ตอนที่ 74

Rise of The Undead Legion

Chapter 74: การเตรียมการขั้นสุดท้าย

Warlord ยกขวานพาดไหล่ตัวเองแล้วมองไปรอบๆถึงการเข้าออกดันเจี้ยนของ Devastators เขาเพิ่งจะจัดการงูปีศาจเสร็จ

พวกปีศาจโผล่ออกมาจากน้ำแล้วเข้าโจมตีพวกเขาที่ชายฝั่งที่ซึ่งเป็นจุดที่พวกเขารอให้คนอื่นๆมารวมตัวกัน

เรือไม้สภาพโทรมๆจอดที่ริมบึง เพื่อที่จะข้ามไปให้ได้เร็วที่สุดเพื่อเข้าไปยังดันเจี้ยนโลก Devastators จำเป็นต้องข้ามแม่น้ำที่อันตรายนี้ไปด้วยเรือเหล่านี้

ผิวน้ำที่สั่นไหวไกลออกไปนั้นเป็นสัญญาณของมอนสเตอร์ในน้ำ บางทีอาจจะเรียกมันได้ว่าซากมอนสเตอร์ก็ได้

ถึงพวกเขาจะไม่ได้มีการป้องกันอะไรสำหรับมอนเตอร์ที่เข้าโจมตีแต่เรือนี้ก็ดีกว่าการที่ต้องว่ายน้ำไปเอง

แจ้งเตือนเกมโผล่มาตรงหน้าเขา เขาเปิดดูข้อความและหันไปหา Valentine

” นายคิดยังไงกับเรื่องนี้ Valentine ? “

[ ประกาศจากเซิฟเวอร์ ! ]

[ เควสพิเศษระดับ A : ดินแดนอันเดตยังไม่ได้เข้าควบคุมดันเจี้ยนโลกเขตแรกได้อย่างสมบูรณ์

แสดงความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวออกมา กำจัดขุมกำลังอันเดตในพื้นที่เพื่อยึดครองเขตแรกเอาไว้เพื่อเพิ่มเวลาในการอยู่ในโลกใต้ดิน

คุณมีเวลา 4 ชม.ในการยึดพื้นที่

โบนัส : เป้าหมายพิเศษ

อันเดตหนวด (ภาพอยู่ด้านล่าง ) กำจัดเป้าหมายนี้

รางวัลสำหรับเควส : +5 เลเวล , 25,000 ทอ. สกิลพิเศษ {Undead-Bane Sunder} ]

” โชคร้ายหน่อย ” – Valentine พูดขึ้น

” ทำไม ? ” – Warlord ถาม

” เราอาจจะเสียการครอบครองประตูไปแล้ว “

Valentine เปลี่ยนสลับช่องพูดคุยและบอกกับคนที่อยู่นอกดันเจี้ยน

” ฟัง ! สมาชิกทุกคนป้องกันประตูเอาไว้เต็มกำลัง ห้ามให้คนอื่นเข้า ! “

” นายไม่ทำเกินไปหน่อยหรือไง ? เราทำสัญญาเอาไว้แล้วไม่ใช่รึไง ? กิลด์ไม่ได้ผิดสัญญาเลยนิ “

” ฉันไม่ได้กังวลเรื่องกิลด์ คิดดูสิ 5 เลเวลกับสกิลพิเศษ บวกกับรางวัลในการอยู่โลกใต้ดินเพิ่ม กิลด์อื่นอาจจะบอกให้ผู้เล่นลาออกแล้วเข้ามาในดันเจี้ยน Devastators ต้องเป็นคนที่จัดการอันเดตหนวดนั่น ! “

Warlord หันกลับไปและเห็นสิ่งที่ Valentine คาดการณ์เอาไว้ พวกกิลด์อื่นๆต่างก็พากันเร่งรีบขึ้นมา

” เราต้องเร็วกว่านี้ ทีม A ไปหาอันเดตบัดซบนั่นและฆ่าเขาซะ ยอมเสียทุกอย่างเพื่อเอามันมาให้ได้ “

