บทที่ 589 เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เมาแล้ว

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 589 เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เมาแล้ว
“จะไม่บาดเจ็บได้หรือ? ชีวิตก็แทบจะม่องแล้ว!”

กู้ชูหน่วนกุมท้องตัวเองด้วยความเจ็บปวด ตรงนั้นถูกฟันหนึ่งรอบ ลำไส้แลบออกมาแล้ว

ไม่รู้ว่าน่าเศร้าหรือน่าขัน ปากแผลถูกแช่แข็ง แม้แต่ลำไส้นางก็ถูกแช่แข็งด้วย

กู้ชูหน่วนสะท้านทั้งตัว หนาวจนสั่นพั่บๆ

นางกินยา บาดแผลและเลือดที่ถูกความหนาวผนึกยังไม่ดีขึ้น

“ข้าจะไปหาฟืนมาทำความอบอุ่นให้เจ้า”

“ชู่ เบาหน่อย เขายังอยู่แถวนี้”

ก่อกองไฟยามนี้ รนหาที่ตายหรือ?

เขาอยากตาย นางยังไม่อยากตายนี่!

กู้ชูหน่วนอิงผนังน้ำแข็ง หอบหนัก หวังเพียงเลือดในกายจะไหลเวียนให้เร็วที่สุด

“ข้าช่วยอะไรเจ้าได้ไหม?”

“อย่าช่วยให้ยุ่งก็พอ”

ทั้งสองนิ่งงัน

เวินเส้าหยียื่นมือซึ่งอบอุ่นเล็กน้อยของตัวเอง ช่วยนางถูบ่าและท้องที่บาดเจ็บและถูกน้ำแข็งผนึก

การเคลื่อนไหวเวินเส้าหยีเบามาก เกรงจะแตะโดนปากแผลนาง

ได้เขาช่วยทำความอบอุ่น บาดแผลของกู้ชูหน่วนจึงดีขึ้นมาก ในที่สุดก็มีความรู้สึกเล็กน้อย

“รู้จักเจ้ามานานขนาดนี้ มีประโยชน์ที่สุดก็วันนี้นี่แหละ”

“ถ้าเจ้าถอนเข็มทองให้ข้า ข้าก็เคลื่อนกำลังภายในรักษาอาการบาดเจ็บเจ้าได้ เจ้าจะได้หายเร็วมากขึ้น”

“อย่าแม้แต่จะคิด อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่นะ เวินเส้าหยี ข้าจะบอกให้ วันนี้ถ้าข้าตาย เจ้าก็อย่าหวังจะรอด”

เวินเส้าหยีอีหลักอีเหลื่อ

คิดไม่ถึงว่านางจะนึกว่าที่เขากระโดดลงมาก เพราะถูกพิษของนาง ถ้านางตายตนก็ต้องตายตามไปด้วย?

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าก้นเหวมีถ้ำ หรือว่าเมื่อก่อนเจ้าเคยมา?”

“ที่พรรค์นี้ หามุกมังกรพบแล้ว ให้ข้ามาข้ายังไม่มาเลย”

ตอนนั้นถูกไล่ฆ่าจนจนมุม ลงนรกไร้ประตู นางได้แต่ลองดูสักตั้ง ดูสิว่าจะรอดในสถานที่แห่งความตายได้หรือไม่

นางพนันถูก

ที่นี่มีถ้ำอยู่จริงๆ

ดังนั้นนางจึงเอาชีวิตรอดมาได้

ทว่าคนผู้นั้นกลับกระโดดลงไป

กู้ชูหน่วนไม่คิดว่ามือสังหารชุดดำจะตายง่ายๆ อย่างนั้น

วิชาตัวเบาคนผู้นี้ไม่ด้อยไปกว่านาง นางหาจุดช่วยชีวิตนี้พบ เขาก็ต้องหาพบเช่นกัน

แต่แค้นที่เลือดในกายนางเจียนจับตัวหมดแล้ว มิเช่นนี้ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่อยู่นานได้

“สัตว์เลี้ยงของเจ้าเก่งกาจมากมิใช่หรือ? ทำไมไม่ให้มันแบกเจ้าข้ามไปล่ะ?”

เวินเส้าหยีไม่พูดถึงยังดี พูดถึงแล้วกู้ชูหน่วนก็เซ็ง

“ยังไม่ใช่เพราะเจ้าหรือ เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ตะกละตะกลาม ถ้าให้มันรู้ว่ามีกระต่ายย่าง มันไม่แย่งสิแปลก ข้าไม่อยากเห็นคนเป็นๆ มาหิวตายต่อหน้าข้าหรอกนะ”

ดวงหน้าเวินเส้าหยีคลี่รอยยิ้มอบอุ่นหนึ่ง เนื้อตัวราวกับถูกฉาบด้วยแสงทองหนึ่งชั้น

มีน้ำมีนวล เหนือโลกีย์ สง่างาม

เขายิ้มอย่างอ่อนโยนพลางเอ่ย “ดังนั้น เจ้าทนเห็นข้าหิวตายไม่ได้?”

กู้ชูหน่วนชะงัก รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไปแบบความรู้สึกช้า

นางพูดอย่างหงุดหงิด “เจ้าเป็นหัวหน้าเผ่าน้อยของเผ่าเทียนเฟิ่น ให้เจ้าหิวตายจะง่ายไปหน่อยกระมัง ข้ายังจะพาเจ้ากลับเผ่าหยก คุกเข่าต่อปวงชนเผ่าหยกนับพันนับหมื่นที่ต้องคำสาปโลหิตด้วย”

เวินเส้าหยีไม่คิดเช่นนั้น ถามต่อ “สรุปเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ล่ะ?”

“มันกินเหล้าในแหวนมิติไปหมดแล้ว ตอนนี้เมาหัวราน้ำอยู่”

นางเรียกแล้ว แต่น่าเสียดายที่ไม่ตื่น

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เมาหนักมากกว่าที่นางคิดไว้

ระหว่างสนทนา น้ำแข็งผนึกกู้ชูหน่วนดีขึ้นมากแล้ว เลือดเริ่มหมุนเวียน

จุดนี้ใกล้กับก้นเหวมาก ถ้ามือสังหารชุดดำปีนขึ้นมา ต้องหาพวกเขาพบแน่

กู้ชูหน่วนคลานซวนเซขึ้นมา “ไป เรารีบไปกันเถอะ”