บทที่ 1127 หวงก้าง / บทที่ 1128 คุณเป็นห่วงเหรอ?

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1127 หวงก้าง

พวกเขา?

พวกเขาทั้งหมดเลยเหรอ?

ไม่นึกเลยว่าจะเยอะขนาดนั้น

เพิ่งสิ้นเสียงของสืออี ดวงหน้าเล็กๆ ของเยี่ยหวันหวั่นที่เดิมก็เย็นชาอยู่แล้วยิ่งเต็มไปด้วยไอสังหาร…

หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดลับหนึ่งในนั้นตะโกนลั่นอย่างขวัญเสีย “บ้าเอ๊ย! สืออี! นายเลวเกินไปแล้วมั้ง!”

เมื่อเห็นว่าเยี่ยหวันหวั่นเลิกโจมตีตัวเองสักที สืออีหอบหายใจพลางกุมขาตัวเอง ไม่สนใจเสียงด่าทอของพวกนั้นแม้แต่น้อย และตะโกนบอกเยี่ยหวันหวั่นอย่างสุดชีวิต “จริงๆ นะครับ เป็นพวกเขา! ผมไม่ได้โกหก!”

เป็นเพื่อนก็ต้องร่วมทุกข์ไปด้วยกันสิ! ทำไมเขาต้องยอมโดนอัดอยู่คนเดียวด้วยล่ะ?

“ดีมาก”

นั่นหมายถึงไม่ดีแล้วต่างหาก

เสียงของเยี่ยหวันหวั่นราวกับเสียงที่มาจากขุมนรก

วินาทีต่อมา เยี่ยหวันหวั่นหันไปโจมตีพวกเฟิงเสวียนอี้แทน สถานการณ์ทางนั้นชุลมุนวุ่นวายไปหมดในทันที

ส่วนซือเยี่ยหานเจ้านายของพวกเขา…เป็นอย่างที่เฟิงเสวียนอี้เดาไว้ไม่มีผิด…ยืนมองพวกเขาโดนกระทืบจริงๆ…

สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นเหมือนกะจะฆ่าให้หมดไม่มีเหลือ เป็นการหวงก้างที่น่ากลัวสุดๆ

อีกอย่าง…ไม่รู้ว่าเขารู้สึกไปเองหรือยังไง?

ทำไมรู้สึกว่าพลังทำลายล้างของคุณหนูหวันหวั่นสูงขึ้นกว่าเดิมมาก?

ห่างออกไปไม่ไกล กงซวี่กับคนอื่นๆ ยืนมองกันตะลึงตาค้าง

ถ้าเมื่อครู่ตอนเยี่ยหวันหวั่นชกรถจนเป็นหลุมพวกเขาตกตะลึง ตอนนี้ก็ตกใจกลัวไปแล้ว

กงซวี่พึมพำอย่างปากอ้าตาค้างว่า “พี่เยี่ย…พี่เยี่ยดื่มเหล้าปลอมเข้าไปหรือเปล่า?”

ลั่วเฉินเงียบนิ่ง

เยี่ยมู่ฝานยิ่งรู้สึกว่านี่ไม่ใช่น้องสาวตัวจริงของเขา ถึงแม้เขาจะรู้ว่าน้องสาวตัวเองมีพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้ที่ไม่เลว เคยมีโค้ชหลายคนชมเธอ แต่ก็ไม่ได้เก่งจนน่ากลัวขนาดนี้ เธอคนเดียวสู้กับคนมากขนาดนั้น อีกทั้งคนที่เหมือนบอดี้การ์ดพวกนั้นก็ดูจะมีฝีมือไม่ธรรมดา

ตอนนี้เอง ได้ยินเสียงแหวกอากาศดัง ‘สวบ’ เยี่ยหวันหวั่นหมุนตัวเหวี่ยงลูกเตะพร้อมพลังมหาศาลไปทางชายร่างผอมสูงที่เพิ่งไปซื้อชาแก้เมามาเมื่อครู่

ชายตัวผอมสูงเหลือบเห็นหลุมบนรถแลนด์โรเวอร์คันนั้น ก็หน้าซีดเผือดทันที เรี่ยวแรงขนาดนี้ ถ้าโดนเข้าไป สมองเขาต้องกระจุยเป็นดอกไม้ไฟแน่ๆ!

“ไม่! ไม่ใช่! ไม่ใช่ผม!!!” ในช่วงเวลาคับขัน ชายตัวผอมสูงพลันตะโกนลั่น ยกมือชี้สะเปะสะปะไปทางไหนไม่รู้ แล้วบอกว่า “เป็นเขา…เขาต่างหาก…”

สายตาอันเย็นเยียบของเยี่ยหวันหวั่นมองตามนิ้วมือของบอดี้การ์ดร่างผอมสูงไป…

กงซวี่

กงซวี่ที่จู่ๆ โดนชี้ตัวทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก เสียววาบไปทั้งตัว

“ชิบหายแล้ว!!!”

