ตอนที่ 451 แฟชั่นโชว์

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

ลอว์เรนซ์คงแค่ขอให้นิตยสารแฟชั่นปารีสแนะนำเดอะควีนให้เป็นอย่างมากที่สุด แต่ตอนนี้เขาตกลงจะเขียนบทความถึงเดอะควีนด้วยตัวเอง! 

 

 

ฉู่หลิงไม่รู้สึกตื่นเต้นกับคำสัญญาของลอเรนซ์ เขามองลอเรนซ์ด้วยรอยยิ้มจางๆ และส่ายศีรษะ “นั่นยังไม่พอ อย่างน้อย… คุณควรตีพิมพ์เป็นฉบับพิเศษให้ผม” 

 

 

“ตีพิมพ์ฉบับพิเศษเหรอ” ลอเรนซ์ขมวดคิ้ว ไม่เคยมีแบบอย่างนี้มาก่อนสำหรับแฟชั่นปารีส ถ้าพวกเขาทำ… ลอเรนซ์จ้องหน้าฉู่หลิงอย่างครุ่นคิด “เงินขาดมือหรือไง” 

 

 

ถังซีอึ้ง “…” คุณเดาถูก! 

 

 

ฉู่หลิงยิ้มมุมปาก “ใช่ ผมเป็นหนี้หลายสิบล้านดอลลาร์ คุณจะตกลงไหมล่ะ” 

 

 

“ตกลง” ลอเรนซ์หัวเราะ “ถ้ามีผลงานที่ทำให้ผมประทับใจ ไม่อย่างนั้นไม่มีทาง” 

 

 

ฉู่หลิงดีดนิ้ว “ตกลง! เข้าไปนั่งได้เลย” จากนั้นเขาก็ขอให้พนักงานต้อนรับนำลอเรนซ์และคาร์ลเข้าสู่พื้นที่จัดโชว์ 

 

 

หลังจากลอเรนซ์และคาร์ลเข้าไปในพื้นที่สำหรับแขกพิเศษแล้ว ถังซีก็มองฉู่หลิงขึ้นๆ ลงๆ “ปรากฏว่าคุณรู้จักกับลอเรนซ์และคาร์ล! ฉันไม่เคยได้ยินคุณพูดถึงเรื่องนี้เลย ทำไมคุณถึงทำตัวเหมือนคนไม่มีชื่อเสียงอะไรเลยแบบนี้” 

 

 

เธอปลาบปลื้มนักหนาที่สามารถเชิญลอเรนซ์และคาร์ลมาร่วมชมแฟชั่นโชว์คร้้งนี้ได้ แต่ท่ามกลางความประหลาดใจของเธอ ฉู่หลิงคืออัลวิน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของลอเรนซ์และคาร์ล! ถ้ารู้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ เธอก็ไม่จำเป็นต้องชวนพวกเขามาร่วมชมด้วยตัวตนของถังซีหรอก ฉู่หลิงเองก็สามารถเชิญพวกเขามาชมโชว์ครั้งนี้ได้อย่างง่ายดาย! 

 

 

เมื่อไม่รู้ว่าถังซีกำลังคิดอะไรอยู่ ฉู่หลิงก็มองเธออย่างไม่รู้สึกอะไร “ไม่ใช่เรื่องใหญ่” จากนั้นเขาก็จ้องหน้าถังซี เตือนว่า “อย่าบอกใครทั้งนั้นว่าผมคืออัลวิน เข้าใจไหม” 

 

 

“ทำไมล่ะ!” ดวงตาถังซีวาววับขึ้นด้วยประกายเจ้าเล่ห์ “ในเมื่อมีคนดังขนาดนี้ ไม่ใช่สิ มีราชาแห่งวงการแฟชั่นอยู่ในบริษัททั้งที ฉันควรใช้คุณเป็นไพ่ใบสำคัญของฉัน ไม่อย่างนั้นจะเสียของชิ้นใหญ่! ฉันตัดสินใจแล้ว…” 

 

 

“ไม่มีทาง!” ฉู่หลิงจ้องหน้าเธอเขม็ง “จะมีปัญหาใหญ่มาก ถ้าผมแสดงตัวตนของอัลวิน คุณยังจำเหตุการณ์ครั้งแรกที่คุณพบผมได้ไหม ถ้ามีใครรู้ว่าผมอยู่ในบริษัทคุณ บริษัทคุณย่อยยับแน่” 

