TQF:บทที่ 530 ทุกคนเป็นห่วง ฐานหลักวิหารสวรรค์ (3)

 

2 ศิษย์พี่น้องชะงักไป พวกเขาต้องการหาใครตั้งแต่เมื่อไหร่ หาใครกัน

 

ณ ตอนนั้น 2 ศิษย์พี่น้องคู่นี้นึกไม่ถึงเลยว่ายัยตัวเล็กตรงหน้าหาคนที่พวกเขาต้องการในใจเจอแล้ว

 

“อาจารย์ลุง อาจารย์ พวกท่านไม่ได้ตามหาผู้สืบสานจิตเทพของอาจารย์ปู่วิหารสวรรค์อยู่หรอกเหรอ” หยินเฟิ่งเห็นสีหน้าของ 2 อาวุโสที่เผยออกมา กระหยิ่มในใจ

 

“อะไรนะ”

 

“หยินเฟิ่ง เจ้า…”

 

คนที่เรียบเฉยไม่ยินดียินร้ายกับอะไรมาตลอด ต่อให้ฟ้าถล่มลงมาก็ไม่รู้สึกอะไร กับเสียอาการเมื่อได้ยินประโยคนี้ มองนางด้วยตาเบิกโพลง

 

“อาจารย์ลุง อาจารย์ ข้าไม่ได้ล้อเล่นนะ”

 

หยินเฟิ่งเห็นว่าอาวุโสตรงหน้าไม่เชื่อ นางรีบตวัดมือ โม่ซวนซุนที่ถูกฟองอากาศห่อหุ้มไว้ปรากฏต่อหน้าพวกเขา 3 คน

 

2 เฒ่าชะงักไปเมื่อเห็นโม่ซวนซุน หลังจากนั้นสายตาของพวกเขาคมกริบดั่งมีด จ้องมองคนที่อยู่ในฟองอากาศ

 

โม่ซวนซุนที่อยู่ในฟองอากาศไม่รู้ว่าตัวเองถูกจับมาที่ไหน เขามองไปรอบตัวด้วยความระแวง โดยเฉพาะเมื่อเห็นชายวัยกลางคน 2 คนตรงหน้า เขารู้สึกถึงอันตรายในใจ

 

แต่เมื่อสายตาของเขาหันไปเห็นหญิงสาวชุดแดงก็ฉายแววอาฆาตอย่างหนัก แม้เขาจะถูกควบคุมไว้ไม่ให้ได้ยินเสียงของคนข้างนอก แต่ผู้หญิงคนนี้ลงมือกับหยูเฮง ข่มเหงเฉิงเสี่ยวเสี่ยว เขาเห็นอย่างชัดเจน

 

นึกถึงภาพของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวที่ถูกนางรังแก ต่อให้เป็นโม่ซวนซุนที่ไม่ทำร้ายผู้หญิง นาทีก็แค้นจนอยากจะตบนางให้ตายคาฝ่ามือ

 

แม้จะอยู่ในฟองอากาศ ปีศาจเฒ่า 2 ตัวก็เห็นแววตาพยาบาทของโม่ซวนซุนอย่างชัดเจน เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นในใจของพวกเขา ถ้าเจ้าเด็กนี่ได้จิตเทพสืบสานไปจริงๆ งั้นการที่เขามีความอาฆาตต่อพวกเดียวกันไม่ใช่เรื่องดีแน่

 

ขณะเดียวกันพวกเขาก็แปลกใจว่าลูกศิษย์หยินเฟิ่งไปหาเขาเจอที่ไหน ทำไรอะไรลงไปถึงได้ทำให้เขาเกิดความอาฆาตขึ้นแบบนี้

 

“หยินเฟิ่ง เจ้าแน่ใจนะ” ชายวัยกลางคนผู้เป็นอาจารย์ไม่ได้ถามในทันที ถึงจะรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากล

 

หยินเฟิ่งก็ตกใจกับแววตาอาฆาตของโม่ซวนซุน นางไม่เข้าใจว่าทำไมโม่ซวนซุนถึงมองตัวเองด้วยสายตาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ รู้สึกเสียใจแปลกๆ

 

ตัวเองลำบากแทบตายเพื่อพาเขากลับมา เขากลับไม่รู้สึกซาบซึ้งแม้แต่น้อย แถมยังเกลียดตัวเองจนอยากจะฆ่าจะแกง จะไม่ให้นางเสียใจได้อย่างไร

 

ได้ยินคำถามของอาจารย์ตัวเอง หยินเฟิ่งได้สติกลับมา หลังจากที่พยายามจะใจเย็นลง นางพยักหน้า “ใช่เจ้าค่ะ อาจารย์ลุง อาจารย์ ข้ากลับรับประกันว่าเขาคือผู้สืบสานจิตเทพของพวกเราวิหารสวรรค์ เพราะข้าเคยเห็นกับตาว่าเขาใช้คาถาใจของเจ้าอาทิตย์เลี่ยจวิน และข้าก็เห็นกับตาอีกด้วยว่าเขาสร้างภาพสมมุติของเจ้าอาทิตย์เลี่ยจวินออกมาได้ ไม่ผิดคนแน่นอน”

 

