ตอนที่ 128 คงตายแน่ / ตอนที่ 129 ได้รับการช่วยเหลือแล้ว

จอมใจจ้าวพิษ

ตอนที่ 128 คงตายแน่

 

 

ถังเฉียนวิ่งหนีมาได้ เสี่ยวจินตามมาข้างๆ นางหลบอยู่หลังเสาสีแดง แต่อินทรีดำตัวนั้นโมโหแล้ว มันบินขึ้นสูง ดวงตาจ้องเขม็งที่ชายเสื้อถังเฉียนที่โผล่ออกมาจากหลังเสา จากนั้นมันก็เปลี่ยนทิศทางบินทะยานพุ่งลงมาทางด้านข้าง ถังเฉียนเหลือบมองเสี่ยวจิน ออกคำสั่งในใจประโยคหนึ่ง นางตื่นเต้นจนเกร็งไปทั้งตัว

 

 

อินทรีดำโฉบเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว แทบจะชั่วพริบตาก็จะมาถึงตรงหน้าถังเฉียนแล้ว แต่ก่อนที่มันจะถึงตัว ถังเฉียนก็ล้มตัวกลิ้งไปข้างหน้า พลางคว้าหินก้อนหนึ่งบนพื้น เอี้ยวตัวกลับมาฟาดใส่หัวอินทรีดำที่หลบไม่ทัน

 

 

นางฮึดสู้ ออกแรงสุดกำลัง ใช้หินทุบหัวอินทรีดำแรงๆ หลายครั้ง จนกระทั่งมือนางเปื้อนเลือดสีม่วงดำของมัน

 

 

อินทรีดำถูกทุบจนตาย ซูซินเหลียนก็กระอักเลือดออกมาทันที เสี่ยวจินบินไปจะกัดนาง แต่ซูซินเหลียนเตรียมพร้อมก่อนแล้ว นางวางขลุ่ยในมือลง ล้วงกล่องเล็กใบหนึ่งออมาจากอกเสื้อ แล้วครอบเสี่ยวจินไว้

 

 

“กล่องหยกเวินเซียงหน่วน”

 

 

เดิมทีกล่องนี้เป็นที่อยู่ของเสียวจิน นึกไม่ถึงว่าจะกลายเป็นคู่ปรับของมันไปเสียแล้ว เพราะเสี่ยวจินไม่สามารถบินออกมาได้

 

 

“อาหรูน่า คราวนี้เจ้าตายแน่”

 

 

ซูซินเหลียนเอ่ยปากพูดแล้ว แต่เสียงนางทั้งหยาบและเ**้ยมราวกับเสียงชายกลางคนที่อัปลักษณ์และบ้าคลั่ง ใบหน้านางเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือดน่ากลัวมาก

 

 

“คงถูกคนเข้าสิงร่างใช่หรือไม่”

 

 

ที่ผ่านมาถังเฉียนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับซูซินเหลียนแน่ แต่การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดของนางช่างน่ากลัวจริงๆ เล็บมือของนางที่งอกยาวออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หยิบกล่องเล็กใบนั้นขึ้นมา ใช้เท้าเขี่ยเทพมังกรออกไป แล้วพุ่งใส่ถังเฉียนทันที

 

 

ถังเฉียนเห็นท่าทางนางเหมือนนางมารร้าย ก็วิ่งหนีทันที นางไม่ใช่คนเซ่อซ่า ทั้งไม่เชี่ยวชาญในการจับผี แต่ไม่รู้ประตูใหญ่เรือนเซียงหานถูกอะไรขัดไว้ นางหนีออกไปไม่ได้ ทำได้เพียงคอยวิ่งอ้อมหลบหลังเสา แต่นางวิ่งไม่เร็วเท่าซูซินเหลียน ชั่วประเดี๋ยวซูซินเหลียนก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว

 

 

“เจ้าตายแน่!”

 

 

ถังเฉียนมองดูใบหน้าที่ซีดขาวน่ากลัว รวมทั้งเล็บสีดำที่เข้ามาใกล้แล้วเสียบเข้าที่ทรวงอกนาง เจ็บ…

 

 

นั่นเป็นความรู้สึกเดียวของถังเฉียน คราวนี้คงตายแน่แล้ว ใครใช้ให้นางไม่ได้เรื่องเช่นนี้ นางอยากฝึกวิชายุทธ์ แต่ดูเหมือนสวรรค์จะไม่ให้โอกาสนาง ให้เวลานางแค่นั้น นี่คงเป็นชะตากรรมของนาง

 

 

