บทที่ 544 ต่อสู้ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 544 ต่อสู้ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
สายตาของทุกคนหันไปทางเย่เซิ่งเทียน

พวกเขาต้องการเห็นชัดเจนว่าใครที่กล้าท้าทายหกหมอเทวดา

ซึ่งเป็นศัตรูกับทั่วทั้งสมาคมทางการแพทย์

ห้าตระกูลผู้ดีและเจ็ดตระกูลเก่าแก่ก็ยังไม่กล้าที่จะยั่วยุสมาคมทางการแพทย์

สมาคมทางการแพทย์ทั่วโลก นี่เป็นพลังที่น่ากลัวอย่างยิ่ง

สิ่งที่น่ากลัวนั้นไม่ใช่หมอ นิสัยของพวกเขาประหลาดและเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ไม่มีใครชอบพวกเขา

สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวคือพลังของสายสัมพันธ์ที่อยู่เบื้องหลังหมอพวกนี้ เบื้องหลังหมอที่เก่งคนหนึ่ง จะมีผู้แข็งแกร่งสนับสนุนอยู่มากมาย

ดังนั้นขณะที่ความสัมพันธ์ของห้าตระกูลผู้ดีและเจ็ดตระกูลเก่าแก่กับขุนหลวงหยางทาวถึงทางตันแล้วสมาคมทางการแพทย์กลายเป็นความสำคัญสูงสุด

ต่างฝ่ายต่างไม่เต็มใจที่จะใช้กำลังดังกล่าวเพื่อดึงอีกฝ่ายมาเป็นพวก

ดังนั้นการแข่งขันทักษะทางการแพทย์ครั้งนี้จึงกลายเป็นจุดทะลวง

“เจ้าเด็กคนนี้เป็นใคร? เขากล้าได้อย่างไร?”

“ช่างเป็นเจ้าเด็กที่จองหองยิ่งนัก กล้ามาจริง ๆ”

“คอยดูกันว่าวันนี้เขาจะตายอย่างไร?”

“ทักษะวิชาพิษของหมอเทวดาหู ทักษะวิชาผีของหมอเทวดาจั่ว ทักษะวิชากู่ของหมอเทวดาหวาง เพียงหมอเทวดาทั้งสามคน ใครคนหนึ่งก็สามารถฆ่าเขาได้”

“การแข่งขันทักษะทางการแพทย์ครั้งนี้ คงจะไม่มีใครเจตนาวางแผนใช่ไหม?”

ในบรรดาตัวแทนของเจ็ดตระกูลเก่าแก่มีคนเหลือบมองจ้าวกั๋วจู้ และความหมายก็ชัดเจน

บุคคลนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นหมากรุกที่ขุนหลวงาหยางทาวและคนอื่น ๆ จัดเตรียมไว้ โดยเจตนาทำให้เกิดสถานการณ์ในการแข่งขันทักษะทางการแพทย์

“เป็นไปได้มากว่ามันเป็นแผนการของไจ่เซี่ยงหร่วน เขาเป็นจิ้งจอกเฒ่า และพวกเราเคยเสียเปรียบมาไม่น้อย”

“แผนการของขุนหลวงหยางทาวนั้นไม่โหดเหี้ยมขนาดนี้ เขาเก่งเรื่องการวางแผน”

คนของเจ็ดตระกูลเก่าแก่ต่างคาดเดา

ขณะนี้ไป๋อวิ๋นเฟยจากตระกูลไป๋แห่งจงหยวนยืนขึ้น มองไปที่เย่เซิ่งเทียน และกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เจ้าหนู ใครให้ความกล้าหาญแก่นายที่กล้าท้าทายหกหมอเทวดาพวกเขาเป็นตัวแทนหมอของประเทศต้าเซี่ยของพวกเรา การที่นายท้าทายพวกเขา เท่ากับยัวยุประเทศต้าเซี่ย?”

ไม่เสียแรงที่เป็นไป๋อวิ๋นเฟยแห่งตระกูลไป๋ ขณะนี้เขาเริ่มพูดใส่ร้ายเย่เซิ่งเทียนแล้ว คนของห้าตระกูลผู้ดีและเจ็ดตระกูลเก่าแก่แสดงจุดยืนก่อน และไม่มีใครสามารถจับจุดอ่อนได้

เดิมทีจ้าวกั๋วจู้ที่ต้องการพูดโจมตี แต่ตอนนี้เขาหาเหตุผลใด ๆ ไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงขยิบตาให้เย่เซิ่งเทียน

หากเป็นกัวปิง ผู้บังคับกองพลอาวุธหรือหร่วนซื่อสง ไจ่เซี่ยง เขาอาจจะตอบกลับแบบตาต่อตา ฟันต่อฟันได้ แต่ถ้าให้จ้าวกั๋วจู้โต้แย้งกับเด็กเปรตพวกนี้แล้ว ทำให้เขารู้สึกลำบากใจเล็กน้อย

“แม่งฉิบหาย เด็กเปรตพวกนี้ ไม่มีความสามารถสักคน แต่การใส่ร้ายป้ายสีนั้นเก่งไม่น้อย”

จ้าวกั๋วจู้ด่าอยู่ในใจ เขาตกตะลึงเล็กน้อยและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

เขาไม่เชี่ยวชาญเรื่องนี้จริง ๆ

หยางทาวที่หลบซ่อนตัวอยู่ท่ากลางฝูงชน อดไม่ได้ที่มีความอยากรู้ และอยากรู้ว่าเย่เซิ่งเทียนจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร

“ไป๋อวิ๋นเฟยอยากตายใช่ไหม? เซิ่งเทียนไม่ใช่กั๋วจู้ เขาจองหองยิ่งกว่ากั๋วจู้เสียอีก”

แน่นอนว่าหยางทาวเดาถูก เย่เซิ่งเทียนเหลือบมอง ไป๋อวิ๋นเฟยอย่างเย็นชาและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “หนอนคลานออกมาจากปฏิกูลหลุมไหน? มาทำให้คนรู้สึกขยะแขยงอยู่ที่นี่ ประเทศต้าเซี่ยคืออะไร? สมาคมทางการแพทย์คืออะไร? ไอ้แก่หกคนคู่ควรเป็นตัวแทนด้วยหรือ?”

“นายว่าอะไรน่ะ?”

ไป๋อวิ๋นเฟยโกรธจนหน้าแดงก่ำ เขาถูกกล่าวหาว่าเป็นหนอนที่คลานออกมาจากหลุมปฏิกูล! !

ไป๋อวิ๋นเฟยเดินไปข้างหน้า ยืนต่อหน้าเย่เซิ่งเทียน และกล่าวเต็มด้วยไอสังหาร “ฉันว่านายไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว ต่อหน้าผู้คนมากมาย ฉันจะให้โอกาสนาย คุกเข่าและขอโทษ แล้วฉันจะไว้ชีวิตของนาย!”

คนของห้าตระกูลผู้ดีและเจ็ดตระกูลเก่าแก่กำลังเฝ้ามองอยู่ และความเย่อหยิ่งของไป๋อวิ๋นเฟยนั้นเสแสร้งเช่นกัน จุดประสงค์คือเขาต้องการทำให้จ้าวกั๋วจู้โกรธอย่างสิ้นเชิง

จากนั้นทำให้หกหมอเทวดารู้สึกแย่กับฝ่ายของขุนหลวงหยางทาว

“ไสหัวออกไป!”

เย่เซิ่งเทียนขี้เกียจแม้แต่จะมองเขาแวบหนึ่ง ดังนั้นเย่เซิ่งเทียนจึงเตะเขาจนกระเด็นออกไป