บทที่ 592 ไม่รู้อยู่แก่ใจหรือ

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 592 ไม่รู้อยู่แก่ใจหรือ?
นี่ไม่ใช่มือสังหารชุดดำที่ตามฆ่านางมาตลอดหรือ?

เมื่อมองเลือดสดชุ่มโชกบนตัวเขา แทบจะกลายเป็นมนุษย์เลือดแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเลือดเหล่านั้นเป็นของเขา หรือว่าของหมาป่าหิมะกันแน่

แต่นางเห็นชัด ตัวของชายชุดดำถูกกรงเล็บหมาป่าหิมะหยักเป็นรูเลือดมากมาย

บาดแผลเหวอะหวะน่าสยดสยอง

ชายชุดดำสะลึมสะลือ รู้ตัวว่าตกอยู่บนตัวนาง ปฏิกิริยาแรกคือลงมือฆ่า

กู้ชูหน่วนถูกไล่ฆ่าจนมีประสบการณ์ จี้จุดเขาแบบมือเร็วตาไว

นางตบๆ ทรวงอกตัวเอง ยังมีความตกใจหลงเหลือ

อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวนางก็จะถูกผู้ชายคนนี้ฆ่าแล้ว

“เจ็บหนักขนาดนี้ ไม่คิดจะหนีออกไปหรืออย่างไร ยังกล้าเหิมเกริมอีก”

ร่วงหล่นไวมาก กู้ชูหน่วนใจหายวาบ

ข้างล่างยังคงเรียบลื่น นอกจากผนังน้ำแข็งที่ยื่นออกมาส่วนหนึ่งในจุดไกลๆ แล้ว ก็ไม่มีที่ให้ยึดได้อีก

แต่ผนังน้ำแข็งที่ยื่นออกมา ห่างจากนางไกลเกินไป

มีก็เหมือนไม่มี

“ฟืบ…”

ตรงเอวถูกรัดไว้ แรงหนังฉุดนางไป

ด้วยสัญชาตญาณกู้ชูหน่วนจับเชือกเส้นนั้นแน่น

เวินเส้าหยีช่วยนางไว้…

วรยุทธ์เขาถูกผนึกไม่ใช่หรือ?

ระยะห่างขนาดนี้ นางจะไปถึงผนังน้ำแข็งที่ยื่นออกมาก้อนนั้นได้อย่างไร?

กู้ชูหน่วนมีข้อสงสัยอยู่เต็มทรวง ตัวก็ถึงที่ปลอดภัยแล้ว

ที่ถูกฉุดไปพร้อมกับนาง ยังมีมือสังหารชุดดำที่นางโอบเอาไว้

ผนังน้ำแข็งไม่ถือว่าใหญ่ แต่พวกเขาสามคนยืนอยู่ได้สบาย

“ทำไมเขาถึงอยู่กับเจ้าด้วย?”

“อยู่ๆ ก็ตกทับลงมานะสิ” กู้ชูหน่วนปล่อยมือสังหารชุดดำออก

นางก็อยากโยนเขาลงไป

แต่จะโยนลงไปก็คล้ายไม่มีความเป็นคน นางที่ยังคงสับสนจึงลากเขามาถึงนี่ด้วย

“จริงสิ ตรงกลางห่างขนาดนั้น เจ้ามาได้อย่างไร หรือว่าเจ้าฝืนเอาเข็มทองออก?”

สายตาเวินเส้าหยีวูบไหวเล็กน้อย

ช่วงความเป็นความตาย ไม่ดึงเอาเข็มทองออก หรือจะเห็นตัวเองกับกู้ชูหน่วนตายอนาถอยู่ตรงนี้กับตา?

เห็นสีหน้าเขาแล้ว ไม่ต้องคิดกู้ชูหน่วนก็รู้ เวินเส้าหยีฝืนเอาเข็มทองออก คืนพลังยุทธ์

“เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? เจ้ารู้ไหมว่าการฝืนเอาเข็มทองออกจะมีผลอย่างไร? อย่างน้อยเป็นอัมพาตทั้งตัว ลมปราณไหลย้อน อย่างหนักถึงขั้นตายเชียวนะ!”

รอยยิ้มเวินเส้าหยีอ่อนโยน ลูบเส้นผมยุ่งของตัวเองอย่างสง่า มองกู้ชูหน่วนยื่นมือจับชีพจรเขาด้วยความโกรธเงียบๆ

“เจ้าโชคดีมาก ยังไม่ตาย ไม่เป็นอัมพาตด้วย แต่ลมปราณเสียหาย ต่อไปอยากพัฒนาพลังจะยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์”

“ไม่เป็นไร ระดับสี่ก็คุ้มครองชีวิตได้แล้ว”

เวินเส้าหยีถอนมือกลับเรียบๆ คล้ายไม่อยากให้กู้ชูหน่วนจับชีพจรต่อ

ผู้ฝึกยุทธ์ได้ยินว่าพลังเพิ่มขั้นไม่ได้ ไม่ว่าใครก็รับไม่ได้ทั้งนั้น

ทว่าเวินเส้าหยีกลับนิ่งเฉย ปล่อยตัวตามสบาย ราวกับที่พัฒนาพลังไม่ได้ไม่ใช่เขา

กู้ชูหน่วนเบะปาก

คนเขายังไม่สนใจเลย นางจะมาสนใจทำไมกัน

“เจ้าช่วยชีวิตข้า เมื่อครู่ข้าก็ช่วยชีวิตเจ้าแล้ว พวกเราหายต่อกัน”

กู้ชูหน่วนหันไปมองทางชายชุดดำ

ชายชุดดำรูปร่างผอมบาง กระดูกสันหลังตั้งตรง ดวงตาทั้งคู่ราวกับหุ่นยนต์ ปราศจากอารมณ์ อย่างกับเขาเกิดมาก็ไม่มีเจ็ดอารมณ์หกปรารถนา

บุคลิกบนตัวเขาเย็นชามาก เย็นชาจนชวนให้ขนลุก

ดูอายุเขาไม่มาก ยังไม่ถึงยี่สิบ แต่วรยุทธ์กลับสูงจนน่าตกใจ โดยเฉพาะวิชาตัวเบาของเขา แทบเหนือเย่จิ่งหานและเวินเส้าหยีแล้ว

“เจ้าชื่ออะไร ทำไมต้องไล่ฆ่าข้า?”

ชายชุดดำเมินเฉย

“หรือว่าเขาเป็นใบ้?” กู้ชูหน่วนมองทางเวินเส้าหยี

เวินเส้าหยีอีหลักอีเหลื่อ

“ข้าไม่รู้จักเขาสักหน่อย เจ้ามองข้าทำไม? เจ้าล่วงเกินใครไว้ยังไม่รู้อยู่แก่ใจหรือ?”