จัตุรัสมังกรหงส์ปรากฏ
ตู้ม**!**
ภายใต้สายตาตกตะลึงนับไม่ถ้วน แสงเจ็ดสีก็พุ่งผ่านขอบฟ้าตรงไปยังยอดเขาที่ฟังยี่ยืนอยู่ราวกับสายฟ้าฟาด
การโจมตีฉับพลันนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคน แม้แต่ซูปี้เยี่ย หงหยูและคนที่เหลือต่างก็ตะลึงไปเล็กน้อย เห็นชัดว่าพวกเขาไม่รู้ว่าใครกล้าปล่อยการโจมตีใส่ฟังยี่
ชายคนนี้เป็นจอมยุทธ์อันดับหนึ่งของบันทึกหลงเฟิ่งเชียวนะ!
ผู้คนนับไม่ถ้วนดวงตาเป็นประกายด้วยความตะลึงสงสัย ทว่าขณะที่หลายๆ คนคิดว่าคนนั้นคือคนโง่เง่าบ้าบิ่น ฟังยี่ที่อยู่บนยอดเขาก็จ้องมองแสงเจ็ดสีที่พุ่งตรงมาหาพลางขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็ทำสิ่งที่ทำให้ทุกคนอึ้งไป เขาไม่ได้ออกมือป้องกันกลับเคลื่อนไหวเกิดภาพซ้อนทิ้งไว้เบื้องหลังหลบการโจมตีที่พุ่งมาทางเขา
ตู้ม!
ลำแสงเจ็ดสีกระแทกยอดเขา ทำให้ถล่มลงทันที หินน้อยใหญ่ร่วงกราว ทั้งยอดเขาราบเป็นหน้ากลองในพริบตา
ภาพนี้ทำให้หนังตาคนจำนวนมากกระตุก
บนท้องฟ้า ร่างแสงสองร่างยืนอยู่กลางอากาศ เมื่อแสงจางหายไปก็เผยตัวออกมาท่ามกลางสายตานับไม่ถ้วน
เมื่อเห็นทั้งสอง เสียงฮือฮาก็ดังก้องไปทั่วฟ้าดิน
“นั่น…มู่เฉินจากอาณาเขตกงเวทสวรรค์?!”
“พวกเขาถึงกับกล้าโจมตีฟังยี่ ไม่รนหาที่ตายไปหน่อยรึไง?!”
“ทำให้ฟังยี่โกรธแบบนี้ ไม่ตายยังยากเลย!”
“…”
บางคนอุทานด้วยความตกใจขณะที่พวกเขามองดูมู่เฉินด้วยสายตาที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง แม้มู่เฉินจะคว้าสระมังกรหงส์ได้จากมือของหลิ่วเหยียนสร้างชื่อเสียงดังเป็นพลุแตกให้ตัวเอง แต่ถ้านี่เป็นฐานความมั่นใจให้เขาในการโจมตีฟังยี่ ก็บอกได้แค่ว่าเขาปัญญาอ่อนเหลือเกิน
เพราะแม้หลิ่วเหยียนจะน่าสะพรึง แต่เขาก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับฟังยี่ที่เปรียบเหมือนตำนานหรอก!
