บทที่ 441 ทำผิดอย่างไรได้รับกรรมอย่างนั้น

The king of War

แล้วคนที่กล้าเข้ามาแย่งประมูลราคาในเวลาแบบนี้ นอกจากหวงเจิ้งแห่งเทืองเยี่ยนตูแล้ว ยังจะเป็นใครได้อีก ?

เย่เสี่ยวเตี๋ยหรี่ตายิ้มมองไปยังหวงเจิ้ง ในตอนที่จ้องมองหวงเจิ้งอยู่นั้น เหมือนกำลังมองดูคนตายคนหนึ่ง

เธอรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยอยู่ในใจ เธอรู้ว่าหยางเฉินเป็นคนที่มีอำนาจ และก็รู้ด้วยว่าหยางเฉินเป็นคนที่ชอบใช้กลยุทธ์มากกว่าใช้กำลังเอาชนะ

การกระทำของหวงเจิ้ง ถือเป็นการปิดทางให้กับการผ่อนคลายความสัมพันธ์ของหยางเฉินกับตระกูลหวงในอนาคตอย่างเห็นได้ชัด

หยางเฉินและเย่เสี่ยวเตี๋ยรู้ว่าหวงเจิ้งคือใคร แต่คนอื่นๆ นั้นไม่มีใครรู้จักเลย แล้วในทันใดนั้นภายในห้องโถงก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมา

“โห!คนโง่จากไหนกัน?บังอาจกล้ามาแย่งประมูลกับคุณเฉิน นี่สมองโดนลาเตะออกไปแล้วหรือไงกัน ?”

“นี่มันคนโง่ชัดๆ ไม่รู้เลยหรือไงว่าคุณหยางคือใคร ?”

“ผมดูแล้ว เจ้าโง่นี่ อีกเดี๋ยวจะต้องได้ชดใช้อย่างสาหัสแน่นอน”

สายตาของผู้คนเต็มไปด้วยความเฝ้ารอ

หวงเจิ้งทำทีเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่หรี่ตาลงมองหยางเฉินแล้วพูด : “ไอ้หนุ่ม ถ้าหากตอนนี้นายเปลี่ยนใจ ยอมมาจำนนต่อตระกูลหวง ที่ดินผืนนี้ฉันจะยกให้ฟรีๆ เลย”

“ตระกูลหวง?ตระกูลหวงไหนกัน?”

“ในเมืองเจียงผิงกับเมืองหนานหยัง มีตระกูลหวงด้วยหรอ ?”

“เจ้าโง่นี่ คิดว่าตัวเองคือใครกัน ?ถึงได้กล้าคิดจะให้คุณหยางยอมจำนนด้วย ดูแล้วหมูยังฉลาดกว่าเขาเสียอีก”

“รีบหุบปากเลย!ตระกูลหวงที่กล้ามาสั่งให้คุณหยางยอมจำนนด้วย นอกจากตระกูลหวงหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูแล้ว ยังจะมีตระกูลหวงไหนอีก ?”

ในที่สุด ก็มีคนที่รู้จักตัวตนของหวงเจิ้ง เหล่าเศรษฐีที่เพิ่งจะพูดจาด่าทอหวงเจิ้งเมื่อสักครู่นี้ ในตอนนี้ต่างก็พากันปิดปากเงียบทันทีด้วยความตกใจจนตัวสั่นเทา

พวกเขาที่เดิมทีคิดจะประจบประแจงหยางเฉิน ทว่าตอนนี้คู่แข่งของหยางเฉินเป็นถึงตระกูลใหญ่หนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู

“หนึ่งพันล้าน!”

แล้วในตอนที่หยางเฉินกำลังจะเสนอราคาประมูลอีกครั้ง ขณะเดียวกัน คนที่ข้างๆ เขาอย่างเย่เสี่ยวเตี๋ย ก็ชูป้ายขึ้นอย่างกะทันหัน

เพียงเอ่ยปากพูด ทุกคนในงานถึงต้องตกตะลึง!

