ตอนที่ 498 ของฝาก

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 498

ของฝาก

เปรี้ยง! ทวนสีเงินของจูล่งกระแทกใส่กระบี่ของชินหลุนเข้าอย่างจังทำเอากระบวนท่าของชินหลินแทบจะชะงักไปทันที วิชากระบี่นี้เหมือนที่ท่านแม่ของมันใช้อยู่มาก แต่กลับมีความรู้สึกบางอย่างแปลกๆไปเมื่อท่านปู่ของมันเป็นคนใช้

เปรี้ยง!! ทวนของจูล่งปัดกระบี่ของชินหลุนอีกครั้งอย่างรุนแรงจนบรรยากาศรอบๆสั่นสะเทือน ตามปกติแล้วจูล่งมักจะไม่ปะทะกับศัตรูเพราะมีดวงตาสีเงินทำให้มองเห็นว่าศัตรูจะโจมตีมาแบบไหน การหลบสำหรับจูล่งจึงเป็นเรื่องง่ายมาก แต่เมื่อเจอกับกระบี่ของท่านปู่ ไม่ใช่แค่มองไม่ทันยังต้องใช้ทวนเข้าปักเพื่อหยุดกระบวนท่าอีกด้วย

วูบ….จูล่งเห็นชินหลุนเปิดช่องว่างเพราะแรงกระแทกเมื่อครู่ ทำให้จูล่งเรียกใช้เนตรแมงมุมทั้ง 8 ออกมาทันที พริบตานั้นร่างของจูล่งก็ทะยานเข้าไปหาชินหลุนอย่างเชื่องช้า พร้อมจ่อปลายทวนไปที่อกของชินหลุนแล้วหยุดเอาไว้

“ล่งเอ๋อ ข้าบอกเจ้าแล้วไงว่าอย่าใช้ท่านี้”ชินหลุนว่าพลางส่ายหน้าช้าๆหลังจากหลุดออกมาจากการควบคุมของดวงตาของจูล่ง

“ขอโทษขอรับท่านปู่ ข้าเคยชินไปหน่อย”จูล่งตอบพลางเก็บทวนของตนกลับมาอยู่ข้างตัว ช่วยไม่ได้นี่นาพอมันคิดจะโจมตีดวงตาทั้ง 8 ก็ใช้ออกมาเองทันทีเลย

“ล่งเอ๋อ เจ้าจะเอาแต่พึ่งพลังของดวงตาอย่างเดียวไม่ได้นะ”ชินหลุนว่าพลางส่ายหน้าช้าๆ

“เรื่องนั้นไม่ใช่เพราะท่านพ่อตอบโต้ท่านั้นไม่ได้หรือเจ้าคะ”เหม่ยหลินหัวเราะหลังจากเห็นพ่อสามีของนางสั่งห้ามไม่ให้จูล่งใช้เนตรแมงมุมเสียอย่างนั้น แต่ก็ช่วยไม่ได้หรอก วิชานี้ของจูล่งหากเป็นการสู้กันตัวต่อตัวไม่ว่าใครก็รับมือไม่ไหวหรอก แต่ถึงไม่ใช้วิชานี้ออกมาชินหลุนก็บุกเข้าไม่ถึงตัวจูล่งอยู่ดี เพราะกำลังของจูล่งเยอะกว่าชินหลุนมาก แถมยังสามารถอ่านกระบวนท่าได้ในพริบตา เพียงใช้ทวนของมันตีสวนทีเดียวกระบวนท่าอันแสนล้ำลึกของชินหลุนก็กระเจิงจนหมดอยู่ดี

“ต่อไปตาเจ้าแล้ว ให้ข้าดูหน่อยว่าเจ้าฝึกไปถึงไหน”ชินหลุนกระแอมออกมาเล็กน้อยพลางบอกให้เหม่ยหลินเป็นคนออกมาสู้บ้าง ส่วนไป๋หลินที่กำลังท้องอยู่โดนสั่งให้นั่งพักอยู่ที่กระท่อมข้างบ่อน้ำโดยไม่ให้เข้ามาร่วมฝึกฝีมือด้วย