ระบบเกมได้ตั้งค่าเรือให้ทุกคนใช้งานได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนใช้เรือ มันก็จะมีเรือลำใหม่ปรากฏขึ้นมา

ผู้เล่นต่างก็รีบพากันลงเรือและมุ่งหน้าไปยังภูเขาที่ไกลออกไป

ตอนนี้ชายฝั่งเต็มไปด้วยเรือมากมาย ทุกคนต่างก็แข่งกันเพื่อไปยังอีกด้านให้ได้ก่อนคนอื่น

Warlord และปาร์ตี้ยืนเรียงแถวที่ริมบึงโดยยังไม่เคลื่อนไหวอะไร พวกเขาแปลกใจกับกลุ่มผู้เล่นที่ยืนอยู่ที่ริมฝั่ง คนเป็นพันเดินวนไปรอบๆแทนที่จะไล่ตามเควสที่เซิฟเวอร์ได้ประกาศออกมา

ทันทีที่เรือมาถึงอีกฝั่ง Warlord ได้กระโดดลงจากเรือและเดินแหวกผู้เล่นออกไป ในที่สุดเขาก็มาอยู่ด้านหน้าได้และหยุดไป สิ่งที่เขาเห็นนั้นคือสิ่งที่ไม่คาดคิดและไม่น่ายินดีที่สุด

หอคอยเป็นสิบแห่งโผล่ขึ้นมาในรูปแบบการป้องกันตรงหน้าทางเข้าถ้ำ

อันเดตมองลงมาที่ผู้เล่นผ่านช่องหน้าต่างและประตูหอคอย

หน้าต่างที่หอคอยเหล่านั้นชัดแล้วว่าเต็มไปด้วยเหล่าอันเดตระดับสูงพร้อมกับอาวุธที่ทรงพลัง พวกอันเดตยืนเรียงแถวกันอย่างกับกำแพงไม่เคลื่อนไหวโดยไม่ได้มีท่าทีอะไรต่อผู้เล่นที่เข้ามา มันก็แค่ยืนนิ่งและมองกลับมาเท่านั้น

พวกผู้เล่นต่างก็พากันตื่นเต้นกับ xp และของที่จะได้มา จากจำนวนศัตรูและเลเวลของพวกมันแล้ว ผู้เล่นหลายคนถึงกับกำอาวุธในมือแน่นจนเหงื่อชุ่มไปทั้งมือ

” รอที่นี่ก่อน ! ตั้งขบวน ! ” – Warlord สั่งการกระตุ้นผ่านช่องพูดกิลด์

กิลด์อื่นๆเองก็ทำเหมือนกัน พวกเขาจัดขบวนรบที่ริมฝั่งกันทันที

ไม่กี่นาทีริมฝั่งนั้นก็เต็มไปด้วยขบวนทัพผู้เล่นอัดแน่นกันเต็มไปหมด

หัวหน้ากิลด์ทั้งสองกิลด์ Zhang Shi กับ Wan Yi ได้ส่งสัญญาณให้กับ Warlock พวกเขากับรองหัวหน้าตัวเองได้เดินฝ่าขบวนทัพของ Devastators เข้าไปหา Warlock และ Valentine

หลังจากที่มาถึงตรงหน้า Zhang Shi ก็เริ่มพูด – ” เราต้องผ่านหอคอยพวกนี้ให้เร็วที่สุด ทางที่ดีที่สุดคือการโจมตีด้วยการส่งผู้เล่นที่เท่าๆกันในแต่ละกิลด์ออกไป “

Valentine ส่งข้อความหา Warlord ‘ พวกเขาพูดถูก กองกำลังแรกที่เข้าไปในเขตศัตรูจะได้รับความเสียหายมากที่สุดและอาจจะไม่ได้รางวัลอะไร กองกำลังผสมที่มีจำนวนเท่ากันในแต่ละกิลด์คงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว ‘

” ฉันเห็นด้วย เราจะส่งผู้เล่นเข้าไป 5,000 ตนและ 2,000 คนในทุกๆ 10 นาทีหลังจากนั้น ” – Warlord พูดขึ้นมา