“หนึ่งพันล้าน?”

“แม่เจ้า!ที่ดินที่เริ่มประมูลที่หนึ่งร้อยล้าน กลับมีการประมูลเพิ่มสูงเป็นสิบเท่าแล้ว !”

“สาวสุดสวยคนนี้ เป็นใครอีก?”

ฉากในตอนนี้ดุเดือดอย่างถึงที่สุด กรรมการการประมูลตื่นเต้นจนพูดไม่ปะติดปะต่อกัน : “พัน……หนึ่งพันล้าน!คุณผู้หญิงคนนี้ประมูลราคาอยู่ที่หนึ่งพันล้าน !ยังมีท่านไหนที่จะประมูลอีกหรือไม่ครับ?”

ใบหน้าของหวงจิ้งมีเพียงความเย็นชา และความอึมครึมที่แทบจะทะลักออกมา

เขารู้ว่าเงินที่หยางเฉินสามารถนำออกมาได้นั้นจำกัดอยู่ที่หนึ่งพันล้านเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็ไม่ได้อยู่ในมือของเขาเพียงคนเดียว เงินหนึ่งพันล้านจึงไม่สามารถนำออกมาใช้เลยด้วยซ้ำ

ดังนั้นเขาถึงได้เตรียมเงินหนึ่งพันล้านมาร่วมงานประมูลครั้งนี้ เพื่อที่จะได้ครอบครองที่ดินริมแม่น้อยเหล่าหลงผืนนั้น แล้วสร้างสุสานขึ้นมาเพื่อรังควานหยางเฉิน บังคับให้หยางเฉินยอมจำนน

แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่คาดคิดเลยก็คือตระกูลเย่ที่เข้ามายุ่งเรื่องนี้ด้วยอย่างกะทันหันแบบนี้

“ตระกูลเย่ นี่คิดจะเข้ามายุ่งงั้นหรอ?”

หวงถามพลางมองไปยังเย่เสี่ยวเตี๋ยด้วยสายตาเกลียดชัง

เย่เสี่ยวเตี๋ยยิ้มแป้นออกมา: “อาหวงกำลังพูดอะไรกันคะ ?มีเพียงแค่ตระกูลหวงที่ได้รับอนุญาตให้ประมูลได้ แต่ตระกูลเย่ของเราจะร่วมประมูลด้วยไม่ได้หรอคะ?”

“อย่ามาเรียกกันอย่างสนิทสนมแบบนี้ ฉันไม่ได้มีหลานสาวอย่างเธอ!”

หวงเจิ้งพูดอย่างเย็นชา: “ฉันขอเตือนเลยว่าเธอยอมแพ้การประมูลนี้ซะจะดีกว่า!”

“ทำไมคะ?ตระกูลหวงกลัวแล้วงั้นหรอคะ?”

เย่เสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยสีหน้าที่ยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“1001ล้าน!”

หวงเจิ้งที่คร้านจะพูดพร่ำ ร้องเสนอราคาประมูลต่อ

ครั้งนี้ เขาเพิ่มเพียงแค่เพียงหนึ่งล้านเท่านั้น

“อาหวง เมื่อกี้คุณยังใจป้ำเพิ่มราคาประมูลถึงห้าร้อยล้านเลยเชียวนะคะ ตอนนี้ไม่มีเงินแล้วหรอคะ ?ทำไมถึงเพิ่มแค่ล้านเดียวล่ะคะ?” เย่เสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยหน้าที่ยิ้มระรื่น

สำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องบางก็คิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเย่เสี่ยวเตี๋ยกับหวงเจิ้งนั้นเป็นอาหลานกันแล้วจริงๆ

ส่วนเหล่าเศรษฐีที่อยู่ในงาน ตอนนี้ต่างก็นิ่งงันไม่มีใครกล้าเอ่ยปากพูดเลยสักคน

เย่เสี่ยวเตี๋ยนั้นได้มีการเปิดเผยเรื่องตระกูลของเธอไปแล้ว ทั้งสองต่างก็เป็นตระกูลใหญ่ที่เป็นคู่แข่งกันจากเมืองเยี่ยนตู แล้วแบบนี้ยังจะมีพื้นที่ส่วนไหนให้คนอย่างพวกเขาที่เหลือมีสิทธิ์พูดได้อีก ?

