ตอนที่ 78

Rise of The Undead Legion

Chapter 78:พลังของเทพสงคราม!

” Wan Yi เพิ่งถูกจัดการ เขาไปเกิดใหม่แล้ว ! “- Valentineตะโกนขึ้นมา

” ไอ้โง่เอ้ย ! ” – Warlord ตะโกนด่า

หัวหน้ากิลด์ที่มีการสืบทอดคลาส S ตายนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นี่ไม่ต้องคิดถึงการลงดันเจี้ยนโลกด้วยกันหรอก นี่เป็นบทลงโทษที่ไม่มีเหตุผลดีๆและมีแต่ทำให้มันแย่ลงเรื่อยๆ

แม้ว่าจะมีคนเยอะและจัดแผนมาอย่างดีแต่ก็ยังเสียคนไปจำนวนมากแต่หัวหน้ากิดล์นั้นต้องรับผิดชอบในการรักษาชีวิตตัวเองเพื่อกำลังใจและทำการสั่งการ มันเหมือนกับการเล่นหมากรุกที่ต้องเก็บคิงเอาไว้

” Zhang Shi เราต้องการกำลังเสริมที่แนวหน้า ! ” – Warlord ตะโกน

” ฉันไม่มีคนจะส่งไปให้นายแล้ว ฉันใช้คนทั้งหมดในการจัดการอันเดตที่หอคอยไปแล้ว นายคงไม่อยากให้พวกมันเข้ามาจัดการนายจากด้านหลังหรอก ใช่มั้ย ? ” – คำตอบนี้ดูจริงใจและเหมือนกับเยาะเย้ยไปในตัว

” เหี้ย เราต้องพึ่งตัวเองแล้ว ” – Warlord พูดขึ้น

Valentine ส่งข้อความหา Warlord – ” มันไร้ประโยชน์ที่จะไปขอคนจากเขา Warlord เขาน่ะรอฉวยโอกาสอยู่ เขาจะอาศัยตอนที่คนเราตายแล้วค่อยขึ้นมา “

“ทำไมเขาต้องเสี่ยงกับการเสียเควสไปด้วย ? “

” ด้วยการที่ Wan Yi โดนจัดการไป Heaven’s Dawn จะไร้ผู้นำ รองหัวหน้ากิลด์ Cao Cui มีความสามารถแต่อำนาจและสิทธิของเขาน่ะมีจำกัดหากไม่มีหัวหน้ากิดล์อยู่ด้วย พวก Blood Rage อยู่ในโซนปลอดภัยกว่าและกำลังสู้กับพวกนักธนูในหอคอยโดยมีการสูญเสียที่น้อย สุดท้ายกิลด์ของเขาก็จะเหลือคนเยอะที่สุด “

” บ้าเอ้ย นี่เขากะปาดหน้าเราเอาดื้อๆเลยหรือไง ! “

Valentine ขัดขึ้นมาด้วยการตะโกนใส่อันเดตที่พยายามจะโจมตีเขา หลังจากที่ชนอันเดตลงไปที่ลาวา เขาก็ได้กลับมาพูดคุยต่อด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น

” มันไม่มีเวลามาเล่นแล้ว เราต้องบังคับบอส ฉันมีแผนสำหรับหลังจากนี้ตอนที่พวก Blood Rage จะเดินหน้าขึ้นมา “

” สกิลเปลี่ยนร่างนายเหลือกี่นาที ? ” – Warlord ถาม

” เราเปลี่ยนร่างพร้อมกัน ดังนั้นเราจะเหลือเวลาประมาณ 57 นาที “

” นั่นเพียงพอให้เราจัดการบอสได้ จากนั้นเราค่อยจัดการพวกลูกน้องและทำตามแผน เท่าที่ฉันคิด หลังจากความโง่ของ Wan Yi และแผนบัดซบของ Zhang Shi ถูกจัดการแล้ว รางวัลทั้งหมดก็จะเป็นของเรา “

” เห็นด้วย งั้นก็ลงมือกันเลย ” – Valentine พูดขึ้น

..

Delvina จับตาดูการต่อสู้อยู่ที่สะพานและส่งกำลังเสริมเข้าไปเมื่อจำเป็น อันเดตที่พุ่งเข้าไปทำการป้องกันสะพานเอาไว้มีแต่ทำให้พื้นที่นั้นเต็มไปด้วยเลือด

ความต่างระหว่างสองฝั่งนั้นชัดเจนไม่ใช่แค่ความต่างด้านรูปลักษณ์

อันเดตทำการสู้โดยคำรามบ้างเป็นบางครั้ง นอกจากเสียงอาวุธและเสียงของใบมีดที่กระทบกับเกราะแล้วผ่าลงไปที่เนื้อแล้วไม่มีเสียงอย่างอื่นเลย

