1857-1 vs 1857-2 vs 1857-3 โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1857-1
ราชินีจอเงินคิดมาถึงตรงนี้ เสียงโทรศัพท์ในมือพลันดังขึ้น เป็นเบอร์ของเจ้าลูกชายน้ำแข็งที่ไม่ยอมรับสายเธอเสียที คนสวยรู้ทันความเจ้าเล่ห์ของลูกตนเป็นอย่างดี จึงไม่แสดงความร้อนรนออกมา แค่ถามช้าๆ “ลูกวางแผนจะทำอะไร?”
“คุณอานคนสวย ผมไม่เข้าใจคำถามคุณเลยครับ” ฉินมั่วมองดูภาพใต้แสงไฟที่อยู่ไม่ไกลผ่านหน้าต่างกระจก ตรงนั้นมีร่างคนมากมาย แต่คำตอบของเขา เล่นเอาคนสวยกระชากเสื้อคลุมไหล่ “อย่ามาแกล้งโง่กับแม่ คุณตาของลูกบอกแล้วว่ามีคนมาขอดองด้วย แล้วลูกก็ตอบตกลง”
ฉินมั่วดูเรื่อยเฉื่อย กำลังคำนวณเวลาที่คนบางคนจะกลับมา “อือฮึ”
มีลูกชายบ้านไหนบ้างที่ทำตัวแบบนี้ ตอบแค่ ‘อือฮึ’? คนสวยอยากโทรหาสามีอย่างเร่งด่วน แต่ดูเหมือนฉินมั่วจะเดาใจแม่ตัวเองได้ “ก่อนจะฟ้องคุณพ่อนะครับ แม่ควรจะถามคุณตาก่อนว่าจะดองกับใคร”
“แม่จะไม่ถามได้ยังไง ได้ข่าวว่าเป็นคนจีนไปตั้งธุรกิจที่ต่างประเทศก่อนจีนจะเปิดประเทศ แถมมีเชื้อสายราชวงศ์ของประเทศ Y ด้วย” คนสวยยิ่งคิดก็ยิ่งเลยเถิด “พวกนายทุนยอมแต่งงานเพื่อผลประโยชน์”
ฉินมั่วรู้ว่า แม่เอาความที่งอนพ่อมาลงกับตัวเองด้วย “งั้นแม่ก็ยังตรวจสอบไม่ละเอียดดีพอ แม่ควรจะถามคุณตาก่อนนะฮะว่าทำไมผมถึงรับปาก”
คนสวยหรี่ตาลง คนฉลาดอย่างเธอจึงเปลี่ยนเรื่องพูด “ทำไมที่บ้านถึงไม่มีหนังสือสำมะโนครัวของลูก”
“เอาไปให้ไอดอลของแม่แล้ว” ฉินมั่วพูดอย่างไม่ใส่ใจ
คนสวยคิดแล้ว ก็มุ่งเข้าประเด็น “ลูกเอาทะเบียนบ้านไปให้ มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องตกลงแต่งงาน”
“ไอดอลของแม่ต้องมีอะไรมากระตุ้น ถึงจะยอมขยับตัว” ฉินมั่วไม่ปฏิเสธที่จะปล่อยความลับออกมา
คนสวยฟังแล้วรู้สึกเหมือนมีหลุมพรางขุดล่ออยู่ “ลูกคงไม่ได้ขุดหลุมพรางดักจิ่วหรอกนะ”
“คุณอานคนสวยครับ ระวังคำพูดหน่อย พวกเราเต็มใจกันทั้งคู่นะครับ “ฉินมั่วมองดูนอกหน้าต่างรถ นิ้วเรียวเคาะบนพวงมาลัย “เอาล่ะ เขาใกล้จะกลับมาแล้ว แม่ลองไปถามเรื่องแต่งงานได้ อีกอย่าง คนสวยครับ จะเป็นแฟนคลับไอดอลน่ะ ผมไม่ว่าหรอก แต่อย่าทำอะไรให้มันเด่นเกิน เช่นเวลาจัดกิจกรรมมีทติ้งให้ของขวัญอะไรแบบนี้ แม่อย่ามาเลย แม่ก็รู้ดีว่าแม่สร้างความดังได้มากแค่ไหน เกิดแม่มางานด้วย เดี๋ยวยอดคนติดตามจะสูงมากเกินไป”
