกน้ำอันนี้ น้องต้องใช้นะคะ ฤดูหนาวแล้วต้องดื่มน้ำบ่อยๆ”
“ส่วนผ้ายืดหุ้มข้อมือ เป็นยี่ห้อโปรดของน้องเลยล่ะค่ะ”
“แล้วยังมีอมยิ้ม…”
ผู้ช่วยพิเศษได้ยินเสียงแล้ว มองดูใบหน้าของท่านประธานที่ถมึงทึงขึ้นเรื่อยๆ ได้แต่แอบหันหน้าไปอีกทาง ทำไงดีล่ะ ต่อให้ไล่ออก จำนวนคนก็เยอะเกินไป
ใกล้จะสิ้นปีแล้ว คนเก่งๆ ยิ่งหายาก บริษัทเองก็ใช้คนเยอะเสียด้วย
คุณชายจิ่ว เอ่อ ไม่สิ ทำไมคุณหนูจิ่วเรียกความชอบจากสาวๆ ได้เยอะขนาดนี้เนี่ย
คนพวกนี้ก็เหมือนกัน ปกติแล้วทำงานประสิทธิภาพสูง ทำอะไรทั้งโหดและเร็ว เพราะถ้าไม่โหดและเร็ว รับรองว่าขึ้นมาถึงชั้นนี้ไม่ได้หรอก แต่ทำไมเห็นคุณหนูจิ่วแล้วเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย สีหน้าขวยเขินกันไปหมด ทำอย่างกับจะลากตัวคุณหนูจิ่วมาหอมแก้มเสียอย่างนั้น พวกเธอทั้งหลายยังเป็นทีมสาวแกร่งของฉินกรุ๊ปอยู่หรือเปล่า? ตอนที่เห็นท่านประธานเมื่อครั้งสัมภาษณ์งาน ก็ยังไม่มีท่าทีแบบนี้เลย ผู้ช่วยพิเศษไม่เข้าใจจริงๆ
ต้องรู้กันนะว่าป๋อจิ่วเป็นประเภทที่ผู้หญิงและผู้ชายหลงรักกันทั้งนั้น ไม่แยกอายุด้วย เป็นปะรเภทที่พวกสาวน้อยสาวแก่ต่างรุมชอบกันหมด
ของขวัญเยอะมากจนทำให้สองมือของป๋อจิ่วถือไม่ไหว คงเพราะฉินมั่วทนไม่ได้อีกต่อไป เขาหันหน้าไปมองผู้ช่วยพิเศษที่อยู่ด้านหลังแวบหนึ่งด้วยแววตาคมปลาบ! ส่งผลให้ผู้ช่วยพิเศษถึงกับเหงื่อเย็นตก รีบออกหน้าทันที “คุณหนูจิ่วยังมีเรื่องที่ต้องทำอีก เอาของมาให้ผมเถอะ เดี๋ยวผมถือไปให้เขาเอง และขอเตือนอีกครั้ง ตอนนี้เป็นเวลาทำงานนะครับ” ปากก็พูดไป แต่ในหัวใจร่ำร้องว่า พวกเธอไม่เห็นหน้าเหวี่ยงๆ ของท่านประธานรึไง
เมื่อมีผู้ช่วยเก็บกวาดงานให้ ฉินมั่วก็ลากคอเสื้อด้านหลังของป๋อจิ่วเดินเข้าลิฟต์ไป โดยไม่อนุญาตให้คนอื่นเข้ามาด้วย หลังจากที่กดปุ่มชั้น 1 เขาก็หันมากดบ่าป๋อจิ่วแล้วกักตัวไว้ภายในลิฟต์ มือข้างหนึ่งวางบนศีรษะเธอ ก่อนจะก้มตัวลงมา มุมปากยังคงยิ้ม แต่ดูอารมณ์ไม่ดีสักเท่าไร “อมยิ้มอร่อยไหม?”
“ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเรียกว่าอร่อยหรือเปล่า” ป๋อจิ่วพยักเพยิดพร้อมยิ้มบางๆ “พี่ลองชิมไหมล่ะ?”