Zhang Shi มองไปที่ Wan Yi แล้วพูดขึ้นมา – ” เราต้องร่วมมือกัน ฉันอยากให้ Blood Rage ไปยึดหอคอยและ Heaven’s Dawn เป็นแนวหน้า เราจะส่งกำลังเสริมไปในทุกๆส่วนและสลับกันเมื่อจำเป็น ” – Valentine พูดขึ้น

Valentine และ Warlord มองไปยังหัวหน้ากิลด์ทั้งสองที่ตอนนี้หน้านิ่งอยู่ มันเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ต่อทั้งสามกิลด์ถ้าพวกเขาไม่ร่วมมือกัน ในระยะยาวแล้วมันอาจจะเป็นหนึ่งรึทั้งสามกิลด์ที่พินาศไปพร้อมกับกิลด์อื่นที่จะเข้ามาแทนที่

” หือ นายส่งคนเข้าไปแนวหน้าสิ ! เราจะเสียผู้เล่นเยอะกับแผนนั้น มากกว่ากิลด์นายอีก ” – Wan Yi พูดขึ้นมา

” ฉันจะนำแนวหน้าเพื่อรักษาชีวิตคนอื่นให้ได้มากที่สุด เราต้องการให้ Blood Rage ไปยึดหอคอย เราปล่อยช่องว่างด้านหลังไม่ได้เผื่อว่าจะโดนลอบโจมตีโดยเฉพาะถ้ายังมีศัตรูคนอื่นตามหลังเรามา ” – Valentine ตอบกลับ

Wan Yi ถึงกับยอมสงบลง ทุกคนรู้ว่า Valentine เป็นการ์เดี้ยนระดับท็อปของเกม การมีเขาอยู่ที่แนวหน้านั้นจะทำให้คนตายน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสกิลสืบทอดที่เขามี

Valentine มีสกิลในการป้องกันผู้เล่นกลุ่มใหญ่พร้อมกันได้และตอนนี้สกิลนั้นก็พร้อมใช้งานแล้วด้วย

” เราจะเปิดฉากโจมตีแนวหน้าด้วยแทงค์และรับดาเมจจากอันเดตโจมตีไกล หน่วยโจมตีจะมีนักเวทย์ นักธนูและฮีลเลอร์คอยสนับสนุนโดยมีหน่วยปกป้องคอยระวังหลังให้ การโจมตีแนวหน้าจะมีโจรกับนักฆ่าคอยช่วยด้านปีกข้างๆ โจมตีหอคอยและกำจัดพวกนักธนู “- Valentine อธิบาย

” ฟังดูเป็นแผนที่ดี จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราไปเจอกับบอสเข้า ? ” – Zhang Shi ถาม

” ถ้ามันไม่ได้เฝ้าทางเข้าไว้ เราก็ไม่ต้องสนใจมัน เราจะกลับมาได้หลังจากที่เขตนี้เป็นของเราแล้ว เราไม่ต้องเสียเวลากับบอสหรอก เวลาของเควสกำลังนับถอยหลังเรื่อยๆ “

” ฉันจะส่งคนกิลด์ฉัน 5,000 คนให้ไปร่วมมือกับนายแต่พวกเขาต้องรับคำสั่งจากคนของฉัน ” – Zhang Shi พูดขึ้น

” ฉันจะสั่งการแทงค์กับแนวหน้าเอง ” – Valentine พูดขึ้นอย่างใจเย็น

Wan Yi ฮึดฮัดออกมา เขาหงุดหงิดกับความคิดที่จะให้การ์เดี้ยนมาเป็นผู้นำการโจมตีแม้ว่าจะเป็นกองกำลังแทงค์ก็ตาม

” โอ้ มนุษย์ยางลบจะนำสินะ ? “

” เราจะเสียแทงค์น้อยลงถ้าฉันนำและอย่าเรียกฉันแบบนั้นอีก ” – ในตอนที่เขาพูด Valentine ก็ได้มองไปที่ Wan Yi สายตานั้นแฝงความอาฆาต ฆ่าหรือไม่ฆ่าน่ะเครื่องจักรไม่ได้สนใจหรอก มันจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อสร้างเส้นทางที่มันเลือกไว้แล้ว