“เจ้าค่ะ”เหม่ยหลินรับคำพลางเรียกกระบี่ออกมาทันที แม้นางจะไม่ค่อยได้ต่อสู้เท่าไหร่นักในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่ฝีมือนางก็ไม่ได้หย่อนลงเลยแม้แต่น้อย

“จูเอ๋อ เจ้าจะกลับพรุ่งนี้งั้นหรือ”แม่ของไป๋จูเหวินเดินเข้ามาหาไป๋จูเหวินและไป๋หลินที่นั่งอยู่หน้าบ้านด้วยท่าทีแข็งแรงดี ท่าทางไอเย็นที่แฝงอยู่ในตัวท่านจะหายไปหมดแล้ว แถมยังฝึกพลังวิญญาณได้แล้วด้วย

“ขอรับ ข้าจะแวะไปเยี่ยมคนของราชวงศ์ชินแล้วก็เดินทางกลับเขตอสูรเลยขอรับ”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มออกมาอย่างมีความสุข พาลูกๆมาเที่ยวหาท่านปู่ท่านย่าเช่นนี้เป็นเรื่องสบายใจที่เหมาะกับคำว่าครอบครัวจริงๆ

“เอาไว้เหลนของแม่เกิดแล้วก็พามาเยี่ยมอีกนะ”แม่ของไป๋จูเหวินยิ้มออกมาพลางมองไปที่ท้องของไป๋หลิน นางไม่ได้มีดวงตาแสนสะดวกอย่างของพวกไป๋จูเหวิน แต่เพราะพวกไป๋หลินมาอยู่ที่แดนลับแลนี่หลายอาทิตย์แล้ว ทำให้พอเห็นได้ว่าท้องของไป๋หลินโตขึ้นนิดหน่อย น่าเสียดายที่จะให้พวกลูกๆหลานๆอยู่ในเขตแดนลับแลนี้นานมากเกินไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นนางคงให้ไป๋หลินอยู่ที่นี่และคลอดที่นี่ไปเลย

.

.

“ท่านอาจูเหวินยินดีต้อนรับขอรับ”จักรพรรดิชินกล่าวต้อนรับทันทีที่ไป๋จูเหวินเดินทางเข้ามาในเขตวังหลวงของอาณาจักรชิน ยามนี้ตำแหน่งจักรพรรดิของอาณาจักรชินเปลี่ยนรุ่นไปสู่รุ่นหลานแล้ว จักรพรรดิชินยามนี้อายุน้อยกว่าเทียนหมิงบุตรชายของอู๋หมิงเสียอีก

“น้องชายเจ้าคือไป๋จูล่งสินะ ยินดีจริงๆที่ได้พบเจ้าตัวเป็นๆ”จักรพรรดิชินว่าพลางตรงเข้ามาหาไป๋จูล่งทันที แน่นอนว่าข่าวไป๋หลินตั้งท้องแล้วเป็นข่าวดี แต่สำหรับเหล่าชายหนุ่มแล้วยอดฝีมืออันดับ 1 มาเยือนเช่นนี้ก็ย่อมต้องรู้สึกตื่นเต้นเป็นธรรมดา

“ข้ามีนามว่าชินหาน มีศักดิ์เป็นญาติผู้พี่ของเจ้า เรียกข้าว่าพี่หานก็ได้”ชินหานว่าพลางยิ้มกว้างอย่างไม่ถือตัว ซึ่งนั่นเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว จักรพรรดิอาณาจักรชินที่พึ่งรับตำแหน่งมาได้ไม่กี่ปีจะไปถือตัวอะไรกับจักรพรรดิไป๋ผู้เปลี่ยนแปลงแผ่นดินกัน