ผู้เล่นนั้นกลับกัน พวกเขาต่างก็พากันตะโกน, กรีดร้องและด่าอกมา แน่นอนว่านั่นรวมถึงคำพูดที่ต้องตะโกนออกมาตอนที่ใช้สกิลด้วย

การใช้กลยุทธให้ตัวโจมตีไกลจัดการฮีลเลอร์นั้นเพิ่มจำนวนการตายของผู้เล่นได้อย่างมาก Delvina ค่อยได้เปรียบขึ้นมาเพราะเดฟ เธอเริ่มผลักดันผู้เล่นกลับไปได้บ้าง

หลังจากที่ Wan Yi ตาย Heaven’s Dawn ก็แย่ลงไปทันตา อัตราการตายของพวกเขาสูงที่สุดในบรรดาสามกิลด์และเมื่อมี่การสั่งการของผู้นำ แนวหน้านั้นจึงเริ่มไม่เป็นระบบกันมากขึ้น

แทงค์และตัวทำดาเมจของ Devastators คอยสลับกันที่สะพานก่อนหน้านี้ได้จับกลุ่มกันใหม่เป็นแนวกั้นที่สะพาน ภายใต้การสั่งการของ Valentine และ Warlord ขบวนที่ตั้งขึ้นมาก็เริ่มเดินหน้ากลับไปที่สะพานเข้าหา Delvina พวกเขาเพิ่มความเร็วในการเดินหน้าอย่างต่อเนื่องจนมีความเร็วสูงสุดพร้อมกับเสียงโห่ร้อง

กองทัพของ Heaven’s Dawn อยู่ที่สะพานซึ่งตอนนี้ดูไม่เป็นระบบเอาซะเลย พวกเขาต้องหลีกทางให้กับกองทัพ Devastators ที่พุ่งเข้ามา บางคนตกลงไปที่ลาวาเลยก็มี

” นี่ Devastators ทำบ้าอะไร ! ” – ผู้เล่นคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาหลังจากที่เพื่อนตกสะพานไป

แต่ไม่มีใครสักคนที่ตอบกลับ

พวกนั้นยังคงพุ่งเข้าใส่บอสโดยไม่สนคนอื่นๆ

” หืม มันอาจจะได้ผล ” – เดฟพึมพำกับตัวเอง

Lone Arrow โผล่มาข้างๆเดฟด้วย {Blink} ของเธอ

” นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ! ” – เธอพูดขึ้น

” Wan Yi ตายแล้ว ตอนี้ Devastators กำลังพุ่งเข้าใส่ Delvina “

” พวกเขาพยายามบังคับบอส นี่มันโง่ชะมัด พวกเขาจะเสียคนไปเยอะ “

” จริงแต่มันก็เป็นเรื่องดีสำหรับเรา ฉันจะส่ง Death Knight ไปช่วย Delvina เพื่อจัดการกับ Devastators ฉันจะกลับไปที่นั่นด้วยและเธอยู่ที่นี่จนกว่า {Blink} จะคูลดาวน์เสร็จ “

Lone Arrow เม้มปาก – ” จ้า จ้า ฉันจะอยู่ที่นี่ ส่วนนายไปสนุกเถอะ “

Death Knight ภายใต้คำสั่งของเดฟ นั้นยังคงอยู่ในสภาพดีอยู่แต่พวกมันไม่เพียงพอที่จะหยุดทัพผู้เล่นในการต่อสู้แบบเผชิญหน้าได้

เดฟต้องการอาศัยช่วงที่ Delvina โมตีผู้เล่นเพื่อให้ได้เปรียบอีกครั้ง

Delvina มองไปที่ผู้เล่นที่พุ่งเข้ามา จากนั้นก็ได้โบกมือส่งสัญญาณให้ลูกน้องมารวมตัวตรงหน้าเธอกลายเป็นทัพรูปสี่เหลี่ยม

อันเดตแนวหน้าตอนนี้เป็นกำแพงด้วยโล่ที่ยกขึ้นมาพร้อมกับหอกที่ชี้ออกจากช่องว่างระหว่างโล่ พวกนั้นเตรียมตัวที่จะรับการโจมตีอันหนักหน่วง

พวกผู้เล่นที่พุ่งเข้ามาปะทะกับแนวโล่จนทำให้เกิดเสียงระเบิดดังก้องพร้อมทั้งเสียงร้องต่างๆ ร่างกายหลายร่างได้กระเด็นไปจากการปะทะครั้งนี้ คนที่โชคร้ายกระเด็นเข้าไปถึงกองทัพอันเดตซึ่งมีแต่จะโดนฆ่าตายโดยเหล่าอันเดต

ด้วยผลจากความสับสนกับการพุ่งปะทะรวมกับผลความกลัวและความเจ็บจริงที่เพิ่มขึ้นมานี้ ที่ใจกลางสะพานตอนนี้ถือว่าเป็นนรกเลยก็ว่าได้