อยู่ๆก็มีคำพูดขัดขึ้นมา – ” เรามีเป้าหมายเดียวกัน ตอนนี้เราต้องร่วมมือกัน มาสรุปและให้ความเคารพกันหน่อยเถอะ ” – Zhang Shi พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงใจเย็น

” ฉันขอให้ Sand Strom นำพวกโจรเพื่อไปกำจัดนักธนู ตกลงหรือเปล่า ? ” – Zhang Shi ผายมือให้กับผู้ช่วยของเขา

” ฉันได้ยินเรื่องเธอและผลงานเธอมา ” – Warlord มองไปที่นักฆ่า – ” เธอเป็นตัวเลือกที่ดีในการเข้าโจมตีหอคอย “

เธอพยักหน้าให้กับ Warlord ก่อนจะหายตัวไปจากสายตาแล้วเดินจากไป

Warlord กรอกตาใส่และมองไปที่มือขวาของกิลด์ Heaven’s Dawn ตามข่าวลือที่บอกมา รองหัวหน้าคนนี้คือคนที่อยู่เบื้องหลังอำนาจของกิลด์

” งั้นฉันจะนำพวกนักเวทย์เอง ” – ผู้เล่นข้างๆ Wan Yi พูดขึ้น

ถ้าเป็นผู้เล่นคนอื่นพูดแบบนี้ออกมา เขาคงไม่ได้รับการสนใจแต่ไม่ใช่ตัวละครที่มีการสืบทอดคลาส A แบบนี้ Star Mage

” ถ้าเราตกลงกันแล้ว งั้นก็เริ่มลงมือในอีก 3 นาที “

ผู้เล่นได้แบ่งกันเป็นกลุ่มและสร้างช่องพูดคุยออกมาในหน่วยของตัวเอง

เอาสั้นๆคำสั่งที่พวกเขาจะได้รับก็จะมาจากหัวหน้าตามหน่วยของพวกเขา

Valentine ได้นำทัพแนวหน้าออกไป ผู้เล่นพวกนี้มีเกราะ, อาวุธและเผ่าที่ผสมปนเปกันไปแต่จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมากเพราะพวกเขาต่างก็เป็นแทงค์ เบอร์เซิคเกอร์ การ์เดี้ยนและนักสู้

ห่าธนูถูกยิงลงมาจากหอคอยแผ่ไปทั่วท้องฟ้าดำดิ่งลงมาใส่หน่วยแนวหน้า

นัเวทย์ตอบโต้ทันทีด้วยการใช้โล่, บัฟและสกิลควบคุมเพื่อลดดาเมจ ฮีลเลอร์รีบพากันทำงานทันที พวกเขาต่างก็ใช้พลังที่ตัวเองมีออกมาอย่างรวดเร็ว

กองทัพอันเดตที่พื้นดินในที่สุดก็ตอบโต้ พวกมันพุ่งเข้าใส่ผู้เล่นราวกับคลื่นยักษ์ที่ถามโถมทำลายผู้เล่นไปได้มากมาย

ผลของความกลัวจากการที่เกมอัพเดตนี้แผ่ไปทั่วกองทัพในหมู่ผู้เล่นที่จิตใจอ่อนแอ บางคนถึงกับเซและล้มลงไป บางพวกโดนเหยียบและขบวนทัพก็เริ่มระส่ำระสาย

ด้วยความได้เปรียบจากการที่ไม่มีความกลัว พวกอันเดตยังคงเดินหน้าต่อ ถ้าแขนของมันขาดข้างหนึ่ง มันก็ยังเหลืออีกข้าง ถ้าพวกมันเสียฟันไป พวกมันก็ยังเดินหน้าต่อได้ มีแค่ความตายที่หยุดพวกมันได้

” คงขบวนทัพเอาไว้ ! แนวหน้าตึงกำลัง ยกโล่ขึ้น ! ” – Valentine ตะโกนขึ้นมา

ที่มือของเขามีบอลแสงขนาดเท่ากับหัวคทา เขายังคงตะโกนสั่งการให้การ์เดี้ยนใช้อาวุธตัวเองจัดการกับศัตรูทีเข้ามาและทำลายพวกมันให้กับผู้เล่นคนอื่นๆ