“ขะ ขอรับ”จูล่งยิ้มออกมาด้วยท่าทีดีใจ เห็นพี่ชายหานใจดีและยอมรับตนเช่นนี้ก็ทำให้มันรู้สึกชอบอีกฝ่ายมากทีเดียว

“ในเมื่อข้าเป็นพี่เจ้าแล้ว เอาไว้มีเรื่องอะไรข้าจะขอให้เจ้าช่วยบ้างนะ”ชินหานว่าพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีหยอกล้อ ทำให้ไป๋จูเหวินต้องกระแอมออกมาเล็กน้อยเป็นการเตือน แม้จะพูดเล่นก็เถอะแต่คิดจะใช้ประโยชน์จากจูล่งนั้นไม่ง่ายหรอกนะ

“ล้อเล่นน่าขอรับ ว่าแต่ท่านอาข้าขอปรึกษาเรื่องที่คุยกันเอาไว้ในงานแต่งได้หรือไม่ขอรับ”ชินหานถามพลางเริ่มเปลี่ยนท่าทีเป็นจริงจังขึ้นมาอย่างกับคนละคนก่อนหน้านี้

“ได้สิ พวกลูกๆไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ พ่อขอคุยธุระกับชินหานหน่อย”ไป๋จูเหวินพูดจบก็เดินเข้าไปในวังหลวงพร้อมกับชินหาน ส่วนคนอื่นๆก็ได้แต่ตามบ่าวรับใช้เข้าไปยังห้องรับรองอย่างเคยชิน

“ท่านแม่ ข้าขอไปดูในเมืองได้หรือไม่ขอรับ”จูล่งว่าพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีร่าเริง มันไม่เคยมาอาณาจักรชินมาก่อนมันย่อมอยากออกไปดูในเมืองอยู่แล้ว

“ได้สิ แต่เจ้าต้องให้ต้าเฉียนกับต้าหวานไปด้วยนะ”เหม่ยหลินยิ้มพลางหันไปมองต้าเฉียนกับต้าหวานผู้ติดตามของจูล่ง แน่นอนว่าพวกนางพร้อมจะไปด้วยอยู่แล้ว

“งั้น ข้า….”ไป๋หลินเห็นจูล่งจะไปเที่ยวในเมืองก็พลันอยากจะไปด้วยทันที เพียงแต่..

“ไม่ได้/ไม่ได้”เสียงของชิงชิวผู้เป็นสามีและเหม่ยหลินมารดาของตนเองแทบจะตอบกลับมาพร้อมกันทันที

“เจ้าพึ่งเดินทางมาถึงยังเหนื่อยๆอยู่ ไปพักที่ห้องก่อนเถอะพรุ่งนี้ค่อยไปเดินเที่ยว”เหม่ยหลินพูดด้วยท่าทีจริงจังอย่างมากเช่นเดียวกับชิงชิวที่พยักหน้าอย่างเห็นด้วยอยู่ข้างหลัง

“โถ่ ท่านแม่แค่นี้เองไม่เป็นไรหรอก”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา พอนางท้องแล้วก็โดนจำกัดการเคลื่อนไหวสุดๆเลย นางเองก็ไม่ได้มาอาณาจักรชินมาตั้งหลายปี นางก็อยากไปเดินเที่ยวกับจูล่งนี่นา แต่ถึงจะส่งสายตาขอร้องไปแม่ของนางก็ไม่มีท่าทีจะยอมแม้แต่น้อย ท่าทางคำว่าพรุ่งนี้ของท่านจะถือเป็นเด็ดขาดแล้วแน่ๆ

“งั้นพี่สาวอยากได้อะไรหรือเปล่าขอรับ ข้าจะซื้อมาฝาก”จูล่งเห็นไป๋หลินโดนห้ามไม้ให้ออกไปก็คิดว่านางคงอยากได้อะไรบางอย่างแน่ๆก็เลยถามออกมาด้วยท่าทีซื่อๆ

“เจ้า…..”ไป๋หลินก็ทราบอยู่หรอกว่าจูล่งถามด้วยความไม่รู้ แต่เพราะจูล่งพูดออกมาเช่นนั้นทำให้ไป๋หลินจัดการจับแก้มของมันยืดออกเต็มแรงทันที แม้เกราะแมงมุมของมันจะทำให้นางยืดแก้มของมันได้ไม่มากก็ตาม

.