คนเป็นแม่ได้ยินแล้วไม่ยอม “ทำเหมือนกับแม่รบกวนลูกเหลือเกินนะ แม่ก็แค่เพิ่มชื่อเสียงให้ไอดอลของแม่เท่านั้น”
“ต่อไปฉินกรุ๊ปจะทำการตลาดให้กับพวกแฟนคลับรุ่นแม่หลายโปรเจคเลยล่ะครับ แม่จะได้เปย์เงินให้ไอเอลของแม่ได้เต็มที่” ฉินมั่วพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
คนสวยหันไปมองผู้จัดการที่มองตนเองอยู่ “ประธานฉินของพวกเธอนี่ กับแม่กับเชื้อก็ยังจะคิดเงินเนอะ”
“นางฟ้า นักข่าว นักข่าว…” ผู้จัดการยืนฟังอยู่ด้านข้างอย่างเหงื่อตก ไม่เคยเห็นประธานฉินมั่นใจขนาดนี้มาก่อนเลย
ฉินมั่วกลับไปคุยเรื่องเดิม “แม่อย่าโทรมาอีกนะครับ เรื่องแบบนี้อย่างเพิ่งให้เขารู้ก่อนจะดีกว่า ผมกำลังรอให้เขาแต่งลูกชายแม่เข้าบ้านอยู่”
คนสวย “…”
ผู้จัดการไม่รู้จะพูดอะไรดี อยากปิดหน้าด้วยความอายเหลือเกิน ไม่คิดเลยว่าประธานฉินจะเป็นแบบนี้ ส่วนคนสวยวางสายลงกลับดีใจสุดขีด มุมปากแย้มยิ้ม สวยจนไม่มีอะไรมาเปรียบ “ลูกชายน้ำแข็งของฉันฉลาดขึ้นมาแล้ว ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง”
…………………………………………
ตอนที่ 1857-2
ผู้จัดการร้องเฮ้อ เขาอยากบอกราชินีจอเงินเหลือเกินว่า เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้ไม่ได้ยินประธานฉินพูดเหรอครับว่ารอให้ฝ่ายนั้นมาขอแต่งเข้าบ้าน?
พูดง่าย ๆ นะครับ คือแต่งไปใช้สกุลผู้หญิง ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลฉิน คนที่แฟนคลับมหาศาลติดตาม เทพฉินที่เด่นสุด เก่งสุด มีมูลค่าทางธุรกิจสูงสุด เจ้าของหน้าตาหล่อเหลาที่ทำเงินเยอะที่สุดเชียวนะครับ เขาจะแต่งเข้าบ้านเจ้าสาว? แต่งเข้าบ้านเจ้าสาวนะครับ?
ผู้จัดการรู้สึกว่าตัวเองต้องนิ่งเข้าไว้ จริงๆ นะ เพราะในอนาคต ถ้าประธานฉินแต่งเข้าสกุลอื่น แล้วใครจะดูแลฉินกรุ๊ป แถมยังมีแวดวงธุรกิจ โลกออนไลน์ นักข่าว…
ผู้จัดการพอจะเดาข่าวที่เกิดได้เลยว่าจะสร้างผลกระทบสะเทือนขนาดไหน อยากถามประธานฉินเหลือเกินว่า ทำไมถึงกล้าพูดว่ารอคนมาขอได้เต็มปาก แต่ฟังจากคำพูดของราชินีจอเงินแล้ว เหมือนเขาจะวางแผนล่อฝ่ายหญิง
น่าเกลียด น่าเกลียดที่สุด!
ประโยคนี้ ในฐานะที่เป็นรถสปอร์ตชั้นเยี่ยม เสี่ยวเฮยคิดเช่นกันว่ามันได้ยินคำพูดของชายหนุ่มตลอดศก มิน่าล่ะ ถึงได้ให้ทะเบียนบ้านกับเจ้านาย ที่แท้ก็มีแผนนี่เอง เจ้านายของมันยังอุตส่าห์คิดว่าจอมมารเขินอายอีก!