และเป็นเพราะหวงเจิ้งและเย่เสี่ยวเตี๋ย คนจำนวนมากจึงลืมเรื่องที่หยางเฉินยังอยู่ที่นี่ไป

“นี่เธอรนหาที่ตายแล้ว!”

หวงเจิ้งร้องตะโกน พลางยกป้ายขึ้น: “1500ล้าน!”

เขาถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด แต่ในตอนที่เขายกป้ายขึ้น จู่ๆ ก็มองเห็นใบหน้าอันบอบบางของ เย่เสี่ยวเตี๋ย ปรากฏสีหน้าหยอกล้อออกมา

ทันใดนั้นเขาก็เกิดความรู้สึกไม่ดีขึ้น พร้อมกับความรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เลือกทำลงไป

มาเจียงโจวครั้งนี้ เขาเตรียมมาเพียงหนึ่งพันล้านหยวนเท่านั้น แล้วหนึ่งพันห้าร้อยล้านจะมาจากไหนกัน ?

เขาที่เดิมทีหวังจะบีบบังคับหยางเฉิน กลับคิดไม่ถึงว่าจะทำให้เย่เสี่ยวเตี๋ยระเบิดออกมาแทน

ส่วนหยางเฉิน กลับยังทำตัวเหมือนคนไม่รู้ร้อนอะไร นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งจ้องมองไปด้านหน้า

“1500ล้าน!1500ล้าน!ยังมีใครประมูลเพิ่มอีกไหมครับ?”

กรรมการการประมูลตื่นเต้นจนแทบบ้าแล้ว

ในฐานะหัวหน้ากรรมการการประมูลของคลับหลงเถิง ในทุกงานประมูล เขาจะได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการประมูลด้วย

หรือจะอีกนัยหนึ่งก็คือยิ่งราคาการประมูลสูงมากกว่าราคาแรกเริ่มมากเท่าไหร่ เงินค่าคอมมิชชั่นที่เขาจะได้ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

ราคาการประมูลต่ำสุดเริ่มที่หนึ่งร้อยล้าน ตอนนี้เพิ่มถึงสิบเท่า เพียงแค่การประมูลจบลง เงินที่เขาจะได้รับก็ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกตะลึงกันเลยทีเดียว

“แม่หนู เมื่อกี้นี้เธอยังโอ้อวดบอกว่าฉันจนไม่ใช่หรือไง ?ตอนนี้ ยังมีใครกล้ามาประมูลแข่งกับฉันอีก?”

หวงเจิ้งแสร้งทำเป็นนิ่งสงบ หรี่ตาลงพูด

แต่เย่เสี่ยวเตี๋ยกลับยิ้มรับ: “น้าหวงเป็นถึงผู้สืบทอดคนต่อไปของตระกูลหวง หนูก็แค่พูดล้อเล่นเท่านั้น คุณจะไปจนได้ยังไงล่ะคะ ?”

“หมายความว่าไง?”

ในใจของหวงเจิ้งมีความรู้สึกไม่สู้ดีอย่างมาก แต่เขาก็ยังพูดเยาะเย้ย: “ทำไม?นี่เธอคิดจะยอมแพ้การประมูลแล้วงั้นหรอ?แบบนี้ว่าตระกูลเย่ของเธอ ยอมแพ้ต่อตระกูลหวงแล้วด้วยหรือเปล่า ?”

“อาหวง พูดกับคุณตามตรงเลยนะคะ ในมือของหนูอย่าว่าแต่ 1500ล้านเลยค่ะ แม้แต่ 100ล้านหนูก็ยังไม่มีเลยค่ะ หนูจน !”