ฉินมั่วมองดูเรียวปากสีบางที่เปล่งประกายแวววาวซึ่งอยู่ใกล้แค่คืบ ก็ยื่นมือบีบหน้าเธอ “รับของขวัญจากคนอื่นแล้ว ยังจะให้ฉันจูบอีก ป๋อเสียวจิ่ว โลกสวยนะเรา”
ป๋อจิ่ว “…”
โดนแฟนปฏิเสธไม่ยอมให้จูบอยู่ทุกวี่ทุกวัน ใครบ้างที่มีแฟนแล้วเป็นเหมือนเธอ แต่ทำยังไงได้ล่ะ ก็เธอชอบแบบเจ้าหญิงน้อยนี่นา ไม่ให้จูบใช่ไหม งั้นเธอก็จูบให้ได้
ครั้งนี้ฉินมั่วไม่หลบ แต่ก้มหน้าลงมา ละมือข้างขวามาโอบเอวเธอไว้ ทั้งยังเปลี่ยนแรงจูบอย่างสิ้นเชิง เขาไม่ปล่อยโอกาสให้ประตูลิฟต์เปิดออกหรอก ตึกทั้งตึกเป็นของฉินกรุ๊ป ยิ่งลิฟต์นี้มีรหัสด้วย แถมยังเป็นลิฟต์ที่ให้ท่านประธานใช้โดยเฉพาะ เว้นแต่จะมีเรื่องพิเศษเท่านั้น ไม่งั้นฉินมั่วจะเป็นเพียงคนเดียวที่มีสิทธิ์ใช้ ปกติแล้วพวกบริษัทที่เป็นกรุ๊ปใหญ่ๆ มักจะมีลิฟต์แบบนี้ จะได้ประหยัดเวลาให้กับผู้บริหารชั้นสูง
เวลานี้ ฉินมั่วได้ใช้สิทธิ์นั้นแล้ว
ชายหนุ่มไล้นิ้วเข้าไปด้านในชุดทีมที่ป๋อจิ่วสวม เมื่อได้ยินเสียงลมหายใจที่สับสนของเธอ เขาถึงได้ยอมหยุด แต่ปลายนิ้วยังคงค้างอยู่บนแผ่นหลัง เมื่อลากผ่านเอว ความรู้สึกวาบหวามยิ่งทวีขึ้น
………………………………………………………
ตอนที่ 1852-1
อุณหภูมิทวีขึ้นสูง ป๋อจิ่วได้ยินเพียงเสียงหอบที่พยายามข่มไว้ของเขาและเสียงหัวใจเต้นของตัวเอง นัยน์ตาดำขลับดูพิศวง มือเกาะที่เอวเขา กลีบปากโดนกัดเบาๆ จนแดงเรื่อเหมือนดอกไม้ยามแรกอรุณที่แตะแต้มด้วยน้ำค้าง อาจเป็นเพราะความวาบหวามยังไม่คลายลง กระทั่งเงยหน้าขึ้นก็แววตาเธอเหมือนกำลังสงสัยว่า ทำไมชายหนุ่มถึงหยุด
พอเห็นสภาพของใครบางคนเข้า แววตาของฉินมั่วถึงกับหนักอึ้ง หลังจากที่สูดหายใจลึกก็เอาเสื้อตัวนอกคลุมบนตัวเธอ ก่อนจะก้มจูบซ้ำ แต่ครั้งนี้แค่สัมผัสเบาๆ
แม้จะล่วงเลยมาถึงขั้นนี้ คุณชายฉินยังไม่ลืมว่าสถานที่ไม่เหมาะสม แม้ลิฟต์ตัวนี้จะมีความเป็นส่วนตัว ทว่า… ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น แววตาเย็นชาจับจ้องยังมุมซ้ายบน
แววตาดุดันนั่นเหมือนจะทะลุกล้องออกมาเลยทีเดียว ผู้ช่วยพิเศษคนเก่งรีบสั่งให้ทางห้องควบคุมปิดจอดังกล่าว จากนั้นสายจากประธานฉินก็ต่อเข้ามาทันที “เห็นแล้วใช่ไหม?”