เสี่ยวเฮยอยากจะ อยากจะ… ไม่รู้จะพูดยังไงดี! แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ จอมมารยังอ่านความคิดของรถออกด้วย พอวางสายก็พูดขึ้นว่า “ท่าทางจะต้องลบข้อมูลของนายเมื่อกี้นี้แล้วล่ะ”
เสี่ยวเฮยมองดูนิ้วเรียวที่เริ่มเคาะบนหน้าจอ อดไม่ได้ที่จะกอดตัวอ้วนๆ ของตัวเอง “ด้วยความจงรักภักดีต่อเจ้านายอย่างสูงสุด ถ้าเจ้านายไม่ถาม ผมก็จะไม่พูด”
“อ้อ?” ฉินมั่วเลิกคิ้ว “จงรักภักดีจริงๆ ไม่พูดก็โอเค เขามาแล้ว”
เสี่ยวเฮยปิดปากเงียบทันที พอป๋อจิ่วก้าวขึ้นรถก็รู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ แต่ไม่นานเธอก็หลงใหลไปกับการกระทำของท่านเทพ ชายหนุ่มใช้นิ้วไล้ใบหน้าเธอ มุมปากแฝงรอยยิ้ม ท่านเทพไม่เคยยิ้มอ่อนโยนอย่างนี้มาก่อน
“หนาวไหม?” ฉินมั่วประคบให้หน้าเธออุ่นขึ้น
ป๋อจิ่วอ่อนแอที่ไหนกันล่ะ เธอดึงผ้าปิดปากออกมาครึ่งหนึ่ง ใบหน้าแสนเท่ก็ปรากฏทันที “ไม่หนาวหรอก แต่ตัวฉันเย็นมาก อย่ากอดเลย”
“ยิ่งเย็นก็ยิ่งต้องกอด” ฉินมั่วพูดจบก็ลูบศีรษะเธอ
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงหลงลืมบรรยากาศที่แปลกประหลาดจนสิ้น แถมด้วยฉินมั่วไม่รีบขับรถจากไป แค่ดึงแฮมเบอร์เกอร์ออกมาป้อนเธอพลางให้เธอดื่มเป๊บซี่ในมือ เดี๋ยวๆ ก็ยิ้ม เล่นเอาพระจันทร์แสนงามอับเฉาเลยทีเดียว
เสี่ยวเฮยมองดูเจ้านายตัวเองหลงเตลิดไปกับกลหนุ่มงามอย่างกู่ไม่กลับตาปริบๆ หน้าจอกระตุกขึ้นสองครั้ง มันสังหรณ์ใจว่า นี่คือชะตากรรมที่มันต้องผจญต่อไปในอนาคต และยังค้นพบอีกว่า จอมมารมีเทคนิคแย่งความสนใจจากมันไปอย่างสุดยอด!
ชายหนุ่มไม่เพียงแต่ทำทุกเรื่องแทนมัน แถมยังตอบสนองในสิ่งที่เจ้านายของมันชอบด้วย ไม่เช่นนั้นล่ะก็ เจ้านายของมันจะยังคิดได้ยังไงว่าอีกฝ่ายเขินอาย เอาแค่เรื่องเมื่อครู่เถอะ เจ้านายของมันชะโงกหน้าจะจุ๊บชายหนุ่ม อีกฝ่ายก็เอาปีกไก่อุดปากเธอทันที ก่อนจะยิ้มจุ๊บที่หน้าผากแทน “กินดีๆ สิ”
นางปีศาจยั่วเย้าด้วยการปฏิเสธ มินาล่ะ มิน่าล่ะ เจ้านายมันออกจะฉลาด แต่กลับตกอยู่ในเงื้อมมือจอมมารระดับสุดยอดเชียว เสี่ยวเฮยแขวะในใจยังไม่จบ ก็เห็นชายหนุ่มมองกระจกส่องหลัง น่าสะพรึงมาก!
ฉินมั่วเห็นรถทำตัวเรียบร้อย จึงถอนสายตากลับมา ใช้ทิชชูเช็ดมุมปากให้ใครบางคน มองไปมองมาก็รู้สึกว่าคนของเขาดูรื่นตาดี
……………………………………………
ตอนที่ 1857-3
ป๋อจิ่วไม่รู้ตัวเลยว่าเธอยังไม่ทำอะไรก็เข้าใจความหมายของชายหนุ่ม โดนจุ๊บครั้งหนึ่งก็รู้สึกหวานฉ่ำ แถมยังมีอีกเรื่องที่น่ายินดี ตอนที่เธอไปซื้อแฮมเบอร์เกอร์ก็ได้รับข่าวหนึ่ง เป็นข่าวที่คุณตาพ่อบ้านส่งให้เธอ ด้วยเนื้อหาง่ายๆ แค่ว่า “ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว ตอนนี้ผมกำลังไปสู่ขอที่บ้านตระกูลอาน”
สู่ขอเรอะ?