ทุกคนเหมือนจะมองข้ามสาวสะคราญโฉมที่ยืนอยู่ข้างมู่เฉินไปแล้ว
เมื่อเห็นสายตาเหล่านั้นมู่เฉินก็ทำได้เพียงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ แต่ทันทีที่เขาจะพูด เขาก็สัมผัสได้ถึงสายตาเปี่ยมไอสังหารพุ่งมาหา
เขาเอี้ยวหน้าไปเล็กน้อย ก็เห็นหลิ่วเหยียนสาดสีหน้ามืดครึ้ม
มู่เฉินหรี่ตาลงจ้องมองหลิ่วเหยียนที่มีริ้วรังสีสังหารเย็นเยือกวูบไหวในดวงตา วันก่อนที่พวกเขาต่อสู้กัน ผลลัพธ์คือทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ถ้าเขาต้องสู้กับหลิ่วเหยียนอีกครั้งในตอนนี้ เขามั่นใจว่าจะเอาชนะอีกฝ่ายได้
เมื่อสายตาของทั้งคู่ฟาดฟันกันในอากาศ รังสีสังหารก็กระจายออก ชัดว่าทั้งคู่ไม่คิดข่มความอยากฆ่าในใจไว้แม้แต่น้อย
ขณะที่มู่เฉินกับหลิ่วเหยียนจ้องกัน ร่างในชุดขาวก็ปรากฏตัวช้าๆ บนยอดเขาที่พังทลาย ฟังยี่สวมชุดขาวและมีผมสีดำ ทำให้ดูเป็นอิสระมาก เขามองไฉ่เซียวด้วยสายตาล้ำลึกพลางประสานมือด้วยรอยยิ้ม “แม่นางน้อย การกระทำของข้าก่อนหน้าไม่เหมาะไม่ควรจริงๆ แต่ผลเทพมังกรหงส์เป็นสมบัติแท้จริงในเขตหลงเฟิ่ง หากหามาได้ก็จะสามารถสร้างกายามังกรแท้จริงหรือกายาหงส์ฟ้าแท้จริงได้อย่างแน่นอน ยิ่งกว่านั้นข้ายังได้ผลที่ยังไม่สุกไปแค่ผลเดียวจากสามผล เจ้ายังมีผลสุกอยู่ในมือสองผลเชียวนะ”
เมื่อได้ยินคำพูดนั่น ใบหน้าของมู่เฉินก็อดดิ่งลงไม่ได้ ฟังยี่วางแผนได้ลึกซึ้ง เขาเผยเรื่องผลเทพมังกรหงส์ต่อหน้าคนจำนวนมาก เขารู้ว่าแรงดึงดูดของผลไม้เทพนี้มีมากเพียงใด นี่เป็นสิ่งที่แม้แต่สระมังกรหงส์ก็ไม่สามารถเทียบได้
โห้!
อย่างที่มู่เฉินคาดไว้ เมื่อฟังยี่พูดจบ ความโกลาหลก็ระเบิดออกมาในพื้นที่นี้ สายตาร้อนรุ่มนับไม่ถ้วนราวกับต้องการแผดเผาพุ่งตรงมาที่ทั้งสอง
“พวกเขาได้ผลเทพมังกรหงส์สุกสองผลงั้นเหรอ?!”
“นั่นเป็นสมบัติยอดเยี่ยมที่สามารถช่วยสร้างกายามังกรแท้จริงหรือกายาหงส์ฟ้าแท้จริงได้เลยนะ!”
“…”
จอมยุทธ์นับไม่ถ้วนที่นี่ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำ ไม่ต้องกล่าวถึงคนทั่วไปเลย แม้กระทั่งจอมยุทธ์อย่างซูปี้เยี่ย หงหยูและคนอื่นก็อดไม่ได้ที่จะสายตาหดลง
มู่เฉินมองดวงตาแดงก่ำเหล่านั้นที่พุ่งตรงมาจากทุกทิศทางก็ขมดวคิ้วแน่น จากนั้นก็เหลือบมองไฉ่เซียว แต่ตอนนี้อีกฝ่ายไม่มีการแสดงออกใดบนใบหน้า นางมองฟังยี่ที่กำลังยิ้มบางด้วยสายตาไม่แยแส นางไม่พูดอะไรออกมาแต่ย่างก้าวไปข้างหน้าก่อนที่ร่างนางจะหายวับไป
จังหวะที่ไฉ่เซียวหายตัวไป ฟังยี่ก็หรี่ตาลงวาดตราประทับด้วยมือข้างหนึ่งก่อนจะกระแทกมิติตรงหน้าเบาๆ
“ตราประทับฝ่ามือมหาสูญ!”
เมื่อฟังยี่ตะโกนออกมา มิติตรงฝ่ามือก็บิดเบี้ยวก่อร่างเป็นตราประทับฝ่ามือไร้รูปร่างขนาดใหญ่ แม้ฝ่ามือยักษ์จะดูไร้รูปร่าง แต่พลังงานน่ากลัวที่บรรจุอยู่ภายใน กลับทำให้จอมยุทธ์นับไม่ถ้วนรู้สึกขนลุกชัน
วาบ!
แต่ก่อนที่ตราประทับฝ่ามือจะฉีกผ่านมิติ มิติตรงหน้าเขาก็แปรปรวนพร้อมกับมือเล็กปรากฏขึ้น นางงอนิ้วชี้ลงแตะที่ตราประทับฝ่ามือมหาสูญ
“สลาย!”