 

 

ถังซีขมวดคิ้วจ้องมองฉู่หลิงอย่างครุ่นคิด เธอไม่มีเจตนาจะสอดรู้สอดเห็นความเป็นส่วนตัวของเขาอยู่แล้ว อันที่จริงเธอไม่ได้สนิทกับฉู่หลิงมากนัก เธอกับเขามาทำงานร่วมกันเพียงเพราะเฉียวเหลียง ฉู่หลิงตกลงช่วยเธอส่วนหนึ่งเป็นเพราะเฉียวเหลียง และส่วนหนึ่งเป็นเพราะเธอเคยช่วยชีวิตเขาไว้ ดังนั้น… 

 

 

ถังซียิ้ม “คุณคือไพ่ใบสำคัญของฉัน แน่นอนว่าฉันต้องเก็บรักษาคุณไว้อย่างดี ไพ่ใบสำคัญต้องเปิดเป็นใบสุดท้าย” 

 

 

ฉู่หลิงเลิกคิ้ว เขาประหลาดใจที่ถังซียอมแพ้ง่ายๆ และไม่ถามเขาต่อ แต่ก็รู้สึกโล่งใจ 

 

 

“เอาล่ะ ตรงนี้มีคนเยอะเกินไป บางทีนักข่าวบางคนอาจแอบเข้ามา ผมจะเข้าไปที่เวทีจัดโชว์ก่อน” 

 

 

ถังซีขมวดคิ้วถามเขา “นี่ คุณมีตัวตนบนโลกใบนี้กี่ตัวกันแน่ ฉันได้ยินนางแบบพวกนั้นเรียกคุณด้วยชื่ออื่นด้วยเมื่อกี้นี้!” 

 

 

“เอาน่า ยิ่งคุณมีตัวตนมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น” ฉู่หลิงยิ้ม และหันหลังเดินเข้าไปในพื้นที่จัดโชว์ 

 

 

ขณะมองตามหลังเขา ถังซีก็ยิ้มมุมปาก “ถ้าอย่างนั้น อย่างน้อยคุณก็ควรเปลี่ยนใบหน้าทุกครั้งที่เปลี่ยนชื่อด้วยนะ ไม่อย่างนั้นใครๆ ก็จะล่วงรู้ความจริงเข้าจนได้” 

 

 

เมื่อเห็นว่าแขกมาเกือบครบแล้ว ถังซีก็ขมวดคิ้ว เป็นอย่างที่เธอคาดคิด… มีไม่กี่คนหรอกที่เข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์ครั้งแรกของเดอะควีน 

 

 

อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีนักข่าวมาสัมภาษณ์ ถังซีไม่ต้องการเปิดเผยว่าเธอเป็นนายใหญ่ของเดอะควีน ในขณะที่ฉู่หลิงก็ไม่ต้องการเปิดเผยตัวเองในสื่อเช่นกัน เขาจึงไม่ต้องการทำหน้าที่เป็นโฆษกของบริษัท ในที่สุดทุกคนก็หันมาสบตาคนคนหนึ่ง 

 

 

จิ้นหันขมวดคิ้ว “ไม่มีทาง อย่ามองมาที่ผม” 

 

 

หลี่มั่นเหยียนแย้มริมฝีปากยิ้มกว้าง “ไม่เอาน่า อย่าทำแบบนี้ ท่านประธานฉู่บอกว่าเขาไม่ใช่ผู้ออกแบบ เขาจึงไม่อยากพูดบนเวที และท่านประธานเซียวจะรับหน้าที่เป็นนางแบบด้วย เธอจึงไม่มีเวลา นอกจากนี้ท่านประธานเซียวยังบอกว่า เธอไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าเธอเป็นเจ้านายใหญ่ของเดอะควีน และ… จิ้นหันเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาพวกเรา” 

 

 

จิ้นหันเลิกคิ้ว หันมามองหลี่มั่นเหยียน “ฉันเนี่ยนะ” 

 

 