“คาถาใจเจ้าอาทิตย์เลี่ยจวิน คาถาใจเจ้าอาทิตย์เลี่ยจวินจริงๆ เยี่ยมไปเลยๆ”

 

“นี่ นี่คือภาพสมมุติของเจ้าอาทิตย์เลี่ยจวิน”

 

2 เฒ่ามีท่าทางตกใจ ก่อนจะตื่นเต้นจนลุกขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ระบายอยู่ทั่วหน้าราวกับได้เก็บสมบัติล้ำค่ามา

 

สำหรับพวกเขาแล้วก็เป็นสมบัติล้ำค่าจริงๆนั่นแหละ ตรงหน้านี่คือสมบัติที่สำคัญที่สุดและที่พวกเขาตั้งหน้าตั้งตารอมากที่สุด

 

สมบัติชิ้นนี้ พวกเขารอมานับหมื่นปี ในที่สุดพวกเขาวิหารสวรรค์ก็ได้เจอแล้ว

 

เจ้าวิหารสวรรค์ไม่รอช้ารีบยื่นมาไปจิ้มฟองอากาศส่งผลให้ฟองอากาศสลายไปทันที โม่ซวนซุนที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้านในได้อิสระคืนมาทันที

 

“นังสารเลว ข้าจะฆ่าเจ้า….”

 

โม่ซวนซุนที่ได้อิสระคืนมาไม่ได้สนใจใครทั้งนั้น เขาคำรามกระหึ่มราวฟ้าผ่าระเบิดออก แสงสีทองกระจายออกเป็นแผ่น แยงจนเจ็บตา เข้ายื่นมือออกมาซึ่งมโหมารไร้ขอบเขต

 

ทุกคนตื่นตระหนก มีแสงสีทองล้อมรอบฝ่ามือไว้ ลึกล้ำเกินจะเปรียบ ทำให้ผู้ได้เห็นสั่นไหว

 

เมื่อเขาลงมือ 2 ศิษย์พี่น้องที่ยืนอยู่ข้างๆรู้ได้ทันทีว่านี่คือคาถาใจเจ้าอาทิตย์เลี่ยจวิน สีหน้าของพวกเขายิ่งส่องประกายความดีใจมากขึ้น

 

นาทีนี้โม่ซวนซุนแค่อยากจะฆ่าผู้หญิงคนนี้เท่านั้น เพื่อแก้แค้นให้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวและหยูเฮง

 

“เจ้า…”

 

หยินเฟิ่งตกใจอย่างมาก อย่างไรซะนางก็คิดไม่ถึงเลยว่าโม่ซวนซุนจะเคียดแค้นนางถึงเพียงนี้จริงๆ ถึงกับไม่พูดพร่ำทำเพลง ตั้งใจพุ่งมาฆ่าตัวเองเลย

 

ด้วยวิทยายุทธของนาง ย่อมดูออกว่าโม่ซวนซุนทุ่มแรงทั้งหมดที่มี ต้องการจะฆ่าตัวเองจริงๆ

 

นางทั้งตกใจทั้งโกรธ นางไม่มีทางยืนเฉยๆให้คนอื่นมาฆ่าแน่ หน้าสวยโกรธเคือง นางกระโจนขึ้นทันทีก่อนจะจู่โจมฝ่ามือออกไป

 

ตู้มม…..

 

มีแสงอันศักดิ์สิทธิ์สาดส่องลงมาชั้นแล้วชั้นเล่า พลังเซียนพลุ่งพล่านดั่งสายน้ำ สว่างจ้าอร่ามตา วนเวียนอยู่ในอากาศ สะเทือนฟ้าดิน เสียงกระหึ่มก้องไปทุกทิศ

 

“หยุด…”

 

“พอที….”

 

2 ศิษย์พี่น้องตื่นขึ้นจาภวังค์ความดีใจ พวกเขารีบห้ามปรามทั้ง 2 คนที่เกือบจะรื้อวิหารสวรรค์ออก

 

โม่ซวนซุนถูกเจ้าโถงกันไว้ เขาสัมผัสได้ถึงความแตกต่างราวเด็กกับผู้ใหญ่ ทำให้เขาใจสั่นเล็กน้อย สะกดความโกรธในใจลง มองเขาด้วยความเย็นชา “พวกเจ้าเป็นใคร แล้วที่นี่ที่ไหน”

 

“เจ้าหนู ไม่ต้องโมโหไป มีอะไรค่อยๆคุยกัน คนกันเองไม่จำเป็นต้องห้ำหั่นกัน” เจ้าโถงยิ้มอย่างมีเมตตา

 

ส่วนอีกคนที่เสียใจอยู่เต็มอกก็ถูกอาจารย์ตัวเองกันเอาไว้ เขาส่งสายตาปลอบโยนให้นางเพื่อให้นางสงบลง

 

หยินเฟิ่งที่ทั้งเสียใจทั้งโกรธจนกัดกรามเกือบหัก เขาจ้องผู้ชายตรงหน้าอย่างเคืองโกรธ อยากจะออกจากที่นี่แต่ก็ไม่อยากไปจากเขา จึงได้แต่ยื่นนิ่งๆไม่พูดอะไร

—————————————-