ป๋อจิ่วรู้สึกว่าเธอชอบฟังคำนี้จัง อื้อ รอคุณตาเสร็จงานทางนั้นก่อน เธอก็จะเริ่มเสียที
ฉินมั่วไม่รู้ว่าเธอยิ้มอะไร มุมปากแฝงแววร้ายกาจอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนฝั่งของคุณตาที่ทำอย่างเป็นทางการ ชุดสูททักซิโด้ต้องพร้อม แถมข้อตกลงที่แสดงความจริงใจอย่างถึงที่สุด
ทุกคนต่างรู้กันว่า คุณท่านอานไม่พบใครง่ายๆ ตระกูลอานต่างจากตระกูลฉินตรงที่ ธุรกิจทุกอย่างอยู่ต่างประเทศหมด ทั้งยังทำมานานแล้วด้วย คนชอบพูดกันว่าคนรวยยืนยงไม่พ้นรุ่นที่สาม ซึ่งไม่เคยปรากฏกับบ้านตระกูลอาน
เมื่อมาถึงยุคของราชินีจอเงิน เธอกลับอยากเข้าวงการบันเทิง ใช่ว่าคุณท่านอานจะไม่เคยห้ามไว้ แต่ด้วยภายหลังมีหลานรัก คุณตาอานถึงวางใจ เพราะสมบัติของตระกูลมีทายาทสืบทอดแล้ว เบรกความเชื่อดังกล่าวไว้ โดยเฉพาะหลานของท่านที่เก่งเป็นเลิศมาตั้งแต่เด็กจนโต คนไม่น้อยอยากผูกสัมพันธ์ด้วย โดยเฉพาะพวกสาวไฮโซ ไม่ว่าจะเป็นในหรือต่างประเทศ
ทว่าคุณท่านอานรู้ดีกว่าใคร หัวใจของหลานท่านซ่อนคนคนหนึ่งไว้ในใจ และเพราะมีคนคนนั้น คุณตาจึงไม่ถามเรื่องชีวิตรักของหลาน เพราะรู้ดีว่าตอนที่จะย้ายกลับมาจากต่างประเทศ หลานรักตัวน้อยก็เอาแต่กุมฮู้กันภัยยืนอยู่หน้าประตูข้างบ้านอยู่นาน
บอกตรงๆ นั่นเป็นครั้งแรกที่ท่านเห็นหลานอ่อนแอ ลูกสาวท่านเอาแต่กังวลว่าหลานรักของท่านจะไม่อยากกลับจีน อันที่จริงหลานท่านไม่เพียงแต่ไม่อยากกลับจีน แต่ด้วยเพื่อนตัวน้อยของเขาหายตัวไป นั่นเป็นครั้งแรกที่ท่านได้ยินหลานถามคำถามที่แสนบริสุทธิ์ ตอนนั้นหลานยังเล็กอยู่ ตัวสูงเท่าเอวท่านเท่านั้น หน้าเล็กๆ นั่นเงยขึ้น “คุณตาว่าเขาจะกลับมาไหมครับ?”
คุณท่านอานโลดแล่นอยู่แวดวงธุรกิจมานาน เห็นแวบเดียวก็รู้ทันทีว่าคนข้างบ้านไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว ข้าวของถูกขนย้ายออกไปหมดราวกับไม่เคยใช้ชีวิตที่นี่มาก่อน
การตัดขาดความสัมพันธ์อย่างกะทันหัน ทำให้รู้ว่าต้องเกิดปัญหาขึ้นแน่ คุณท่านอานรู้ดีแก่ใจ แต่กลับพูดปดกับหลานรักอย่างมีเหตุผล “ต้องกลับมาสิลูก เขาชอบหลานจะตาย ต้องกลับมาแน่นอน”
“แต่ผมทะเลาะกับเขา” หลายชายเหมือนเจ้าชายตัวน้อย สวมสูทเด็ก ยืนอยู่ใต้แสงจันทร์ บิดปาก ดวงตาแดงก่ำ “เขาโง่จะตาย กลางคืนก็ไม่รู้จักห่มผ้า เอาแต่ปีนกำแพงอยู่นั่นแหละ พอเล่นเกมขึ้นมาก็ไม่สนอะไรแล้ว เวลาแปรงฟันก็ไม่รู้จักพับแขนเสื้อ…”
……………………………………………..