ตอนที่ 1615 น้ำตาตก

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 1615 น้ำตาตก
“แฮ่ก… แฮ่ก… แฮ่ก…”

ตอนนี้กู่ฮั่นกำลังหายใจเข้าออกอย่างรุนแรงด้วยความเหนื่อยล้าจนปราณเทวะในร่างแทบจะหมดสิ้น เขาแทบจะล้มลงด้วยความเหนื่อยอ่อนได้ทุกเมื่อ

แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามไปอีกมากมายแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถทำอะไรเย่หยวนได้แม้แต่ชายเสื้อ

ตอนนี้ผู้คนที่มุงดูนั้นกำลังจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างเงียบงันจนแทบลืมหายใจ

พวกเขาทั้งหลายนั้นรู้ดีว่าแนวคิดแห่งห้วงมิติมันแข็งแกร่งมากมายขนาดไหน มันเป็นหนึ่งในสุดยอดแนวคิด

แต่ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของมันนั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีใครได้เห็นมันมากับตา

วันนี้จึงเป็นครั้งแรกที่พวกเขาทั้งหลายได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของแนวคิดแห่งห้วงมิติอย่างแท้จริง!

ไม่มีใครในที่นี้คิดว่ากู่ฮั่นนั้นอ่อนแอ การเข้าใจแนวคิดถึงสองอย่างได้นั้นเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ แล้ว ความสามารถของเขานั้นเหนือล้ำฟ้า

หากจะบอกว่าแข็งแกร่งจนคนรุ่นเดียวกันไม่มีทางสู้ได้ก็คงไม่ผิดนัก

แต่ทว่าคนระดับนั้นกลับไม่สามารถจับต้องได้แม้แต่ชายเสื้อของเย่หยวน!

นั้นทำให้ทุกคนเข้าใจได้ทันทีว่าหากเย่หยวนอยากจะสังหารกู่ฮั่นลง เขาก็คงสามารถทำได้ง่าย ๆ ในพริบตา

“ข-แข็งแกร่ง! นี่หรือคือแนวคิดแห่งห้วงมิติ? จะไร้เทียมทานเกินไปแล้ว!”

“การควบคุมมิติทำให้การโจมตีของอีกฝ่ายนั้นไม่มีผลใด ๆ ทั้งสิ้น แล้วแบบนี้จะไปสู้ยังไง?”

“ไม่แปลกใจเลยว่าเขาว่าแนวคิดแห่งห้วงมิติเป็นสุดยอดแนวคิด ด้วยพลังระดับนี้นักยุทธที่อยู่ต่ำกว่าอาณาจักรราชันพระเจ้าคงไม่สามารถต่อกรกับผู้อาวุโสเย่ได้เลย!”

ตอนนี้หลาย ๆ คนเริ่มกลับมาตั้งสติได้พร้อมความเข้าใจในพลังฝีมือของเย่หยวนอีกครั้ง

ด้วยพลังระดับนี้ มันคงมีแต่อาณาจักรราชันพระเจ้าเท่านั้นที่จะเทียบเคียงได้

“ข้า… ข้าแพ้แล้ว! ฮึ่ก ฮึ่ก… ข้าแพ้!” กู่ฮั่นยอมแพ้พร้อมน้ำตาที่ค่อย ๆ ร่วงหล่น

ใช่แล้ว เขากำลังร้องไห้!

วันนี้เป็นความล้มเหลวครั้งแรก ความล้มเหลวที่เขาไม่ได้พบมาหลายร้อยปี

มันไม่เคยมีใครที่ทำให้เขาสิ้นหวังได้มากขนาดนี้มาก่อนเลย

นื่ทำให้ความโอหังของเขาแตกสลายอย่างไม่มีชิ้นดี

ด้านโอสถ ถูกบดทำลายอย่างไม่เหลือชิ้นดี

ด้านยุทธ เขาไม่สามารถแม้แต่ที่จะแตะต้องร่างกายของอีกฝ่ายได้

อัจฉริยะ?

