TQF:บทที่ 532 ความทรงจำถูกสะกด บรรลุปรากฏราชันย์จักพรรดิ์(1)
“ใครบอกว่าข้าจะอยู่กับเจ้า”
สีหน้าโม่ซวนซุนยังแย่อยู่ การบงการแบบไม่ถามความต้องการของตัวเองแบบนี้เขาเกลียดที่สุด
น้ำเสียงฉุนกึกทำให้คน 3 คนที่อยู่ข้างๆเปลี่ยนแปรงไปมาก พวกเขาคิดไม่ถึงว่าโม่ซวนซุนจะใจกล้าและไร้มารยาทได้ขนาดนี้
โดยเฉพาะหยินเฟิ่ง แม้แต่คนนิสัยเย็นชาอย่างนางยังมีท่าทีตระหนกตกใจ
ใครๆก็รู้ว่าอาจารย์ปู่ตรงหน้านี้เป็นเจ้าโถงวิหารสวรรค์ที่อายุมากที่สุด ตอนนี้ก็เปรียบเสมือนเทพคุ้มครองของวิหารสวรรค์ไปแล้ว อย่าว่าแต่เหล่าลูกศิษย์ของวิหารสวรรค์ที่ไม่กล้าเสียมารยาทกับเขาเลย ในทั้งผืนดินฉางไห่นี้ ก็ไม่มีใครกล้าไม่เคารพตาแก่ซอมซ่อคนนี้
“หืม เจ้าหนู เจ้าว่าอะไรนะ” ตาแก่ซอมซ่อเองก็รู้สึกแปลกใจมาก
เขาไม่ได้โกรธ กลับมีสีหน้าสนใจและสนุก พิจารณาเจ้าหนูเย็นชาตรงหน้าก่อนจะถามขึ้น “ทำไมถึงไม่อยู่กับข้า ต้องบอกเหตุผลดีๆมานะ ไม่อย่างนันอาจารย์จะลงโทษเจ้าให้สาสม”
“เจ้าไม่ใช่อาจารย์ข้า ข้ามีอาจารย์อยู่แล้ว ตอนนี้ข้าต้องการไปจากที่นี่ ข้าไม่อยู่ที่นี่กับพวกเจ้าหรอก”
ตอนนี้ในใจของโม่ซวนซุนมีแต่ร่างอันสลดใจและแววตาสิ้นหวังของนาง นึกถึงตรงนี้หัวใจเขาก็ปวดแปลบๆ “ข้าจะกลับไป ข้าต้องการพบภรรยาข้า”
“หืม…”
ตาแก่ซอมซ่อเลิกคิ้วขึ้นเบาๆเมื่อได้ฟังเหตุผลและได้เห็นแววตาเป็นห่วงและร้อนใจของเขา นัยน์ตาฉายแววเจ้าเล่ห์ขึ้น “เจ้าหนู แค่ผู้หญิงคนเดียวเอง ในเมื่อจากมาแล้วก็ช่างเถอะ ที่วิหารสวรรค์ของเรามีผู้หญิงสวยๆเยอะแยะ เจ้าจะมีกี่คนก็ได้ คนอื่นยังไม่ต้องพูดถึง เจ้าดูสิ ผู้หญิงคนนี้ตรงหน้านี่หน้าตาดีอยู่ใช่มั้ย ยังไงอาจารย์ยกนางให้เจ้าก่อนเป็นไง”
“เฮอะ นังสารเลวนี่ไม่คู่ควร…”
โม่ซวนซุนเหล่หยินเฟิ่งอย่างดูแคลน เอ่ยเสียงเย็น “เจ้าจะยกผู้หญิงทั่วใต้หล้าให้ข้าก็เปล่าประโยชน์ ข้าต้องการแค่ภรรยาของข้า ลาก่อน…”
ไม่ว่าอย่างไรที่นี่ก็คือวิหารสวรรค์เหมือนกัน ต่อให้โม่ซวนซุนจะโมโหยังไงเขาก็ลงมือไม่ได้ อีกอย่างด้วยวิทยายุทธของเขาตอนนี้ ไม่สามารถต่อกรกับใครในนี้ได้เลย
เรื่องแบบเอาไข่ไปโขกกับหินน่ะเขาไม่ทำหรอก
หยินเฟิ่งถูกคำของเขาทำร้ายศักดิ์ศรีอันสูงส่งของนางอย่างจัง ตาคู่สวยมีประกายแห่งความแค้นเคือง นางจ้องมองเขาด้วยความโกรธเคืองก่อนจะหันหลังจากไป
ในใจของนางยกผู้หญิงดื้อรั้นคนนั้นไปอยู่ในรายชื่อคนที่ต้องฆ่าให้ได้เรียบร้อย นางสาบานเลยว่าถ้ามีโอกาสได้เจอผู้หญิงคนนั้นอีก นางจะต้องฆ่าอีกฝ่ายให้ได้
“เจ้าหนู….”
