TQF:บทที่ 538 ความดีใจแห่งการวิวัฒนาการ 3 เดือนให้หลัง (3)

 

โฮ่ววว

 

เสียงคำรามปานฟ้าร้องสะเทือนไปทั้งแผ่นดิน ภูเขาเลากาทั้งหลายต่างสั่นไหว เจ้านกตัวนี้มีสายเลือดของเทพจากโบราณกาล ทำให้เกิดพลังเทพที่ทั้งแข็งแกร่งและลึกลับแผ่ซ่านออกไปทั่วหล้า

 

“สวยจัง”

 

เพิ่งเคยเห็นเจ้านกตัวนี้เป็นครั้งแรก เฉิงเสี่ยวเสี่ยวอดถอนหายใจออกมาเบาๆไม่ได้ นางรู้ว่านกตัวนี้ไม่ธรรมดา เพียงแค่พลังลมปราณในร่างของมันก็บ่งบอกทุกอย่างได้อย่างชัดเจนแล้ว

 

“คุณหนู นี่คือนกยูง 5 สี เป็นเทพนก เป็นสิ่งมีชีวิตวิเศษที่เกิดจากการเลื่อนขั้นมิติในครั้งนี้”

 

“อื้ม เข้าใจ”

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวยื่นมือออกไป เจ้านกน้อยแสนฉลาดบินเข้าไปที่ฝ่ามือของนาง หัวเล็กๆของมันถูกมือของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวอย่างรักใคร่ ร้องเสียงใส

 

“ต่อจากนี้เจ้าชื่อเชวี่ยเอ๋อน้อยดีมั้ย”

 

จิ๊บๆๆ

 

นกยูง 5 สีร้องอย่างดีใจ ตาสีดำสดใสจ้องเฉิงเสี่ยวเสี่ยวพลางพยักหน้าไม่หยุด เห็นได้ว่ามันชอบ

 

“อิอิ เชวี่ยเอ๋อน้อย ชื่อนี้ก็เพราะดีนะ”

 

จิ๊บๆๆ

 

เกิดเสียงร้องเบาๆขึ้นอีกครั้ง เชวี่ยเอ๋อน้อยหันไปร้องอย่างดีใจกับหยูเฮง

 

ในมิติได้มีภูติ ต้นหลิวเทพ เทพนกปรากฏขึ้นแล้ว ไม่รู้ว่าการเลื่อนขั้นหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นอีก

 

ด้วยการมาของเชวี่ยเอ๋อน้อย เฉิงเสี่ยวเสี่ยวลืมทุกอย่างไปได้ชั่วคราว บนใบหน้ามีรอยยิ้มอ่อนๆประดับอยู่ตลอด

 

3 เดือนผ่านไป

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวออกจากมิติอีกครั้ง ตาของทุกคนเบิกกว้างด้วยความอึ้งเมื่อเจอเฉิงเสี่ยวเสี่ยว ราวกับไม่รู้จักนางซะแล้ว

 

หยูเฮงเม้มปากแอบหัวเราะกับปฏิกิริยาของทุกคน ใบหน้าซ่อนสีหน้าได้ใจไว้ไม่มิด

 

3 เดือนผ่านไป เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่ใช่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเมื่อ 3 เดือนก่อนอีกแล้ว หลังจากการวิวัฒนาการ แทบจะเปรียบดั่งนางฟ้าจิ่วเทียนลงจากสวรรค์มาเอง ทุกกิริยาเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ยากจะเข้าใจ

 

ในขณะนั้น แม้แต่ฟางซูหยุนที่เรียบเฉยกับทุกอย่างยังอดมีท่าทีตกใจไม่ได้ ความแปลกใจในแววตายากที่จะปิด

 

“เสี่ยวเสี่ยว เจ้าบรรลุอีกแล้วหรือ”

 

ไม่ว่าอย่างไร นางก็มีความรู้สึกที่มองหลานสาวไม่ออก เหตุการณ์แบบนี้นางไม่เคยพบมาก่อน อย่างเดียวที่นางรู้สึกได้คือหลานสาวแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว

 

เมื่อได้ฟัง ทุกคนต่างมีท่าทีเฝ้ารอ มองนางอยู่อย่างนั้น มีความคิดหนึ่งอยู่ในใจของทุกคน นั่นก็คือคนตรงหน้านี้บรรลุได้ระดับที่สูงขึ้นมาอีกแล้วแน่ๆ