ผู้ช่วยคนเก่งรีบส่ายหน้า “เปล่าครับ” ก็แค่จูบไหม ประธานฉินก็รู้ดีกว่าใครนี่
ฝ่ายฉินมั่วหัวเราะประชด “ต่อไปห้ามติดกล้องวงจรปิดในลิฟต์ของฉันอีก”
“ครับ” ผู้ช่วยคนเก่งรู้สึกอย่างจริงใจเลยล่ะว่า วันเวลาต่อไปในภายภาคหน้า ท่านประธานจะต้องมาสาดอาหารหมาที่บริษัทบ่อยครั้งแน่
ฝ่ายป๋อจิ่วได้ยินเสียงฉินมั่วตัดสาย คนฉลาดอย่างเธอย่อมรู้ดีว่าระบบรักษาความปลอดภัยของฉินกรุ๊ปต้องรัดกุมมาก ในลิฟต์ย่อมต้องมีกล้องวงจรปิด จึงเงยหน้าอย่างครุ่นคิด ก่อนจะเอียงศีรษะถาม “จะให้ฉันรื้อให้ไหม?”
ฉินมั่วได้ยินแล้วก็รูดซิปสื้อตัวนอกให้เธอ “เรียบร้อยหน่อย หืม?”
“ก็กลัวว่าจะเสียภาพลักษณ์ไง” ป๋อจิ่วยิ้มที ดูร้ายกาจเชียว
ฉินมั่วหัวเราะ “มีผู้หญิงคนไหนบ้างที่รื้อกล้องวงจรปิดของแฟนตัวเองจนหมด อย่างเธอเนี่ยควรส่งให้ยามรักษาการณ์จริงๆ อีกอย่าง อย่าปีนเพดานอีกนะ มันสกปรก”
ป๋อจิ่วรู้สึกว่าเขารังเกียจเธอ แต่เห็นเขารูดซิปให้เธอก็รู้สึกว่าไม่น่าจะใช่ และด้วยกลัวว่าออกไปแล้วจะรู้สึกหนาว ป๋อจิ่วดึงเอาผ้าพันคอที่ได้รับขึ้นมา ฉินมั่วเลิกคิ้วทันที “จะพันคอเหรอ?”
“เข้ากันกับเสื้อทีมฉันออก” ป๋อจิ่วเอามาเทียบกับตัวเอง
ฉินมั่วแย่งเอามา “เดี๋ยวจะซื้อที่สวยกว่านี้ให้”
ป๋อจิ่วหัวเราะแผ่วเบา “พี่มั่ว หึงกระทั่งเรื่องแค่นี้เลยเหรอ”
“หึ ฉันมีอะไรที่ต้องหึง เอาของขวัญทุกคนที่รวมกันให้เธอแล้ว ยังสู้ของที่ฉันให้เธอไม่ได้เลย” ฉินมั่วพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา จากนั้นก็จัดคอเสื้อให้ แล้วหยิบผ้าปิดปากมาคล้องหูเธอ ฉินมั่วทำสิ่งเหล่านี้ด้วยกิริยาดูดีต้องไฮโซ ยากที่จะจินตนาการตอนที่เขาดูแลคนอื่นแบบนี้จริงๆ
ป๋อจิ่วพยายามโผล่ดวงตาออกมา “พี่ให้ของขวัญฉันตั้งแต่เมื่อไร?” คนอื่นแสดงความรักกันแบบไหนนะ ให้ดอกไม้แฟนสาว หรือพูดหวานๆ ใส่ ตามใจผู้หญิงทุกเรื่อง แต่…ท่านเทพไม่เคยทำแบบนั้นสักครั้ง สิ่งที่เขาโปรดปรานที่สุดก็คือการได้ขุดคุ้ยประวัติอันดำมืดของเธอ ส่วนเตอนกลางคืนก็ชอบพูดกับเธอ ว่าด้วยเรื่องเธอเคยสารภาพรักกับผู้ชายไปกี่คน…
ฉินมั่วมองดูใบหน้าหล่อที่เซ็งสุดขีดนั่น ยักคิ้วอย่างเป็นปกติพลางเอ่ยเสียงเรียบ “ตัวฉัน ไม่ถือเป็นของขวัญเหรอ?”
ป๋อจิ่วได้ยินแล้วสะอึก ก่อนจะไอออกมาเบาๆ เธอลืมเรื่องนี้ได้อย่างไร เช่นนั้นหากนับขึ้นมาจริงๆ ของขวัญที่ท่านเทพให้ย่อมดีกว่าของขวัญทุกคนที่เอามารวมกันเสียอีก
…………………………………