ถังซีพยักหน้า “ใช่ ฉันหมายถึงในบรรดาพนักงานชายในบริษัทเรา ฉันไม่ได้ล้อเล่น คุณกับท่านประธานฉู่เป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดในบริษัทเรา และคุณก็ยังเป็นดีไซเนอร์ของบริษัทด้วย เพราะฉะนั้นคุณจึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานนี้ จิ้นหันช่วยเป็นโฆษกให้เรา และจัดการนักข่าวเหล่านั้นด้วย ได้โปรด…” 

 

 

จิ้นหันขมวดคิ้ว ถังซียิ้มและกล่าวต่อไปว่า “ถ้าคุณทำงานนี้สำเร็จ ฉันสัญญาว่าจะให้วันหยุดคุณกับหลี่มั่นเหยียนห้าวัน ว่าไงล่ะ” 

 

 

“ตกลงครับ” จิ้นหันตอบทันที 

 

 

ถังซียิ้ม เธอรู้ว่าจิ้นหันจะเห็นด้วยตราบเท่าที่เธอใช้หลี่มั่นเหยียนเป็นเหยื่อล่อ 

 

 

จิ้นหันตอบคำถามนักข่าว และแล้วแฟชั่นโชว์ก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ 

 

 

เมื่อแสงไฟหลากสีสาดส่องขึ้นไปบนท้องฟ้าจากก้นทะเลสาบ เวทีที่ได้รับการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ก็ปรากฏขึ้นอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ วันนี้อากาศดีจึงสามารถมองเห็นดวงจันทร์และดวงดาว รวมทั้งเงาสะท้อนในทะเลสาบได้อย่างชัดเจน ในค่ำคืนอันสวยงามเช่นนี้ แฟชั่นโชว์ครั้งแรกของเดอะควีนก็ได้เริ่มขึ้น 

 

 

นางแบบพร้อมแล้ว ในขณะเพลงเริ่มดังขึ้น ถังซีก็แปะมือกับนางแบบคนแรก และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไปเลย!” 

 

 

ลำแสงส่องไปที่ตัวนางแบบ และทุกย่างก้าวของเธอแสงที่ส่องก็เปลี่ยนสี แสงตกกระทบร่างเธอโดยไม่ผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อนางแบบคนแรกเดินผ่านช่วงที่สามของรันเวย์ นางแบบคนที่สองก็ปรากฏตัวออกมา และลำแสงที่มีสีต่างกันก็สาดส่องไปทั่วทั้งร่างของเธอ 

 

 

หัวใจถังซีเต้นรัวเร็ว เธอเฝ้ามองการเดินโชว์อันไร้ที่ติของนางแบบทั้งสอง และยิ้มอย่างพึงพอใจ 

 

 

หลี่มั่นเหยียนยืนอยู่ข้างๆ ถังซี ตัวสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น “สวยจังเลยค่ะ สวยจังเลย! วิศวกรควบคุมไฟสุดยอดเลย! เขาจับตำแหน่งนางแบบได้ง่ายขนาดนี้ได้ยังไง!” 

 

 

หางตาถังซีหรี่ลง เพราะเพิ่งเกิด ‘อุบัติเหตุ’ เล็กน้อยเกี่ยวกับวิศวกรควบคุมไฟฟ้าเมื่อวานนี้… 

 

 

เมื่อนึกถึง ‘อุบัติเหตุ’ นั้น ถังซีก็อดยิ้มไม่ได้ 

 

 

‘วิศวกรควบคุมไฟฟ้าเหรอ’ ฉู่หลิงขมวดคิ้ว หันมามองถังซี ‘แสงไฟบนเวทีควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติไม่ใช่เหรอ’ 

 

 

‘อัตโนมัติเหรอ ระบบอัตโนมัติจะจับตำแหน่งนางแบบได้ยังไง” ถังซีมองหน้าฉู่หลิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ หางตาเธอหรี่ลง “อย่าบอกนะว่าคุณไม่ได้จ้างวิศวกรควบคุมไฟฟ้า’ 

 

 

‘คุณหมายความว่า เขาต้องจับตำแหน่งของนางแบบ แล้วยิงลำแสงพวกนั้นลงบนตัวพวกเธอใช่ไหม’