 

ส่วนบรรลุถึงขั้นไหนนั้น พวกเขาอยากรู้มากทีเดียว

 

“อิอิ คุณหนูก็ต้องบรรลุอยู่แล้ว ครั้งนี้คุณหนูใช้เวลา 3 เดือนบรรลุจากปรากฏราชันย์จักพรรดิ์ไปสู่ตอนกลางของบรรลุราชันย์จักพรรดิ์ เก่งล่ะสิ” หยูเฮงผยองมากถึงมากที่สุด

 

“จริงเหรอ”

 

“บรรลุราชันย์จักพรรดิ์…”

 

“สวรรค์ บรรลุราชันย์จักพรรดิ์ตอนกลาง…”

 

“คุณหนูบรรลุอีกแล้ว แถมยังไม่ใช่แค่ระดับเดียวด้วย ปรากฏราชันย์จักพรรดิ์สู่บรรลุราชันย์จักพรรดิ์ตอนกลางในเวลา 3 เดือน นี่มัน นี่มัน…”

 

ทุกคนที่ตะลึงอยู่อึ้งจนคำพูดรวนไปหมด ข่าวนี้น่าตกใจขึ้นกว่าทุกครั้ง

 

เมื่อเจอกับท่าทางตะลึงจากทุกคน เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ยังคงท่าทีเรียบเฉยอยู่ พยักหน้ายอมรับเบาๆ

 

การเก็บตัวถึง 3 เดือนนี้ ไม่ใช่แค่นางเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเพราะการผันเปลี่ยนของกฎแห่งฟ้าดินเท่านั้น และการบรรลุที่เป็นไปอย่างสมควรด้วย ที่สำคัญคือนางสามารถสร้างภาพสมมุติเทพขึ้นมาได้แล้ว เรียกได้ว่าวิทยายุทธกล้าแข็งขึ้นอย่างมาก

 

ในผืนดินแห่งนี้ไม่มีใครจะเอาชนะนางได้แน่

 

เนิ่นนานกว่าทุกคนจะเริ่มปรับตัวได้กับข่าวนี้ สีหน้ายังมีความตกตะลึงอยู่บ้าง แต่ในใจสงบขึ้นเยอะ

 

“เสี่ยวเสี่ยว เจ้าเตรียมตัวจะไปแล้วใช่มั้ย” แม้จะรู้อยู่แล้ว แต่เฉิงไป๋หยวนก็อดเอ่ยถามอีกครั้งไม่ได้

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวถอนหายใจ ไม่ว่ายังไงก็ต้องให้คำตอบกับทุกคนให้ทุกคนได้เตรียมใจ นางสบตาท่านพ่อพร้อมตอบ “ท่านพ่อ อีกสักพักค่อยว่ากัน”

 

ท่านแม่ลั่วหยูฉินจับมือลูกสาวไว้แน่น น้ำตาคลอพูดอะไรไม่ออก ภายในมีคำพูดเป็นพันเป็นหมื่นแต่พูดออกมาไม่ได้สักอย่าง

 

นางไม่อยากให้ลูกสาวไป ในสายตาของนางก็ได้แสดงออกมาจนหมดแล้ว แต่จะคิดถึงยังไงก็ไม่สามารถเอ่ยห้ามเฉิงเสี่ยวเสี่ยวได้ เพราะนางรู้ว่าเรื่องที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวตัดสินใจแล้วใครก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้

 

อีกอย่าง ลูกเขยถูกจับตัวไป เรื่องนี้ต้องจัดการ เพราะฉะนั้นเป็นอันแน่นอนแล้วว่าลูกสาวจะต้องออกไป

 

แต่การที่ลูกสาวจะออกไป และยังออกไปจากผืนดินนี้เพื่อไปยังที่ที่ไม่รู้จักอีก ที่นั่นเต็มไปด้วยอุปสรรคและอันตราย คนเป็นแม่อย่างนางก็ต้องเป็นห่วงและยากจะทำใจเป็นเรื่องธรรมดา

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเข้าใจความรู้สึกของท่านแม่ นางไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี ปลอบเสียงเบา “ท่านแม่ ข้าไม่เป็นไร ท่านวางใจเถอะ”

 

“ข้ารู้ๆ…” น้ำตาของลั่วหยูฉินไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป นางได้แต่หันหน้าไปอีกทางแอบเช็ดน้ำตา

—————————-