ถังเฉียนเห็นเล็บนั่นเข้าใกล้หัวใจตนเองทุกที แต่นางยังไม่อยากตาย ถังเฉียนใช้มือสองข้างดันฝ่ามือที่น่ากลัวนั่นออกไป แม้เล็บจะเสียบทะลุเนื้อนางแล้ว เลือดสดๆ ไหลรินออกมาจากผิวหนังที่ขาวดุจหิมะ หยดลงบนเล็บสีดำ

 

 

“อย่าหวังว่าจะปลิดชีวิตข้าได้ ข้าไม่ยอมแพ้หรอก”

 

 

ถังเฉียนจับหัวแม่มือซูซินเหลียนไว้แน่น ไม่ยอมให้นิ้วมือนางรุกคืบไปข้างหน้าได้

 

 

“เจ้าตายแน่! ข้าจะใช้เจ้าสังเวยเทพมังกรที่ยิ่งใหญ่”

 

 

ถังเฉียนฟังที่พูด แล้วรู้สึกว่าคุ้นมาก มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจ จึงถามว่า

 

 

“เจ้าคือใต้เท้าหลี่ เจ้านี่เองที่ควบคุมซูซินเหลียน เจ้าทำอะไรนาง”

 

 

‘ซูซินเหลียน’ ซึ่งอยู่ตรงหน้าถูกเปิดเผยตัวตน มีรอยยิ้มประหลาดผุดขึ้นบนใบหน้า ท่าทางไม่ยี่หระ บวกกับเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุดชวนให้ขนลุกซู่

 

 

“ใช่ เจ้าฉลาดมาก เจ้าทำให้ข้าทำงานใหญ่ให้เทพมังกรไม่สำเร็จ ทำให้ข้ามีสภาพครึ่งผีครึ่งคนอย่างนี้ ข้าย่อมต้องให้เจ้ารู้ความร้ายกาจของข้า จงชดใช้ด้วยชีวิตเถอะ เจ้าเด็กน้อย”

 

 

“อ้า…”

 

 

ใต้เท้าหลี่ออกแรงเพิ่มขึ้น เล็บมือเสียบลึกเข้าไปในร่างถังเฉียนมากขึ้น ความเจ็บปวดเหมือนถูกทิ่มแทงหัวใจทำให้นางส่งเสียงร้องไม่หยุด

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 129 ได้รับการช่วยเหลือแล้ว

 

 

ถังเฉียนรู้สึกว่าพละกำลังของตนค่อยๆ อ่อนลงทีละน้อย เม็ดเหงื่อบนหน้าผากไหลลงมาไม่หยุด นางรู้สึกเจ็บปวดมาก ยืนหยัดจนถึงที่สุดแล้ว มือถังเฉียนคลำไปที่มีดสั้นเรียวยาวในอกเสื้อ ในดวงตานางมีประกายอำมหิตผุดขึ้น

 

 

ชั่วขณะที่ถังเฉียนใช้หัวเข่ายันซูซินเหลียนไว้ ปล่อยมือแล้วล้วงมีดสั้นออกมา ใช้การบุกแบบฆ่าตัวตาย แทงมีดใส่ทรวงอกของซูซินเหลียน

 

 

“เจ้า…”

 

 

ชั่วขณะที่มีดสั้นเสียบเข้าร่างซูซินเหลียนนั้น เล็บมือนางก็ปักลึกลงไปอีก ถังเฉียนใช้พละกำลังทั้งหมดที่มียกมีดขึ้นฟันเล็บจนขาดออก เล็บปักเข้าไปลึกมากราวกับฉีกทรวงออกนางออก

 

 

ถังเฉียนถือมีดสั้นนั่งพิงกำแพง มองดูซูซินเหลียนกุมมือตัวเองพลางร้องหวีดด้วยความเจ็บปวด

 

 

ถังเฉียนเห็นท่าทางนาง คิดว่าตนเองยังพอมีหวังที่จะเอาชนะได้ ยังสามารถยืนหยัดต่อไปได้ แต่ชั่วประเดี๋ยว ซูซินเหลียนก็หันหน้ามา มองดูถังเฉียนด้วยดวงตาที่แดงดุจเลือด

 

 

“เจ้าทำบังอาจลายเล็บข้า เจ้าคิดว่าอาวุธพื้นๆ อย่างนั้นจะทำร้ายข้าได้หรือ ช่างโง่เขลาเสียจริง!”

 

 

ถังเฉียนเห็นบาดแผลซูซินเหลียนที่ดูเหมือนจะไม่ระคายผิวนางเลย นางใจฝ่อลงกว่าครึ่ง ซูซินเหลียนลุกขึ้นยืนช้าๆ เล็บนิ้วมือขวาถูกตัดขาด ไม่ได้งอกออกมาใหม่แต่อย่างใด แต่นางยังมีมือซ้าย นางมองดูซ้ายขวา ร้องหึออกมาแล้วพูดว่า

 

 

“เจ้ารอคนมาช่วยอย่างนั้นหรือ ไม่ต้องรอแล้ว ข้าจัดวางที่นี่เป็นเขตต้องห้าม ต่อให้เข้ามาได้ก็เป็นคนธรรมดาสามัญเท่านั้น ใครหน้าไหนก็ช่วยเจ้าไม่ได้”

 

 

ถังเฉียนคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้ นางหวังยังรอที่จะให้อาจารย์มาช่วย แต่คำพูดนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าได้ตัดความหวังสุดท้ายของนางลงไปแล้ว

 

 

“เจ้าตายแน่!”