“อีกอย่างก็บอกไปแล้วว่าเมื่อกี้หนูก็แค่พูดล้อเล่นเท่านั้น หนูจะกล้าไปแย่งที่ดินผืนนั้นกับอาหวงได้ยังไงกันคะ ?”

“หนูเป็นแค่ผู้หญิงบอบบางคนหนึ่งเท่านั้น ตอนอยู่ใน ตระกูลเย่ก็ไม่ได้เป็นคนสำคัญอะไร แบบนี้หนูจะเป็นตัวแทนของตระกูลเย่ได้อย่างไร?”

“ถ้าหากว่าน้าหวงอยากจะแข่งขันกับ ตระกูลเย่จริงๆ ล่ะก็ อย่างนั้นไปหาคุณพ่อของหนูเถอะค่ะ !มาแข่งกับหนู ไม่ใช่ว่าคุณกำลังลดฐานะตัวเองไปหน่อยหรอคะ ?”

เย่เสี่ยวเตี๋ยยิ้มอย่างมีความสุข ใบหน้าเต็มไปด้วยสะใจจากแผนการที่บรรลุเป้าหมาย

คราวนี้ หวงเจิ้งนิ่งอึ้งอย่างสุดขีด

เดิมทีนี่เป็นการแข่งขันกับหยางเฉิน และเขาก็หวังจะใช้การประมูลครั้งนี้บังคับให้หยางเฉินยอมแพ้ แต่เย่เสี่ยวเตี๋ยกลับมาขัดขวางแผนการของเขาเสียอย่างนั้น

อีกทั้งยังต้มเขาซะเปื่อยเลยด้วย!

ถ้าหากเรื่องนี้ดังกลับไปถึงตระกูลของตัวเอง ว่าตัวเขานั้นแพ้ให้กับเด็กน้อยจากตระกูลเย่ ทั้งยังเป็นเด็กสาวอีกด้วย แบบนี้เขาหวงเจิ้งจะเงยหน้ายอมรับได้อย่างไร ?

หวงจงถูกบังคับให้คุกเข่า ถึงได้ถูกขับออกจากตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูล

จากเรื่องก็สามารถบอกได้แล้วว่าตระกูลหวงนั้นให้ความสำคัญกับเรื่องเกียรติยศมากขนาดไหน ตอนนี้เขาดันแพ้ใต้กำมือของเด็กสาวจากตระกูลเย่ อย่างนี้ตระกูลหวงจะยอมให้อภัยเขาได้อย่างไรอีก ?

และที่สำคัญคือ ในมือของเขาตอนนี้ไม่มีเงิน 1500ล้านด้วยซ้ำ

และหากไม่มีคนเข้าประมูลเพิ่ม เขาก็จะต้องได้รับความอับอายยันต้นตระกูล ถ้าถึงเวลานั้นไม่มีเงินซื้อที่ดิน ควรจะทำยังไงดี ?

“อาหวง สีหน้าของคุณดูเหมือนจะไม่สู้ดีเลยนะคะ คุณคงไม่ได้ป่วยหรอกใช่ไหมคะ?”

เย่เสี่ยวเตี๋ยทำเป็นพูดด้วยความประหลาดใจราวกับแม่มดน้อยคนหนึ่ง แล้วจากนั้นเธอก็ส่ายหน้า ทำเป็นเหมือนกำลังพูดกับตัวเอง : “ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ เมื่อกี้นี้อาหวงยังดีๆ อยู่เลย ในระยะเวลาสั้นแบบนี้จะป่วยได้ยังไงกัน ?”

“ถ้าไม่ป่วย แล้วสีหน้าของอาหวงจะดูแย่ลงได้ขนาดนี้ยังไงกันล่ะ ?”

“เอ๊ะ!อาหวง สีหน้าของคุณดูแย่ลงกว่าเดิมแล้ว คุณเป็นอะไรกันแน่คะเนี่ย ?”

“อ๊า!หนูเข้าใจแล้ว!”