Valentine ได้ใช้อีกสกิลที่สร้างชั้นหุ้มบางๆให้กับผู้เล่นลดดาเมจลงไปได้บ้าง

อันเดตหลายตัวนั้นเลเวลต่ำกว่า 300 แต่จำนวนของพวกมันทำให้กองทัพผู้เล่นเดินหน้าได้ช้าลง

ผู้เล่นที่โชคร้ายคนหนึ่งโดนโจมตีจนหลุดขบวนทัพ พวกมอนสเตอร์พากันรุมทึ้งเขาทันทีจนมีแต่เสียงร้องที่ดังขึ้นมา ไม่นานพวกมอนสเตอร์ก็พาแยกตัวกันออกโดยไม่มีวี่แววของผู้เล่นคนนั้นเหลืออยู่เลย แม้แต่เศษกระดูกก็ยังไม่มี

โครงกระดูกในหอคอยยังคงยิงธนูและหน้าไม้ออกมาไม่หยุด มันไม่ต่างอะไรจากพายุธนูเลย

” หอคอยยิงเราอยู่ เกิดอะไรขึ้นกับพวกโจร ? ” – ผู้เล่นในหน่วยแทงค์ตะโกนขึ้นมา

ตามแผนแล้วหัวหน้ากิลด์ทั้งสามจะคอยพูดคุยกันและแบ่งปันข้อมูลกันอยู่ตลอด

” ส่งชุดสองเข้าไป ! ” – Warlord สั่งการออกมาและกองทัพผู้เล่นที่อยู่ที่ชายฝั่งก็ได้เดินหน้าเข้าไปสนับสนุนชุดแรก

” พวกโจรไปเจอกับ Death Knight เลเวล 400 เข้า Sand Strom คิดว่าคงใช้เวลา 5 นาทีในการจัดการมัน จากนั้นเราค่อยไปถึงหอคอยได้และเดินหน้าไปยังหอคอยอื่นต่อ ” – Zhang Shi รายงาน

” เวรเอ้ย ถ้ามี Death Knight อยู่ในแต่ละหอคอย เราคงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชม.ในการฝ่าไปแต่ละที่ ฉันว่าเราส่งหน่วยโจรทั้งหมดที่มีไปช่วยจัดการบอสเลเวล 400 ที่นั่นกันเถอะ “

“ฉันเห็นด้วย “

” ฉลาดดี ฉันก็เห็นด้วย “

” เราเสียหน่วยโจมตีไป 5% เพื่อลดความสูญเสียและช่วยประหยัดเวลา เราจะโจมตีแค่ 6 หอคอยแทนที่จะเป็น 12 หอคอย ด้วยกำลังฮีลที่มี แทงค์สามารถรับดาเมจจากหอคอยที่เหลือได้นานพอจะไปถึงวิหารนั่นได้ ” – Wan Yi พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

” เราควรฆ่าทุกอย่าง การปล่อยศัตรูไว้ด้านหลังมีแต่จะโดนล้อม ” – Warlord พูดขึ้น

” ถ้าเราจะฆ่าทุกตัวในหอคอยพวกนั้น เราไม่มีทางทันเวลาที่จะทำเควสนี้หรอก ” – Wan Yi พูดขึ้น

” Wan Yi พูดมีประเด็น ” – Zhang Shi พูดขึ้นมา

” เอาล่ะ ทำตามแบบที่นายบอกละกัน Zhang Shi ส่งคำสั่งไปให้หน่วยโจรด้วย ฉันจะบอกกับ Valentine “

Warlock มองไปที่ขบวนทัพเสริมกับจุดที่กำลังต่อสู้อยู่ โอกาสที่จะทำเควสสำเร็จก่อนเวลาจะหมดนั้นกำลังนับถอยหลัง หน่วยจู่โจมกำลังสู้กับเวลา ถ้าการต่อสู้นี้ไม่จัดการให้เสร็จโดยเร็วไม่ได้ งั้นพวกเขาคงต้องใช้สกิลสืบทอดเพื่อผ่านมันไป