.

.

“น้องจูล่ง เจ้ากำลังมองหาอะไรงั้นหรือ”หลังจากออกมาเที่ยวชมเมืองได้พักหนึ่ง ต้าเฉียนก็สังเกตเห็นว่าจูล่งเหมือนกำลังมองหาอะไรอยู่ตลอดเวลา แต่ท่าทางจะยังหาไม่เจอเสียที

“ก็..ของฝากให้พี่ไป๋หลินไงล่ะขอรับ”จูล่งตอบออกมาตามตรง เพราะมันพึ่งบอกจะหาซื้อของมาให้พี่ไป๋หลินอยู่ไปนี่นา

“ให้ท่านไป๋หลินงั้นหรือ”ต้าเฉียนแสดงสีหน้าครุ่นคิดออกมาทันที ของฝากให้ไป๋หลินงั้นหรือ แม่จะฟังดูง่ายแต่ก็ยากในเวลาเดียวกัน ไป๋หลินเคยเป็นองค์หญิงมาก่อน ของที่นางอยากได้แล้วไม่ได้คงมีนับชิ้นได้เลยทีเดียว แถมจูล่งยังเดินผ่านร้านธรรมดาๆมาตั้งหลายร้านแล้ว เกรงว่าจะไม่เจอของถูกใจกระมัง

“จูล่ง เจ้านี่น่าสนใจดีนะ”ต้าหวานว่าพลางชี้ไปที่หน้าจอที่กำลังฉายภาพโฆษณาอยู่กลางเมือง หน้าจอเหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างมากทันทีหลังจบการแต่งของไป๋หลิน ยามนี้ในเมืองใหญ่อย่างอาณาจักรไป๋ อู๋ และ ชิน ต่างมีหน้าจอพวกนี้ติดตั้งเอาไว้กันทั้งนั้น

“งานประมูลงั้นหรือ แต่นี่มันจะเริ่มแล้วนะ”ต้าเฉียนถามด้วยท่าทีลังเล ภาพในหน้าจอนั้นบอกถึงงานประมูลขนาดใหญ่ที่กำลังจะจัดขึ้นในหอประชุมอาณาจักรชิน หากหาของในร้านธรรมดาไม่ได้บางทีของในงานประมูลอาจจะมีที่จูล่งสนใจก็ได้

“เช่นนั้นพวกเราลองไปดูกันเถอะ เผื่อจะมีของที่เจ้าต้องการไง”ต้าหวานว่าพลางยิ้มออกมา พวกนางเคยเข้างานประมูลมาบ้าง ในงานมักจะหาของน่าสนใจออกมาวางขายกันเต็มไปหมด ในนั้นน่าจะมีของที่ไป๋หลินพอใจบ้างสิ

“งั้นข้าจะลองไปดูขอรับ”จูล่งตอบพลางเดินไปที่หอประชุมตามที่ลงโฆษณาเอาไว้ในหน้าจอทีวี

แม้หน้าจอทีวีจะเป็นเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจ แต่เพราะมันพึ่งเปิดตัวได้ไม่นานทำให้คนที่จะมาลงทุนกับมันยังมีไม่มากแถมการส่งภาพและเสียงยังจำกัดอยู่ในวงแคบ รายการที่จะฉายในทีวีของเมืองนั้นๆก็จะเป็นสิ่งที่ถ่ายจากเมืองนั้นๆไม่ได้มีการส่งภาพและเสียงข้ามเมืองแต่อย่างไรเพราะเรื่องนั้นจะต้องรอให้ชิงจื่อพัฒนาต่อไปก่อน แต่การฉายภาพผ่านทีวีก็ใช้เงินมากอยู่ดี ทำให้คนที่จะใช้ทีวีโฆษณาสินค้าตนเองได้ต้องเป็นคนมีเงินมากจริงๆ อย่างเช่นการจัดประมูลครั้งใหญ่ครั้งนี้เองก็เป็นการรวมทุนของพ่อค้าใหญ่ของอาณาจักรชินหลายคนเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นงานใหญ่ที่มีแต่คนใหญ่คนโตเข้ามาเลยทีเดียว

