บัญชามังกรเดือด บทที่ 775 ความฝันที่เป็นจริง
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเธอนั้น มีใบหน้าที่หล่อหลาและนัยน์ตาที่ลึกล้ำ
ไม่รู้ว่า เป็นเพราะเขาสวมใส่หน้ากากเป็นเวลานานหรือเปล่า ใบหน้าถึงไม่ค่อยได้เจอกับแสงแดด ผิวพรรณของเขาจึงขาวเนียนราวกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆก็ไม่ปาน
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ใบหน้านี้เป็นใบหน้าที่ทุกคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
โดยเฉพาะหานหลิงและหูรั่วหลัน
เป็นใบหน้าที่พวกเขาเฝ้าคิดถึงทั้งวันทั้งคืน!
“พี่?” ภายในใจของหูรั่วหลันพลันสั่นสะท้านไปในทันที ดวงตาคู่สวยของเธอพลางเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่อยากเชื่อ พร้อมกับรีบวิ่งตรงมาที่เวทีโดยไว พลางพูดออกอย่างตื่นเต้นว่า “นั่น ใช่พี่จริงๆ หรือเปล่า?”
“พี่ ฉันคือรั่วหลันนะ!”
หูเฟยพลันมองดูน้องสาวตัวน้อยอันเป็นที่รักของเขา พลางแย้มยิ้มพูดออกมาว่า “รั่วหลัน น้องดูโตขึ้นเยอะเลยนะ”
“ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ลำบากน้องสาวคนนี้แล้ว”
ภายในหัวของหูรั่วหลันพลันเกิดความสับสนงุนงงขึ้นมา หยาดน้ำตาพลางไหลลงมาอาบแก้ม พร้อมทั้งเอาแต่ส่ายหน้าไปมาสมองราวกับกำลังจะบอกกับเธอว่า นี่ไม่ใช่เรื่องจริง
จู่ๆ พี่ชายของเธอที่ถูกเผากลายเถ้าถ่าน จะมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอได้อย่างไร?
วิญญาณของพี่ชายจะต้องมาปรากฏตัวเมื่อเขารู้ว่าผู้หญิงที่เขารักกำลังจะแต่งงานกับคนอื่นแน่ ๆ
ในขณะนั้น เหลิ่งหยุนพลันเดินเข้ามา พร้อมกับสวมกอดหูรั่วหลันในทันที พลางพูดอย่างอ่อนโยนกับเธอเบาๆ ว่า “สาวน้อย วันนี้เป็นวันแต่งงานของพี่ชายเธอเชียวนะ”
“ให้พวกเขาเข้าพิธีแต่งงานให้เสร็จกันก่อนดีไหม แล้วเรื่องอื่นเราค่อยว่ากันทีหลัง”
“มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่? นายน้อยหูตายแล้วไม่ใช่หรือ?”
“ไม่จริง!”
“ฉันจำได้ว่า. นายน้อยหูเป็นคนผิวดำร่างกายกำยำ ทำไมตอนนี้ใบหน้าของเขาถึงขาวแล้วล่ะ?”
“ไม่ดีแล้ว วิญญาณของนายน้อยหูมาปรากฏตัวแล้ว!”
สักพักก็เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นในทันทีถึงแม้ว่าชายที่อยู่ตรงหน้า จะมีใบหน้าเหมือนกับหูเฟยทุกประการ ทว่ามันมีบางอย่างผิดปกติกับผิวหนัง
ในอดีต ถึงแม้ว่าหูเฟยจะเป็นชายหนุ่มอันดับหนึ่งในเมืองฮั่น ทว่าท่าทีของเขาไม่เหมือนกับบุตรหลานคนรวยในตระกูลดัง ๆ เลยแม้แต่น้อย ที่ชอบใช้ชีวิตอย่างหรูหราและได้รับการปรนเปรอในทุก ๆ วัน
ขอเพียงแค่มีเผลอถลอกเพียงเล็กน้อย เขาก็จะถูกโวยวายออกมาเป็นบ้าเป็นหลัง
แท้จริงแล้ว สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดก็คือการถูกบังคับจากแม่ของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงตั้งใจเปลี่ยนสีผิวให้ผิวเป็นสีแทนและทำให้ผิวหยาบกร้านเพื่อให้ดูมาดแมนแข็งแกร่งและดูดุดันมากขึ้น
ทว่าหูเฟยที่อยู่ข้างหน้าของทุกคนนั้น เขาดูเหมือนไปเปลี่ยนสีผิวของตัวเองมาทั่วตัว
“หูเฟย นายกำลังกลั่นแกล้งกันงั้นเหรอ?”
“ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรแต่งงานกับคนอื่นแบบนี้!”
“คนที่ฉันรักคือนายคนเดียวเท่านั้น และเป็นนายมาโดยตลอด!”
“เถียโถว ฉันต้องขอโทษนายด้วย ฉันจะไม่แต่งงานแล้ว ฉันเป็นคนของหูเฟย…”
“พาฉันไปด้วย!”
“หูเฟย พาฉันไปด้วยเร็ว ๆ ถึงแม้ว่านายจะพาไปยมโลก ฉันก็เต็มใจ”
“ในเมื่อพวกเราไม่อาจเป็นสามีภรรยาในโลกชีวิตจริงได้ ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะไปเป็นภรรยาของนายในยมโลกแทน!”
หานหลิงราวกับกำลังสูญเสียสติไปเธอดึงหูเฟยเอาไว้ พร้อมกับร้องตะโกนและพ่นคำพูดออกมา
เธอเพียงรู้สึกไปเอง หูเฟยกำลังมาปรากฏตัวเป็นวิญญาณต่อหน้าของเธอ
หูเฟยโอบกอดหานหลิงเอาไว้ในอ้อมแขน พลางพูดด้วยเสียงสั่นเครือว่า ” หานหลิงเป็นฉันเองที่ต้องพูดขอโทษเธอ!”
“ฉันไม่ควรปิดบังเธอเลย… ที่จริงแล้วฉันยังไม่ตาย”
“ฉันได้ชีวิตของฉันกลับมาแล้ว…”
“เธอยังไม่เชื่อฉันงั้นเหรอ? เช่นนั้นก็ฟังให้ดี ฉันจำความลับทั้งหมดระหว่างเราได้”
หูเฟยเริ่มกระซิบกระซาบเกี่ยวกับบางสิ่งที่เกิดขึ้นกับหานหลิงนั้น และเป็นเรื่องที่ฟ้าดินเท่านั้นที่รับรู้เรื่องระหว่างพวกเขาสองคน
หานหลิงพลันรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
“นายคือหูเฟยจริงๆ เหรอ?”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?”
หูเฟยพลันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก พลางมองน้องสาวของเขาที่เดินโซเซอยู่ด้านล่างเวที และมองมาที่เขาด้วยสายตาที่งงงวยมากมาย ในที่สุดเขาก็พูดความจริงออกมาดัง ๆ
เขาหนีออกมาจากเปลวไฟพร้อมกับใบหน้าของเขาที่ถูกเผาไหม้ ในเวลานั้นเขาเอ่ยสาบานออกมาว่า จะต้องทำการแก้แค้นให้ได้ นับตั้งแต่นั้นเขาก็สวมหน้ากากเหล็กไว้บนหัวตลอด
ในช่วงเวลาที่เขาหายตัวไปนั้น เป็นฉินเทียนที่จัดหาโรงพยาบาลชั้นนำในต่างประเทศเพื่อให้เขาเข้ารับการปลูกถ่ายผิวหนัง
แน่นอนว่าเป็นผิวที่ถูกปลูกถ่ายมาจากต้นขาด้านในของเขาเอง มันย่อมขาวสะอาดอยู่แล้ว
เนื่องจากการผ่าตัดประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ดูราวกับเขาได้เกิดขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง
หลังจากที่ทุกคนได้รู้ความจริงนั้นทุกคนพากันก็โห่ร้องออกมาด้วยความดีใจในทันที
หานหลิงพลันปิดปากของเธอ พร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม พลางมองไปที่ชายผู้เป็นที่รักที่กำลังยืนต่อหน้าเธอ ทั้งยังไม่สามารถเอ่ยคำพูดอะไรออกมาได้
เธอไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่า เธอจะได้แต่งงานกับคนคนนี้ ในวันนี้จริง ๆ
เมื่อความรู้สึกประหลาดใจห่างหายไปแล้วนั้น มันทำให้หัวสมองของเธอเต็มไปด้วยความว่างเปล่าในทันที
ฉินเทียนพลันเอ่ยหยอกเย้าขึ้นมาว่า ” หานหลิง เธอยังอยากที่จะแต่งงานกับผู้ชายคนนี้อยู่หรือเปล่าล่ะ”
“ฉันอยากจะบอกว่า เธอต้องคิดให้ดีๆนะ เพราะมีเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากจะบอกเธอมานานแล้ว ตอนที่ผู้ชายคนนี้ไล่ตามจีบเธอนั้น เขาใช้กลอุบายที่น่ารังเกียจมาก”
“เธอยังจำตอนที่เธอถูกเด็กอันธพาลคอยตามตอแยหลังเลิกเรียนได้หรือเปล่า? พร้อมกับผู้ชายคนนี้ ที่ก้าวเข้าไปข้างหน้าและทำตัวเป็นฮีโร่ที่ช่วยเหลือเธอเอาไว้อันที่จริงแล้ว พวกเด็กอันธพาลเหล่านั้นเป็นเขาที่จัดฉากขึ้นมาเองแหละ”
“เขาก็แค่มองหาโอกาสที่จะได้ทำความรู้จักกับเธอนอกจากนี้ยังมีกลโกงไร้ยางอายอีกมากมาย แต่ฉันขี้เกียจที่จะเล่าให้ฟังแล้วล่ะ”
“ถ้าเธอไม่อยากแต่งงานละก็ ก็ลืม ๆ มันไปซะ ฉันจะแนะนำผู้ชายดี ๆ ให้รู้จักทีหลังเอง”
ผลัวะ!
หลังจากได้ยินประโยคด้านหลังแล้วนั้น หูเฟยพลันใช้กำลังภายในพุ่งออกไป พลางพูดขึ้นด้วยความอับอายว่า “นาย ช่วยรักษาหน้าตาพี่ชายคนนี้หน่อยได้ไหม?”
เมื่อผู้ชมที่เหลืออยู่ด้านล่าง พวกเขาทั้งหมดก็เริ่มโห่ร้องในทันที
“ปฏิเสธเขา!”
“ปฏิเสธเขาเลย!”
“หานหลิง เธอว่าฉันเป็นยังไงบ้าง?”
“แล้วก็ฉัน! ดูฉันสิ!”
ทันใดนั้นก็เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที
ใบหน้าของหานหลิงพลันแดงระเรื่อขึ้นมา เพื่อที่จะร่วมมือกับฉินเทียนนั้น เธอจงใจเชิดหน้าขึ้นสูงและพูดขึ้นมาว่า “ดูเหมือนว่า คนคนนี้จะไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่เลย ”
“ฉันคงต้องลองพิจารณาดูใหม่ซะแล้ว !”
“คนของสกุลหู ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของคุณแล้วนะ”
ก่อนที่หูเฟยจะทันได้โต้ตอบ ฉินเทียนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา พลางพูดออกมาว่า “นายจะยังงุนงงอะไรอยู่อีกล่ะ? รีบคุกเข่าขอเธอแต่งซะสิ!”
หูเฟยพลันรีบคุกเข่าลงข้างหนึ่ง พร้อมทั้งหยิบแหวนเพชรรูปหัวใจวงใหญ่ออกมา พลางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดออกมาด้วยความรักใคร่ว่า “ในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ของฉัน ขอมอบมันให้กับเธอคนเดียว ”
“แต่งงานกับฉันนะต่อไปนี้เธอคือชีวิตฉัน!”