นี่มันตัวตลกชัด ๆ

เมื่อทุกคนได้เห็นภาพนั้นพวกเขาต่างตกตะลึงกับภาพตรงหน้า

เพราะไม่มีใครคาดคิดว่ากู่ฮั่นจะถึงขั้นร้องไห้น้ำตาตก

แต่หากลองคิดดูดี ๆ มันก็ไม่น่าแปลกนัก

เพราะการมาเจอกับเย่หยวนนั้นมันก็คือโศกนาฏกรรมดี ๆ นี่เอง

มันผิดพลาดมาตั้งแต่เริ่มแล้ว

หากไม่เป็นเช่นนี้มีหรือที่เย่หยวนจะขึ้นไปยืนอยู่บนตำแหน่งผู้อาวุโสได้?

ตอนนี้คนที่มุงดูอยู่รอบ ๆ เริ่มเกิดความสงสารต่อตัวกู่ฮั่นผู้โอหังคนนี้ขึ้นมาแล้ว

ความสงสาร

ในเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ภาพลักษณ์ที่กู่ฮั่นแสดงออกมาคือตัวตนแห่งความหยิ่งยโส จนทำให้ผู้คนที่เห็นต้องรู้สึกรังเกียจ มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้คนที่เห็นต้องเกิดขัดใจขึ้นมา

แต่เมื่อได้มองดูเขาในตอนนี้ สุดท้ายกู่ฮั่นก็ยังเป็นแค่เด็ก

แม้กู่ฮั่นจะมีอายุมากกว่าเย่หยวนไม่น้อย แต่เขานั้นไม่มีประสบการณ์ต่าง ๆ นา ๆ ที่เย่หยวนได้เจอมา เขาจึงไม่สามารถทำตัวให้เยือกเย็นได้แม้จะถูกชื่นชมหรือเย้ยหยันเหมือนเย่หยวน

แต่เย่หยวนก็ไม่เคยคาดคิดว่ากู่ฮั่นจะเป็นถึงขนาดนี้ หลังยืนจ้องอยู่นานในที่สุดเย่หยวนก็เข้าไปตบบ่าของเขา “แพ้ชนะมันเป็นเรื่องธรรมดาของโลก ตอนนี้เจ้าแค่แพ้ข้าชั่วคราว หาใช่เรื่องใหญ่ไม่”

กู่ฮั่นยกมือขึ้นมาปัดมือของเย่หยวนทันที ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพูดพร้อมทั้งน้ำตา “ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาสงสาร! คิดจะใช้ชัยชนะนี้เพื่อเย้ยหยันข้ารึ? ฝันไปเถอะ”

ภาพนี้ทำให้ความสงสารที่ทุกคนเคยมีให้กู่ฮั่นจางหายไปในพริบตา

แต่เย่หยวนกลับตอบไปอย่างไม่ได้แสดงท่าทีโกรธใด ๆ ”เจ้าคิดว่าข้าจำเป็นต้องทำแบบนั้นรึ?”

กู่ฮั่นสำลักขึ้นทันทีที่ได้ยินแบบนั้น เขาหันไปมองเย่หยวนและพยายามจะเปิดปากออก แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร

ใช่แล้ว เพราะเย่หยวนนั้นมันอยู่ห่างจากเขาไปคนละโลกเลย!

เกียรติศักดิ์ศรีใด ๆ ของเขานั้นมันไร้ค่าเมื่อต้องมาอยู่ต่อหน้าเย่หยวน!

เขาคนนี้คือผู้อาวุโสของหอโอสถ สุดยอดตัวตนผู้มีอำนาจในเมืองจักรพรรดินี้

ส่วนตัวเขาเองล่ะ?

เขานั้นเองก็เป็นยอดคนผู้มีโอกาสสูงที่จะได้กลายเป็นผู้มีอำนาจในเมืองจักรพรรดิธารนิรันดร์เช่นกันในวันข้างหน้า

แต่เรื่องนั้นมันต้องใช้เวลาอีกหลายต่อหลายปี

และเวลาเหล่านั้นช่องว่างของเขากับเย่หยวนก็จะมีแต่ยิ่งเพิ่มขยายขึ้น ไม่ใช่ลดลง!