ถ้ารู้แต่แรกว่าพี่เยี่ยเมาแล้วจะน่ากลัวขนาดนี้ ตีให้ตายเขาก็ไม่มีทางตื๊อพี่เยี่ยให้ดื่มเหล้าเด็ดขาด!

สายตาเย็นยะเยือกของเยี่ยหวันหวั่นพลันตวัดมองไปที่กงซวี่

กงซวี่ถูกจ้องจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว หลังจากอึ้งอยู่สามวินาที ก็ตัดสินใจหันไปกอดลั่วเฉินไว้แน่น “ไม่! ไม่ใช่ผม! ผมมีเมียแล้ว! เมียผมก็คือเขา!”

ลั่วเฉินอึ้งค้าง

เขาที่ถูกกอดรู้สึกแขยงเต็มทน ทำท่าจะผลักกงซวี่ออกตามจิตใต้สำนึก

กงซวี่กอดเขาไว้แน่นเหมือนเป็นฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้าย “ถ้านายกล้าผลักฉันออก ฉันจะบอกว่าเป็นนาย!”

ลั่วเฉิน…นิ่งไปทันที…

ในวินาทีหน้าสิ่วหน้าขวาน ความคิดแผลงๆ ของกงซวี่ได้ช่วยชีวิตเขาไว้

ด้วยเหตุนี้เอง เยี่ยหวันหวั่นจึงหันไปโจมตีพวกบอดี้การ์ดที่เหลือต่อ ทั้งน่ากลัวกว่าเดิม ทั้งไม่สนใจว่าจะเป็นใครหน้าไหน ยอมฆ่าผิดดีกว่าปล่อยไป

“ไม่ใช่ผมนะ! ไม่ใช่ผมจริงๆ!”

“ใช่แล้ว ไม่ใช่พวกผมจริงๆ นะครับ!”

ภรรยาที่ว่าก็คุณเองนั่นแหละ!

พวกคุณสองคนมีปากเสียงกัน ทำไมต้องดึงพวกเราเข้าไปเดือดร้อนด้วยเล่า!

นี่สินะที่เรียกว่าไฟไหม้ประตูเมือง เดือดร้อนไปถึงบ่อปลา…

————————————————————————–

บทที่ 1128 คุณเป็นห่วงเหรอ?

ทุกคนต่างรับรู้ได้ถึงอันตรายที่เกิดขึ้น

ทักษะการเอาตัวรอดเป็นยอดดีของกงซวี่เปรียบเสมือนแสงสว่างในความมืด

บอดี้การ์ดลับร่างผอมสูงพลันตาเป็นประกาย เขาย่อตัวลง หอบหายใจแรงขณะหันไปมองสืออีที่ยืนอยู่อีกด้าน “สืออี! หัวหน้าทีมสืออี! ดูสิที่นี่ไม่มีสาวสวยเลยสักคน! ถ้าไงเราสองคนมาเป็นคู่กันไหม ผมยอมเบี่ยงเบนให้ชั่วคราวก็ได้?”

สืออีได้ยินแล้วหน้าดำเป็นก้นหม้อ “ฉันยอมโดนคุณหนูหวันหวั่นซ้อมตายดีกว่า…”

ตามคาด ไม่ใช่ว่าใครก็จะทำตัวกระตุ้งกระติ้งเหมือนกงซวี่ได้จริงๆ

เดิมทีซือเยี่ยหานมาด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว แต่พอเห็นหญิงสาวโกรธจนอาละวาดจะไล่ ‘ถล่มฮาเร็ม’ ของเขาไป เพลิงโทสะที่เคยลุกไหม้ท่วมใจก็คุกรุ่นน้อยลงโดยไม่รู้ตัว

สวี่อี้เห็นคุณหนูหวันหวั่นซ้อมคนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าของเจ้านายตัวเองอ่อนลงทุกที ก็ถึงขนาดดูดีใจอยู่มาก ยืนไว้อาลัยให้พวกสืออีเงียบๆ

หายากที่จะเห็นคุณหนูหวันหวั่นหึงนายท่าน แล้วยังอาละวาดหนัก ดูท่าแล้วอย่าหวังเลยว่าเจ้านายจะช่วยใคร…

สวี่อี้กำลังยืนไว้อาลัยให้คนอื่น ชั่วพริบตาก็เห็นเงาร่างหนึ่งพุ่งมาทางเขาด้วยความเร็วสูง

“ว้าก!!!” สวี่อี้ตกใจจนเกือบล้มก้นจ้ำเบ้า

“นายคือเมียหลวงเหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นจ้องหน้าสวี่อี้ ดวงตาเต็มไปด้วยไอสังหาร

สวี่อี้อึ้งค้าง “ไม่…ไม่ใช่ผม! ไม่เกี่ยวกับผมนะ! กะ…ก็…ก็คุณเองนั่นแหละ!”

ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นมีหรือจะฟังเข้าหู ดวงตาของเธอแดงก่ำ จะตรงเข้าไปต่อยคนอย่างเดือดดาล

“อ๊าก! คะ…คุณชายเก้า…” สวี่อี้ตกใจจนวิญญาณแทบหลุดจากร่าง

พริบตาที่หมัดของเยี่ยหวันหวั่นเหวี่ยงออกไป ซือเยี่ยหานเอื้อมมือเข้ามาคว้าข้อมือเธอ และขวางการโจมตีไว้

สวี่อี้มองกำปั้นที่ห่างจากตัวเองแค่หนึ่งเซนติเมตร ถอนหายใจทันที เข่าเกือบทรุดลงแล้ว

เยี่ยหวันหวั่นจ้องซือเยี่ยหานที่ช่วยสวี่อี้ไว้เขม็ง แทบจะเหมือนไล่ให้ไปตาย ก่อนจะเอ่ยอย่างดุดัน “ฉันต่อยเขา คุณเป็นห่วงเหรอ?”

หา…เรื่องบ้าอะไรเนี่ย?

สวี่อี้แทบจะร้องไห้น้ำตานองหน้า รีบส่ายหน้าเหมือนกลองป๋องแป๋ง “ไม่ใช่ๆๆ ไม่ใช่อย่างนั้นเด็ดขาดเลยครับ!”

คิดได้ยังไงเนี่ย! อยากจะคารวะให้จริงๆ โอ๊ย!

เวลานี้ ซือเยี่ยหานมองสีหน้าที่กำลังจะคลุ้มคลั่งของหญิงสาว เพลิงโทสะในใจมอดดับในที่สุด ฝ่ามือใหญ่กุมมือหญิงสาว นัยน์ตาดำขลับสะท้อนดวงหน้าที่กำลังโกรธจัดของเธอ เสียงทุ้มลึกดังกังวานท่ามกลางค่ำคืน “ฉันเป็นห่วงเธอต่างหาก ไม่เจ็บมือเหรอ?”

เมื่อครู่แม้กระทั่งรถยังถูกชกจนเป็นรู แต่บนมือขาวเนียนบอบบางของหญิงสาวกลับไม่มีรอยถลอกแม้แต่น้อย

เยี่ยหวันหวั่นหลงเสน่ห์ความหล่อของซือเยี่ยหานแทบจะทันที เอ่ยอย่างลังเลเล็กน้อยว่า “คุณ…คุณจะเปลี่ยนใจมาหาฉันเหรอ”

เสียงของเยี่ยหวันหวั่นคลุมเครือจนแยกไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิงมาตลอด แต่วินาทีนี้เสียงอ่อนหวานเหมือนผู้หญิงตามเดิมแล้ว

โชคดีที่เธอพูดไม่ดังมาก บวกกับพวกกงซวี่ยืนหลบอยู่ห่างๆ จึงไม่ได้ยิน

สายตาของซือเยี่ยหานเหมือนหมู่ดาวเปล่งประกาย “มันเป็นของเธอแต่แรกแล้ว”

เยี่ยหวันหวั่นเบิกตากว้างทันใด “อ้าว? จริงเหรอ ตั้งแต่เมื่อไร ทำไมฉันไม่เห็นรู้เลย?”

มุมปากซือเยี่ยหานกระตุกเบาๆ แบบที่สังเกตเห็นยาก “รอให้เธอสร่างเมาก็รู้เอง”

เยี่ยหวันหวั่นพูดอย่างไม่ค่อยพอใจ “ทำไมต้องรอให้สร่างเมาด้วยล่ะ ฉันว่าฉันตอนนี้ดีจะตาย!”

สวี่อี้กับบอดี้การ์ดคนอื่นๆ ‘ไม่ดีเลยสักนิดเถอะ!’

รอบนี้…จู่ๆ ก็โดนซ้อมโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว……

ที่น่าเศร้าที่สุดคือเจ้านายไม่แม้แต่จะถามพวกเขาที่โดนซ้อมว่าเจ็บหรือเปล่า กลับไปถามคนซ้อมว่าเจ็บมือไหม!

น่าสังเวชอย่างหาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ!

แต่ก็น่าซาบซึ้งสุดๆ เหมือนกัน…ในที่สุดเจ้านายก็ยอมออกหน้าแล้ว!

เป็นครั้งแรกที่เต็มใจกินอาหารหมาด้วยความเต็มใจอย่างนี้ ก็เป็นอาหารหมาที่ช่วยให้รอดชีวิตนี่!

……………………………