ผู้คนพลันโห่ร้องออกมาอีกครั้ง
“แต่งเลย!”
“แต่งเลย!”
“เร็วเข้า พวกเรากำลังรอดื่มสุรามงคลอยู่นะ !”
“ฉันหิวแทบตาย เมื่อไหร่งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้นสักที ?”
หานหลิงพลันหลับตาลง พร้อมทั้งพยายามที่จะทำให้หัวใจของเธอที่กำลังเต้นรัวสงบ เธอรู้สึกราวกับว่า ทุกอย่างในตอนนี้เป็นเพียงแค่ฝันไป เธอกลัวเหลือเกินว่ามันจะเป็นเพียงแค่ความฝัน
เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เธอก็ยังเห็นหน้าชายของคนที่เธอเฝ้าฝันถึงอยู่เสมอ จากนั้น เธอก็รู้สึกมั่นใจได้ว่า ทั้งหมดนี่ไม่ใช่ความฝันที่แท้จริง
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ความฝันอันแสนหวานของเธอได้กลายเป็นจริงแล้ว
“ตกลง ฉันจะแต่งงานกับคุณค่ะ!” หานหลิงตอบตกลงในทันที พร้อมทั้งยื่นมือออกไปให้หูเฟย เพื่อให้หูเฟยสวมแหวนเพชรให้กับเธอ
“ครับ!”
“ยินดีด้วย!” เสียงผู้คนพลันโห่ร้องขึ้นด้วยความยินดี ทุกคนต่างก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ถูก เมื่อได้เห็นความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดและซื่อสัตย์ใจจริงของคู่บ่าวสาวด้วยตาของพวกเขาเอง
“พิธีมงคลเสร็จสิ้นแล้ว!”
“ตอนนี้ฉันขอประกาศว่า เริ่มงานเลี้ยงได้!” ฉินเทียนเองก็ไม่ชอบพิธีหยุมหยิมเช่นกัน เมื่อพิธีการที่สำคัญสิ้นสุดลงแล้วนั้น ต่อไปก็เป็นการปลดปล่อยให้แอลกอฮอล์เข้าสู่เส้นเดือด!
คฤหาสน์ขนาดใหญ่ที่ถูกจัดวางเต็มไปด้วยโต๊ะมากมายนั้น เมื่อทุกคนพากันมานั่งลงบนโต๊ะแล้ว ทีมเชฟที่รอคอยมานานก็เข้ามาเสิร์ฟอาหารในทันที
ในขณะเดียวกัน พลันมีเสียงดังขึ้นที่ด้านนอกประตู
ใครเป็นคนยิงสลุต?
ทุกคนพลันชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะทันได้ตอบโต้อะไรขึ้นมา ก็ได้ยินเสียงตะโกนขึ้นมาว่า
“นายน้อยฉินมาแล้ว!”
“นายชายฉินได้มอบมังกรและนกฟีนิกซ์ตามความปรารถนาคู่หนึ่ง ขอให้คู่บ่าวสาวมีสุขภาพแข็งแรงและมีอายุยืนยาวนาน”
เสียงทุ้ม ๆ ดังขึ้นในอากาศ พร้อมกับท่าทีของทุกคนที่ตกตะลึงไปในทันที
นายน้อยฉินมาจากไหนกัน?
หน้าประตูใหญ่นั้น พลันที่ชายชุดดำยืนเรียงรายทั้งสองข้างทาง พร้อมกับด้านหลังของพวกเขา ที่มีคนสามคนยืนอยู่
คนที่อยู่ตรงกลางนั้น มีรูปร่างที่สูงใหญ่และดูทรงพลังมากนัก เขาสวมเสื้อคลุมสีดำพร้อมเข็มขัดหยกสีเขียว และมีดสีทองที่ห้อยลงมาจากเอวของเขาผู้สืบทอดแห่งตระกูลฉินซีเป่ย ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าตระกูลที่มีอำนาจในอาณาจักรมังกรและยังเป็นชายหนุ่มที่บ้าคลั่งเป็นอันดับหนึ่งของซีเป่ย นามว่าฉินเปียว