เย่หยวนยิ้มขึ้นก่อนจะหันมาพูดกับกู่ฮั่นอีกครั้ง “เจ้านั้นเห็นพลังของข้าแล้ว แต่เจ้าไม่ได้เห็นว่าข้าผ่านอะไรมาบ้าง ความแข็งแกร่งไม่เคยปรากฏออกมาอย่างลอย ๆ การที่ข้าสามารถเอาชนะเจ้าได้มันไม่ใช่แค่เรื่องของพรสวรรค์ ข้าขอยอมรับเลยว่าพรสวรรค์ของเจ้านั้นเหนือล้ำ แต่อีกพันปีหมื่นปีข้างหน้าเจ้าอาจจะไม่แข็งแกร่งเท่ายอดศิษย์เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์เราเสียด้วยซ้ำ! เพราะฉะนั้นหากเจ้าอยากจะมาลองฝีมือมีหรือที่เราจะเกี่ยง แต่การกระทำของเจ้ามันล้ำเส้นจนเกินไป เราจึงไม่อยากต้อนรับเจ้า”

เมื่อกู่ฮั่นได้ยินแบบนั้นเขาถึงได้รู้เหตุผลที่ว่าทำไมเย่หยวนถึงได้ออกมาจัดการกับตัวเขา

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รู้ นี่เขาทำอะไรล้ำเส้นไปอย่างนั้นหรือ?

การชนะคู่ต่อสู้และทำลายชื่อเสียงของอีกฝั่งจนสิ้น เรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นกับทุกคนที่เขาชนะ แน่นอนว่าคนเหล่านั้นไม่มีทางยินดีแน่ ๆ

“ข้า.. ข้าผิดไปแล้ว!” กู่ฮั่นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มหนัก

ชายหนุ่มถือดาบยาวคนนั้นแทบจะไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เพราะเขาได้ยินว่าศิษย์น้องเล็กของตัวเองยอมรับผิดต่อหน้าคน!

ศิษย์น้องเล็กที่แสนหยิ่งผยองของพวกเขากลับยอมรับผิดออกมา!

นั้นทำให้ทุกคนหันมามองหน้ากันเลิ่กลั่ก

ชายหนุ่มผู้หยิ่งยโสคนนี้กลับยอมรับผิดออกมาต่อหน้าผู้อาวุโสเย่!

สุดยอด!

เย่หยวนหันไปมองกู่ฮั่นด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง “ต่อให้เจ้าจะชนะอัจฉริยะของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ไปได้จนหมด ข้าก็ไม่คิดที่จะสนใจหรอก แต่หากเจ้าชนะแล้วอยากทำให้ผู้คนต้องอับอาย ข้าจะไม่ทน! เมื่อเจ้าคิดจะตบหน้าคนทั้งเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ ข้าในฐานะผู้อาวุโสคนหนึ่งก็ต้องออกมาสั่งสอนเจ้าเสียบ้าง จงไปเถอะ ด้วยพรสวรรค์ของเจ้าอนาคตในวันข้างหน้าของเจ้านั้นจะมีเส้นทางให้เลือกอย่างไม่จำกัด แต่หากเจ้ายังคิดอวดดีเฝ้าดูถูกคนอื่นอยู่แบบนี้ สักวันเจ้าต้องได้พบกับความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่แน่ วันนี้ข้าแค่มาเพื่อสอนบทเรียนแก่เจ้า แต่วันหน้าศัตรูของเจ้าคงจะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เช่นนี้”

กู่ฮั่นกัดฟันแน่นและกล่าวขึ้น “ข้า… ขอขอบคุณผู้อาวุโสเย่ที่อบรบสั่งสอน!”