หญิงสาวเปิดริมฝีปากสีแดงชาดเล็กน้อย แสงสีขาวเบ่งบานออกมาจากนิ้ว ขณะที่มิติเกิดการกระเพื่อม เสียงอึกอักก็ดังขึ้น ก่อนที่ตราประทับฝ่ามือมหาสูญจะถูกนิ้วของนางเจาะทะลวงอย่างรวดเร็ว
แสงสีขาวทะลุผ่านตราประทับพุ่งไปที่กึ่งกลางหว่างคิ้วของฟังยี่อย่างรวดเร็วจนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ภายใต้เสียงอุทานตกใจนับไม่ถ้วนเมื่อมันทะลุผ่าน
ทว่าภายใต้อาการตกใจ กลับไม่มีเลือดไหลออกมาจากหว่างคิ้วของฟังยี่เลย ร่างเขากลายเป็นภาพโปร่งแสงจางหายไป ซึ่งนี่ก็คือภาพมายาเท่านั้น
ห่างออกไปหลายร้อยจั้ง ฟังยี่ก็ปรากฏตัวอีกครั้ง
เมื่อฟังยี่ปรากฏตัวทั้งบริเวณก็เงียบกริบ ราวกับถังน้ำเย็นสาดน้ำใส่สายตาแดงก่ำที่พุ่งตรงไปยังมู่เฉินและไฉ่เซียว พวกเขากลับคืนสู่ความสงบทันที
เพราะในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าโฉมสะคราญที่ติดตามมู่เฉินมีพลังน่ากลัวนัก!
พลังของนางสามารถเทียบได้กับจอมยุทธ์อย่างฟังยี่
หญิงสาวคนนั้นเป็นใครกัน?!
จอมยุทธ์นับไม่ถ้วนมองหน้ากัน ไม่กล้าแสดงความเอะอะออกมาอีกแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นภาพนี้ มู่เฉินก็ถอนหายใจโล่งออก การโจมตีกลับของไฉ่เซียวงดงามหมดจด เห็นได้ว่าฟังยี่พยายามใช้ผลเทพมังกรหงส์มาเป็นเหยื่อล่อเพื่อให้ทั้งคู่ถูกทุกคนรุมทึ้ง แต่ใครจะคิดว่าไฉ่เซียวจะโหดกว่า นางซัดการโจมตีออกมาตรงๆ แสดงถึงพลังน่าตกใจที่มี สร้างความตื่นตะลึงให้กับคนที่เบื้องล่าง
บนยอดเขาอื่นๆ หงหยู ซูปี้เยี่ย ติงเซวียนและจอมยุทธ์ที่มีชื่อเสียงระดับสูงต่างมองไฉ่เซียวด้วยสายตาผิดแปลกไป พวกเขาต้องรู้สึกตกใจอยู่ในใจ ไม่มีใครคิดเลยว่าหญิงสาวที่ดูเปราะบางจะมีพลังน่าสะพรึงกลัวที่สามารถเทียบกับฟังยี่ได้ มีปีศาจอัจฉริยะเช่นนี้ปรากฏตัวในภูมิภาคทางเหนือตั้งแต่เมื่อไรกัน?
