บทที่ 585 บุญคุณความแค้นของเผ่าเทียนเฟิ่นและเผ่าหยก

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 585 บุญคุณความแค้นของเผ่าเทียนเฟิ่นและเผ่าหยก
นี่เป็นภาพอบอุ่นถึงที่สุด

หนึ่งบุรุษหนึ่งสตรี หนึ่งแดงหนึ่งขาว นั่งอยู่ข้างกองไฟ ต่างคนต่างกินกระต่ายย่างเงียบๆ ราวกับเป็นทิวทัศน์อันงดงามของพื้นหิมะ

ชายหญิงคู่นี้ บุคลิกเหนือผู้คน สูงส่งสง่า เครื่องหน้าพริ้งเพริศ ไม่ว่าผู้ใดเห็นย่อมต้องจมดิ่งด้วยกันทั้งนั้น

“ทำไมเจ้าถึงเจ็บแค้นคนของเผ่าเทียนเฟิ่นขนาดนั้นด้วย?”

เสียงเวินเส้าหยีเบามาก เบาจนเหมือนพึมพำกับตัวเอง

กิริยากินกระต่ายย่างของกู้ชูหน่วนหยุดชะงัก แต่ไม่นานก็กินต่อ ตอบเข้าเสียงต่ำ “เจ้าก็เดาออกแล้วมิใช่หรือ?”

“ดังนั้นเจ้าเป็นคนของเผ่าหยกจริงๆ?”

หลังใบหูเผ่าหยกจะมีสัญลักษณ์ แต่นางไม่มี

วันเพ็ญสิบห้าก็ไม่กำเริบ

คำสาปชนิดนั้น ไม่ว่าผู้ใดล้วนยากจะรอดพ้น กู้ชูหน่วนก็ไม่มีฝีมือนั้นเหมือนกัน

ฐานะนางซ้ำซ้อน ทั้งยังน่าสงสัย

เขาเคยสงสัยว่านางเป็นคนของเผ่าหยก แต่ด้วยร่องรอยต่างๆ ทำให้เขายากจะเชื่อ

แต่หากนางไม่ใช่คนของเผ่าหยก เช่นนั้นทำไมจึงพูดในฝั่งของเผ่าหยก

กู้ชูหน่วนนิ่งเงียบ

บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันที นอกจากสายลมหนาวหวีดหวิวแล้ว ก็มีแต่เสียงกินกระต่ายย่าง เงียบจนชวนให้ครั่นคร้าม

อยู่นานกู้ชูหน่วนถึงเอียงหน้า สายตาเพิ่งพิศมองเวินเส้าหยี “ทำไมเผ่าเทียนเฟิ่นต้องสาปเผ่าหยก?”

“เรื่องนี้พูดไปก็ซับซ้อน”

“เช่นนั้นก็พูดเนื้อๆ”

“เมื่อก่อนเผ่าเทียนเฟิ่นคือแคว้นเฉิน เผ่าหยกคือแคว้นหยก สองแคว้นเป็นแคว้นเกี่ยวดองกัน พวกเขาหมั้นหมายแต่ยังเล็ก แต่ฮ่องเต้แคว้นหยกเจ้าเล่ห์แผนลึก เข้าหาองค์หญิงแคว้นเฉินก็แค่ต้องการแผ่นดินของแคว้นเฉิน เขาวางแผนมากมาย ไม่เพียงชิงแคว้นเฉินไป ทั้งยังมีใจเป็นอื่น ทำลายโฉมองค์หญิงแคว้นเฉิน เลาะเอ็นมือเอ็นเท้าของนาง สุดท้ายก็โยนลงหน้าผาพันจั้ง”

“ที่โชคดีคือ องค์หญิงพบปาฏิหาริย์ที่ก้นเหว ไม่เพียงไม่ตาย ทั้งยังได้เรียนวิชามาอีก หลังจากองค์หญิงออกมาถึงรู้ว่าบิดรมารดาพี่น้องตัวเองถูกแคว้นหยกสังหารจนสิ้นแล้ว ไม่เหลือแม้แต่ญาติสักคน ด้วยความเดือดดาล องค์หญิงจึงพาทหารที่เหลือของแคว้นเฉิน ใช้ตัวเองเป็นเครื่องเซ่น สาปคำสาปโลหิตที่ชั่วร้ายที่สุดในใต้หล้ากับเผ่าหยก”

กู้ชูหน่วนหัวเราะเย็นเนืองๆ “พูดอย่างกับว่าองค์หญิงแคว้นเฉินยิ่งใหญ่มากอย่างนั้นแหละ องค์หญิงแคว้นเฉินไม่ได้สังหารฮ่องเต้ฮองเฮาแคว้นเฉิน รวมไปถึงประยูรญาติเองหรือ?”

เวินเส้าหยีขมวดคิ้ว

“ถ้านางใช้ตัวเองเป็นเครื่องเส้น เช่นนั้นภายหลังทำไมยังอยู่รอดมาได้? แล้วพวกเจ้าเผ่าเทียนเฟิ่นมาได้อย่างไร?”

“เป็นคนสนิทขององค์หญิงไปถึงทันกาล ช่วยองค์หญิงไว้ พาสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวจากไปแล้วจากนั้นก็เก็บตัว”

“เจ้าเชื่อหรือ?”

“ทำไมเข้าจะไม่เชื่อ? ถ้าไม่ใช่เพราะฮ่องเต้แคว้นหยกไร้ไมตรีไร้คุณธรรม ทำไมพวกเราแคว้นเฉินต้องเดินทางที่ไม่อาจหวนคืนนั่นด้วย?”

“องค์หญิงที่ไร้เดียงสาไม่มีพิษมีภัย ร่าเริงสดใสอยู่สุขสบายคนหนึ่ง นางจะรู้คำสาปโลหิตอำมหิตนั้นได้อย่างไร? ตามที่เจ้าว่ามา ตอนนั้นทหารที่เหลือของแคว้นเฉินมีไม่มาก ด้วยเครื่องเซ่นน้อยนิดนั้น จะทำให้ประชาชนรวมถึงสิ่งมีชีวิตของแคว้นหยกทั้งหมดต้องคำสาปได้อย่างไร?”

เวินเส้าหยีกล่าวเสียงหนัก “เจ้าอยากพูดอะไร?”

“ถึงองค์หญิงแคว้นเฉินแค่ให้ผู้ใต้บัญชาตัวเองใช้ตัวเองเป็นเครื่องเซ่น ร่ายคำสาป แล้วประชาชนแคว้นเฉินของพวกเจ้าล่ะ? หรือถูกแคว้นหยกฆ่าหมดแล้ว? สุดท้ายพวกเขาไปไหนเสียล่ะ?”

“เดิมทีประชาชนแคว้นเฉินก็ถูกเผ่าหยกฆ่าล้างไปหมดแล้ว”

ครั้นเวินเส้าหยีโพล่งออกมา หัวใจตัวเองก็อดตึกตักไปไม่ได้

แค่ทำการเซ่นโลหิตเพียงเล็กน้อย ไม่อาจร่ายคำสาปโลหิตชั่วร้ายขนาดนั้นได้

หรือว่า…

ไม่…

นี่เป็นไปไม่ได้…

บรรพบุรุษของเราไม่โหดเหี้ยมขนาดนั้น