พวก Devastators ได้แสดงพลังและการร่วมมือกันที่น่าประทับใจออกมาแต่พวกทัพอันเดตยังรับมือไหวและ Devastators ตอนนี้ถูกถูกผลักดันกลับไป หอกของเหล่าอันเดตทิ่มแทงใส่ผู้เล่นและโล่ที่ตั้งขึ้นมานั้นก็เหมือนกับกำแพงเหล็กที่กันการเดินหน้าของผู้เล่นเอาไว้

Delvina ทำการโจมตีผู้เล่นที่เข้ามา ทุกการโจมตีของเธอนั้นจะโจมตีผู้เล่นได้ 4-5 คนลดเลือดพวกนั้นพร้อมกับดีบัฟ {Grievous Wounds} ที่ลดผลการฮีลลง 50% Death Knight ของเธอเข้าโจมตีผู้เล่นติดดีบัพฆ่าพวกนั้นก่อนที่จะได้ลบดีบัพทิ้งและได้รับการฮีล

อยู่ๆก็มีแสงประทุขึ้นมาในหมู่ผู้เล่น Devastators และภาพของสกิลสืบทอดของ Warlord ก็ได้โผล่ขึ้นมาพร้อมกับคำรามราวกับเทพสงราม นี่คือพลังเต็มที่ของการสืบทอดคลาส S ที่แสดงออกมา

Warlord ตะโกนออกมา – ” หมัดพระเจ้า ! ” – และโจมตีลงไปที่พื้นด้วยหมัดของเขา

คลื่นดินขนาดใหญ่พุ่งเข้าใส่พวกอันเดตจากจุดที่หมัดได้ต่อยลงไปกว้างพอๆกับตัวสะพาน กำปั้นสีทองนั้นครอบคลุมไปด้วยลวดลายและรูนเทพ

” เหี้ยเอ้ย ! “- เดฟมองไปยังการแสดงพลังของการสืบทอดคลาส S แล้วก็ต้องอึ้ง

กำปั้นพระเจ้าได้อัดเข้าใส่ทัพอันเดตแผ่ออกไปราวกับคลื่นระเบิดส่งผลไปไกลกว่าร้อยเมตรทำให้พวกอันเดตต่างก็พากันตกลงไปในลาวา

แค่สกิลเดียว Warlord ก็จัดการแนวโล่และฆ่า Death Knight ไปได้หลายสิบตัวและทำให้ Delvina เซด้วย

” ฆ่า ! ” – Warlord ตะโกนขึ้นมา

พวกผู้เล่นพุ่งเข้าไปจากช่องว่างที่เกิดขึ้นในแนวทัพอันเดต

เหี้ย สกิลนี่มันโหดชะมัด ฉันต้องไปช่วย Delvina ไม่งั้นคงจบเห่แน่ๆ

Delvina อยู่ที่ใจกลางสะพาน เธอสมกับเป็นบอสที่กันผู้เล่นไม่ให้เดินหน้าต่อและกลายเป็นเป้าการโจมตีของผู้เล่นนับร้อยๆคน

เดฟสั่งการ Death Knight ของเขาให้ไปจัดการฮีลเลอร์ที่แนวหลัง จากนั้นเขาก็ได้เอามือลูบหนวดและรวบรวมความคิดหาทางจัดการกับสถานการณ์ตอนนี้และการทำเควสคลาส S ให้เสร็จ

Valentine เห็นท่าทีแปลกของอันเดตกลุ่มเล็กๆ Death Knights ที่เล็งไปที่ฮีลเลอร์แนวหลัง

” Whoo-Kungson ! นายกับ Heavy-Hitters ไปจัดการพกว Death Knights ที่โจมตีฮีลเลอร์ของเรา เร็วเข้า ไป ไป ไป ! “

เดฟเห็นการ์เดี้ยนเกราะชมพูสั่งการและเขาก็ยิ้มออกมา

Valentine ขนลุกขึ้นมาและใช้โล่กันการโจมตีจาก Death Knights สองตัว เขาจัดการตอบโต้ด้วยการสกิลฟาดโล่แล้วใช้ช่วงนั้นมองไปรอบๆ สายตาของเขามองมาที่อันเดตหนวดที่โดดเด่นจากพวกที่เหลือ

โดยทั่วไปแล้ว Valentine ไม่ได้หมดความมั่นใจและความเย็นชาภายใต้ความกดดันนี้แต่บางอย่างในตอนนี้มันพิเศษออกไป อันเดตตัวนี้กวนใจเขาเหมือนกับมีลางสังหรณ์ที่เตือนเขาอยู่แต่เขายังไม่รู้ถึงมัน อันเดตหนวดนี้ใส่เกราะสีดำซึ่งมันยังดงดูฉีกขาดและพังโดยมันเหนือกว่าเกราะสนิมที่อันเดตทั่วไปใส่

ยิ่งกว่านั้นคืออันเดตหนวดก็มองมาที่เขาพร้อมกับยิ้มและลูบหนวดของตัวเองด้วย