 

 

ใบหน้าซูซินเหลียนเผยความโหดเ**้ยมอำมหิตออกมา มือซ้ายกลายเป็นกรงเล็บ เล็บมือห่อเข้าหากัน ราวกับลิ่มพุ่งเข้ามาหาถังเฉียน

 

 

แต่ครั้งนี้ถังเฉียนไร้เรี่ยวแรงที่จะหลบหลีก นางดิ้นรนจะยืนขึ้น แต่ร่างที่ทรวงอกยังมีเลือดไหลรินกลับไม่ยอมฟังคำสั่งนาง

 

 

เล็บยังคาอยู่ในร่างนาง บาดแผลไม่อาจปิดได้ ขณะนี่นางทำได้เพียงมองดูความตายขยับเข้าใกล้ตัวนางทีละน้อย

 

 

ฮ่าฮ่า…

 

 

ในชั่วพริบตานั่นเองถังเฉียนก็เห็นกระบี่สีดำเล่มหนึ่งแทงใส่ฝ่ามือซูซินเหลียน ถังเฉียนเห็นเล็บที่อยู่ตรงหน้ากำลังทิ่มแทงใส่หน้ากากนาง ทำให้หน้ากากบุปผาทองอันใหม่แยกออกเป็นสองเสี่ยง นางมองดูกระบี่สีดำตรงหน้า นั่นคือกระบี่ทะลุตะวัน

 

 

“หมอผีน้อย ข้าไม่ได้สอนเพลงกระบี่อย่างนั้นให้เจ้า ตั้งใจดู!”

 

 

ฉู่จิ่งเหยาไม่ได้มองมาที่นาง ใบหน้าด้านข้างภายใต้แสงจันทร์ทำให้นางรู้สึกอบอุ่นเป็นพิเศษ นางเห็นฉู่จิ่งเหยางอแขนแล้วฟันแขนซูซินเหลียนขาด กระบี่วาดขึ้นข้างบน ซูซินเหลียนร้องครวญครางแล้วถอยกรูทันที รอดตายแล้ว…

 

 

ถังเฉียนมองดูแผ่นหลังฉู่จิ่งเหยา สายตานางเลือนรางขึ้นทุกที นางทนต่อไปไม่ไหวแล้ว

 

 

ดาบทะลุตะวันของฉู่จิ่งเหยาฟันศีรษะซูซินเหลียนขาดสะบั้น คาถาสกัดที่ประหลาดรอบๆ สลายไปทันที ทำให้เถิงเสวี่ยสามารถเข้ามาได้ พอได้เห็นภาพตรงหน้าแล้วก็รีบปรี่เข้าไปช่วยถังเฉียนทันที

 

 

ฉู่จิ่งเหยาอุ้มถังเฉียนเข้าไปในห้องซูซินเหลียน แต่พบว่าในห้องของนางมีซากศพเกลื่อนพื้น รวมถึงร่างของซูซินเหลียนและหงซี แล้วเช่นนั้นเมื่อครู่นี้เป็นใครกัน

 

 

ฉู่จิ่งเหยายังคงงุนงง แต่แล้วเขาก็ถูกผลักออกไป เพราะเถิงเสวี่ยและฮว่าเหยียนจะรักษาอาการบาดเจ็บของถังเฉียน

 

 

ถังเฉียนเหมือนเดินวนรอบด่านประตูผีรอบหนึ่ง นางฝันซ้ำๆ ไปมาว่าตัวเองกำลังเล่นว่าวอยู่นอกเมืองเจาหยาง ว่าวนั้นติดคาอยู่บนต้นไม้ นางไม่สามารถเอาลงมาได้เอง จนกระทั่งมีคนร่างสูงใหญ่อุ้มร่างของนางขึ้น นางจึงสามารถเอาว่าวลงมาจากต้นไม้ได้

 

 

ถังเฉียนจำได้เพียงว่าคนผู้นั้นขายาวมาก ร่างสูงใหญ่ บนร่างมีกลิ่นคาวเลือดจางๆ แม้เขาจะใช้กลิ่นสมุนไพรหอมกลบไว้ แต่ถังเฉียนยังรู้ได้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บ เมื่อครู่ขณะที่อุ้มนาง ทำให้ปากแผลฉีกออก