ไฉ่เซียวยืนบนท้องฟ้าขณะมองฟังยี่ที่มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าด้วยสายตาไม่แยแส “ไม่ว่าแกจะพยายามยังไง ข้าก็ไม่ปล่อยแกไปวันนี้แน่”
ถ้าเป็นคนอื่นพูดแบบนี้ ก็คงจะเป็นตัวตลกเลยทีเดียว แต่หลังจากได้เห็นพลังของไฉ่เซียว ก็ไม่มีใครกล้าหัวเราะได้แต่ตกใจอยู่ในใจ ตอนแรกพวกเขาคิดว่าฟังยี่จะครองตำแหน่งยอดเยี่ยมที่สุดอีกครั้งในศึกมังกรหงส์ แต่ใครจะคิดว่าหญิงสาวที่ไม่รู้ที่มาที่ไปจะมีฝีมือไม่ด้อยกว่าอีกฝ่ายเลย
ดูเหมือนจะมีศึกยักษ์ชนยักษ์เกิดขึ้นในศึกมังกรหงส์เสียแล้ว
ได้ยินคำพูดของไฉ่เซียว สายตาของฟังยี่ก็หดลงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หัวเราะเสียงนุ่ม “ไม่รู้ว่าแม่นางเจ้าเป็นใคร? น่าจะไม่มีคนอย่างเจ้าอยู่ในหมู่จอมยุทธ์รุ่นใหม่ของภูมิภาคทางเหนือของเรานะ”
ไฉ่เซียวยังคงมีสีหน้าไร้อารมณ์ เมินเฉยต่อคำพูดของฟังยี่ นางหมุนตัวไปปรากฏตัวข้างมู่เฉินทันที
ฟังยี่ที่เห็นปฏิกิริยาของนาง ก็ยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร เขาไพล่มือข้างหนึ่งไว้ข้างหลังพร้อมกับสายตาล้ำลึกวูบไหวเล็กน้อย ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
ทันใดนั้นบรรยากาศในบริเวณนี้ก็เงียบลงอย่างผิดปกติ ทุกคนรู้สึกถึงคลื่นใต้น้ำที่ไหลระหว่างจอมยุทธ์ชั้นสูง ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้สู้กันที่นี่ เพราะทุกคนกำลังรอคอยจัตุรัสมังกรหงส์ที่จะเผยออกมา…
เมื่อพวกเขาขึ้นสู่จัตุรัสมังกรหงส์ การต่อสู้น่าตื่นตะลึงก็จะอุบัติขึ้นอย่างไร้ปรานี
มู่เฉินรู้สึกได้ถึงบรรยากาศใกล้จะหยุดนิ่งทั่วบริเวณนี้ ดวงตาเขาก็หรี่ลงพลางเร้าคลื่นหลิงในร่างกายเงียบๆ ภายใต้บรรยากาศเงียบงัน เขาได้กลิ่นพายุที่กำลังมาถึง
ตอนนี้มีจำนวนจอมยุทธ์ที่มารวมตัวกันที่นี่ราวหมู่เมฆ ฟังยี่ที่สามารถหลบได้อย่างปลอดภัยจากการโจมตีของไฉ่เซียวหลายครั้ง โยวหมิงที่ราวกับอสรพิษพิษร้ายและยังไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียวก็มองพวกเขาอยู่ข้างๆ
ขณะเดียวกันยังมีเทพธิดาไร้พ่ายซูปี้เยี่ย หงหยูแห่งแดนปีศาจ ติงเซวียนแห่งตระกูลจู้หลิง และแน่นอนหลิ่วเหยียนที่จับจ้องมองเขาด้วยสายตาอาฆาต
ทุกคนล้วนไม่ใช่คนที่ต่อกรได้ง่าย นอกจากพวกเขาแล้ว ยังมีจอมยุทธ์หลายคนที่ซ่อนพลังเอาไว้อยู่
บนจัตุรัสมังกรหงส์ครั้งนี้ไม่ขาดการต่อสู้อันดุเดือดแน่นอน
บรรยากาศหยุดนิ่งยังคงดำเนินต่อไป หลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมง สายตามู่เฉินก็หดเกร็ง เวลาเดียวกันสายตาของฟังยี่ โยวหมิงและคนอื่นก็เลื่อนขึ้นไปบนท้องฟ้า
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่มิติเริ่มบิดเบี้ยวพร้อมกับกลิ่นอายโบราณที่คลุมเครือแผ่ออกมา
โฮก!
เสียงมังกรและหงส์ฟ้าโบราณเคลื่อนผ่านมิติ คนนับไม่ถ้วนก็เบิกตากว้างเมื่อเห็นลานประลองขนาดมหึมาที่ไม่อาจมองเห็นจุดสิ้นสุดปรากฏขึ้นช้าๆ ในมิติที่บิดเบี้ยว
ลานประลองโบราณค้ำยันไว้ด้วยมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงตัวมหึมา หัวและหางของพวกมันเชื่อมต่อกันสร้างลานประลองทองคำที่แบ่งชั้นชัดเจน
คนนับไม่ถ้วนดวงตากลายเป็นสีแดง ในที่สุดจัตุรัสมังกรหงส์ก็ปรากฏขึ้นแล้ว!