“น้องชาย ที่นี่กำลังจัดงานประมูลอยู่ ไม่ใช่ที่มาเดินเล่นนะ”ระหว่างที่จูล่งกำลังพาพวกต้าเฉียนกับต้าหวานเดินเข้าไปในงานประมูล ชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาขวางเอาไว้เสียก่อน แม้จูล่งจะไม่ได้แต่งตัวบ้านนอกแบบสมัยก่อนแล้ว เพราะมีไป๋หลินจัดหาชุดมาให้ ทำให้จูล่งดูเหมือนคุณชายคนหนึ่งเลยก็ตาม แต่เมื่อเทียบกับชุดที่คนใหญ่คนโตทั้งหลายใส่มาอย่างเต็มยศเพื่อเข้าร่วมงานประมูลแล้วจูล่งก็ยังดูเรียบเกินไปอยู่ดี

“ไม่ใช่ว่างานประมูลเปิดให้เข้าได้อย่างอิสระงั้นหรือ”ต้าหวานถามพลางเดินออกมาข้างหน้า งานประมูลประกาศว่าเป็นงานประมูลเพื่อการกุศล เปิดให้ผู้สนใจเข้ามาร่วมประมูลได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องมีบัตรเชิญแท้ๆ

“แน่นอนว่าทุกคนสามารถเข้าได้ แต่ก็ต้องมีเงินพอประมูลด้วยนะ”ชายตรงหน้าตอบพลางส่ายหน้าช้าๆ แม้จูล่งจะแต่งกายดูดี แต่ก็ไร้เครื่องประดับใดๆ แน่นอนว่าต้าเฉียนกับต้าหวานเองก็เช่นกัน พวกนางแม้จะงดงามจนน่าตกตะลึง แต่ก็ไม่ได้สวมใส่ชุดหรูหราอะไรเพราะถือว่าตนเองเป็นผู้ติดตาม แถมเครื่องประดับบางชิ้นก็เกะกะหากต้องต่อสู้อีกด้วย

“น้องจูล่ง ก่อนออกมาคนของพี่หานมอบของสิ่งหนึ่งให้เจ้าจำได้หรือไม่ เอามันออกมาให้เจ้าหนูนี่ดูสิ”ต้าหวานยิ้มออกมาอย่างใจเย็น แม้พวกนางจะไม่ได้แต่งตัวหรูหราอะไร แต่ก่อนออกมาจากวังขุนนางคนหนึ่งได้ฝากตราราชวงศ์ชินเอาไว้ให้จูล่ง เพราะจูล่งเองก็ถือเป็นเชื้อพระวงศ์ชินเช่นกัน หากเกิดเรื่องอะไรเพียงชูมันออกมาก็ช่วยจบเรื่องได้ไม่ยากเลย

“นี่หรือขอรับ”จูล่งตอบพลางนำตราทองคำออกมาให้ชายหนุ่มตรงหน้าดู

“………”แทบจะทันทีที่เห็นตราทอง ชายตรงหน้าก็รีบหันหลังให้จูล่งทันทีราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะจำหน้าตนเองได้ แม้จะไม่ทันแล้วก็ตาม

“ขะ ข้าน้อยจะไปตามหัวหน้ามาขอรับ”ชายคนนั้นว่าพลางวิ่งหนีไปทันที ทำเอาต้าหวานกับต้าเฉียนได้แต่ส่ายหน้าช้าๆ