พูดจบกู่ฮั่นก็ก้มหัวลงคารวะเย่หยวนสามคราตามสัญญาก่อนจะหันหน้าเดินจากไป

ชายหนุ่มถือดาบยาวและพรรคพวกศิษย์ที่เหลือจึงตามกู่ฮั่นไปทันทีด้วยความกลัวว่ากู่ฮั่นอาจจะคิดสั้น

ศิษย์พี่คนหนึ่งเดินเข้ามาหากู่ฮั่นและพูดขึ้น “ศิษย์น้องเล็ก เจ้า… เจ้าอย่าได้เก็บมันมาใส่ใจเลย การแพ้ชนะมันเป็นเรื่องราวปกติของโลก ครั้งหน้าเจ้าแค่ต้องชนะให้ได้ก็พอแล้ว!”

กู่ฮั่นหันมามองขวางใส่ “ศิษย์พี่ ท่านคิดจริง ๆ รึว่าข้าจะชนะเขาได้?”

ศิษย์พี่คนนั้นแทบสำลักทันทีที่ได้ยิน เขาอยากจะตอบยกลับไปว่าได้ แต่เขาเองก็รู้ดีว่ามันคงไม่มีทาง กู่ฮั่นคงไม่มีปัญญาที่จะไล่ตามเย่หยวนได้ไปตลอดชีวิต

ความห่างชั้นของทั้งสองนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่ความพยายามจะมาทดแทนได้!

กู่ฮั่นหันหน้ามาหาทุกคนและกล่าวออกไปต่อหน้าชายหนุ่มถือดาบยาว “ศิษย์พี่ใหญ่ เรื่องของสมบัติล้ำค่าในครานี้ ข้าเองก็อยากจะไปด้วย!”

ชายหนุ่มถือดาบจึงตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มราวกับว่าเขาคาดเดาจิตใจของศิษย์น้องคนนี้ได้ก่อนแล้ว “ข้าไม่เกี่ยงหรอก แต่… สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับท่านอาจารย์!”

กู่ฮั่นพยักหน้าและหันหลังเดินจากไป

“ชิ ชิ ผู้อาวุโสเย่นี่เป็นผู้อาวุโสเย่จริง ๆ สุดยอดที่สุด!”

“อืม เจ้าเด็กคนนั้นมันอวดเก่งมาหลายวัน แต่ผู้อาวุโสเย่ไม่ใช่แค่ทำให้มันร้องไห้ออกมาได้ เขาทำได้ถึงขั้นทำให้อีกฝ่ายยอมรับผิดออกมา ข้าขอยอมรับนับถือเลยจริง ๆ”

“ไม่ว่าจะเป็นอัจฉริยะจากไหนมา เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสเย่พวกเขาก็ต้องเจอกับโศกนาฏกรรม!”

“ฮ่าฮ่า ผู้อาวุโสเย่นี่เป็นมือสังหารอัจฉริยะแท้ ๆ ซ่งฉีหยางเองก็คนหนึ่งแล้ว ตอนนี้ยังมากู่ฮั่นอีก”

การที่เย่หยวนชนะอย่างราบคาบจนอีกฝ่ายต้องน้ำตาตกนั้นทำให้ผู้คนเดินกลับออกไปอย่างโล่งจิตโล่งใจ

การแพ้พ่ายของกู่ฮั่นนั้นเป็นอะไรที่ทุกคนต่างคาดเดาได้มาแต่แรก

แต่พวกเขาทั้งหลายก็ไม่เคยคิดเลยว่ากู่ฮั่นจะถึงกับยอมรับในความผิดของตัวเองออกมาด้วยท่าทางที่จริงใจขนาดนั้น

การกระทำของยอดอัจฉริยะคนนี้มันทำให้ผู้คนต่างต้องตกตะลึง

ส่วนที่ด้านหนึ่งของตัวอาคาร ในที่สุดหลิงจี้คุนก็ถอนหายใจยาวและหันไปกล่าวกับต่อหรงซู “อ่า หรงซู มันเกือบได้เวลาแล้วนี่ เรามาเริ่มคุยเรื่องธุระกันเลยดีกว่า”