ตาแก่ซอมซ่อจิ้มออกไปเบาๆร่างของโม่ซวนซุนแข็งทันที แต่เขายังสามารถพูดได้อยู่ โม่ซวนซุนมองคนตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าจะทำอะไร”
“เจ้าหนู จะใจร้อนไปทำไมกัน”
ตาแก่ซอมซ่อดูออกว่าโม่ซวนซุนเป็นคนแน่วแน่ จึงไม่ได้หยอกล้ออะไรเขาอีก “เจ้าหนู เจ้ารู้หรือว่าจะกลับไปได้อย่างไร การทะลุมิติไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยวิทยายุทธของเจ้าต่อให้อีก 10 ปีเจ้าก็ฉีกมิติออกไปหาภรรยาเจ้าไม่ได้”
“ข้าย่อมต้องหาวิธีได้อยู่แล้ว ไม่ต้องให้เจ้าเป็นห่วง” แม้รู้ว่าที่เขาพูดคือเรื่องจริง โม่ซวนซุนก็ยังมีท่าทีแข็งกร้าวอยู่ เพราะเขารู้สึกไม่ชอบใจกับคนของวิหารสวรรค์ที่นี่จริงๆ
“เจ้านี่น้า..”
แม้ต้องเจอกับเจ้าหนูที่ผยองถึงที่สุดอย่างเขาตาแก่ซอมซ่อก็ไม่รู้สึกโมโห ตาแก่ซอมซ่ออมยิ้มมองไปที่เขา “ในเมื่อเร็วๆนี้ยังกลับไปไม่ได้ เจ้าก็อยู่ที่นี่แล้วตั้งใจฝึกฝน อีกหน่อยวิทยายุทธสูงขึ้นเจ้าจะไปหาใครที่ไหนก็ง่ายขึ้นเยอะ เจ้าออกไปข้างนอกนั่นตอนนี้โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไร หากไม่ระวังอาจถูกคนอื่นทำร้ายได้ เจ้าจะเลือกทางเลือกแบบนี้ไปทำไมกัน”
“…”
โม่ซวนซุนที่ขมวดคิ้วอยู่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาสงบลงแล้วและเข้าใจดีถึงระยะห่างของวิทยายุทธตัวเองและเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธของผืนดินฉางไห่ เดินออกจากที่นี่ไปต้องเจออันตรายอีกมากมายแน่ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องหาวิธีกลับเลย
“จะให้ข้าอยู่ที่นี่ก็ได้ แต่พวกเจ้าต้องใช้วิธีที่จับข้ามาส่งข้ากลับไปบอกลาครอบครัวของข้าก่อน แล้วค่อยกลับมาที่นี่”
“เจ้าหนู แผนเจ้านี่ไม่เลวนะ” ตาแก่ซอมซ่อยิ้มตาหยี “แต่ถึงแม้ว่าการส่งเจ้ากลับไปจะไม่ใช่เรื่องที่ยากนัก แต่โชคชะตาของเจ้าพวกเราไม่สามารถแทรกแซงได้ ทุกเรื่องของเจ้า เจ้าจะต้องพึ่งตัวเองเท่านั้น เพราะฉะนั้นเจ้าน่ะทำใจให้สบายแล้วฝึกฝนอยู่ที่นี่ไปก่อน รอจนเจ้าควบคุมทุกอย่างได้แล้ว เจ้าจะทำอะไรก็ไม่มีใครมาห้ามเจ้า”
“ในเมื่อพวกเจ้าไม่ยอมส่งข้ากลับไปงั้นข้าก็ไม่ยอม” ใบหน้าหล่อเหลาของโม่ซวนซุนยะเยือกขึ้นไปอีก เกิดความโมโหในใจขึ้นอีกครั้ง คนตรงหน้านี่ล้อตัวเองเล่นอยู่ชัดๆ
“เจ้าหนูนี่ดื้อจริงๆ เจ้าเด็กรั้นที่ไม่เชื่อฟัง”
ตาแก่ซอมซ่อรู้ดีว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่ ส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ “เจ้าหนู เจ้าไม่รู้จักสงบลงบ้างเลย อาจารย์ต้องลงโทษเจ้าเด็กไม่เชื่อฟังก่อน”
พูดจบ เขาก็ไม่ให้โอกาสโม่ซวนซุนได้พูดอะไรอีก ลงมือทันมี ทันใดนั้นก็มีหมอกอบอวลขึ้นครอบอยู่เหนือโม่ซวนซุน ราวกับกำลังดำเนินการอะไรอยู่
———————————–